เบื่อเหตุการณ์แบบ นี้มั้ยครับ ใครที่ทำบัตรเครดิตหรือมีข้อมูลของตัวเองกับสถาบันทางการเงินอยู่ จะถูกโทรตามตื้อ จากทั้ง ตัวแทนขายบัตรเครดิตกับตัวแทนบริษัทประกันภัยที่ขยัน โทรมาเราเหลือเกิน ประมาณ 3 เวลา หลังอาหาร บางครั้งบวกเวลาพักเข้าไปด้วยหรือแถมหลังเลิกงาน จะโทรเข้ามาทั้ง เบอร์มือถือของเรา แต่มีแถมไปที่บ้านด้วยหรือโทรเข้ามาหาที่ Office เพื่อจะเสนอให้เราทำทั้งบัตรเครดิตเพิ่ม หรือซื้อประกันภัย ซึ่งบางครั้งจะพูดจาแบบเกรงใจว่า ขอเวลา 5 นาที เพื่อจะคุย ถ้าเราเปิดโอกาสแล้วจะพูดโน้นน้าว จนเรางง (บางครั้งนึกว่า ตูโง่หรือเปล่าวะ ที่ฟังไม่รู้เรื่อง หรือเค้า หรือเธออธิบายไม่รู้เรื่อง) จนเบลอๆ ตกปากรับคำว่า ทำครับ หรือจะเจอแบบที่ผมเจอ เรื่องนี้มันนานมาแล้วแต่พึ่งนึกขึ้นได้ ว่ามีตัวแทนบริษัทบัตรเครดิต โทรเข้ามาที่ทำงานผม เพื่อให้ผมทำบัตรเครดิตกับแบงค์สัญชาติต่างชาติแห่งหนึ่ง(ไม่บอกว่าแบงค์ไหน ไม่มีเอี่ยวด้วย เดี๋ยวโฆษณาให้ฟรี แล้วคุณโรนิน กับยัยเหม่งนีล จะมาเก็บค่าโฆษณาจากเรา) เธอพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่าจะให้ผมทำบัตรเครดิต เพราะเธอได้โควต้าพิเศษมา สำหรับ 1,000 คน เพื่อทำบัตรชุดนี้ ผมบอกไปว่า ไม่สะดวกคุยเพราะกำลังเข้าประชุม(จริงๆ แล้วโกหก เพื่อบอกปัด) ซึ่งอีก 2-3 วัน She โทรเข้ามาอีก ผมก็บอกว่ากำลังคุยกับพนักงานอยู่(อันนี้เรื่องจริง) ก็จบนึกว่าจะไม่โทรมาอีก วันรุ่งขึ้นโทรมาอีก ด้วยความรำคาญ ผมเลยบอกเธอว่า ผมไม่ทำครับ เพราะมีอยู่แล้ว ไม่อยากจะทำเพิ่ม เท่านั้นแหละ She ขึ้นเสียงด้วยความไม่พอใจ ว่า ตั้งแต่เธอทำอาชีพนี้มาไม่เคยมีใครปฏิเสธเธอ และนี่เป็นแพ็กแกจ พิเศษจริงๆ ประมาณว่า Sheคัดลูกค้า ผมเลยสวนเพราะปกติปากไวอยู่แล้ว ผมนี่แหละครับ เป็นคนแรกที่ไม่ทำ สวัสดีครับ ว่าแล้ววางสายทันที แล้วเรามานั่งนึกว่า มันคุยกับลูกค้าแบบนี้ แล้วใครจะซื้อวะ พูดด้วยเสียงเรียบๆ ไม่มีเทคนิคในการนำเสนอ ประมาณว่า ต้องซื้อฉันนะ เพราะฉันลงทุนโทรมาหาแก
หลังจากนั้น ก็มีเข้ามาบ่อยๆ ส่วนใหญ่จะโทรเข้ามาที่มือถือ เพราะถ้าโทรเข้า ที่ทำงานแล้วผ่าน Operator ผมสั่งว่าห้ามโอนมา ถ้าโอน มันตายสถานเดียว แต่ถ้ารู้เบอร์ที่โต๊ะแล้วต่อสายมาเองก็อีกเรื่องนึง (ถ้าเป็นประเภทไม่โชว์เบอร์) ผมจะไม่รับ แต่ถ้าโชว์เบอร์แล้วผมจะรับ เพราะบางกลัวจะเกี่ยวกับงาน (นามบัตรปลิวว่อน) แต่ถ้าเป็นประเภทเสนอขายประกันขายบัตรเครดิต ผมจะปฎิเสธ แต่จะใช้วิธีถนอมน้ำใจว่าติดประชุมบ้าง,กำลังเดินทางบ้าง(มันก็นั่งที่โต๊ะนั่นแหละ) เพราะเข้าใจกับคนทำงานแบบนี้ ว่า มันเป็นสิ่งที่เขาต้องทำ เพราะรายชื่อพวกนี้ รับมาจาก ตัวแทนอีกที ในแต่ละวันต้องโทรให้ได้ตามที่กำหนด ซึ่งจะโนด่าซะเยอะ(แต่ถ้าเป็นแบบที่เล่าให้ฟัง ปล่อยมันไปตามกรรมเหอะ) แล้วจะบล็อกเบอร์พวกนี้ไว้เพราะ โทรศัพท์ที่ผมใช้อยู่ทำได้ (มันสามารถตั้งค่าปฏิเสธไม่รับเบอร์ที่เราไม่ต้องการรับได้ คือผู้ที่โทรเข้ามาจะได้ยินเสียงรอสายอย่างเดียว แต่ที่เครื่องเราจะไม่ดังหรือสั่นแต่มันจะโชว์เบอร์ให้ดูว่าเบอร์นี้โทรเข้ามา ดีมั้ยครับเครื่องแบบนี้) แต่หลังๆนี่เริ่มทนไม่ไหว กับการที่โทรเข้าบ้าน มันก็น่าจะรู้ว่า วันธรรมดา คนทำงานจะอยู่บ้านได้ไง ฉลาดสุดๆ แต่สงสารพ่อกับแม่ผม ที่ต้องมารับสาย แต่ที่บ้านจะปฏิเสธ ให้และไม่บอกเบอร์มือถือให้ แปลว่ามันซื้อข้อมูลมาไม่ครบ หรือสุ่มจากสมุดโทรศัพ์ เลยบอกตรงๆว่าเบื่อมาก มันเหมือนกับการละเมิดความเป็นส่วนตัวของเรา กฏหมายเท่าที่ทราบก็ยังไม่คุ้มครองเท่าไหร่ (ตรงนี้ใครมีข้อมูลแจ้งด้วยนะครับ) ใครรู้สึกเซ็ง กับเบื่อบริษัท พวกนี้มั่งครับ ที่ใช้วิธีแบบนี้มาเสนอขายสินค้าของตัวเอง มันละเมิดสิทธิของเราชัดๆ ท่านอื่นๆมีวิธีแก้ไขอย่างไรบ้างครับ กับบริษัทพวกนี้
ขอโทษที่นอกประเด็น เพราะมันเริ่มเหลืออดแล้ว (ถ้ารวยเท่าเสี่ยโย จะทำมันทุกสายที่โทรเข้ามาเลย) มิวายแขวะ 5555
ผมก็เคยครับ พูดเรียบ ๆ ๆ ๆ แล้วผมบอกว่าผมไม่สนใจ เจ๊ก็วางไปเลย ......... บางทีเรารอสายสำคัญ ๆ อยู่ รีบรับแล้วเจอแบบนี้ขอบอกว่าเซ็งมาก
รำคาญก็น่าเข้าใจครับ ความจริงจะแจ้งความหรือจะฟ้องกันเลยก็ได้นะครับ แต่มันวุ่ยวายอยู่มิใช่น้อย ไป ๆ มา ๆ เราจะเบื่อที่จะฟ้องไปเองล่ะครับ หรือเบา ๆ หน่อยก็ไปร้องกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคก็ได้ครับ แต่จะมีผลมากน้อยยังไงก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
นอกนั้น ก็ทำใจครับ ถ้าโทรมาแล้วรำคาญมาก ๆ ก็ตัดสายทิ้งไปเลย
ผมก็เคยโดนเหมือนกันเรื่องบัตรเครดิต แต่ก็บอกไปตรงๆเลย เพราะมันเป็นสิทธิของเราอยู่แล้ว
ปัญหาเช่นนี้ได้อิทธิพลมาจากอเมริกาครับผม อเมริกาคือแม่แบบ ที่อเมริกาถึงใช้เครื่องเทปตอบรับโทรศัพท์เพื่อฟังก่อนว่าใครโทรมา
แต่ปัจจุบันทางการได้มีโปรแกรม DO NOT CALL คือผู้ที่ไม่อยากโดนรับกวนสามารถลงทะเบียนได้ที่เวป หลังจากลงทะเบียนแล้ว ถ้าใครยังขืนโทรขายของอีก ก็ให้ขอจำชื่อและเบอร์โทรไว้(มันเป็นเทปตอบรับ จะบันทึกเสียงไว้) แล้วรายงานศูนย์ ศูนย์จะลงโทษสั่งปรับเป็นเงินประมาณ $700 มั่งโดยผู้แจ้งจะได้รับส่วนแบ่งครึ่งหนึ่ง ตอนนี้บริษัทต่างๆ พอได้ยินเป็นเทปตอบรับก็วางสายเลย ลงทะเบียนครั้งหนึ่งคุมครอง 5 ปี นี่เพิ่งครบรอบ 5 ปีแรกของการบริการ ผมก็เพิ่งลงทะเบียนต่อรอบสองไปเมื่อประมาณเดือน ต.ค.ที่ผ่านมามั่ง(ถ้าจำไม่ผิด)
ส่วนรายละเอียดสามารถศึกษาเป็นข้อมูลได้ที่ www.donotcall.gov เอาไปเสนอรัฐบาล รัฐบาลจะได้มีผลงานมั่ง
(ไม่บอกว่าแบงค์ไหน ไม่มีเอี่ยวด้วย เดี๋ยวโฆษณาให้ฟรี แล้วคุณโรนิน กับยัยเหม่งนีล จะมาเก็บค่าโฆษณาจากเรา)
จ่ายม๊ะเข้าข่ายทำให้อยากรู้อยากเห็นอ่ะ แบงค์ไหนมั้ง
ที่บ้านก็โดนบ่อยโทรมาหาม๊า - ป๊าและพี่ พี่เลี้ยงรับปลายสายจะ งง และวางเร็วฟังไม่รู้เรื่องมีทั้งอิสานแล---พม่า
สำหรับเหม่งเคยรับสายให้ม๊า เขามาขายประกันแต่ไม่ได้เจอแบบพี่ nok ช่วงที่โทรมาเหม่งนั่งอยู่บนรถ แล้วรถติด
ก็เลยฟังเขาพูดไปพร้อมทั้งตั้งคำถามทิ้งๆ ขว้างๆ จำได้ว่าพี่เขาเป็นคนที่พูดลูกทุ่งมากมีฮาเป็นระยะ
หรือเหม่งพาฮาก็ไม่รู้ คุยกันไปมาผ่านไป 1 อาทิตย์เหม่งก็เป็นลูกค้าพี่เขา 2 กรมธรรม์มาถึงตอนนี้ 4 ปีแล้วค่ะ
บางครั้งเหม่งก็สงสารนะค่ะ ยิ่งเป็นรุ่นเดียวกันที่จบมาทำงานแล้วมาทำงานด้านบัตรเครดิตและประกัน
หรืองานขายที่มียอดเป็นตัวบังคับนี่เหม่งจะเห็นใจ(สุดๆ)ยอมรับว่าบางเคสก็ไปบอกให้พี่หรือคนที่รู้จักช่วยเขาหน่อย
แก้ง่ายๆ ถ้าโทรมาให้เราทำบัตรเครดิตเพิ่มจนรำคาญ เราก็ไม่ต้องจ่ายของเก่าซักพัก แล้วจะไม่มีคนโทรมาตามให้ทำบัตรเครดิตอีกเลย...เชื่อสิ นายnok ฮิ ฮิ
แต่จะมีคนโทรตามทวงหนี้แทน....................T_T