เขาไม่เป็นสุภาพบุรุษ เราก็ไม่จำเป็นต้องลดตัวลงไปเป็นเหมือนกับเขานี่ครับ

เรื่องนี้ ........ ดูหลาย ๆ มิติเถอะครับ ยืนยันว่าผลประโยชน์ของเราในเขมรยังเยอะมาก ขุมเงินขุมทองบริษัทไทยทั้งนั้นเลยนะครับ การดำเนินท่าทีใด ๆ ของประเทศหนึ่ง ๆ นั้น ทางการฑูตอาจหมายถึงผลประโยชน์มหาศาลหรือหายนะได้เลย ........ สุดท้ายสิ่งที่เราต้องยอมรับคือ ตัวปราสาทเขาพระวิหารไม่ใช่ของไทยอีกแล้ว เพราะศาลโลกได้ตัดสินไปแล้ว (ไม่ว่ามันจะตัดสินมั่วแค่ไหนก็ตาม) ซึ่งเราต้องยอมรับครับ ปล่อยสำนักข่าวของไทยบางสำนักไปเถอะครับ เขาปลุกกระแสเพราะการเมือง

ความจริงแล้วเขาพระวิหารมันเป็นของเรามาก่อนต้องโทษคนที่ไปเป็นทนายให้เราในศาลโลกไม่รู้ว่าไปแก้ต่างอีท่าไหนเขาพระวิหารถึงตกไปอยู่กับเขมรได้ทั้งๆๆทีทางขึ้นอยู่ที่เรา100%ส่วนทางลงที่อยู่ในฝั่งเขมรมีแต่หน้าผาสูงชันอีกตะหากทำไมเพราะอะไรละเขาพระวิหารถึงได้ตกไปอยู่ที่เขมรหรือว่าตอนนั้นเขมรเป็นเมืองขึ้นของฝรั่งเศสเลยได้เขาพระวิหารไปเพราะไอ้คนที่ตัดสินก็เป็นพวกเขาทั้งนั้นเราเลยแพ้ตั่งแต่อยู่ในมุ้ง

การที่ผมนำเสนอข่าวชิ้นนี้ ไม่ได้มีวัตถุประสงค์ในการสนับสนุนการก่อสงครามแต่อย่างใด แต่อยากให้พวกเราคนไทยได้พิจารณาความอ่อนแอในการประชาสัมพันธ์ของทางการ ด้วยสาเหตุ(มาตรฐานที่ชอบอ้าง)ก็คือกลัวกระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

ปัญหาที่ว่ากลัวกระทบกระเทือนความสัมพันธ์นั้นหากแปลกันตรงๆ แล้วมันก็คือ การเสียผลประโยชน์ทางการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งหากว่ากันตามความเป็นจริงการค้าขายระหว่างไทยกับเขมร พวกขะแมร์ต่างหากที่ต้องพึ่งพาไทย แล้วอีกอย่างภาครัฐก็ไม่ได้มีการลงทุนอะไรในประเทศเขมร กับไอ้แค่การแก้ต่างตอบโต้ นสพ.ของเพื่อนบ้านมันจะเสียหายต่อผลประโยชน์อะไรของใครมิทราบ

สังเกตดูให้ดีว่าหนังสือพิมพ์รายวันภาษาอังกฤษแม่โขงไทมส์ เป็นผู้เสนอข่าว ซึ่งเป็นการเสนอข่าวสู่โลกนะครับท่านไม่ใช่แค่ในประเทศ เนื่องจากเป็นนสพ.ภาคภาษาอังกฤษ แต่นายนพดล ปัทมะ รมต.ต่างประเทศ เคยบ้างไหมที่จะแก้ข่าว ไม่จำเป็นต้องลงมือเอง นสพ.ภาษาอังกฤษบ้านเราก็หลายฉบับ ไม่จำเป็นต้องสั่งการ แค่อย่าไปขัดขวางก็พอ นี่..มัวแต่เป็นสุภาพบุรุษกดหัวผู้เสนอข่าวบ้านเรา ปล่อยให้ฝ่ายตรงข้ามกระทำอยู่ฝ่ายเดียว

ที่ต้องออกมาชี้แจ้งวัตถุประสงค์ที่นำเสนอข่าวชิ้นนี้ก็เพราะ ข่าวในนสพ.มติชน ประจำวันที่ 16 มิ.ย.2551 ได้ออกข่าวว่า นายนพดล ปัทมะ รมต.ฯ ได้วอนคนไทยอย่ากระพือข่าวเขาพระวิหาร...

กรรมจริงๆ เคยพิจารณาดูฝ่ายตรงข้ามบ้างไหมว่าเขาเป็นสุภาพบุรุษกับเราบ้างไม๊ พอแค่นี้แหละครับ..ขืนเขียนต่อ คคห.นี้อาจโดนลบเนื่องจากใช้คำไม่เหมาะสม

เรียนท่าน Skyman
ผมก็ไม่ได้หวังถึงเขาพระวิหาร เพราะยังไงเสียชาตินี้หรือชาติไหน ไทยก็คงไม่มีวันได้คืน เนื่องจากศาลโลกตัดสินไป 40 กว่าปีแล้ว ขืนพี่ไทยไปยึดเขาพระวิหาร มีหวังได้รบกับทหารของสหประชาชาติแน่

ที่ผมข้องใจก็คือ  “ปัจจุบันรั้วล้อมรอบปราสาทพระวิหารอยู่ใกล้กับประตูปราสาทจนเกินไป ซึ่งบ่งชี้ว่าประเทศไทยได้ย้ายหลักเขตแดนเข้ามาในดินแดนกัมพูชา” หนังสือพิมพ์ฉบับเดียวกันอ้างคำกล่าวของนายสีพัน

นี่คือคำกล่าวโทษ เราก็ควรชี้แจ้งแก้ไขทำความเข้าใจให้ถูกต้อง ไม่งั้นก็จะเหมือนตอนเขาพระวิหาร เขมรยื่นศาลโลกไปแล้ว 3 ปี พี่ไทยเพิ่งไปแก้ต่างนาทีสุดท้าย ถึงได้เสียดินแดนไป