หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


งบกลาโหมไทยปี 52 = 169,092 ล้านบาท

โดยคุณ : Skyman เมื่อวันที่ : 17/06/2008 17:06:26

งบกลาโหมไทยปี 2552 ก่อนร่างพรบ.งบประมาณปี 2552 เข้าสภาในปลายเดือนนี้ อยู่ที่ 169,092 ล้านบาทครับ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนราวหมื่นกว่าล้านบาทถ้าจำไม่ผิดครับ เทียบกับ GDP ของไทยตาม CIA World Fact Book ถือว่าไทยมีงบกลาโหม 1% ของ GDP ........ ฟังดูน้อย แต่สภาพเศรษฐกิจแบบนี้ผมพอใจมากแล้วครับ เพราะมันดีกว่าเมื่อสองสามปีก่อนมากพอสมควรครับ

เอามาให้ดูเล่น ๆ ก่อนประกาศใช้จริงครับ ^ ^

ปล. คัดลอกจาก

http://klang.cgd.go.th/nan/box/21.5.51.pdf





ความคิดเห็นที่ 1


หนูจาเอา หนูจาเอา หนูจาเอา กริพจัง แทน F5 ทุกลำเยย ~><~

โดยคุณ BloodRoyal เมื่อวันที่ 12/06/2008 00:39:58


ความคิดเห็นที่ 2


ผมขอแค่ 6 ลำแรกก่อนละกันครับ ว่าแต่ทำไมเจ้า AV8 ของ ทร.  นี่ซ่อมไม่ได้เลยเหรอครับ
โดยคุณ defender เมื่อวันที่ 12/06/2008 01:15:48


ความคิดเห็นที่ 3


อยากซ่อมใจจะขาดครับแต่ว่าซ่อมไม่ไหวแล้ว (มาตอนแรกเขาก็โละมาให้ ไม่รู้เครื่องเคราเป็นไงบ้าง) ถ้าหา AV-8B มาได้ก็คงดีครับ ขัดตาทัพคอย F-35

จะเอากริพจังเหมือนกันครับ อยากไปถ่ายรูปตัวเป็นๆ ในงานวันเด็ก
โดยคุณ Praetorians เมื่อวันที่ 12/06/2008 01:23:50


ความคิดเห็นที่ 4


แค่169092ล้านบาทพอหรือครับทำไมได้น้อยแค่ลำพังเงินเดือนของบรรดาทหารของทบ ทอ ทร.และของกลาโหมก็ปาไปเกือบครึ่งแล้วที่เหลือพอซื้ออาวุธได้มากน้อยแค่ไหนกันขนาดเอาง่ายแค่ว่าเจ้ากรีเป้นที่ทอ.จะซื้อมานั้นยังต้องแบ่งออกเป็น2งวดเลยความเป็นจริงแล้วมันน่าจะมากกว่านี้เสียด้วยซ้ำเข้าใจเศรษฐกิจบ้านเราก็ไม่ค่อยแต่เราจะปล่อยทหารเราใช้อาวุธโบราณไปอีกนานแค่ไหนกันอย่างอาวุธบางชนิดเขานะเลิกใช้กันหมดแล้วอย่างรถjeepที่ทบใช้อยู่นั้นก็ใช้มาตั่งแต่สงครามโลกแล้วมั่งหรือฮ.ฮิวอี้ของ3เหล่าทัพนั้นก็ประจำการมานานโขน่าจะเปลี่ยนใหม่ได้แล้ว
โดยคุณ ttrc เมื่อวันที่ 12/06/2008 04:18:48


ความคิดเห็นที่ 5


การที่งบกว่าครึ่งเป็นเงินเดือนต้องอาศัยการบริหารจัดการที่ดีครับ เพราะกองทัพชาติที่พัฒนาแล้วมีงบประจำพวกเงินเดือนต่าง ๆ ราว 30%-40% เท่านั้น แต่เราปาเข้าไป 60% - 70% ........... กองทัพต้องบริหารงบให้ดีกว่านี้ครับ
โดยคุณ Skyman เมื่อวันที่ 12/06/2008 04:26:16


ความคิดเห็นที่ 6


ถามจริงๆครับว่า กองทัพเรือของเราจำเป็นต้องพัฒนาอีกมากกว่านี้จริงหรือ ถ้าหากเราใช้การครองอากาศของกองทัพอากาศเหนือพื้นน้ำทดแทนเรือรบขนาดใหญ่จะดีกว่าไหมครับ เพราะเรือของเราในปัจจุบันมีขีดความสามารถในการป้องกันตนเองที่ไม่ดีเท่าไหร่ หากออกรบก็เสี่ยงต่อการถูกทำลายจากกำลังทางอากาศของฝ่ายตรงข้าม ดังนั้น ใช้กำลังทางอากาศ ทำลายเป้าผิวน้ำที่จะมาปิดอ่าว ค้นหาเรือดำน้ำ กวาดทุ่นระเบิด (อันนี้ยากหน่อยเพราะระยะบินของ ฮ.สั้น) จะได้ไม่ต้องกลัวฮาร์พูน แต่ทั้งนี้กองทัพอากาศต้องมีชัยอย่างแน่นอนต่อกำลังทางอากาศของศัตรู (อันนี้ถ้าทำไม่ได้ถ้าใช้เรือก็ตกอยู่ในอันตรายอยู่ดี) จึงอยากทราบว่าเรือรบขนาดใหญ่มีประโยชน์อะไรในการป้องกันประเทศ และถ้าหากใช้กำลังทางอากาศที่มีประสิทธิภาพเพียงอย่างเดียวจะมีค่าใช้จ่ายถูกลงไหม ทั้งนี้สืบเนื่องมาจากความหวาดกลัวอาวุธนำวิถีของข้าพเจ้าเอง 
โดยคุณ SpruenceT เมื่อวันที่ 12/06/2008 06:52:30


ความคิดเห็นที่ 7


1 เปอร์เซ็นของจีดีพี ผมถือว่าน้อยสำหรับความมั่นคงของประเทศ ซึ่งความคิดเห็นส่วนตัวน่าจะอยู่ที่ 2 เปอร์เซ็น ไม่ว่าเศรษกิจจะตกต่ำหรือรุ่งโรจน์ก็น่าจะอยู่ที่ระดับนี้ แต่เมื่อมันจำเป็นก็ต้องยอมรับ ส่วนที่จะให้ ทร.ซ่อม AV-8S ผมไม่ค่อยเห็นด้วยซักเท่าไหร่ เพราะอายุการใช้งานมันมากโขอยู่แล้ว แต่สนับสนุนที่จะให้ ทร.มีเครื่องบินลักษณะนี้ไว้ใช้งาน แต่ควรจะเป็นเครื่องบินที่เน้นภารกิจโจมตี เพราะการที่จะใช้เครื่องบินเข้าโจมตเรือเพื่อสนับสนุนการรบทางน้ำนั้น ควรจะเป็นเครื่องบินของ ทร.โดยตรงเพราะนักบินจะมีการฝึกมาทางนี้โดยตรงในขณะที่นักบิน ทอ. นั้นไม่ได้ฝึกการโจมตีเรือโดยตรงซึ่งอาจทำให้เกิดการผิดพลาดได้ แต่น่าจะใช้เครื่องบินของกองทัพอากาศใช้ในการขับไล่คุ้มกันให้จะเหมาะสมกว่า หรืออีกทางหนึ่งคือ ทอ.บรรจุหลักสูตรนี้เพิ่มเติมให้กับนักบินที่บินกับเครื่องบินที่มีขีดความสามารถในการใช้อาวุธโจมตีเรือเข้าไป และหากว่า ทร.จะมีเครื่องบินใหม่ ผมสนับสนุน AV-8B ครับเพราะเรามีเรือที่รองรับอยู่แล้วโดยแทบไม่ต้องปรับปรุงอะไรเพิ่มเติมมากนัก และสามารถที่จะลงจอดบนเกาะกลางทะเลที่เตรียมพื้นที่รอไว้ได้เพียงแค่ความกว้างของสนามฟุตบอลเท่านั้นครับ

ทั้งหมดเป็นความเห็นส่วนตัวครับ

โดยคุณ เด็กทะเล เมื่อวันที่ 12/06/2008 08:15:00


ความคิดเห็นที่ 8


1% น้อยมากครับ..  ผมยอมจ่าย VAT 10% ถ้าส่วนที่เพิ่มเอาไปให้งบป้องกันประเทศ..


ก็เหมือนที่ผม ยอมเจียดเงินไปหาหมอเมื่อยามป่วย เพื่อป้องกันการรุกลาม  ยอมเที่ยวให้น้อยลง เพื่อเก็บเงินไว้ซื้อประกัน เผื่อใช้ยามจำเป็น.. ยอมหลายๆอย่างเพื่อให้ชีวิตปลอดภัยนะครับ.....  แต่คงมีไม่มากนักที่จะให้ความสำคัญ...



..
โดยคุณ charchar เมื่อวันที่ 13/06/2008 05:16:36


ความคิดเห็นที่ 9


มันน้อยเกินไปสำหรับงบแค่1%ของgdpความเป็นจริงมันน่าจะมากกว่านี้สำหรับงบป้องกันประเทศทหารเลยต้องใช้อาวุธให้คุ้มค่าที่สุดคือว่าอย่างเครื่องบินเอฟ16ก็บำรุงรักษายิ่งกว่าไข่ในหินพยายามไม่ให้มันตกเพราะถ้าตกแล้วไม่มีปัญญาซื้อใหม่แน่ส่วนที่ทร.จะซ่อมเอวี-8เอสนั้นผมว่าอย่าซ่อมเลยดีกว่าซ่อมไปก็สิ้นเปลื้องโดยใช่เหตุสู้ทางที่ดีเอาของใหม่กว่ามาดีกว่าอย่างเอวี-8บีพลัสนั้นนะเหมาะสมอย่างยิ่งเครื่องก็ไม่ได้เก่าอะไรมากมายนักทุกวันนี้ไอ้กันยังใช้อยู่เลยอะไหล่มีเพียบอย่างน้อยๆๆก็ใช้ได้อีกประมาณ20ปีเป็นอย่างต่ำถึงเวลานั้นไอ้เจ้าเอฟ-35ก็คงบินว่อนทั่วโลกแล้วราคาค่าตัวก็คงถูกลงประมาณว่าราคาคงพอๆๆกับเอฟ16ซีดีเมื่อผลิตออกมาเยอะราคาก็ถูกลง
โดยคุณ ttrc เมื่อวันที่ 16/06/2008 07:16:16


ความคิดเห็นที่ 10


เครื่องจำพวก vstol นั้นส่วนตัวแล้วทั้ง ทอ.และทร. น่าจะร่วมกันในการจัดหา......ทอ. สามารถนำไปใช้กับสนามบินส่วนหน้าสำหรับ ภารกิจ CAS ทร.ก็ใช้ในภารกิจ โจมตีทางทะเลและCASให้กับกำลังภาคพื้นดินได้ด้วยเช่นเดียวกัน........ซึ่งปัจจุบันก็คงหาเครื่องประเภทนี้มือ 1 ทำยายาก นอกจากรอคอย F35 ตามที่หวังกัน เพราะเรามองมันช้าไป   จะหาได้ก็คงเป็นเครื่องมือ 2  แต่ถ้าเป็นเครื่องที่เน้น Air-to-Air ก็คงจะไม่เหมาะกับ ทอ. ซักเท่าไหร่.....ถ้าเป็น A to G ก็น่าสน แต่ถ้าให้ดีก็ Multi Role มันไปเลย.....หุหุ  ฝันกันต่อไป.........โอ้วววววว ชีวิตมีอะไรตั้งเยอะแยะ  มีเกิดแก่เจ็บตายคล้ายๆกัน แต่สิ่งที่มีไม่เหมือนคือ    ความฝัน   อยู่ที่ใครจะล่ามันให้อยู่มือ  ตือดื๊ด ตื้ดตื่อตือตือดื้ด

โดยคุณ FW190 เมื่อวันที่ 16/06/2008 23:52:31


ความคิดเห็นที่ 11


แหม ... ตอนนี้ประเทศไทยต้องจ่ายค่าน้ำเข้าน้ำมันปีละหลายแสนล้าน ถ้าจะลดก็ต้องสร้างระบบราง รถไฟฟ้าเอาแต่ 3 สายก็เกือบสองแสนล้านแล้ว ไหนจะระบบรถไฟรางคู่ที่ต้องใช้อีกหลายแสนล้าน สุวรรณภูมิเฟสสองก็ต้องใช้อีกเกือบแสนล้าน ถ้าไม่ทำต้นทุน Logistic ของไทยก็จะสูงที่สุดในภูมิภาคอย่างนี้อยู่ต่อไป ไปเรื่อย ๆ เศรษฐกิจก็จะไม่ดีพอที่จะเก็บเงินมาซื้ออาวุธ นี่แค่ภาคการขนส่งนะครับ ยังมีอะไรอย่างอื่นเยอะ

ถ้าเราอยากได้แบบที่เหมาะสมคือ 2% ของ GDP เท่ากับงบกลาโหมต้องมี 320,000,000,000 บาท ...... เราจะต้องดึงงบจากกระทรวงศึกษาซึ่งควรจะเอาไปสร้างโรงเรียน ต้องดึงงบจากกระทรวงการคลังซึ่งควรจะไปซื้อหุ้นเพิ่มทุนรัฐวิสาหกิจ ต้องไปดึงงบจากกระทรวงอุตสาหกรรมซึ่งควรจะไปพัฒนาการผลิตไบโอดีเซล มาซื้ออาวุธซึ่งส่วนมากมันไม่ค่อยได้อะไรกลับคืนมาเลย ....... ส่วนที่เพิ่มมา 160,000,000,000 บาท สร้างรถไฟฟ้าได้สองสายสบายๆ  สร้างสุวรรณภูมิได้ทั้งเฟส 2 และ 3

อย่าเลยครับผมว่า ....... เอาแค่ 160,000,000,000 ล้านของปี 52 ก่อนแหละดีแล้วครับ

โดยคุณ Skyman เมื่อวันที่ 17/06/2008 06:06:28