เรื่องคร่าวๆ ของ K-19 คือเป็นเรือน้ำดำพลังปรมณูบรรทุกจรวดขีปนาวุธข้ามทวีปของรัสเซียที่เกิดอุบัติเหตุระบบทำความเย็นของเตาปฎิมากรณ์เกิดแตกร้าวระหว่างการฝึก บริเวณแถวตอนใต้ของเกาะ Greenland ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของมหาสมุทรแอตแลนติก เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 1961 ทำให้ความร้อนของเตาพลังปรมณูสูงถึง 800C อีกทั้งวิทยุระยะไกลเสียหายใช้การไม่ได้ ทำให้ไม่สามารถติดต่อกับกรุงมอสโควกัปตันเรือ นิโคไล วาดิมิโรวิช ซาทีเยฟ ได้คำนึงถึงการแพร่กระจายของรังสีปรมณูที่ออกไปจากการเกิดอุบัติเหตุ และมีความเป็นไปได้ว่าอาจจะเกิดการระเบิดเกิดขึ้น ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิดต่อสหรัฐอันจะเป็นชนวนก่อให้เกิดสงครามนิวเคลียส์ อีกทั้งกัปตันคำนึกถึงชีวิตของลูกเรือและเรือดำน้ำอันเป็นทรัพย์สมบัติของชาติที่ต้องรักษาไว้ กัปตันได้เกิดความคิดบ้าระห่ำโดยสั่งให้ทีมวิศวกรตัดวาว์วท่อระบายอากาศออกแล้วต่อท่อน้ำเย็นเข้าไปที่เตาพลังงาน ซึ่งก็สามารถทำให้เรือปฎิบัติการได้อีกครั้งหนึ่ง แต่ก็ทำให้เห็นการแพร่กระจายของรังสีออกไปในส่วนต่างๆ ของเรือ

               จากนั้นกัปตันนิโคไลได้บ่ายหัวเรือลงใต้แทน และส่งสัญญาณของความช่วยเหลือไปยังเรือรัสเซียลำอื่นให้ไปช่วยที่จุดนัดพบ เรือดำน้ำพลังดีเซลของรัสเซียคือ S-270 รับสัญญาณได้และมุ่งหน้าไปยังจุดนัดพบ ในขณะเดียวกันกองกำลังของสหรัฐซึ่งอยู่ใกล้กับ K-19 ก็จับสัญญาณขอความช่วยเหลือได้ และเสนอการให้ความช่วยเหลือ(นับเป็นเรื่องของน้ำใจที่ยากจะเกิดขึ้นในช่วงสงครามเย็น) แต่กัปตันนิโคไลเกรงว่าความลับทางทหารของรัสเซียจะรั่วไหลจึงปฎิเสธความช่วยเหลือ และมุ่งหน้าสู่จุดนัดพบ

เรือดำน้ำของโซเวียตลำนี้มีประวัติที่น่าสนใจมากคือ ปกติพิธีเจิมหัวเรือของฝรั่งจะใช้ผู้หญิงเป็นคนกระทำพิธีโดยโยนขวดแชมเปญ(ที่ผูกเชือกโยงไว้แล้ว)สู่หัวเรือให้แตก แต่เรือดำน้ำ K-19 ใช้ผู้ชายเป็นคนทำพิธีแล้วขวดแชมเปญก็กระแทกลำเรือแต่ไม่แตก ซึ่งลูกเรือถือเป็นลางร้าย

อีกเรื่องที่น่าประทับใจคือวันที่ 1 ก.พ.2006 อดีตประธานาธิบดีมิคาอิล โกมาชอฟ ได้ทำจดหมายเสนอให้ลูกเรือ K-19 เข้าชิงรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ ต่อมาปลายเดือนมีนา 2006 คกก.ได้พิจารณาเสนอชื่อของกัปตันนิโคไล เข้าชิงรางวัลฯ อย่างเป็นทางการ

แจ๋วหลบ.........................................จบแล้ว