คือว่ายกตัวอย่าง เรื่อง F-16 มันไม่ยังไงๆ หน่อยเหรอครับ ฟังดูเเปลกๆนะครับ

ออกจากปรพจำการแล้วเอาอาวุธกองทัพกลับบ้านไม่ได้ครับ (ยกเว้นหลังสงครามโลกครั้งที่สอง ที่สามารถเอาอาวุธศัตรุบางแบบเช่น ปืนยาวลูกเลื่อนหรือปืนพก กลับมาตีทะเบียนได้ แต่ปืนกลเขาคงไม่ให้หรอกนะครับ)

และแบบที่พี่ๆ ด้านบนเขาว่าไว้แล้วแต่รัฐครับ ยากง่ายไม่เหมือนกัน แต่บ้านเขามักจะกลัวปืนสั้นกัน ได้ยินบ่อยๆ ว่าที่ลาสเวกัส(เนวาดา)ปืนยาวไม่ต้องลงทะเบียนกันเลยที่เดียว หรือที่แอลเอ มีปืนไรเฟิลจู่โจมที่กลไกเป็นกึ่งออโตขาย(จากเหตุการณ์ปล้น ธ.แบงค์ออฟอเมริกาที่คนร้ายสองคนพร้อมอาวุธสงครามสวมเกราะกันกระสุน ยิงถล่มตำรวจฝ่ายเดียว เพราะมีแค่ปืนพกกับลูกซอง จนตำรวจต้องไปยืมปืนพวกนี่จากร้านปืน แต่ไม่ได้ใช้ครับหน่วยสวาทพร้อมอำนาจการยิงที่ทัดเทียมมาถึงก่อน)

อีกเหตุการณ์ที่ทำให้เห็นว่าบ้านเขาไม่ควบคุมกับปืนยาวเท่าไรก็ที่ เวโค การล้อมกลุ่มผู้นิยมลัทธิดราวิเดียน (ใครอยากมีเมียหลายคนน่าไปเข้ารีดนะครับ แต่เจ้าลัทธินี่บ้าขนาดเอาน้องสาวหรือญาติมาเป็นเมีย)ฝ่ายผู้ร้ายมี บาร์เร็ต .50 ใช้แบบถูกกฏหมาย ตำรวจต้องขอยืมรถเกราะ M2 แบรต์ลี่ มาใช้ช่วยยิงแก็สน้ำตา

ยังมีอีกหลายเหตุการณ์ที่บอกว่าที่โน่นปืนยาว(ปืนพกยากกว่านิดเดียว)ซื้อได้ไม่ยาก (แน่นอนว่าต้องเป็นพลเมื่องของเขา) ถึงจะซื้อไม่ได้แบบขนมแต่ก็ง่ายกว่าไทย (นายทะเบียนบอกว่า .357 ไม่ให้เพราะยิงรถถังทะลุ น่าจะส่งไปเรียนประถมใหม่นะครับ) เป็นไปตามคำกล่าวในกฎหมายสูงสุดบ้านเขาที่ว่า กองกำลังประชาชนติดอาวุธ จำเป็นต่อสิทธิและเสรีภาพ

ถ้าเป็นปืนเล็กยาว Mauser หรือปืนยาวแบบอื่นที่ใกล้เคียงกันคิดว่าอย่างไรก็คงขึ้นทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายในไทยไม่ได้ละครับ เพราะกระสุนปืนที่ใช้กับปืนแบบนี้เป็นกระสุน Rifle ( 7.9257mm)อานุภาพสูงแบบที่ใช้ในสงครามโดยตรง(เช่นเดียวกับ .223, .308 และ 7.6239mm เป็นต้น) 

Mauser สามารถขึ้นทะเบียนได้ครับ เพราะไม่เกินขนาดที่กำหนดไว้ และเป็นปืนลูกเลื่อน เพราะ กม ห้ามไรเฟิลชนวนกลางที่มีกลไกบรรจุกระสุนเอง(ยิง เซมิออโต หรือ ฟูลออโต) และขนาดเกิน 11.43 มม (ผมไม่ชัวร์เรื่องขนาด แต่อยู่ราวๆนี้)

ทุกวันนี้ผมกับเพื่อนๆ ก็ยิงไรเฟิลกันอยู่ครับ ทั้งขนาด .223 .308 30-06

ส่วนเรื่องจ่าบ๊อบ มีปืนได้อย่างไร หลายๆคนคงตอบไปแล้วครับ

แล้วจะเอาเอฟ 16 ไปเก็บไว้ที่ไหนละนั้น คงในโรงเก็บรถละมั้งนั้น?

ถึงจะเอามาได้แล้วจะเอาน้ำมันที่ไหนมาละคร้าบ แพงนะนั้น ก้ากๆ

นี้เข้าใจผิดมานานเลยนะครับว่าปืนที่ใช้กระสุนแบบRifleทุกแบบนั้นไม่สามารถครอบครองได้โดยถูกต้องตามกฏหมาย

แสดงว่าปืน Rifle ที่เป็นระบบคานเหวี่ยงและลูกเลื่อนที่กระสุนขนาดไม่เกินกฏหมายกำหนดนี้สามารถนำไปขึ้นทะเบียนได้สิครับ

เคยได้ทราบมาว่าประเทศแอฟริกาใต้มีกฏหมายที่อนุญาตให้พลเรือนมี บ.ทางทหารในครอบครองได้ครับ แต่ต้องเป็น บ.ที่ปลดประจำการไปแล้ว ซึ่งที่เคยในสารคดีก็มีเศรษฐีหลายคนไปตั้งฝูงบินอนุรักษ์ส่วนตัวที่นั้นกันครับ

ครับ พวกนั้นได้ครับ ตอนนี้ปืนราคาแพงมาก เพราะจากการบีบของรัฐบาล เบื่อมากๆเลยครับ ไรเฟิลคานเหวี่ยงของ เมอร์ลิน ดีดขึ้นหลักแสนไปแล้ว ทั้งๆที่แต่ก่อนอยู่ที่ห้าหมื่นกว่าๆ

ส่วนปืนสั้นโคลท์ ถ้ามือแรกแสนขึ้นชัวร์ครับ

โอ....เจอคอเดียวกัน  ส่วนปืนในฝันผมเป็น winschester ลูกซองคานเหวี่ยน 9410 ครับ ลูกกระสุน ซ๊อตเชลล์เบอร์ .410 (ราคาลูกแพงบรรลัย)

.

.

ต่ออีกนิดนะครับไหนก็เจอนักเลงปืนแล้ว   ที่ในหนังบอกว่า  กระสุนลูกนี้สามารถพิสูจน์ได้ว่าถูกยิงจากปืนกระบอกไหน เทคโนโลยีนี้มันเป็นไปได้หรือครับ  หรือว่าโม้

.ส่วนตัวคิดว่านักพิสูจน์หลักฐานคงเอาหัวตะกั่วลูกปืนที่ยิงไปแล้วมาเทียบกับเศษทองแดง(กระสุนไรเฟิลน่าจะเคลือบทองแดง)ที่ติดกับเกลียวลำกล้องปืนเอา

^

^

พิสูจน์จาก รอยเกลียวลำกล้องในหัวกระสุนครับ

แล้วรอย ลำเลื่อนที่ท้ายปลอกกระสุน กับ รอยที่เข็มแทงชนวนทำกับจอกกระทบแตก ครับ

ขอเก็บประเด็น ครับ

ทหารเอาปืนของลุงแซมกลับบ้านไม่ได้ครับ ลักทรัพย์ครับ
ส่วนเครื่องบิน ขอตอบว่า ได้ ถ้าซื้อขายอย่างถูกต้อง ครับ
(เช่นซื้อซากเครื่องบินจากป่าช้าเครื่องบิน เอาไปจอดที่บ้าน เล่นๆ)
แต่ถ้าจะทำให้บินได้ ต้องทำให้ผ่านมาตรฐานขององค์กรการบินก่อนอีก จึงจะบินได้
ทหารชาติที่เอาปืนหลวงกลับบ้านได้เท่าที่รู้คือ สวิส                 คือฝึกเสร็จ/พ้นระยะประจำการทหารกลับบ้านไปเป็นพลเรือน     พร้อมกับ เครื่องแบบ ปืน กระสุน เป้ และจักรยาน
ถ้ามีเรียกพล ก็แต่งเครื่องแบบ สะพายปืน กับเป้ ถีบจักรยานเข้าประจำที่ ได้ ไม่ต้องมารับปืนที่ค่าย

คราวนี้ ในหนังปืนที่ใช้ที่เนิน ในตอนต้นเรื่อง                             ไม่ใช่ปืนแบบเดียวกะที่อยู่ที่บ้าน
ปืนCheytecในหนัง เป็นปืนส่วนตัว ที่ประชาชน                        ที่ปประเทศสหรัฐอเมริกาสามารถซื้อขาย และครอบครองกันได้
สำหรับ War Souvenir ของที่ระลึกสงคราม ของที่ยึด                 จากฝ่ายครงข้าม เก็บเอาเป็นของตัว อาวุธ side armsได้              แต่เขาห้ามปืนกล (Machine Gun) และปืนใหญ่
ตอนหลังนี่เห็นเข้มงวดเรื่อง AK เลยมีคนเพี๊ยนๆ                         หันไปเล่นพวกหัวกระโหลกแทน คงเข้มงวดกันแล้ว
กองทัพเขา ล้างคลังเอาปืนเก่า รถถัง ปืนใหญ่อัตตาจร                 มาขายทิ้งให้ประชาชนบ่อยๆ ครับ
สำหรับพวกปืนกล Full Auto, ปืนเก็บเสียง, ปืนใหญ่                 ต้องขออนุญาตก่อน ถ้าได้รับอนุญาติก็มีได้
เคยเห็นในหนังสือ ฝรั่งเอาปืนใหญ่ บริษัท Krupp มายิงเล่น        พอดูดีๆ มีตรากงจักรประทับด้วย

เรื่องปืน ในอเมริกา ตามบทแก้ไขรัฐธรรมนูญ ครั้งที่สองของเขา กำหนดไว้ว่าThe Right to keep and bear Arms shall not be Infringed
สิทธิ ที่จะมีและใช้อาวุธจะถูกล่วงละเมิดไม่ได้
NRA(สมาคมยิงปืน) จะใช้ The Right to keep and bear Arms to protect
Life, Rights and Property shall not be Infringed
สำหรับบ้านเรา เขาว่า อยู่อย่างจำเลย ดีกว่าตายอย่างโจทก์
ปืนยาว/ปืนสั้น จะไม่แตกต่างกัน จ่ายตัง จดทะเบียน/Register แล้วต้องรอ 15วันจึงจะรับปืนได้
แต่ปืนพกขนาดเล็ก จัดอยู่ในประเภทอาวุธพกพาซ่อนเร้น Conseal Weaponsเป็นของที่เขากลัว เพราะการแอบซ่อนอาวุธแสดงเจตนาไม่ค่อยบริสุทธิ์อย่างไรก็ตาม ผู้หญิงก็พกปืนเล็กๆในกระเป๋าเพื่อป้องกันตัว

การขอมีอาวุธปืน บ้านเรา เป็นการขอ ให้ผู้มีอำนาจ พิจารณาอนุญาต ให้เราแต่บ้านนู้น ใช้การจดทะเบียน ที่ผู้อนุญาติจะต้องตรวจประวัติ และความเหมาะสม ถ้าไม่พบสาเหตุที่ควรปฏิเสธ เขาก็จะอนุญาต หรือผ่านเรื่องให้ หากมีสาเหตุที่ไม่ควรอนุญาตให้ซื้อปืน เขาก็จะปฏิเสธและสามารถชี้แจงเหตุที่ปฏิเสธได้
ที่นั่น เจ้าหน้าที่เป็นคนธรรมดา ไม่ใช้เทวดา ครับ

ปืนMauser เป็นชื่อยี่ห้อปืนของเยอรมัน มีทั้งปืนสั้นปืนยาว ปืนติดเครื่องบิน และปตอ.  สมัยก่อนสงครามโลก บ้านเราจะนิยมใช้ปืนยาวลูกเลื่อน Mauserขนาด 7x57mmในเพชรพระอุมา จำไม่ได้ คนไหนใช้ Mauser 7x57 ส่วนMauserที่เป็นปืนสั้นมีหลายรุ่น เช่น Mauser Bloomhandle และ ปืน พาราเบลลั่ม                                                                              Mauser Kar-98ที่เยอรมันใช้ในสงคราม กระสุนขนาด 8x57 mm
กม ห้ามไรเฟิลชนวนกลางที่มีกลไกบรรจุกระสุนเอง(ยิง เซมิออโต หรือ ฟูลออโต) และขนาดเกิน 11.43 มม
ขอแก้ และ เป็น หรือ ปืนที่มีขนาดความกว้างปากลำกล้อง ครับ
ส่วนขนาดผมจำเป็น ไม่เกิน ๑๒ มม ไม่แน่ใจ เหมือนกัน

กระสุน/Ammunitionที่ใช้ในสงครามโดยตรง
คือกระสุนที่หัวกระสุน/Bulletแข็ง ไม่บานเมื่อถูก กระทบเป้า
ฝรั่งจะใช้คำว่า Ball ส่วนกระสุนสำหรับล่าสัตว์ จะเป็นกระสุนหัวอ่อน ที่บานออกได้เมื่อกระทบเป้า
กระสุนที่ออกแบบมาใช้เพื่อการทหารจริงๆ มีไม่มาก ส่วนใหญ่หยิบจากกระสุนที่มีในตลาด
มาใส่หัวกระสุนสำหรับใช้ทางทหาร อย่าง.223 Remington เป็นกระสุนที่ใช้ยิงสัตว์ขนาดไม่เกินเก้ง
พอเอามาเป็นกระสุนในกองทัพก็เปลี่ยนใช้หัวกระสุน หัวแข็ง ครับ
ฝรั่งจะดูที่หัวกระสุน ว่าเป็นของชาวบ้านหรือของทหาร
ทหารต้องใช้กระสุนที่หัวกระสุนเป็นหัวแข็งเท่านั้น ครับ

เมื่อประมาณสิบปีที่ผ่านมา มีการยกเลิกการห้ามอาวุธในราชการสงครามจำนวนหนึ่ง  เป็นปืนที่ที่กองทัพเราเคยใช้สมัยสงครามโลก และกำหนดไว้ว่าเป็นอาวุธในราชการสงคราม  ตอนนี้ คนไทยถ้าจะครอบครอง ปลย.๖๖, ปืนพระรามหก น่าจะได้แล้ว
ผมไม่แน่ใจว่า สมัยก่อนจะห้ามปืนของกองทัพชาติอื่นด้วยหรือไม่
ปืนที่ ใช้กระสุน ๑๑ มม หรือ .45 ACP ยังถือเป็นอาวุธสงคราม ตาม พรบ.อาวุธปืน ของเรา ที่ แลัวแต่นายทะเบียน ครับ ยังไม่มีการเอาออกจากList ทั้งๆที่ อายุจะครบร้อยแล้ว