เป็นที่ทราบกันดีว่าทางกองทัพอากาศไทยได้จัดหา เอฟ-16 มาไว้ประจำการเป็นจำนวน 3 ฝูงบิน ด้วยกัน ประจำการที่ฝูง 103, 403, 102 ตามลำดับ
การจัดหา เอฟ-16 ฝูงบินแรก (103) เป็น เอฟ-16 รุ่น เอ/บี ซึ่งในช่วงเวลานั้นถือว่าเป็นเครื่องบินรุ่นใหม่ แม้จะมีรุ่นที่ใหม่กว่าออกมาแล้วก็ตาม คือ เอฟ-16 ซี/ดี แต่ก็ยังถือว่าใหม่ และสหรัฐอเมริกาเองยังคงหวงอยู่ ในเวลานั้นทาง ทอ.ได้เสนอขอซื้อเอฟ-16 เอ/บี แต่ทางสหรัฐฯ กลับเสนอรุ่นที่ลดขีดความสามารถลงคือ เอฟ-16/79 (เอฟ-16 รุ่นติดตั้งเครื่องยนต์ เจ-79) ซึ่ง ทอ.ยืนยันความต้องการเป็น เอฟ-16 เอ/บี เท่านั้น ประกอบกับทางบริษัทผู้ผลิตต้องการจะขายและกลัวเสียลูกค้า จึงได้ช่วยกดดันทางเพนตากอนให้อนุมัติการขายครั้งนี้ให้...สุดท้ายทางเพนตากอนก็ยินยอมอนุมัติ...จึงทำให้เราได้มี เอฟ-16 เอ/บี ประจำการเป็นฝูงแรก...ในเวลาต่อมาทาง สิงคโปร์ ก็ได้รับอนุมัติเช่นกัน
การจัดหา เอฟ-16 ฝูงที่สอง (403) การจัดหาครั้งนี้ก็ยังคงเป็น เอฟ-16 เอ/บี เป็นรุ่นที่มีการจัดหาอุปกรณ์เพิ่มเติมทำให้มีขีดความสามารถในการปฏิบัติการและโจมตีในเวลากลางคืน
การจัดหา เอฟ-16 ฝูงที่สาม (102) เป็น เอฟ-16 เอ/บี เอดีเอฟ (บ.มือสอง) เป็นรุ่นที่มีขีดความสามารถการรบทางอากาศสูงขึ้น มีขีดความสามารถในการใช้อาวุธอากาศ-สู่-อากาศ ในระยะพ้นสายตา (Beyond Visual Range:BVR) ซึ่งยังไม่ใช่รุ่นใหม่คือ เอฟ-16 ซี/ดี เพราะทาง ทอ.มีงบประมาณไม่เพียงพอ เนื่องจากช่วงเวลาดังกล่าว (ปี2540) ประเทศไทยประสบปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ
การจัดหา บ.เอฟ-16 ของ ทอ.เป็น เอฟ-16 รุ่น เอ/บี ทั้งหมด ซึ่งการจัดหา เอฟ-16 ฝูงแรก และ ฝูงที่สาม ก็ด้วยเหตุผลดังที่กล่าวในเบื้องต้น แต่ในการจัดหา เอฟ-16 ฝูงที่สอง เหตุใดถึงยังเป็น เอฟ-16 รุ่น เอ/บี อยู่ ทั้งที่ช่วงเวลานั้น (ผมจำปี พ.ศ.ไม่ได้) ประเทศเราน่าจะมีความพร้อมและมีกำลังเพียงพอที่จะจัดหา บ.เอฟ-16 ซี/ดี รุ่นใหม่ได้ ประกอบกับช่วงนั้นทาง ทอ.สิงคโปร์ ก็กำลังจะได้รับ เอฟ-16 ซี/ดี รุ่นใหม่...เพื่อนสมาชิกท่านใดทราบเหตุผลช่วยตอบด้วยครับ...ขอบคุณครับ
คงด้วย 2 เหตุผลหลัก
1. ทหารอากาศลงทุนกับเครื่องฝึกจำลอง F16A/B ไปแล้ว
ซึ่งสมัยก่อนสิงค์โปร์ก็มาฝึก
2. ทหารอากาศเซ็นซื้อ รูบิส กับแอสติก ไปแล้ว
ส่วนประเด็นรอง คือ ไม่อยากเสียค่าปรับ และทหารอากาศคงมอง
ว่าซื้อแค่รุ่น A/B ก็พอรับมือภัยคุกคามได้ ถ้าจะซื้อ C/D ต้องลงทุน
ฝึกใหม่หมด
เท่าที่ทราบมาจากหนังสือแทงโก้เล่มเก่าๆจำเล่มไม่ได้ตอนที่ทอ.เราจะซื้อเอฟ-18เรากำหนดใว้ว่าจะต้องให้เราซื้อจรวดเอไอเอ็ม-120มาพร้อมกับเอฟ-18ด้วยแต่ว่าในตอนแรกไอ้กันมันอิดออดไม่ยอมขายให้เราเลยขู่ว่าถ้ายูไม่ขายเดี้ยวเราไปซื้อมิราจ-2000ติดไมค่าก็ได้มันถึงได้ยอมขายจรวดนั้นให้เราพร้อมกับเอฟ-18แต่ทว่าเศรษฐกิจปี40ทำพิษทำให้ไม่สามารถซื้อเอฟ-18ได้ตอนนั้นไอ้กันจึงได้เสนอขายเอฟ16เอดีเอฟให้เราโดยที่เราไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่มเลยเพราะจ่ายเงินค่ามัดจำไปแล้วส่วนหนึ่งอีกส่วนหนึ่งเราเอามาจากเงินที่ทอกั้นใว้ซื้ออะไหล่เอฟ16เอบี