จากกระทู้เดิม ที่เสนอข้อมูล ไป ๆ มา ๆ จนผมได้นิยายแบบเล็ก ๆ มาช่วงหนึ่ง....
ผู้ที่ต้องการอ่านกระทู้เดิม ต้อง Log In เข้าไปดูนะครับ....
ตอนนี้เลยนำมาพิมพ์ใหม่ ปรับปรุงโค ตะ ระ เล็กน้อย...และต่อด้วยภาคขยายอีกหน่อยนึง ส่วนภาค 2 ขอรออารมณ์อีกนิ๊ดดดดด..ครับ...แต่เริ่มคิดพล๊อตไว้แล้ว ครับ.....
อุ๊ย....ว๊ายยยยย...ต๊ายยยยยยยย....กรี๊ดดดดดดดดดส์...
แผ่นที่ 14 ผิดครับ...เดี๋ยวขอไปแก้ไขใหม่ครับ...
รอชมอยู่ครับ รอมานานล่ะครับ
น่าติดตามจริงๆตอนต่อไป น่าสงสารประเทศ ท ไม่มีใครคบ แถมยังทะเลาะกันเองอีก อยากย้ายประเทศหนีจริงๆ
เยี่ยมครับเป็นเหตุการณ์ที่น่าสนใจทีเดียว ผมเสริมเล่นๆนะครับ น่าจะมีการรับสมัคร พลอาสา เสริมกำลัง 5 จังหวัดชายแดนสักใต้ 3 เท่าตรึงกำลังตามแนวชายแดนใต้สัก 5 เท่ารวมไปถึงตรึงกำลังทางด้านตะวันตกอีกสัก 2 เท่าและขอชื้อาวุธจากจีนและรัสเชียเท่าที่เป็นไปได้ แล้วฝึกกำลังสำรองให้พร้อมรบเมื่อมีการโจมตี เราพร้อมส่งกำลังสนับสนุนทันที แต่คิดว่าการรบทางเรือกับประเทศกุกกิ๊กน่าจะไม่มีปัญหาแต่ทางใต้นี่น่าจะมีปัญหา งั้นทางใต้เราควรจะใช้การรบทางบกเอาเรือเข้าฝั่งเพื่อลงความสูญเสีย คิดเล่นๆนะคร้าบบบ
ผมน้องใหม่ติดตามเว็บนี้มานานแล้วแต่เพิ่งสมัคร นิยายเรื่องนี้น่าติดตามมากเลยอยากให้ทำหลายๆตอน อิอิ
รออ่านอยู่ครับ ^ ^
.......มันส์เอาเรื่องล่ะครับ แต่กลัวเรื่อง เทคโนโลยี และ ประสิทธิภาพของ อาวุธต่างๆจะเป็นตัวพลิกอ่ะ
ขอบคุณทุก ๆ ท่านครับ..คงขอใช้เวลาสัก 2-3 อาทิตย์ครับ...กว่าจะบิว อารมณ์ หาเหตุ-ผล เพื่อหาข้อมูลมาตอบความคิดว่า พอจะมีเหตุ-ผล เพียงพอครับ...
ท่านนายหน้าค้าอาวุธ...ผมยังกังวลอยู่ว่า ปัจจุบัน ผมมีชีวิตแบบ เงินไม่พอใช้ อยู่ ๆ จะมาเปลี่ยนชีวิตผมแบบ มีเงินเหลือใช้....ผมไม่แน่ใจว่า ผมจะทำใจได้ และมีชีวิตอยู่ได้รึเปล่า ครับ...ยังสงสัย ตัวเองอยู่ครับ...คงต้องขอใช้เวลาตัดสินใจสัก 10 ปี คงยังไม่สายที่ประเทศไทย จะมีเรือดำน้ำใช้สักลำครับ...กั๊ก กั๊ก กั๊ก กั๊ก
ท่าน MIG31 เรื่อง เทคโนโลยี่ ผมไม่ค่อยกังวลครับ...เท่า ๆ ที่ลองเอาหนังสือเก่า ๆ มาเปิดอ่านดู และล่าสุดในหนังสือ แทงโก้ F-22 เริ่มต้นพัฒนามาตั้งแต่ปี 2532 ปัจจุบันก็เกือบ 20 ปี กว่าจะเป็นอยู่ในสภาพปัจจุบันนี้ครับ...ซึ่งก็เป็นแค่จุดเริ่มต้นชีวิตแบบเต็มรูปแบบ ของ บ.F-22 เองครับ...
ดังนั้น เทคโนโลยี่ปัจจุบัน หรืออาวุธสมัยใหม่ ตอนนี้ เริ่มจะไม่ใช่ประเด็นสำคัญสำหรับแนวความคิดผมแล้วครับ...แต่ประเด็นสำคัญคือ การฝึกฝน การซ้อมรบ การใช้ความสามารถของสมรรถนะการรรบ ของอาวุธที่มีประจำการอยู่ในปัจจุบัน ว่ามีเพียงพอ และเต็มประสิทธิภาพ ดีแล้วหรือยังครับ...อย่างเช่น กองทัพอากาศ บราซิล น่าจะเป็นกองทัพอากาศ ที่ ไทย น่าจะเลียนแบบมากที่สุด และเหมาะสมกับสภาพงบประมาณของกองทัพ ไทย เมื่อเรามาเทียบกับชีวิตปัจจุบัน ผมยังสามารถใช้ วินโดร์ 98 กับ วินโดร์ XP ได้อย่างมีประสิทธิภาพอย่างมากสำหรับงานที่ปัจจุบัน ซึ่งผมยังใช้ เมนู ที่มีอยู่ในโปรแกรมดังกล่าวน่าจะเพียง 50% แค่นั้นครับ...
ในความคิดเห็นของผม จุดที่น่ากลัวมากที่สุด สำหรับกองทัพ คือ การซ้อมรบ และการมีประสบการณ์ การสร้างเสริมความชำนาญในอาวุธที่มีประจำการอยู่ในปัจจุบัน....
เรือชั้น Formidable ของ สิงคโปร์ ไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัวนัก เท่ากับ การที่เรือชั้นดังกล่าว ได้ไปซ้อมรบกับ ทร.สหรัฐ อยู่เป็นประจำ เช่น RIMPAC และการซ้อมรบร่วมระหว่าง อินเดีย กับสิงคโปร์ ในการต่อต้านเรือดำน้ำ และสิงคโปร์ เคยจัดการซ้อมรบการต่อต้านทุ่นระเบิด ระดับใหญ่
เรือชั้น LEKIU ของ มาเลเซีย ไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัว เท่ากับ การซ้อมรบร่วมระหว่าง มาเลเซีย กับอินเดีย ที่มีอยู่อย่างสม่ำเสมอ
ประเทศเหล่านี้ มีการซ้อมรบระดับ Green Navy เป็นประจำ...แต่ กองทัพเรือไทย ผมยังไม่เคยได้ยินข่าวสักเท่าไหร่....การซ้อมรบขนาดใหญ่ สำหรับการปฏิบัติการใน อ่าวไทย แบบเต็มประสิทธิภาพ ยังไม่มีและไม่เคยเห็น...ผมเลยยังสงสัยว่า ยุทธวิธีการรบ ในอ่าวไทย ยังอยู่ในลักษณะไหน....
ภาพนี้ อยู่ในหนังสือของประเทศญี่ปุ่น เกี่ยวกับเรือรบที่ประจำการอยู่ในขณะนั้น และประสิทธิภาพของอาุวุธประจำเรือ ซึ่งหนังสือดังกล่าว น่าจะเกือบ 10 ปี....การใช้ ปืน 76 ม.ม. ยิง อาวุธนำวิถี โดยใช้เรดาห์จับเป้าอาวุธนำวิถี...มันเป็นยุทธิวิถีการรบอย่างหนึ่ง ซึ่งทำให้ CIWS เป็นปราการด่านสุดท้ายจริง ๆ สำหรับการต่อต้านอาวุธนำวิถี...ผมจึงชอบใจมากครับ..เมื่อได้ยินข่าวที่ ผบ.เรือ นเรศวร สามารถใช้ปืน 127 ม.ม. ยิงเป้าอาวุธนำวิถีสมมติ ได้อย่างมีประสิทธิภาพครับ...
จากรูปในแผ่นที่ 13 จะเห็นได้ว่า กองทัพเรือไทย มีความสามารถในการต่อต้านภัยทางอากาศ และอาุวุธนำวิถี ในระยะไกลสุดแค่ 15 ก.ม. เท่านั้นครับ...เรียกได้ว่า บ.ใด ๆ ในโลก บินเข้ามาใกล้ไม่เข้าในระยะ 15 ก.ม. กองเรือไทย ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ครับ...ในขณะที่ สิงคโปร์ ตอนนี้ระยะไกลสุดเขาอยู่ที่ 30 ก.ม. มากกว่าเรา เท่าตัว...
ดังนั้น สิงคโปร์ ใช้แค่ Forker F-50 บินเข้ามาในระยะ 16 ก.ม. ค่อย ๆ ปล่อย ฮาร์พูน ก็ยังไม่สายเกินไป...มี เอฟ-16 ดีเจ บินคุ้มครองอยู่บนฟ้า ก็เพียงพอแล้ว...
แต่สำหรับ กองเรือไทย Forker F-27 บินเข้าใกล้ได้แค่ระยะ 30 ก.ม. เรื่องรัศมีการยิงไกล ของอาวุธนำวิถี ยิ่งไกล ความแม่นยำ ก็ยิ่งน้อยลงไป และโอกาสถูกทำลายมีสูง...ดังนั้น การเข้าใกล้ที่สุด แต่ยังอยู่ในระยะปลอดภัย และโอกาสพลาดเป้าต่ำ น่าจะดีกว่า...
เพิ่มหน้าที่ 5 ครับ