ในหัวข้อเรื่อง T-50 ทำให้ผมนึกถึงเรื่องบ.โจมตีเบาใบพัดที่ดีๆอย่าง PC-21 และ Super tucano เผอิญนึกขึ้นได้ว่ามีเครื่องเจ๊ตที่อยู่ในคลาสเดียวกับเครื่องใบพัด 2 รุ่นนี้คือ M-311 ซึ่งพัฒนามาจาก S-211A
หนักไล่เรี่ยกัน ความสามารถบรรทุกอาวุธอยู่ช่วง 1-1.5 ตัน ใช้อาวุธอากาศสู่อากาศระยะใกล้ได้เหมือนๆกัน ใช้ฝึกทั้งขั้นต้นและขั้นมัธยมได้เช่นกัน เห็นทางaermacchi เขาบอกว่ามีค่าใช้จ่ายในการปฎิบัติการและบำรุงรักษาพอๆกัน แต่สมรรถนะการบินของ M-311 เหนือกว่าคู่แข่ง แต่ทำไมไม่ค่อยเห็น M-311 ประสบความสำเร็จทางการตลาดเท่ากับเครื่องใบพัดทั้งสองแบบเลย
เพื่อนๆคิดเห็นเป็นอย่างไรครับว่าถ้าทอ.ไทยต้องการเครื่องโจมตีเบาสนับสนุนทหารราบ ค่าใช้จ่ายต่ำ ราคาถูก เครื่องอย่าง M-311 นี่จะเหมาะสมหรือไม่อย่างไร
ราคา PC-21 นี่แพงชะมัดเลยครับ ไม่รู้ว่า M-311 ราคาเท่าไร
ปล. ทำไมทอ.ไทยเราถึงไม่จัดหาฝูงบินที่ทำหน้าที่โจมตีมาเป็นการเฉพาะแยกจากฝูงโจมตีเบาล่ะครับ ปัจจุบันผมเห็นแต่ฝูงขับไล่ 5 ฝูงต้องมานั่งรับภาระนี้ด้วยตลอด ถ้าวันข้างหน้าเต้องเผชิญหน้ากับภัยคุกคามที่มีระบบป้องกันภัยทางอากาศที่ดี และเครื่องขับไล่หลักทั้ง 5 ฝูงต้องมือกับเครื่องขับไล่ข้าศึกแบบเต็มมือ แล้วทอ.จะเอาเครื่องโจมตีที่ไหนไปต่อตีเป้าหมายในดินแดนข้าศึก หรือจะเอาเครื่องโจมตีเบาไปเจาะระบบป้องกันภัยทางอากาศของข้าศึก มันจะไหวหรือครับ
ขอบคุณรูปภาพจากเวปของ aermacchi ครับ
ตามอัตราการจัดฝูงบินรบขั้นต่ำสุดของกองทัพอากาศนั้น จะมีฝูงบินขับไล่5ฝูงและฝูงบินโจมตี2ฝูงและฝูงฝึกก้าวหน้า2ฝูงครับ ซึ่งฝูงบินขับไล่ในปัจจุบันนั้นก็คือ F-16 ฝูง.102 103 403 และ F-5ฝูง211และ701 ส่วนฝูงบินโจมตีนั้นคือ AlphaJet ฝูง.231 และ L-39 ฝูง 411 และฝูงฝึกก้าวหน้าคือ L-39 ฝูง 401 ครับ
จะเห็นได้ว่าในปัจจุบันนั้นกองทัพอากาศขาดฝูงบินฝึกก้าวหน้าไป1ฝูงครับหลังจากการโอน L-39 ฝูง.101 ไปที่ฝูง.411 ถ้ามีการจัดหา บ.ขับไล่ฝึกก้าวหน้าแบบใหม่หรือ บ.โจมตีแบบใหม่นั้นก็คงจะมีอัตรา1ฝูงครับ
เคยมีการวิเคราะห์ว่า บ.โจมตีใบพัดนั้นอาจจะไม่เหมาะกับสถานการณ์ภัยคุกคามของไทยในปัจจุบันแล้วครับ ถ้าเทียบการใช้งานของ บ.โจมตีใบพัดเช่น Super Tucano ของบราซิลและโคลัมเบีย ซึ่งภัยคุกคามที่พบนั้นเป็นกลุ่มค้ายาเสพติดและกองโจรติดอาวุธที่มีศักยภาพในการต่อต้านทางอากาศต่ำ กับการรบในอดีตของไทยเช่นร่มเกล้าซึ่งเป็นการปะทะกันระหว่างกองทัพของสองประเทศโยตรงในพื้นที่จำกัดเขตนั้น บ.โจมตีใบพัดคือ OV-10 ก็เสี่ยงต่อการสูญเสียเกินไปครับซึ่งเราก็สูญเสีย OV-10 ไปเครื่องหนึ่ง เนื่องจากบินได้ช้าและมีระบบป้องกันตัวน้อยเกินไป
ซึ่งในอนาคตส่วนตัวคิดว่า บ.ใบพัดที่ทำภารกิจตรวจการณ์/ลาดตระเวน ถ่ายภาพในอนาคตของกองทัพอากาศนั้นคงจะเป็นหน้าที่ของ UAV ครับ ส่วน บ.โจมตีนั้นคงจะเป็น บ.Jet ความเร็วต่ำแบบเดียวกับ AlphaJet ครับ
Aermacchi M-311 นั้นมีมิติขนาดใกล้เคียงกับ AlphaJet ครับ เว้นแต่ว่า M-311 นั้นใช้ ย. P&W JT15D-5C แรงขับ 3,200lb ในขณะที่ Alphajet นั้นใช้ ย.Turbomeca 2เครื่องแรงขับร่วม 6,000lb น้ำหนักบรรทุกอาวุธที่บรรทุกไปได้นั้น AlphaJet จะติดไปได้มากว่าเกือบ2เท่าครับ ดังนั้นถ้าเอามาแทนในภารกิจโจมตีเบาคงไม่ค่อยเหมาะเท่าไร
แต่ถ้าใช้แทน L-39ZA/ART ในภารกิจฝึกบินก้าวหน้าก็ดูน่าสนใจครับเพราะห้องนักบินนั้นมีความทันสมัยสูง แต่ในปัจจุบันนั้นหลายๆประเทศเปลี่ยนมาใช้ บ.ใบพัดอย่าง PC-21, T-6 Texan II แทนครับเนื่องจากมีค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติการถูกกว่า
เนื่องจาก บ. MB-339C รุ่นใหม่ที่มาเลเซียกำลังจะหามาเพิ่มเติม บ.MB-339 รุ่นเก่าที่สูญเสียไปบ้างนี้อยู่ที่ลำละ $8-10 Million ครับ เข้าใจว่าราคาของ M-311 นั้นราคาคงจะต่ำกว่านี้เล็กน้อยลำครับ(ซึ่งแพงกว่า T-6 หรือ PC-21 ไม่มากนักครับ)
....ในช่วงปีที่แล้วเป็นต้นมา บ.ฝ.ใบพัดขายดีแซง บ.ฝ.เจ็ทเลยล่ะครับ ทั้ง ทูคาโน่ ที-6เท็กซาน เคโอ-1 จาก เกาหลีใต้ และ พีซี-21 แต่ บ.ฝ./โจมตีเบา ที่ประสิทธิภาพจนถึงราคาในเกณฑ์ที่คุ้มค่า ก็ คงจะเป็น ทูคาโน่
.....แต่สำหรับภูมิภาคบ้านเราแล้ว มีระบบป้องกันอากาศยานที่ดีพอจะจัดการกับ บ.ใบพัดที่กล่าวมาได้ และ ภูมิภาคนี้ส่วนใหญ่นิยมใช้ บ.ฝ.เจ็ท เช่น มาเลเซีย และ อินโดนีเซีย เป็นหลัก เช่น ฮอค เอ็มบี-339 เป็นต้น หากบ้านเราจะจัดหาผมว่าน่าจะใช้ บ.ฝ.ใบพัดทดแทนของเก่า และ จัดหา บ.เจ็ทแทน แอล-39 หรือ อัลฟ่าเจ็ทในภาจกิจโจมตี ก็มี แอล-159 (น่าจะหลุดโผ) ที-50 น่ะครับ อื่นๆก็ เอ็มบี-339 และ ฮอค-208 โดย2ตัวหลังน่าจะได้ลุ้นเพียงเล็กน้อย โดย บ.เจ็ทที่ดูแล้ว กลางๆระหว่าง ฝึก และ โจมตีเบาก็ ที-50 เนี้ยล่ะ