ปกติแล้วปืนใหญ่สนามจะใช้วิธียิงที่เรียกว่า เล็งจำลอง คือยิงกันแบบไม่เห็นเป้าหมาย ต้องคำนวนเอาจากแผนที่ แต่อย่างไรก็ตามหากสถานการณ์คับขัน เมื่อข้าศึกเคลื่อนที่เข้ามาใกล้ฐานยิงของเรา ปืนใหญ่ก็สามารถทำการยิงทำลายข้าศึกเหล่านั้นได้ด้วยเทคนิคการยิงที่เรียกว่า ยิงเล็งตรง
การยิงเล็กตรงมีวิธีการที่ไม่สลับซับซ้อนเหมือนการยิงเล็กจำลองคือเหมือนกับยิงปืนพกหรือปืนยาวธรรมดานั้นเอง แต่ตัวปืนใหญ่ไม่มีศูนย์หน้า ศูนย์หลังเหมือนปืนเล็ก เราใช้ กล้องเล็ง ที่เป็นอุปกรณ์สำคัญของปืนแต่ละกระบอกทำหน้าที่แทน
สมัยที่ผมเรียน ร.ด. ผมอยู่เหล่าปืนใหญ่ มันจะมีผู้ตรวจการณ์หน้า คอยบอกจุดและบอกระยะการยิงของปืนใหญ่
ลูกแรกที่ยิงไปน่าจะเป็นระเบิดควัน ยิงไปเพื่อบอกตำแหน่ง ว่ายิงไปตกตรงไหนจากนั้นผู้ตรวจการณ์หน้า จะดูระยะของระเบิดว่าอยู่ห่างจากเป้าหมายมากน้อยขนาดไหน จากนั้นก็จะวอกลับไปยังฐาน ให้ยิงสูงขึ้น หรือต่ำลง หรือให้ยิงไปทางซ้ายเท่าไร ขวาเท่าไร
ถ้าเป้าหมายตรงจุด ผู้ตรวจการณ์หน้า ก็จะวอไปบอกให้ฐานทำการยิงด้วยกระสุนปืนจริง แล้วจากนั้นปืนใหญ่ทุกกระบอกก็จะระดมยิงพร้อมกัน
ที่ยิงด้วยระเบิดควันก่อน เพื่อจะได้เป็นการประหยัดกระสุน ไม่ใช่ยิงด้วยกระสุนปืนจริงหมดแต่ดันไปตกเลยเป้าไป 100 ม. มันก็คงเปลืองโดยใช้เหตุ เพราะการยิงด้วยปืนใหญ่ส่วนใหญ่จะยิงทีหลายกระบอก
สุดท้าย..ก็ต้องให้ท่านอื่นมาเสริมอีกที ว่าผิดถูกยังไง
ปัจจุบันต้อง+เทคโนโลยีใหม่ๆเข้าไปด้วย เช่น GPS , UAV , คอมพิวเตอร์ , เรดาร์ , ดาวเทียม
ทำให้โอกาสในการยิงปืนใหญ่ถูกเป้าหมายในนัดแรกสูงเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียวครับ
วันเวลาเปลี่ยน เทคโนโลยีเปลี่ยน การทำลายล้างก็ยิ่งรวดเร็ว และรุนแรงมากขี้นด้วย นี่แหละด้านมืดของเทคโนโลยี