หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


ไซโม ฮายาซ สไนเปอร์ผู้ยิ่งใหญ่ของโลก (สาเหตุเดิม)

โดยคุณ : tan02 เมื่อวันที่ : 10/04/2008 15:23:29

 พึ่งเคลียร์เกมส์สไนเปอร์อีลีท(Sniper Elite) ทำให้ช่วงนี้บ้าสไนเปอร์ขึ้นมาครับ ประกอบกับเว็บยังไม่ดีเหมือนเดิม ก็เลยขอโพสเรื่องเกี่ยวกับพลซุ่มยิงที่เก่งกาจคนนี้ ที่พึ่งทำเสร็จตะกี้นี้ครับ เชิญรับชม

 

ไซโม ฮายาซ สไนเปอร์ผู้ยิ่งใหญ่ของโลก
Simo Hayha the worlds Greatest Sniper

ไซโม ฮายาซระหว่างสงครามฤดูหนาว

 

ชีวิตในช่วงแรกและระหว่างสงคราม

ชีวิตในช่วงบั้นปลาย

 

Tips: หลังจากกดหัวข้อแล้วต้องการกลับมาที่รายชื่อเรื่องนี้อีกให้กดปุ่มBackspace

     

     ไซโม ฮายาซ (17 ธันวาคม 1905-1 เมษายน 2002) ได้รับฉายาจากกองทัพโซเวียตว่า White Death=ไวท์ เดธ) เรียกเป็นภาษาไทยได้อย่างเท่ๆว่า ความตายสีขาว (ในภาษารัสเซียเรียกว่า Belaya Smert=เบลาย่า สเมิร์ท,ภาษาฟินแลนด์เรียกว่า Valkoinen kuolema=วาลคอยเน็น คูโอเลม่า) เขาเป็นทหารฟินแลนด์ที่ในปัจจุบันยังถกเถียงกันว่าเขาคือพลซุ่มยิงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ใช่หรือไม่?





ความคิดเห็นที่ 1


ชีวิตในช่วงแรกและระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง(Early life, World War II service)

ฮายาซกับชุดพรางสีขาวที่ทำให้กลมกลืนกับภูมิประเทศที่มีแต่หิมะเป็นอย่างมาก

 

 

     ฮายาซเกิดในเขตเทศบาลเลาซ์จาไว(municipality of Rautjarvi) ซึ่งปัจจุบันเป็นชายแดนของรัสเซียไปแล้ว เขาได้เข้าเป็นทหารในกองทัพเมื่อปี 1925 โดยก่อนหน้านี้เขามีอาชีพเป็นชาวนาหรือเกษตรกร เมื่อสงครามฤดูหนาว(Winter War) ซึ่งเกิดขึ้นจากรัสเซียได้ทำการรุกรานฟินแลนด์ตั้งแต่ปี1939-1940 เริ่มขึ้น เขาก็ได้รับหน้าที่ให้เป็นพลซุ่มยิงเพื่อสังหารทหารกองทัพแดง ในภูมิประเทศที่มีอุณหภูมิหนาวตั้งแต่ -20 ถึง-40องศาเซลเซียล (วัดเป็นองศาฟาเรนไฮต์ก็จะอยู่ที่ระหว่าง -4ถึง-40องศา) โดยฮายาซใส่ชุดพรางหิมะสีขาว เขามียอดสังหารทหารโซเวียตที่ได้รับการยืนยันถึง 542ศพ!

 

 



ปืนยาวโมซินนากังค์ เอ็ม28 เมคอินฟินแลนด์กระบอกนี้แหละครับที่เป็นอาวุธซุ่มยิงของฮายาซ(คลิกที่ภาพเพื่อดูปืนแบบชัดๆ)

โดยคุณ tan02 เมื่อวันที่ 08/04/2008 07:28:24


ความคิดเห็นที่ 2


สถิตินี้มาจากกองทัพฟินแลนด์จากสนามรบที่โคลา(battlefield of Kollaa)ซึ่งเป็นสถานที่ฮายาซสามารถสังหารข้าศึกได้เป็นจำนวนมากถึง 542ศพ จากสมุดบันทึกที่โคลาได้กล่าวไว้ว่า ฮายาซใช้ปืนยาวเอ็ม 28 (Finnish Mosin nagant M28 rifle) ซึ่งเป็นปืนที่ฟินแลนด์ลอกแบบมาจากปืนยาวแบบโมซินนากังค์ของรัสเซีย (Soviet Mosin nagant rifle) รู้จักกันในหมู่ทหารฟินแลนด์ว่า ปืนยาวพีสตี้คอร์ว่า(Pystykorva) ซึ่งหมายถึงสุนัขพันธ์สปิทส์(spitz) ฮายาซเป็นคนที่มีรูปร่างเล็กคือมีความสูง 5ฟุต3นิ้ว(1.60เมตร ฝรั่งเขาถือว่าเตื้ยนะ) เขาชอบใช้ศูนย์เล็งเหล็กมาตรฐานของปืน(iron sights) สำหรับยิงเป้าขนาดเล็ก(smaller target) มากกว่าสูนย์แบบกล้องเล็ง(telescopic sights) สาเหตุมาจากเวลาเขาจะใช้กล้องเล็งจะต้องยกศรีษะสูงขึ้น และเขายังบอกว่าการใช้ศูนย์เล็งแบบเปิดนี้จะช่วยปกปิดที่ตั้งของตนเองได้ดีกว่าศูนย์แบบกล้องเล็ง (แสงอาทิตย์ที่ส่องใส่เลนส์ของศูนย์กล้องจะสะท้อนแสงทำให้ถูกพบที่ตั้งของพลซุ่มยิงได้)

 

 

สุนัขพันธุ์สปิทส์ช่างน่ารักน่าชัง
(ไม่สมที่เรียกเป็นชื่อปืนเล้ย)

 

 

     นอกจากเขาจะใช้ปืนยาวในการซุ่มยิงศัตรูแล้ว ฮายาซยังใช้ปืนกลมือซูโอมิ เอ็ม31อันโด่งดังของฟินแลนด์ยิงสังหารทหารรัสเซียไปเป็นจำนวนมากถึงสองร้อยกว่าศพ! ทำให้ยอดสังหารข้าศึกของเขาเพิ่มเป็นถึง 705ศพ!(ยิ่งเทพเข้าไปใหญ่คนรึเปล่าเนี่ย?) หลังจากทำหน้าที่ในสนามรบมาเป็นเวลากว่า100วัน เขาก็ถูกกระสุนปืนใส่บาดเจ็บ จนได้เฉลี่ยแล้วในวันๆหนึ่งเขาจะสังหารศัตรูไป 5ศพ ส่วนใหญ่ฮายาซจะซุ่มยิงตอนกลางวันในฤดูหนาวแทบจะทุกครั้ง ซึ่งเป็นสิ่งที่แปลกกว่าพลซุ่มยิงคนอื่นๆของโลก

 

อาวุธคู่กายของฮายาซบนคือปืนกลซูโอมิเพชรฆาต 200ศพ
ล่างคือปืนยาวเอ็ม28เพชรฆาต 542ศพ

โดยคุณ tan02 เมื่อวันที่ 08/04/2008 07:29:50


ความคิดเห็นที่ 3


ก่อนที่ฮายาซจะได้รับบาดเจ็บฝ่ายรัสเซียมีแผนที่จะกำจัดเขาให้ได้ ด้วยการใช้พลซุ่มยิง เรียกว่าพลซุ่มยิงก็ต้องจัดการด้วยพลซุ่มยิง(counter snipers=เคาน์เตอร์สไตรค์ เอ้ย! เคาน์เตอร์ สไนเปอร์)เรียกแบบไทยก็คือเพขรตัดเพชรหรือตาต่อต่าฟันต่อฟัน หรืออีกวิธีที่ขี้ขลาดหน่อยก็คือใช้ปืนใหญ่ยิงถล่ม(artillery strikes=อาร์ทิเลอะลี่ สไตรค์) โดยปืนใหญ่รัสเซียชอบใช้กระสุนปืนใหญ่แบบแตกกลางอากาศ(shrapnel=ชรัปเนล) ที่จะระเบิดกลางอากาศแล้วปล่อยลูกเหล็กกลมก้อนเล็กๆพุ่งลงมาเป็นสายฝน โดนโซเวียตน่าจะส่งทหารมาล่อให้ฮายาซยิงเพื่อที่จะได้ทราบตำแหน่งของเขาแล้วจัดการยิงปืนใหญ่ถล่มใส่ซะ แต่ไม่ว่าจะทำยังไงก็ไม่สามารถเก็บฮายาซได้ แถมเขาก็ไม่เคยโดนกระสุนแบบนี้เลยเรียกว่าไร้รอยแมวข่วน(เทพอีกละ) ส่วนสไนเปอร์ที่ส่งมาเก็บเขาก็ถูกฮายาซเก็บซะเอง

 

กระสุนปืนใหญ่แบบชนัปเน็ลสังเกตลูกเหล็กกลมเล็กๆในกระสุน

 

 

     พอถึงวันที่ 6 มีนาคม ปี1940 ฮายาซก็ถูกยิงได้รับบาดเจ็บอีกคราวนี้โดนยิงที่ขากรรไกร(jaw=จอ ถ้าคิดไม่ออกว่าตรงไหนก็ให้คิดถึงหนังเรื่องจอ 4ไว้นะครับ) ระหว่างการต่อสู้ในระยะใกล้(close combat) กระสุนพุ่งเข้าไปในหัวด้านซ้ายของเขา ฮายาซถูกหามออกจากสนามรบโดยทหารที่หามเขากล่าวว่า หัวของเขาหายไปครึ่งหนึ่ง ฮายาซกลับมาได้สติเอาอีกทีก็วันที่ 13 มีนาคม(หมดสติไปตั้ง 7วันเชียวนะเนี่ย) ซึ่งพอเขาตื่นมาก็เป็นวันที่ฟินแลนด์กับรัสเซียได้ประกาศสงบศึกกันพอดี หลังจากสงครามสิ้นสุดได้ไม่นานเขาก็ได้รับการเลื่อนยศจากสิบโท(corporal) เป็นร้อยตรีขั้นสอง(second lieutenant)

 

 



ท่านจอมพลแมนเนอร์ไฮม์ยอดขุนศึกของฟินแลนด์
(ชุดนี้ตอนร่วมรบกับเยอรมันแล้ว)

 

     หลายท่านคงจะคิดว่าอะไรมันจะเลื่อนยศแบบก้าวกระโดดขนาดนั้นเนอะ ผมว่าสงสัยน่าเป็นเพราะผลงานที่เทพสุดๆของเขาชัวร์ๆ โดยฮายาซได้รับยศนี้ จากจอมพล คาร์ล กุฟตาฟ อีมิล แมนเนอร์ไฮม่(Field Marshal Carl Gustaf Emil Mannerheim) จอมพลผู้โด่งดังของฟินแลนด์ผู้บัญชาการป้องกันประเทศ และชื่อของเขาก็ถูกตั้งชื่อเป็นแนวป้องกันประเทศนั้นคือแนวแมนเนอร์ไฮม์นั้นเอง (Mannerheim Line=แมนเนอร์ไฮม์ ไลน์) ทำให้ฮายาซนับเป็นทหารคนแรกของกองทัพฟินแลนด์ ที่ได้ยศแบบข้ามขั้นขนาดนี้โดยที่และไม่มีทหารคนไหนจะเสมอเหมือนได้

โดยคุณ tan02 เมื่อวันที่ 08/04/2008 07:31:03


ความคิดเห็นที่ 4


ชีวิตในช่วงหลัง(Later life)

ฮายาซในชุดยศร้อยตรีขั้นสอง

 

     ฮายาซใช้ชีวิตหลังสงครามในการรักษาอาการบาดเจ็บหลายครั้ง จากกระสุนของทหารโซเวียตที่เจาะขากรรไกรและเข้าไปฝังในแก้มของเขา หลังสงครามโลกครั้งที่สองสงบลงเขาก็หวนกลับไปสู่วิถีชีวิตแบบเดิม คือกลับไปจับปืนเหมือนเดิมแต่ที่แตกต่างจากแต่ก่อนก็คือเขาไม่ได้ยิงคน แต่กลายเป็นนายพรานล่ากวางมูซชั้นเยี่ยม(successful moose hunter=ซัคเสดฟูล มูซ ฮันเตอร์) ก็คนมันเคยเทพนี่หน่าทำไงได้ นอกจากนี้เขายังเป็นคนเพาะพันธ์สุนัข(dog breeder=ด็อก บรีดเดอร์)อีกด้วย

 

ฮายาซในวัยชราภาพ

 

     จากการสอบถามฮายาซในปี 1998 ว่าทำยังไงถึงยิงปืนได้แม่น?(ถามอย่างกะเกรียน 555) เขาก็ตอบว่ามันอยู่ที่การปฏิบัติ(Practice) เมื่อถามว่าเขารู้สึกเสียใจไหมที่ได้เข่นฆ่าผู้คนไปเป็นจำนวนมาก?(คราวนี้ถามอย่างกับเกรียนSF) เขาก็ตอบว่าฉันคิดว่าอะไรทำให้ฉันสามารถฆ่าคนได้จำนวนมาก (I did what I was told to as well as I could.) แปลถูกไม่ถูกก็ช่วยๆบอกกันบ้างนะครับ ฮายาซใช้ชีวิตในช่วงสุดท้ายอยู่ที่หมู่บ้านเล็กๆชื่อโรคอลาซติ(Ruokolahti) ทางตะวันออกเฉียงใต้ของฟินแลนด์ซึ่งถัดไปเป็นดินแดนของรัสเซียจนเสียชีวิตอยู่ที่หมู่บ้านนี้นั้นเอง เป็นการปิดฉากชีวิตของเพชรฆาตผู้สังหารทหารรัสเซียไปเป็นจำนวนมากลงอย่างสงบ

 

 

สวัสดี

 

 

 

บรรณานุกรม

http://www.mosinnagant.net/finland/simohayha.asp

http://en.wikipedia.org/wiki/Simo_Hayha

http://www.kevos4.com/Simo_Hayha.htm

โดยคุณ tan02 เมื่อวันที่ 08/04/2008 07:31:22


ความคิดเห็นที่ 5


โพสจบแล้วครับ มีความเห็นอย่างไรก็แสดงกันมาบ้างได้นะครับ (เห็นเงียบทั้งปี แงๆ)

โดยคุณ tan02 เมื่อวันที่ 08/04/2008 07:33:29


ความคิดเห็นที่ 6


ยอดครับ ขอบคุณมากที่เอาเรื่องนี้มาลง เคยอ่านเรื่องของ Sniper ของฟินแลนด์นานมาแล้ว ได้อ่านอีก ดีใจมาก�
พี่เคยเล่าว่าฟินแลนด์ เป็นRiflemans Nationคล้ายๆกับอเมริกา มีการแข่งขันยิงปืนระหว่างชาวบ้านเป็นประจำ และมีการแข่งขันใหญ่ประจำปีระดับชาติ พอโซเวียตรุกรานชาวฟินก็เลยได้มีโอกาส�
ผมนึกว่าเขาใช้ ปืน Sako ซะอีก
คำแปลผมว่าน่าจะเป็น ผมทำตามคำสั่งและทำ(ให้ดีที่สุด)เท่าที่จะทำได้
Practiceตรงนั้น เป็นผมจะแปลว่า การฝึกฝน
และน่าจะ เขาชอบใช้ศูนย์เล็งเหล็ก(iron sights)ชนิดสำหรับยิงเป้าขนาดเล็ก มากกว่าศูนย์แบบกล้อง เพราะศูนย์เล็งเหล็กมาตรฐาน คงไม่เหมาะกับการใช้ยิงเป้าขนาดเล็ก

โดยคุณ Oldtimer เมื่อวันที่ 08/04/2008 08:48:34


ความคิดเห็นที่ 7


ขอบคุณมากครับคุณoldtimer นึกว่าไม่มีใครอ่านแล้วนะนี่ เดี๋ยวจะไปแก้ไขในบัลดลครับ

 

ก่อนอื่นขอโทษด้วยนะครับที่กระทู้ผมรูปไม่ขึ้นเลย (แต่ไม่มีใครแย้ง) เพราะผมก็อปจากเว็บที่ผมทำไว้ในคอมอะครับ

โดยคุณ tan02 เมื่อวันที่ 08/04/2008 09:21:13


ความคิดเห็นที่ 8


ขอโพสรูปภาพที่ไม่ขึ้นละกันครับ

ไซโม ฮายาซระหว่างสงครามฤดูหนาว

 


โดยคุณ tan02 เมื่อวันที่ 09/04/2008 03:15:06


ความคิดเห็นที่ 9


ฮายาซกับชุดพรางสีขาวที่ทำให้กลมกลืนกับภูมิประเทศที่มีแต่หิมะเป็นอย่างมาก


โดยคุณ tan02 เมื่อวันที่ 09/04/2008 03:17:41


ความคิดเห็นที่ 10


ปืนยาวโมซินนากังค์ เอ็ม28 เมคอินฟินแลนด์กระบอกนี้แหละครับที่เป็นอาวุธซุ่มยิงของฮายาซ


โดยคุณ tan02 เมื่อวันที่ 09/04/2008 03:20:28


ความคิดเห็นที่ 11


สุนัขพันธุ์สปิทส์ช่างน่ารักน่าชัง(ไม่สมที่เรียกเป็นชื่อปืนเล้ย)


โดยคุณ tan02 เมื่อวันที่ 09/04/2008 03:21:43


ความคิดเห็นที่ 12


อาวุธคู่กายของฮายาซบนคือปืนกลซูโอมิเพชรฆาต 200ศพ
ล่างคือปืนยาวเอ็ม28เพชรฆาต 542ศพ


โดยคุณ tan02 เมื่อวันที่ 09/04/2008 03:22:38


ความคิดเห็นที่ 13


กระสุนปืนใหญ่แบบชนัปเน็ลสังเกตลูกเหล็กกลมเล็กๆในกระสุน


โดยคุณ tan02 เมื่อวันที่ 09/04/2008 03:24:52


ความคิดเห็นที่ 14


ท่านจอมพลแมนเนอร์ไฮม์ยอดขุนศึกของฟินแลนด์
(ชุดนี้ตอนร่วมรบกับเยอรมันแล้ว)


โดยคุณ tan02 เมื่อวันที่ 09/04/2008 03:25:53


ความคิดเห็นที่ 15


ฮายาซในชุดยศร้อยตรีขั้นสอง


โดยคุณ tan02 เมื่อวันที่ 09/04/2008 03:27:10


ความคิดเห็นที่ 16


ฮายาซในวัยชราภาพ


โดยคุณ tan02 เมื่อวันที่ 09/04/2008 03:28:29


ความคิดเห็นที่ 17


สวัสดี


โดยคุณ tan02 เมื่อวันที่ 09/04/2008 03:29:32


ความคิดเห็นที่ 18


แหมๆผมไม่ว่าอะไรหรอกครับ ขอขอบคุณท่านmonsoon เสียด้วยซ้ำครับที่มาช่วยแก้ไขข้อมูลให้ เพราะลำพังผมคำเดียวไม่มีความรู้เรื่องภาษาปะกิดพอหรอกครับ หากท่านใดพบข้อผิดพลาดในเว็บผมก็ขอให้ช่วยๆกันบอกบ้างนะครับ จะได้แก้สิ่งผิดให้เป็นสิ่งถูกไม่งั้นคนที่เค้ามาอ่านก็จะเข้าใจผิดๆกันไปเรื่อยๆ

อย่าเห็นว่าผมเป็นคนดุร้ายทารุณสิครับ อิอิ

โดยคุณ tan02 เมื่อวันที่ 10/04/2008 04:23:30