แค่เริ่มเท่านั้นครับ ข่าวออกใน Janes ตอน Singapore Air Show ครับ เขาเข้ามาถามเราว่าถ้าอยากซื้อ T-50 จริง ๆ เราอยากได้อะไรบ้างในเครื่อง เผื่อว่าในอนาคตเราจะจัดหาจากเขา
ทุกท่านอยากได้อะไรใน T-50 บ้างครับ
ปล. ในข่าวมีบอกด้วยครับว่า CATIC (Chinas National Aero-Technology Import and Export Corporation) ขายอาวุธให้ไทยด้วย ..... มันคืออะไรเหรอครับ?
ข่าวเก่า
Loxley joined ADI for world class defense industry.
27th April 2006,Bangkok : The Management of Loxley Public Company Limited, Bangkok Thailand and ADI Limited (Land - Engineering & Vehicles) of Bendigo, Victoria, Australia are pleased to announce that they have today, Thursday 27th April 2006, signed a Teaming Agreement between the two companies that allows the sharing of engineering, production and manufacturing technology. The agreement provides the foundation for the establishment and investment in new world class defence industry co-operation between Australian and in Thailand.
This agreement marks the culmination of intensive efforts by both companies over the last 12 months or so on new strategies to improve supply chain management provision of precision engineering components for Armoured Military Vehicles. Using ADIs advanced engineering design and military mobility expertise, Loxley, through its well established links to local Thai manufacturing organisations, has been able to apply just in time production and systems engineering techniques to integrate and streamline manufacturing and assembly processes and techniques that allow significant cost reductions to acquisition of precision engineered defence components. This represents a major new initiative in the field.
Initial project engineering will focus on the production of the Australian designed BUSHMASTER Armoured Infantry Mobility Family of Vehicles. The BUSHMASTER Armoured Infantry Mobility Vehicle is the most advanced military high mobility armoured vehicle and is currently in service in Australia, Iraq and Afghanistan with Coalition Forces. Opportunities to manufacture to other ADI military vehicles and products will follow.
The Teaming Agreement also makes provision for the BUSHMASTER to be manufactured and fully assembled in Thailand, thus opening the opportunity for the Thai Armed forces to source this unique product as a locally produced vehicle in the short to medium term.
The immediate world market potential for the vehicle is estimated to be US$ 5.5 Billion. This agreement will allow both ADI Limited and Loxley to exploit this market with a price competitive edge unrivalled to date at the international level in the field of military mobility solutions.
The BUSHMASTER has been designed to handle the harsh extremes of Australias climate and terrain conditions, from tropical jungle to vast expanses of dessert and still deliver high levels of comfort and security. It is truly a unique vehicle. says Bob Simpson - Director (Land - Engineering & Vehicles) ADI Limited.
This agreement demonstrates the practical outcomes that can be derived from the TAFTA between Australia and Thailand. We are very happy to see ADI here and most of all to be able to partner with them in establishing this exciting new enterprise for export growth in Thailand. Says Col.M.L.Pongchompunoot Thongtaem - Vice President , Special Project 2 Department, Loxley Public Company Limited.
http://www.loxley.co.th/homepage6/MOVEMENT/adi.html
ในกลุ่มของ บ.ฝึกเครื่องยนตร์ Jet ที่มีการผลิตในปัจจุบันนั้น T-50 เป็น บ.ที่มีราคาสูงที่สุดครับ(ราวลำละ $20-22 Miilion) แต่ก็มีสมรรถนะสูงที่สุดด้วยเช่นกัน ถึงแม้ว่าในปัจจุบันจะยังไม่มีประเทศใดจัดหาไปใช้งานนอกจากเกาหลีใต้แต่ก็มีหลายประเทศให้ความสนใจครับเช่น UAE หรือแม้แต่สหรัฐฯเองที่จะจัดหาไปแทน บ.ฝึก ย.Jet รุ่นเก่า
สำหรับไทยนั้นถ้ามีการจัดหา T-50 คงจะนำมาใช้ในภารกิจเดียวกับ L-39 ครับคือเป็น บ.ฝึกขับไล่ก้าวหน้า(LIFT) และโจมตีเบา คาดว่าคงจะมาประจำที่ ฝูง.101 ครับ และอาจจะแทน L-39 ทุกฝูงในอนาคตก็เป็นไปได้
เครื่องยนตร์ของ T-50 นั้นคือ GE F404 ก็เป็นสายเดียวกับ Volvo RM12 และอาวุธที่ติดตั้งได้นั้นก็ใช้ร่วมกับ F-16 ได้แทบจะทุกอย่างครับ เช่นปืนใหญ่อากาศ Valcan 20mm(ในรุ่นโจมตี), Sidewinder, Maverick ,จรวดและระเบิดต่างๆ
ถ้ากองทัพอากาศสนใจ T-50 นี้จะเป็นการจัดหาอาวุธระหว่างไทยกับเกาหลีใต้ครั้งใหญ่ครั้งแรกครับ(ซึ่งส่วนตัวคิดว่าในฐานะประเทศที่เคยให้ความช่วยเหลือสมัยสงครามเกาหลีเช่นเดียวกัยตุรกี เราน่าจะได้สิทธิพิเศษบางอย่างนะครับ)
^
^
^
เห็นด้วยกับท่าน ฮะ อย่างฟิลิปปินส์นี่ก็ได้ประโยชน์จากกรณีนี้เยอะ F-5 ลำละร้อยเหรียญ T-41D โครตถูก รถบรรทุก KIA ฟรี ๆ
ขอแบบลดแลกแจกแถมได้ไหมครับ ยิ่งตอนนี้เมืองไทยขาดดุลซีรี่ย์+นักร้องเกาหลีเยอะด้วย เอาแบบว่า ลดราคาลงมาลำละ 5 ล้าน หรือ 22 ล้านก็ได้แต่ติด AESA นะ 55555
เสี่ยโย 20,000ล้าน จากสวีเดนยังไม่พออีกหรือครับ นี่เสี่ยกะจะได้จากเกาหลีอีกหรือครับ
ใจคอเสี่ยจะไม่แบ่งพี่,น้องเพื่อนฝูงมั่งเลยหรือครับ เสี่ย
ป.ล. จริงๆแล้วเห็นด้วยนะครับว่าท.อไทย สนใจ T-50 ครับ เหตุผลเหมือนคุณ AAG_th1 ครับ
คุณนก คนเราถ้าหยุดทำกินก็คือหยุดก้าวหน้า เสี่ยเติบโตมีชื่อเสียงจนขายเครื่องบินได้เงินค่าคอมมาตั้ง 20,000 ล้านแล้ว ถือว่ามีเครดิตดี ยังไงก็ต้องทำมาหากินกันต่อไป
ผมเสนอว่าขอ AESA รุ่นที่เกาหลีใต้ออกแบบอยู่เพื่อใช้กับเครื่องรุ่นนี้โดยตรงครับ น่าจะมีประสิทธิภาพมากกว่า AGP-67 และสเปกโดยรวมใกล้เคียงรุ่น FA-50 แต่เรด้าร์แตกต่างกันเท่านั้น ซึ่งสเปก FA-50 นั้นสามารถใช้กระเปาะชี้เป้าเดินอากาศ(FLIR)ได้ มีระบบ IFF ที่ทันสมัย มีระบบดาต้าร์ลิงค์ ดังนั้นรบทางอากาศแบบ BVRได้แล้ว เท่านี้มันก็มีความทันสมัยกว่า F-16 A/B ทุกแบบที่เรามีประจำการแล้วครับ
ถ้าจะจัดหา ผมว่าควรจะจัดหาความต้องการทีละจำนวนมากๆเลยเพื่อทำการผลิตภายในประเทศครับ นั่นคือ ปลดทั้ง L-39 , อัลฟาเจ็ต ออกหมดโดยไล่เวลาปลด เดิมเราเองก็ต้องการอัลฟาเจ็ต 50 ตัว ส่วน L-39 ราวๆ 40 ตัว อาจจะมีฝูงโจมตีเบาที่เคยใช้ A-37(ปลดหมดแล้ว) และ เครื่องใบพัดAu อะไรเนี่ยอีกฝูงสองฝูงที่ยังไม่ปลด นั่นแหละครับรวบรวมเข้ามาก็กว่า 100 เครื่องแล้วครับ สามารถเปิดสายการผลิตได้แล้ว และอาจจะทำการผลิตปีละ 10-15 เครื่องเพื่อเข้าทดแทนเครื่องทุกรุ่นภายใน 10 ปี ถ้ามีกำลังการผลิตขนาดนี้เราน่าจะผลิตได้ราคา 25-30 ล้านเหรียญต่อเครื่องนะครับ(ค่าแรงถูกกว่าเกาหลีเยอะ) ราคา 1000 ล้านต่อเครื่อง 100 เครื่อง 1 แสนล้าน ใช้เวลาผลิต 10 ปี จ่ายตกปีละ 10,000 ล้าน รับได้ครับ
ใช้เครื่องยนต์รุ่นเดียวกับ JAS-39 ด้วยนะครับ ตัดปัญหาไปได้ไม่น้อย
บ.T-50 รุ่นฝึกพื้นฐานนั้นไม่มีการติดปืนและ Radar ครับ ส่วนรุ่น A-50ที่เป็นรุ่นฝึกนักบินขับไล่(LIFT)โจมตีเบา นั้นจึงจะติดปืนและ Radar ครับ
ถ้ากองทัพอากาศไทยจัดหา T-50 มาแทน L-39 ในภารกิจฝึกนักบินขับไล่แล้วก็อาจจะจัดหารุ่นที่ไม่ติดปืนติด Radar ครับ เพื่อใช้ฝึกนักบินก่อนจะไปทำการบินกับ บ.ขับไล่สมรรถนะสูงเช่น F-16 หรือ Gripen แต่ถ้าจะใช้ในภารกิจโจมตีเบาแทน Alpha Jet ด้วยนี้ รุ่นโจมตีติดปืนและRadar จะเหมาะกว่าครับ
อย่างไรก็ตามถ้ามองว่า บ.Golden Eagle เป็น บ.ฝึก/โจมตีเบาแบบเดียวกับ L-39 แล้ว นั้นหมายความว่าระบบอุปกรณ์ที่ติดตั้งในตัวเครื่องนั้นไม่จำเป็นต้องเทียบเท่า บ.ขับไล่ จริงๆครับ เพราะในอนาคต ทอ.จะมี บ.ขับไล่หลักคือ F-16 และ Gripen อยู่แล้วครับ
เกาหลีพึ่งพาเทคโนโลยีอากาศยานจากอเมริกา..เราคงไม่สามารถนำมาผลิตในประเทศได้ เพราะเปรียบเหมือนประเทศที่สามที่รับเทคโนโลยีมา ผมว่าอเมริกาคงไม่ยอมรวมทั้งเกาหลีด้วย (ส่วนตัวผมว่าอเมริกาไว้ใจเกาหลีมากกว่าไทย)
ฝึก/โจมตีเบา L-159 ดีกว่าไม๊ครับ สามาถต่อยอดกับ F-16 / JAS ได้ ถูกกว่าด้วย..มีลุ้นผลิตเองได้ด้วย ต่างแค่ความเร็วเหนือกับไม่เหนือเสียงเท่านั้น เคื่องโจมตีความเร็วต่ำกว่าเสียงผมว่าเหมาะสมกว่า ไม่เปลืองระเบิดเลเซอร์
L-159 ก็ไม่ค่อยต่างจาก T-50 ตรงที่ระบบ Avionic และเครื่องยนตร์นั้นมาจากแหล่งตะวันตกครับ แต่ประเด็นที่สำคัญซึ่งเคยยกมาคุยกันในอดีตมาแล้วคือนอกจากกองทัพอากาศเชคแล้วยังไม่มีประเทศใดจัดหา L-159 ไปใช้งานเลยครับ และ บ.ที่ประจำการในกองทัพเชคนั้นส่วนใหญ่จะเป็นรุ่น L-159Aที่นั่งเดียวมากกว่า L-159B รุ่นสองที่นั่งซึ่งถ้านำมาใช้แทน L-39ZA/ART ในภารกิจฝึกบินคงไม่เหมาะนักครับ
ตั้งแต่ปี 2004 เป็นต้นมาเชคได้ลดจำนวนเครื่องที่ประจำการลงจากเดิมที่มี 41เครื่องเหลือ 24เครื่องครับ อีกราว17เครื่องที่เหลือนั้นก็ประกาศขายให้ประเทศที่สนใจเช่น อินโดนีเซีย และไทย เนื่องจากการรับมอบ บ.Gripen ทำให้กองทัพอากาศเชคไม่จำเป็นต้องมี บ.แบบนี้เป็นจำนวนมาก
แต่ปัจจุบันก็ยังไม่มีประเทศใดสนใจจะจัดหา L-159 ไปใช้งานจริงๆครับ ซึ่งหลังจากที่บริษัทกลุ่มยุโรปตะวันตกที่ร่วมทุนในการพัฒนา L-159 ตั้งแต่ต้นนั้นถอนทุนออกไปก็แสดงได้ชัดเจนครับว่า บ.L-159 คงไม่น่าจะประสบความสำเร็จแบบเดียวกับ L-39 ที่มีประจำการกว่า30-40ประเทศแน่ครับ
น่าสนใจนะครับว่าเกาหลีใต้จะเสนอ T-50 ให้ ทอ. มาทดแทนอะไร ตามข่าวบอกว่าเป็นความต้องการในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้เสียด้วย
ถ้ามองไปแล้วก็น่าจะเป็น L-39 และ Alpha Jet ซึ่งเป็น บ.ในคลาสเดียวกัน แต่ทั้งคู่ยังมีอายุการใช้งานเหลืออีกบานตะไท คือ L-39 นั้น อายุ 14 ปี และพึ่ง overhaul ไปหมาดๆ น่าจะใช้งานได้อีกอย่างน้อย 15 ปี ส่วน Alpha Jet อายุ 8 ปี ยังใช้งานได้อีกอย่างน้อย 10 ปีเหมือนกัน น่าคิดนะครับ หรือว่าจะเป็น AU-23 ที่คาดว่าจะปลดฯ ในเร็วๆ นี้ (ภายใน 3-5 ปี) แต่ตามแผนนั้น เหมือนว่า ทอ.ตั้งใจปรับฝูงบินนี้เป็นฝูง UAV มากกว่า นั่นมันทำให้เหลือตัวเลือกสุดท้าย คือ F-5E/F mod ฝูง 211 แต่ดูตาม spec แล้ว F/A-50 ยังไม่เข้าขั้น บ.ขับไล่ gen 4.5 ซึ่งน่าจะเป็นความต้องการของ ทอ. มากกว่า บ.ขับไล่โจมตีที่พัฒนามาจาก บ.ฝึกขั้นก้าวหน้า
น่าคิดนะครับ
หรือทอ. จะเปิดฝูง 101 อีกรอบครับ? เป็นภารกิจโจมตี ซื้อตอนนี้ก็เรื่องหนึ่ง แล้วอีก 10 ปีก็มาจัดแข่ง Advanced Trainer/Light Attacker อีกครั้ง เป็นอีกโครงการหนึ่ง?
เขาบอกว่าเขามาเก็บข้อมูลว่าทอ.อยากได้อะไรบ้างที่เขาให้ได้ และ คาดหวังว่า ในอีกสัก 2 - 3 ปีจะมีความต้องการจัดซื้อ ....... เป็นไปได้ว่ามันมีความต้องการแล้วจริง ๆ จากทอ.ที่เริ่มขอข้อมูลไปตามผู้ผลิตเครื่อง Advanced Trainer/Light Attacker แล้ว หรือไม่อีกทีเขาแค่มาศึกษาตลาดที่เขาคาดหวังว่าจะส่งเครื่องเข้าแข่งในอนาคตเท่านั้น?
ลองเดา ๆ กันครับ น่าสนุกดีเหมือนกัน
ในความรู้สึกของผมมีความเห็นว่าเครื่อง T-50 นั้นถูกออกแบบมาจากเครื่องบินขับไล่โจมตีแล้วปรับลงมาใช้เป็นเครื่องฝึก LIFT ในขณะที่เครื่องแบบอื่นๆเช่น HAWK L-159 นั้นแผนแบบเดิมถูกออกแบบมาเป็นเครื่องฝึกก่อนแล้วค่อยปรับไปใช้เป็นเครื่องรบ
ลักษณะเช่นนี้ถ้าเราเอา T-50 มาใช้เป็นเครื่องฝึก LIFT ทอ.ก็คงต้องมีค่าใช้จ่ายในการปฎิบัติการเพียบแน่ๆ เพราะกำลังขับของเครื่องสูงมาก สูงกว่า Hawk 2 เท่า สูงกว่า L-159 ถึง 3 เท่า ซึ่งถ้างั้นเราเอาเครื่องแบบ L-159 หรือ Hawk มาใช้จะดีกว่าครับเพราะประหยัดกว่า
นอกจากนี้ด้วยประสิทธิภาพของเครื่อง T-50 ถ้าเราเอามันมาใช้ควบในภาระกิจโจมตีเบา ดูแล้วไม่คุ้มค่าเอาเลย ราคาแพงและสมรรถนะดีเกินไป แค่เครื่องอย่าง PC-21 ซูปเปอร์ทูคาโน่ หรือ L-39 ก็เหลือเฟือพอแล้วครับ
ดังนั้นการจะจัดหา T-50 มาเพื่อภาระกิจฝึกLIFT และ โจมตีเบาผมจึงไม่เห็นด้วย เพราะเครื่องดีเกินไป
ด้วยประสิทธิภาพขนาดนี้ผมเลยแนะนำที่ F/A-50 ไปเลย หรือเอาหย่อนลงมาก็เป็น T/A-50 ก็ไม่เลว เพราะ T/A-50 เองก็มีระบบเรด้าร์ APG-67 แม้จะไม่มีระบบดาต้าร์ลิ้งค์ RWR และไม่สามารถทำการเชื่อมกับกระเปาะชี้เป้าเดินอากาศได้ แต่ด้วยเหตุที่เป็นตัวเครื่องแบบเดียวกันและเป็นบล็อคการผลิตเดียวกัน ผมว่าเราสามารถอัปเกรดให้เป็นรุ่น F/A-50 ได้ไม่ยากเลย ยิง AIM-120 ก็ได้ด้วย นั่นคือรบ BVR ได้ แม้ว่ารบกันด้วยระบบเน็ตเวอร์คแบบเครื่องที่มีดาต้าร์ลิ้งค์ไม่ได้ แต่สภาพแบบนี้มันก็มีประสิทธิภาพพอๆกับ F-16 ที่เราใช้อยู่กันแล้วนะครับ
ดังนั้นในเมื่อเครื่องดีขนาดนี้ และเผื่อการอับเกรดเป็น F/A-50 ผมจึงเสนอขอให้เลือกใช้เรด้าร์ AESA ของเกาหลีไปเลยจะดีกว่า APG-67 จะทำให้ง่ายในการอับเกรดมากขึ้นในวันข้างหน้า ยิ่งได้ยินมาจากท่านอาจารย์รินเช่นนี้ ผมว่าล่อไปที่ F/A-50 จะเป็นการดีที่สุด ก็แปลกนะครับทางเขามาถามเองเลยว่า............เราจะเอาสเปกแบบไหน...........อย่างนี้แสดงว่ามีการคุยกันมาก่อนแล้ว สงสัยจะไม่ได้เอามาแทน L-39 และ อัลฟ่าเจ็ตเป็นแน่ครับ แต่ผมสนับสนุนให้เอามาแทนอัลฟ่าเจ็ตกับ L-39 เต็มตัวในวันข้างหน้าครับ
และสเปกขนาด F/A-50 นี่แม้จะไม่ถึงขนาดเครื่อง Gen 4.5 แบบ Jas-39 C/D แต่ก็ไล่บี้ติดตูดแล้วครับที่สำคัญ........ราคาน่าจะอยู่ราวๆ 25-30 ล้านเหรียญ (ประมาณ 750 - 950 ล้านบาท) ถูกกว่า Jas-39 ครึ่งต่อครึ่ง ประสิทธิภาพน่าจะอยู่ระดับ F-16 Block 40/42 แล้ว ถ้าจะเอามาเป็นเครื่องโจมตีหลักของประเทศก็ถือว่ามีประสิทธิภาพน่าประทับใจทีเดียวเลยครับ เงิน 20,000 ล้านจัดหาได้กว่า 20 ลำ เมื่อเทียบกับ Jas-39 และ F-16 50/52 ที่ได้มาแค่ 6 เครื่อง .............. สงสัยถ้าเป็นตามที่ท่านอาจารย์รินพูด T/A-50 มาแหงๆ
สำหรับไทย ผมว่า บ.โจมตีเบา ไม่ต้องใช้ถึงขั้นA-50 หรอกครับ
แต่ถ้าบ.ฝึกขั้นสูง หรือ ขับไล่เบา ก็ไม่แน่ ยิ่งนำไปเทียบกับฮอว์ค ที่แพงกว่า และประสิทธิภาพต่ำกว่า T/A-50 น่าใช้จริงๆครับ
ถ้าเอามาจริง ผมว่าเอามาเป็นบ.ทดแทน F-16 ก็โอนะครับ
อาจไม่เจ็งเท่า แต่ก็ไล่บี้ได้ไม่แพ้กัน
แล้วถ้ามองด้านเทคโนฯแล้วดีกว่าแน่นอน
ถ้าเป็นไปได้อยากให้ลดแบบบ.ลงด้วยซ้ำ แบบว่าเหลือสัก 2-3 แบบก็พอ
ตอนนี้ก็มี กริฟเฟนเป็นอนาคต(ถ้าไม่มีไรเปลี่ยนแปลงนะ) แล้วถ้าได้ T/A-50 or F/A-50 มาร่วมด้วยก็จะเป็นการดี
ตอนนี้ ผมกลับชอบ ซูเปอร์ ทูคาโน่ EMB-314 ของ บราซิล มากกว่า...
เอามาทดแทน กับ อัลฟ่าเจต น่าจะเหมาะสมกับสภาพภูมิประเทศของประเทศไทย...
โดยจัดหามาทั้งแบบ AT-29 และแบบ A-29...
อัลฟ่าเจต ทำได้อ่ะป่าวววว....
เห็นด้วยกับป๋า จูดาส
อยากได้ซุปเปอร์ทูคาโน่ มาเต้นแซมบ้าลีลาบราซิลเลี่ยนแถวนี้จริงๆ เน้นงาน CAS แบบบินคลุกคล้ำนั่วเนียบนโซฟา เอ๊ยย แนวหน้า ให้พี่น้องทหารราบเดินเท้าได้อุ่นใจแถมเรียกได้ตามสั่งอีกต่างหาก