หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


รื้อปมร้อน >>>ยานเกราะรัสเซีย แลกน้ำมัน (ปมร้อนที่ค่ายยูเครนต้อง"หนาว")

โดยคุณ : ท.กองหนุน เมื่อวันที่ : 31/03/2008 17:34:00

เปิดประเด็นกันอีกครั้งนะครับ สำหรับ รถเกราะล้อยาง เชิญเพื่อนสมาชิกมาวิเคราะห์สมรรถนะกันดีกว่า แต่ส่วนตัวสำหรับผม เชียร์พี่หมีเต็มเหนี่ยวฮะ 555+

_______________________________________________

ยานเกราะรัสเซีย แลกน้ำมัน (ปมร้อนที่ค่ายยูเครนต้องหนาว)


เปิดประเด็นร้อนเมื่อตัวแทนฝั่งรัสเซียเปรยจะขอพ่วง ยานเกราะล้อยาง เพื่อแลกกับน้ำมันราคาถูก หลัง สมัคร เชียร์ให้ซื้อน้ำมันจากค่ายหมีขาวแทนโอเปก ยกข้อมูลโจมตีรถยูเครนล้าสมัย แต่ฝั่งยูเครนโต้กลับรถทันสมัย-แถมสมรรถนะก็ดีกว่า

โครงการจัดซื้อรถยานเกราะล้อยาง รุ่น BTR-3E1 จากประเทศยูเครน จำนวน 96 คัน ตามวงเงินงบประมาณเกือบ 4,000 ล้านบาท เงียบหายไปนาน หลังเผชิญกับกระแสข่าวเรื่องความไม่โปร่งใสในการจัดซื้อ ตลอดจนสมรรถนะของตัวรถอย่างต่อเนื่อง

 พล.อ.บุญรอด สมทัศน์ รมว.กลาโหม จึงไม่เซ็นอนุมัติให้จัดซื้อในขั้นตอนสุดท้าย หลังมีผู้ร้องเรียนไปยังสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) จนกลายเป็นข่าวครึกโครม



 ล่าสุดมีกระแสข่าวว่า มีแนวโน้มสูงที่ เค้ก จะเปลี่ยนมือจากค่ายยูเครน เป็นอดีตลูกพี่อย่าง รัสเซีย แทน

 ภายหลัง รมว.กลาโหม คนเก่า ปฏิเสธที่จะเซ็นอนุมัติ ทางคณะกรรมการมาตรฐานยุทโธปกรณ์กองทัพบก (กมย.ทบ.) ก็ได้ชี้แจงข้อกล่าวหาไปยัง สตง. ถึง 3 ครั้ง เพื่อยืนยันถึงความโปร่งใสในการจัดซื้อ

 หลังจากชี้แจงข้อสงสัยในประเด็นต่างๆ ครบถ้วนแล้ว กองทัพบกยังคงเดินหน้าเสนอเรื่องผ่านไปยัง พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทหารสูงสุด)

 ขั้นตอนต่อไป ก็คือ ให้กองบัญชาการกองทัพไทย (บก.ทหารสูงสุด) เสนอเรื่องต่อ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เซ็นอนุมัติโครงการ

 ทีแรกโปรเจกท์นี้ทำท่าว่าจะราบรื่นด้วยความสัมพันธ์อันหวานชื่นระหว่าง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กับนายกฯ สมัคร ที่ควงคู่กันไปเยือนต่างแดนบ่อยๆ

 แต่สุดท้ายเหตุการณ์กลับพลิกผัน เมื่อ คู่แข่ง จากค่ายรัสเซียโผล่เข้ามาขวาง

 วงใน กระทรวงกลาโหม คุยกันให้แซดว่า รัสเซียได้ทำหนังสือถึงกระทรวงกลาโหม เพื่อให้มีการพิจารณาทบทวนการจัดซื้อยานเกราะล้อยางจากค่ายยูเครน เนื่องจากมีการดัดแปลงแบบมาจากของรัสเซีย

 ทางค่ายรัสเซีย ระบุว่า รถยานเกราะล้อยาง รุ่น BTR สายพันธุ์ต่างๆ เป็นสายการผลิตของบริษัท Arzamas Machinery Plant มาตั้งแต่ปี 1980 แม้ในอดีตยูเครนจะเป็นรัฐหนึ่งของสหภาพโซเวียต แต่ไม่ได้มีส่วนร่วมในการคิดค้น หรือออกแบบใดๆ

 นอกจากนี้ ทางฝั่งรัสเซีย ยังอ้างว่า รถยานเกราะล้อยาง รุ่น BTR 3E1 ของยูเครน แทบจะไม่มีความแตกต่างจากรุ่น BTR-80 ของรัสเซีย ยกเว้นยางที่ของรัสเซียเป็นล้อยางกันกระสุน

 สำหรับรถหุ้มเกราะล้อยางตระกูล BTR-3 เป็นรถ 8?8 (ขับเคลื่อนทั้ง 8 ล้อ) มีกำลัง 300 แรงม้า ประกอบจากโรงงาน KMDB ในประเทศยูเครน

 น่าสนใจว่า รัฐบาลทหารพม่าสั่งซื้อรถรุ่น BTR3Us รวม 1,000 คัน ทั้งหมดนำมาประกอบในประเทศพม่าเอง แต่ BTR-3U ของพม่าเป็นรถรุ่นใหม่ ไม่เหมือนกับ BTR-3E1 ที่มีการอัพเกรดจากรุ่น BTR-80

 ปัจจุบันประเทศยูเครน เริ่มผลิตรถยานเกราะล้อยางไปถึงรุ่น BTR-4 แล้ว โดยนำออกแสดงเมื่อปี 2006 ในขณะที่ไทยยังมีความพยายามที่จะจัดซื้อรถรุ่นเก่าของยูเครน

 อย่างไรก็ตาม ข้ออ้างต่างๆ จากค่ายรัสเซียอาจจะแค่ น้ำจิ้ม ประกอบเมนูมื้อนี้เท่านั้น เพราะมันมีข้อเสนอแบบ ยื่นหมู-ยื่นแมว มาเป็นตัวเร่งในการตัดสินใจด้วย

 คงจำกันได้ว่า เมื่อเร็วๆ นี้ นายสมัครกล่าวถึงแนวคิดที่จะซื้อน้ำมันดิบจากประเทศรัสเซีย ซึ่งมีน้ำมันและก๊าซธรรมชาติมาก ทั้งยังเป็นประเทศนอกกลุ่มโอเปก จึงน่าจะขอซื้อน้ำมันดิบในราคาถูก คือ ต่ำกว่า 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลได้ไม่ยาก

 วงในกลาโหมจึงให้จับตาแพ็กเกจ ซื้อรถเกราะพ่วงน้ำมัน ให้ดี เพราะมีแนวโน้มที่จะเป็นไปได้สูง

 นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลว่า ผู้มีอำนาจของไทยเคยไปรับปากว่าจะซื้อ เครื่องบินซู-30 MK ของรัสเซีย มาแทนเครื่องบินเอฟ-5 ที่กำลังจะปลดประจำการ แต่สุดท้ายกลับหันไปซื้อ เครื่องบินกริพเพนจากสวีเดน ไม่ต้องบอกก็รู้ว่า บิ๊กๆ รัสเซียนั้น เขม้นมองจนหนวดกระดิก

 ถ้าความเคลื่อนไหวดำเนินไปบนเส้นทางนี้โอกาสที่รถถังรัสเซียจะเข้าวิน จึงเป็นไปได้สูงอย่างยิ่ง แต่กระนั้นตัวแทนจากฝั่งยูเครนก็ให้ข้อมูลอีกด้านว่า การผลักดันให้เลือกรถจากค่ายรัสเซียมาจากบิ๊กรายหนึ่งใน คมช. ซึ่งมีแรงจูงใจสำคัญมาจากผลตอบแทนที่คุ้มค่าเหนื่อย

 สำหรับเจ้า BTR 80 ของรัสเซีย เริ่มการผลิตมาตั้งแต่ปี 1980 สมัยที่ยังเป็นสหภาพโซเวียต และไม่ได้มีการพัฒนาเทคโนโลยีอะไรมากนัก ผิดกับ BTR-3E1 ที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ BTR 70, BTR 80 เรื่อยมาถึง BTR-3E1

 นับตั้งแต่ยูเครนแยกตัวออกมาจากสหภาพโซเวียตก็มีการพัฒนาเทคโนโลยีมาตลอด โดยสายการผลิตรถถังของสหภาพโซเวียตกว่า 80% อยู่ในประเทศยูเครน

 ซึ่งก็น่าจะสมดั่งคำอวดอ้าง เพราะเมื่อเทียบกับ BTR 80 ที่ติดอาวุธปืนกลแค่กระบอกเดียว แต่เจ้า BTR-3E1 มีอาวุธถึง 5 ระบบ เช่น ปืนกล 30 มม. ปืน 72 มม. อาวุธนำวิถี ลูกระเบิดควัน

 นอกจากนี้ ระบบการขับเคลื่อน ทั้งเครื่องยนต์ เกียร์ เครื่องมือสื่อสาร ฯลฯ ล้วนทันสมัย มีระบบสั่งการยิงจากภายใน และสามารถเคลื่อนที่ภายในน้ำได้เป็นอย่างดี

 ส่วนข้อครหาที่ว่า ใช้ตัวถังของ BTR 80 แต่อัพเกรดขึ้นใหม่นั้น ถูกลบล้างด้วยเหตุผลที่ว่าถ้าทำอย่างนั้นจะเกิดผลเสีย เพราะเจ้า BTR-3E1 ยาวกว่า BTR 80 นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าหากมาต่อเติมให้ยาวขึ้นก็จะเจอกับปัญหา

 1.โครงสร้างจะไม่แข็งแรงเท่าเดิม

 2.ต้นทุนในการผลิตจะเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล

 ด้วยเหตุนี้ เขาจึงยืนยันว่า ยานเกราะล้อยางของยูเครนเป็นรถที่ผลิตขึ้นมาใหม่ ซึ่งเป็นไปตามคำชี้แจงของสถานทูตยูเครนอย่างแน่นอน และประสิทธิภาพการใช้งานของรถค่ายนี้ก็ไม่เป็นรองรถจากค่ายอื่น

 นั่นคือ มุมมองของ 2 ฝ่ายที่เป็นความเคลื่อนไหวล่าสุดของการจัดซื้อรถยานเกราะล้อยางรุ่นใหม่มาประจำการในกองทัพบก ซึ่งต่างฝ่ายต่างก็ชี้ให้เห็นถึงข้อดีในฝ่ายของตนอย่างเต็มที่

 ประเด็นนี้จึงต้องดูว่า กองทัพบกยังจะเลือกรถจากค่ายยูเครนอยู่เช่นเดิม แต่ก็มีข่าวว่า พล.อ.อนุพงษ์ ยังยืนกรานที่จะเดินหน้าซื้อจากค่ายยูเครนต่อไป โดยในสัปดาห์หน้าน่าจะมีการยกเรื่องนี้ขึ้นมาหารือในที่ประชุม ผบ.เหล่าทัพ เพื่อกำหนดการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ตามงบประมาณปี 2552

 กระนั้น แม้ ผบ.ทบ.จะตกลงปลงใจเอารุ่นเดิม แต่สุดท้ายมันก็ขึ้นอยู่กับ ลายเซ็น ของ รมว.กลาโหม ที่ชื่อ สมัคร สุนทรเวช ว่าจะโอเคตามนั้น หรือ จะเลือกออพชั่นรถถังพ่วงน้ำมันราคาถูกหรือไม่

ทีมข่าวความมั่นคง

http://www.komchadluek.net/2008/03/31/x_mili_u001_196416.php?news_id=196416




ความคิดเห็นที่ 1


หุหุ เยี่ยม ผมคิดว่าการชื้อรถเกาะล้อยาง มีความสำคัญมากเนื่องจากนำไปใช้ในหลายๆภาระกิจได้และสามารถทำการรบใน ตัวเมืองได้ดี ถ้าเราจะชื้อจาก ยูเครนแล้วก็ไปชื้อจากรัสเชียอีกชุดก็ไม่เสียหายอะไร และคิดว่าการบำรุงรักษาก็คงไม่ต่างกันมากเพราะปัจจุบันคิดว่าทาง ทบ คงจำเป็นต้องใช้รถเกราะล้อยางอยู่จำนวนมากทีเดียว ยังงี้ต้องเสนอนายกท่าน 2 ต่อเลย
โดยคุณ topza เมื่อวันที่ 31/03/2008 04:46:29


ความคิดเห็นที่ 2





พม่าจะซื้อ 1000คัน  เป็นมายังไงครับนี่...




...
โดยคุณ charchar เมื่อวันที่ 31/03/2008 05:24:52


ความคิดเห็นที่ 3


ซื้อรถ บ่มีน้ำมัน มันซิแล่นบ่ได้เด้อ 555

.
.
.

BTR-90 ดิ่ครับ  แต่.. ไม่มีเปิดท้ายซักรุ่นเลยหรอ..
โดยคุณ Mstn เมื่อวันที่ 31/03/2008 06:34:01