เมื่อถามถึงกรณีที่ร.ต.อ.เฉลิม
อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ออกมาระบุว่า
นายกรัฐมนตรีไม่ควรไป 3 จังหวัดชายแดนใต้ เพราะจะเป็นการท้าทายนั้น
โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า ปัญหาหนึ่ง คือ หากมีผู้หลักผู้ใหญ่เดินทางมา
จะเป็นภาระในการดูแล ทั้งนี้
ข้อมูลข่าวสารมีการรายงานผู้บังคับบัญชาอยู่ทุกวัน
ทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4
ภายใต้การดูแลของ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก
ได้มีโอกาสนำเรียนนายกรัฐมนตรีให้รับทราบ จนนายกฯ
มั่นใจในการทำงานของกองทัพว่า เดินมาถูกทางแล้ว การที่นายกฯ ลงใต้
ไม่ใช่ตัวแปรที่สำคัญว่า จะทำให้สถานการณ์ดีขึ้นหรือไม่
การก่อเหตุร้ายไม่เลือกฤดูกาล
ไม่เลือกวันเวลา ตลอดจนไม่เลือกสถานที่ ทำอย่างไรก็ได้ให้เป็นข่าวดัง
ขณะนี้ผู้ก่อความไม่สงบไม่มีเครื่องแบบ ไม่มีฐานที่มั่น ไม่สัญลักษณ์
ที่สำคัญเขาไม่เคยประกาศตัวเลยว่า เป็นใคร
ไม่เคยประกาศความรับผิดชอบ
ฉะนั้นเราไม่สามารถเทียบเคียงกับต่างประเทศได้ว่า ต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้
ผมอยากให้ฟังคนทำงาน เป็นคนเสนอแนะ โฆษกกองทัพบก
กล่าว และว่า การแก้ไขปัญหา 3 จังหวัดชายแดนใต้ ประเด็นการใช้กำลังทหาร
กองทัพเป็นเจ้าภาพหลัก แต่ใช้กำลังทหารอย่างเดียวไม่ได้
บางพื้นที่กำลังทางทหารแทบจะหมดความจำเป็นแล้ว
ต้องใช้เรื่องการพัฒนาการศึกษา สาธารณสุข สภาพจิตใจ
บางพื้นที่กำลังทางทหารยังมีความจำเป็นอยู่
พ.อ.อัคร
กล่าวว่า การแก้ไขปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
ต้องอ่านสถานการณ์ให้เป็นการก่อความไม่สงบให้เหมือนกันทุกองค์กร
และต้องใช้พลังอำนาจของชาติ มาร่วมกัน
จัดลำดับความเร่งด่วนให้แตกต่างกันในพื้นที่ การทหารต้องแอบ ๆ
ทำอย่าให้เห็นทหารออกมาเดินถืออาวุธ ให้ประชาชนหวั่นวิตก
เมื่อช่วงเช้ามีการตรวจค้นในพื้นที่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี
มีการปะทะกับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ เสียชีวิตไป 1 คน ยึดปืนอาก้าได้ 1
กระบอก เราทำไม่หยุด
เราต้องทำหลาย
ๆ กลุ่มไปพร้อมๆ กัน 1. เป้าหมายกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ มีอยู่ 1
เปอร์เซ็นต์ ที่ต้องใช้กำลังทางทหาร 2.เป้าหมาย 99 เปอร์เซ็นต์
คือคนส่วนใหญ่ต้องใช้งานการเมือง งานจิตวิทยามวลชน งานพัฒนา
ประชาคมชาวไทยทั้งประเทศ ใช้ข่าวสารชี้แจง โฆษกกองทัพบก กล่าว
และเมื่อถามว่ากรณีนายสมัคร ระบุว่า มีกลุ่มผู้ก่อเหตุพยายามทำให้ไปสู่ นานาชาติ ขณะนี้เจรจาอยู่ที่เจนีวา นั้น พ.อ.อัคร กล่าวว่า ตนว่า เป็นมุมมองที่น่าจะมีความเป็นไปได้