ขอขอฉีกแนวกับแนวความคิดของผมหน่อยนะครับคือว่าในการนำJAS39เข้าประจำการในกองทัพอากาศของไทยเราโดยคุณสมบัติของเครื่องบินที่มีขนาดเล็กกล่าวเครื่องบินรบประเทศเพื่อของเราในการกวาดหาเป้าหมายของJAS39 ถ้าจะให้มีประสิทธิ์ภาพมากของทำงานควบคู่กับ SAAB340B เครื่องบินที่ติดตั้งอุปกรณ์เรดาร์ควบคุมแจ้งเตือนทางอากาศเครื่องบินของเราสามารถค้นหาเป้าหมายได้ไกลกว่าเดิมแต่ผมมาลองคิดอีกทีถ้าเครื่องSAAB340Bที่ได้รับการประเทศสวีเดน 1ลำ ถ้าไม่สามารถใช้การได้เครื่องบินรบของเราจะลดประสิทธิ์ภาพเป็นอย่างมากในขณะที่เครื่องบินของประเทศเพื่อนบ้านที่ประจำการและจะเข้าประจำการมีระบบที่สามารถตรวจหาดป้าหมายภายในตัวเครื่องเลย อยากทราบความคิดเห็นของเพื่อนๆบ้างครับว่าคิดอย่างไงกับเรื่องนี้
ความคิดเห็นที่ 1
ยังไงซะ การมี Awac ก็ ดี กว่า ไม่มี ครับ
โดยคุณ u3616234 เมื่อวันที่
18/03/2008 12:32:27
ความคิดเห็นที่ 2
พวกฝรั่งเขาพูดกันในบอร์ดต่างประเทศครับว่า .... The Thais buys the system. Gripen is just one element.
โดยคุณ
Skyman เมื่อวันที่
18/03/2008 15:31:17
ความคิดเห็นที่ 3
ระบบเรดาห์ภาคพื้นก้อช่วย JAS-39 ได้ครับ มีDATALINKนิ สวีเดนจัดสถานีภาคพื้นให้ด้วย
โดยคุณ fujiwara เมื่อวันที่
19/03/2008 01:15:22
ความคิดเห็นที่ 4
งงกับคำถามอ่ะครับ Gripen ก็มีเรดาร์เป็นของตัวเอง และก็มีประสิทธิภาพไม่ได้ด้อยไปกว่าเรดาร์ของ บ.รบ อื่นๆ ถ้าคิดว่าหมายถึง บ.ในตระกูล Su-27/30 หรือ Mig-29 ของประเทศเพื่อนบ้านที่มีอยู่ (ยกเว้นกรณีเรดาร์ AESA นะ) ตัว Gripen เอง ก็มีค่า RCS ต่ำกว่าพอสมควรด้วย ทีนี้แน่นอนว่าการมี S100B แค่เครื่องเดียว มันก็ไม่สามารถใช้งานได้ตลอดเวลา แต่อย่าลืมว่า ทอ. ก็ยังมีเครือข่ายเรดาร์ภาคพื้นให้ใช้งานอยู่ และถือว่าเป็นระบบหลักด้วยซ้ำไป เมื่อเทียบกับเรดาร์ Erieye ที่ทำหน้าที่เสริมการทำงานให้กับระบบหลัก ดังนั้นไม่น่ามีปัญหาอะไรนะครับ
โดยคุณ
rinsc seaver เมื่อวันที่
19/03/2008 05:13:37
ความคิดเห็นที่ 5
ถ้าบินในพื้นที่ประเทศไทย ไม่ต้องกลัวใครครับ ถึงรบในไทยก็ไม่ต้องกลัวอีกนั้นละ เจ้า AWAC นั้นเอามาช่วยเสริมอะ เพราะเรดาห์เรานะกินเข้าไปประเทศรอบๆ หลายร้อยกิโลเมตรเลยละ (สงสัยพม่าย้ายเพราะเรื่องนี้ด้วยมั้ง) แค่บินขึ้นก็รู้ละว่าใครทำอะไร
โดยคุณ
qoop เมื่อวันที่
19/03/2008 14:32:58