ในการจัดหาอาวุธของ ทบ.ในแผนที่ประกาศมา ว่าจะนำเข้าฮ.คอบบร้า มือสองของสหรัฐฯ ผมขอแสดงความเห็นว่าน่านำ ฮ.แบบ ไฮด์ มิ ๒๔ เข้าประจำการ โดยใช้วิธี นำเข้าแทนการชำระหนี้ที่รัสเซียค้างชำระให้เรา เราก็จะได้ ฮ.ผลิตใหม่ๆ ใช้บรรทุกก็ได้(๘ นายในเคบินท์)โจมตีก็ดี และในปัจจุบันแอฟริกาใต้ก็ได้อัพฯให้ทันสมัยอีกด้วย
Mi-24 เป็น ฮ.ที่มีรูปแบบการออกแบบต่างออกไปจาก ฮ.ของทางตะวันตกเช่นรูปร่างที่ใหญ่ติดเกราะหนาสามารถบรรทุกทหารไปได้พร้อมๆกับอาวุธซึ่งถ้าเป็น ฮ.ของตะวันตกนั้นส่วนมากจะไม่สามารถทำได้ (ถ้าจะอาวุธก็บรรทุกทหารไม่ได้เนื่องจากขีดจำกัดด้านน้ำหนักโครงสร้าง) และ ฮ.Hind รุ่นใหม่เช่น Mi-35M ซึ่งอินโดนีเซียและเวเนซุเอล่าได้จัดหาไปแล้วนั้นก็มีการปรับปรุงระบบ Avionic ที่ทันสมัยและติดอาวุธที่มีความแม่นยำสูงเช่น ปืนใหญ่แฝด 23มม. และอาวุธปล่อยต่อสู้รถถังแบบ Vikhr เป็นต้น
แต่ Hind ไม่ได้เป็น ฮ.ที่ ศบบ.ทบ.ต้องการครับ ศบบ.ทบ.ต้องการ ฮ.โจมตีครับ ไม่ใช่ ฮ.จู่โจมขนาดใหญ่ ที่สำคัญคือการจัดหา AH-1F ที่สหรัฐฯเก็บสำรองไว้นั้นเราสามารถใช้ระบบสนับสนุนและอาวุธที่มีอยู่เดิมได้เลยโดยไม่เสียเวลาและงบประมาณในการฝึกและจัดหาอาวุธใหม่หมดครับ
เคยมีข่าวออกมาว่าทางกองทัพบกสนใจจะปรับปรุงของ AH-1F โดยใช้แบบแผนของบริษัทอิสราเอลครับ ซึ่งการปรับปรุงระบบที่ไปได้มากที่สุดคือการจัดหาอาวุธปล่อยต่อสู้รถถังแบบ SPIKE-ER รุ่นติดกับ ฮ.มาใช้ ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงกว่า TOW ที่ใช้ในปัจจุบันครับ
สิ่งสำคัญที่สุดในการจัดหายุทโธปกรณ์ก็คือความจำเป็นและความเร่งด่วนครับ ฮ. โจมตีแม้จะเพิ่มอำนาจการยิงให้กับกำลังรบของกองทัพบก แต่ความเร่งด่วนของมันยังต่ำกว่าการจัดหารายการอื่น เช่นรถเกราะล้อยาง ปืนเล็กยาว ฯลฯ ทำให้กองทัพบกคงไม่สามารถทุ่มงบประมาณจำนวนมากลงไปในการจัดหาฮ.ที่ทันสมัยที่อยู่ในตลาดได้ครับ
AH-1F ไม่ได้แย่เลยครับ AH-1F สามารถใช้สิ่งอำนวยความสะดวกและอะไหล่ที่เรามีอยู่ได้ และถ้าได้รับการปรับปรุงจากอิสราเอลจริง ก็จะมีประสิทธิภาพสูสีกับฮ.โจมตีในตลาดโลกทีเดียว หลายประเทศจัดหา ฮ. AH-1F มือสองไปใช้งานจำนวนหลายสิบลำ เช่น ปากีสถานและตุรกี เพราะประหยัดกว่า แต่มีประสิทธิภาพที่ไว้ใจได้ อีกทั้ง AH-1F ยังเข้ากับความต้องการของกองทัพบกที่ต้องการฮ.โจมตี และที่สำคัญ กองทัพไทยไม่ควรเพิ่มความหลากหลายของแบบของอาวุธด้วยการจัดหาอาวุธจากหลายค่ายในภารกิจเดียวกันแต่ซ้ำซ้อนกัน ยกตัวอย่างเช่น AH-1F คู่กับ Mi-24, Harpoon กับ Exocet MM40, หรือ Gripen กับ Su-30 จะทำให้กองทัพต้องสำรองอะไหล่สองชุด สำรองอาวุธสองชุด ทำการฝึกที่ต่างกันสองแบบ ใช้สิ่งอำนวยความสะดวกสองแหล่ง ซึ่งเป้นการสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุครับ
.....เรื่องของเรื่องคือ งบประมาณมันจำกัด อ่ะครับ ของมือ2จึงเป็นตัวเลือกในการมีไว้เพื่อคงกำลังทางการรบ แล้วอีกอย่างนึงคือ ฮ.โจมตีในภูมิภาคนี้ ยังไม่มีใครใช้เป็นตัวเป็นตน นอกจากสิงค์โปร ส่วน มิ-24หรือ 35 นั้น ถึงจะมองว่ามีประสทิธิภาพมาก แต่สำหรับบ้านเราถือว่าเป็นของใหม่ และต้องจัดหาอย่างอื่นเพิ่มหลายประการ กระสุน จรวด อะไหล่สำรอง ฝึกกำลังพล
...ส่วน ฮ.โจมตีอื่นๆก็มีให้เลือกเยอะเช่น คา-50/52 มิ-28( จะให้ลองใหม่เลยรึ) อาปาเช่ คอบร้า ไทเกอร์เนี้ยล่ะ
...โดย ฮ.แยกเป็น ลาดตระเวณโจมตีติดอาวุธเบา เช่น ปืน20ม.ม. กระเปาะจรวด และ ฮ.โจมตี ปืน30ม.ม.ระบบอำนวยการบและอาวุธนำวิถีด้วยเลเวอร์เป็นต้นราคาจึงแพงมากในรุ่น อาปาเช่-ลองโบว์
.....หากบ้านเราอยากมี ฮ.โจมตีรถถัง บังเกอร์ ล่ะก็ ถ้าไม่จัดหา คอบร้า มือ2 ก็หาชุดคานสำหรับติดตั้ง จรวด เฮลไฟล์ หรือ โทว์ มาติดตั้ง กับ แบล็คฮอค ก็ได้อ่ะครับ ประหยัดดี เวลาใช้งานโจมตีก็ติด ไม่ใช้ก็ถอดแค่นั้นเอง ช่วยทุ่นงบหรือสำรอง ไว้หา ฮ.โจมตีมาเติมจนครบจะดีก่ามั้ย ภัยคุกคามจากฮ.ด้วยกัน มีแค่สิงค์โปร์ ขนาดประเทศอื่นๆ ยังใช้ กัสเซล หรือ แซด-9 ติดอาวุธโจมตีรถถังอยู่เลย เราก็ปรับปรุง ดัดแปลงของเราซะบ้างดีกว่าน่ะครับ