ใครที่เป็นแฟนของ F-5E คงเข้าใจว่าทำไมผมชอบเครื่องตระกูลนี้ เพราะมันเป็นเครื่องบินขับไล่ที่คล่องแคล่วมากที่สุดแบบหนึ่งของโลก แบบว่า MIG-21 ที่ว่าเจ๋งก็ยังต้องหนาว แถมยังมีรูปร่างที่สวยงดงามมากด้วย ผมเคยดูวีดีโอการบินของทั้ง F-5, F-20, Mirage-3 , F-16, MIG-21 หรือแม้แต่ JAS-39 ที่จะมาทดแทนF-5Eของเรา ผมกลับชื่นชอบ F-20 และ F-5E มากที่สุด มันมีความคล่องแคล่วอันน่าประทับใจจริงๆครับ นอกจากนี้ค่าใช้จ่ายในการปฎิบัติการก็ต่ำมากๆ
โดยเฉพาะรุ่น F-20 ที่ได้รับการปรับปรุงทุกอย่างแล้ว เมื่อได้กำลังขับเพิ่มขึ้นมากกว่า 50% มันก็แสดงพลังความสามารถได้ยอดเยี่ยม ผมกล้าพนันได้ว่าถ้ามีการพัฒนา F-20 มาต่อเนื่องจนถึงที่สุดแบบ F-16 แล้ว มันคงมีประสิทธิภาพในการ dog fight และการรบระยะไกล BVR ได้ไม่น้อยกว่า F-16 และจากลักษณะของเครื่องเองก็สามารถจะออกแบบให้ลดหน้าตัดเรด้าร์ลงได้อีกอย่างแน่นอน ซึ่งมันน่าจะทำได้ดีกว่า F-16 และน่าจะเป็น เซมิเสตลธ์ ที่เจ๋งไม่หยอกทีเดียวในยุคปัจจุบัน
ผมว่าถ้าเราจะเริ่มอุตสาหกรรมผลิตเครื่องบินเองขึ้นมา ผมเสนอ F-20 เลยครับ แบบว่าขอสิทธิบัตรหรือไม่ก็เสนอการต่อยอดเทคโนโลยี่ของ F-20 กับนอร์ธรอป เพราะจะมีความเสี่ยงในความล้มเหลวของโครงการน้อยลงมากแล้ว เนื่องมาจากโครงอากาศยานได้รับการพิสูจน์มาในระดับหนึ่งแล้ว
ส่วนการพัฒนาเพิ่มเติมก็โดยอาจจะร่วมวิจัยในเรื่องเซมิเสตลธ์ ระบบเรด้าร์แบบ AESA ระบบเครื่องยนต์ก็ใช้รุ่น F-404 เวอร์ชั่นล่าสุด หรือ F-414 ที่ให้กำลังขับสูงกว่าก็ได้ รวมทั้งการใช้วัสดุผสมคอมโพสิตอย่างกว้างขวางในการผลิตเพื่อลดน้ำหนักลงไปได้อีก และอาจจะรวมถึงการพัฒนาถัง CFT ในการเพิ่มระยะการบินให้ไกลยิ่งขึ้น
แม้ว่าการบรรทุกนน.ในการไปทิ้งระเบิดเป้าหมายอาจจะน้อย (F-20 บรรทุกนน.ได้น้อย แค่ 3.8 ตัน เกินครึ่งของ F-16 C/D มาไม่มาก) แต่ว่าเมื่อพัฒนาต่อแล้วมันอาจจะบรรทุกได้ 4-4.5 ตัน ก็ถือว่าดีมากแล้วเมื่อเทียบกับนน.ตัวเปล่า (F-20 มีนน.ตัวเปล่าราวๆ 5 ตัน) ก็ไม่หนี JAS-39 สักเท่าไร่ แต่มันใจได้ว่าความคล่องตัวเหนือกว่าแน่
ผมว่าทางนอร์ธรอปเองก็น่าจะยินดีช่วยเหลือในการพัฒนาแก่เรา เพราะไม่ว่าใครที่สร้างเครื่องบินออกมาแล้วก็คงอยากเห็นเครื่องที่ตนเองคิดขึ้นมายังคงอยู่คู่ท้องฟ้าไปนานเท่านาน ไม่ใช่ต้องไปแขวนห้อยโชว์โดยที่ไม่ได้รับการผลิตออกมาใช้งาน......................แต่เอ๊ะ นอร์ธรอปมันเจ้งไปยังเนี่ยะ ไม่แน่ใจครับ
รูปดูดมาจากเวปของ F-20 โดยตรงครับ www.f20a.com
ดู your tube แสดงการบินที่ยอดเยี่ยมของ F-20 ได้ตามลิงค์นี้ครับ
http://www.youtube.com/watch?v=VIujFudyKAw
ส่วนดูประสิทธิภาพการบินของ F-5 , mirage , F-18 ได้ที่นี่ครับวีดีโอของ swiss airforce
http://www.youtube.com/watch?v=g56sDfUkrjc&feature=related
สนับสนุนข้อมูลโดยเวปวิกิพิเดีย
http://en.wikipedia.org/wiki/F-20_Tigershark
หลายๆท่านคงทราบครับว่า F-20 Tigershark ในอดีตนั้นเป็น บ.ขับไล่เบาแบบหนึ่งที่น่าจะประสบความสำเร็จ ซึ่งตอนนั้นเองก็มีหลายๆประเทศที่ให้ความสนใจจะจัดหา(รวมถึงไทยด้วย) แต่การที่ บ.เกิดอุบัติเหตุตกระหว่างทำการบินสาธิตหลายครั้งและมีนักบินเสียชีวิตนั้นทำให้ความน่าเชื่อถือของ บ.หายไปครับ และการปรับเปลี่ยนนโยบายในการขายอาวุธในช่วงหลังของสหรัฐฯนั้นทำให้ F-16 เป็นที่ตัวเลือกในการจัดหาแทนครับ
F-20 บ.ที่พัฒนาและปิดโครงการไปตั้งแต่ช่วงปลายปี 1980s ครับ ถ้าเทียบกับ F-16 ซึ่งมีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องและ Gripen ซึ่งเป็น บ.ขนาดใกล้เคียงกันและมีความทันสมัยกว่า ถ้าเราจะเริ่มพัฒนา บ.ขับไล่เองนี้ดูตัวอย่างจากไต้หวันหรือเกาหลีใต้ที่ได้รับการช่วยเหลือทาง Technology จาก Lockheed Martin ในการพัฒนา Chingkuo กับ T-50 หรือ SAAB โดยใช้ Gripen เป็นต้นแบบ แทน บ.ที่บริษัทที่พัฒนาเองยุติโครงการไปตั้ง20กว่าปีน่าจะเป็นแนวคิดที่เหมาะสมกว่าครับ
(ถ้าจะใช้วิธี Revers Engineer บ.F-5 แบบอิหร่านทำออกมาอาจจะดูเกินไปนิดครับ)
คุณ neosiamese ครับ
หากเป็นเมื่อ 20ปีก่อนตอนที่Northrop พยายามจะขายต่อโครงการ F-20 ผมคงเชียร์ให้บ้านเราซื้อไปพัฒนาต่อแล้ว แต่ในปัจจุบันนี้ผมไม่เห็นด้วยแน่นอน
สาเหตุก็เป็นเพราะว่า
เอามาจาก wikipedia
While its performance was comparable to the Block 1/5/10 F-16 and superior to the turbojet-powered export-variant F-16/79, the F-20 airframe had virtually no remaining expansion capability, as it was built on essentially a 20 year old airframe at the limits of its capabilities. The F-20s low-set wing and wing-mounted undercarriage also limited the size and number (four underwing hardpoints on the F-20 vs. six on the F-16) of underwing stores that could be used; whereas the F-16 would often be seen with very large stores. The F-16 was a brand-new jet that had not even begun to approach its eventual capabilities.
โครงสร้างของเครื่อง F-20 ถึงขีดจำกัดแล้วไม่สามารถ พัฒนาขีดความสามารถต่อไปได้เนื่องจากโครงสร้างของเครื่อง F-20พัฒนามาจากโครงสร้างของเครื่องF-5ที่พัฒนามาก่อนหน้านี้ 20ปี และแบบdesignปีกของ F-20ทำให้ไม่สามารถขยายขนาดได้มากนัก สรุบง่ายๆว่าถ้าจะพัฒนาขีดความสามารถของเครื่อง F-20 ในแบบแนวคิดของคุณneosiamese ทั้ง เรื่องเซมิเสตลธ์ ระบบเรด้าร์แบบ AESAและ การใช้วัสดุผสมคอมโพสิต คงต้อง redesign ตัวเครื่องชนิดยกใหญ่ ผลก็คืออาจจะเสียค่าใช้จ่ายและเวลาจำนวนมาก และอาจจะไม่คุ้มค่าก็ได้
นอกจากนี้ยังมีคำถามด้วยว่าอเมริกาจะยอมถ่ายทอดเทคโนโรยี่และร่วมวิจัยในเรื่องเซมิเสตลธ์ ระบบเรด้าร์แบบ AESA และวัสดุผสมคอมโพสิต มากน้อยแค่ไหน ขนาดเสนอขายF-16ยังไม่มีการเสนอถ่ายทอดเทคโนโรยี่เลย และ หากดูโครงการเครื่องบินรบของประเทศในแถบเอเซียที่พัฒนาร่วมกับอเมริกา อย่าง IDF Ching KuoและF-2 ผมว่าร่วมวิจัยกับอเมริกา คงเป็นฝันร้ายแน่นอน อย่าง IDF Ching Kuoมีประสิทธิภาพโดยรวมด้อยกว่า F-20 เสียอีกแต่ราคาสูงกว่า ถึง 3เท่า (F-20 หากผลิตมากกว่า 150ลำราคาประมาณ $10ล้าน ส่วนIDF Ching Kuo ราคาประมาณ $30ล้าน ) ส่วน F-2 มีประสิทธิภาพโดยรวมด้อยกว่า F-16E/F แต่ราคาสูงกว่า ถึงเกือบ 2เท่า (F-16E/Fราคาเฉพาะตัวเครื่องประมาณ $55ล้านส่วน F-2ราคาเฉพาะตัวเครื่องประมาณ $100ล้าน) มีแต่ T-50 Golden Eagle เท่านั้นที่ราคาสมคุณภาพแตเสียค่าใช้จ่ายในการพัฒนาถึง $2000ล้าน
Northrop ลงทุนกับโครงการ F-20 ถึง $1200ล้าน หากเราซื้อสิทธิบัตร F-20 จริงเราต้องจ่ายค่าสิทธิบัตรถึง $1200ล้านหรือเปล่า (หากเป็นจริงเอาเงิน$1200ล้านไปซื้อ JAS-39 C/D จำนวน 16-18ลำไม่ดีกว่าหรือครับ)
สุดท้ายแล้วทั้ง เรื่องเซมิเสตลธ์ ระบบเรด้าร์แบบ AESA การใช้วัสดุผสมคอมโพสิต ระบบเครื่องยนต์รุ่น F-414 ก็มีอยู่ใน JAS-39 E/F อยู่แล้วผมว่ารอซื้อ JAS-39 E/F น่าจะมีความเสี่ยงน้อยกว่า พัฒนาขีดความสามารถของเครื่อง F-20 ในแบบแนวคิดของคุณneosiameseครับ
ข้อมูลอ้างอิง
http://en.wikipedia.org/wiki/F-20_Tigershark
http://www.flug-revue.rotor.com/FRTypen/FRKTX-2.htm
World Air Power Journal
F-20 ใช้ ย.แบบ General Electric F404 ซึ่งเป็น ย.แบบเดียวกับที่ติดตั้งกับ F/A-18A/B/C/D และเป็นต้นแบบของ ย.Volvo RM12 ของ Gripen ครับ
ในสมัยประธานาธิบดี Jimmy Carter นั้นสหรัฐฯมีนโยบายที่จะจำกัดการส่งออกอาวุธสมรรถนะสูงให้ประเทศพันธมิตรเนื่องจากกรณีที่ประเทศเหล่านั้นจะเกิดสงครามหรือมีการปฏิวัติจนTechnology รั่วไหลเช่นเดียวกับกรณีการปฏิวัติอิหร่านที่อาวุธสมรรถนะสูงเช่น F-14 นั้นตกอยู่ในมือของฝ่ายตรงข้ามได้
ในช่วงนั้นการพัฒนา บ.ขับไล่รุ่นส่งออกของสหรัฐฯหลายๆแบบจะเป็นรุ่นที่ไม่ได้มีมาตรฐานเดียวกับที่สหรัฐฯและNATO ใช้ครับเช่น F-16/79 ซึ่งใช้ ย.J79 ที่F-4 Phantom-II ใช้ร่วมถึง F-20 ด้วย
แต่หลังจากที่ประธานาธิบดี Ronald Reagan มีการปรับเปลี่ยนนโยบายในการส่งออกอาวุธทำให้ F-16 กลายเป็น บ.ขับไล่เบาหลักแบบหนึ่งของประเทศกลุ่มโลกเสรีไปครับ
บ.นอร์ธรอบ คนสร้าง เอฟ-20 คือบริษัทเดียวกับที่สร้าง เครื่องบิน บี-2 ที่ราคามหาโหดราคาตัวละเกือบ สองพันล้านยูเอสดอลล่าห์ นี่ไงครับ บริษัทเขารวยออกอย่างนี้เขาจะมาสนใจประเทศเล็กๆอย่างเราหรือครับ
จะว่าไปแล้วเจ้าเครื่องบินตระกูล เอฟ-5 หรือ เอฟ-20 นี่มันพัฒนามาจากเครื่องบินฝึก ที-38 นาครับ ออกแบบมาทีแรกให้บินตัวเปล่าๆไม่ได้ติดอาวุธอะไรเลยซักอย่างแม้แต่ปืนกลก็ไม่มีครับ เอาไว้ฝึกบินอย่างเดียว ที่สหรัฐชอบใช้เพราะมันบินดี เสียค่าใช้จ่ายถูก และสหรัฐก็ไม่ได้สนใจจะเอามันมาพัฒนาเป็นเครื่องบินรบด้วยซ้ำ แต่ต่อมา มีภัยคุกคามจากฝ่ายคอมมิวนิสต์ โลกแบ่งเป็นสองค่ายดังนั้น เครื่อง เอฟ-5 ถึงได้กำเนิดขึ้นมาเพื่อรับมือกับอีกฝ่ายครับ (จะเอามาแทน เอฟ-86 ซึ่งเป็นเจ็ตไฟเตอร์แท้ๆ แต่เก่ามากแล้ว) ตัวเอฟ-5 เอง มันเลยมีข้อจำกัด อย่างที่ว่าไว้ข้างบนครับ คือเป็นเครื่องบินตัวเล็กๆ มีปีกบางๆ (ที่ใส่น้ำมันไว้ในปีกไม่ได้) แต่รับโหลดได้บ้าง ใส่ปืนกับ เรดาห์ เล็กๆ แค่นั้นเอง เมื่อมันพัฒนาเป็น เอฟ-20 มันก็ดีกว่าเจ้า เอฟ-5อี บ้างเล็กน้อย (ประมาณ20เปอร์เซนต์) ซึ่งเพราะอย่างนี้ไงครับ ประเทศต่างๆ ถึงไม่สนใจเอฟ-20 กันเลย แต่หันไปหาเอฟ-16 มากกว่า ซึ่งเป็นเจ๊ตไฟเตอร์แท้ๆ ทำอะไรได้มากกว่าเจ้า เอฟ-20 แยะเชียวครับ
ดังนั้น ถ้าเราจะขอแบบ เจ็ตไฟเตอร์มาสร้างเอง ผมว่า ลองมองไปที่ตัวอื่นดีกว่าครับ อย่างน้อยต้องไม่ต่ำกว่าเอฟ-16 นาครับ ถึงจะคุ้ม แต่ถ้ามือไม่ถึงผมว่าแค่ สร้างเครื่องบินฝึก ธรรมดาๆ ไปก่อนดีกว่าครับ อย่าง อัลฟาเจต หรือ พวก แอล-159 อะไรพวกนี้คร้บ ค่อยเป็นค่อยไป
ผมเองก็ชอบ F-20 มากครับ แต่มาถึงวันนี้มันได้กลายเป็นเครื่องบินล้าสมัยไปเสียแล้ว ก็ขนาด F-16A ฝูง 103 ของเราเผลอแผลบเดียวก็จะครบยี่สิบปีอยู่กรกฏาคมปีนี้แล้วครับ
นั้นแปลว่าแม้แต่ F-16A เองก็จะต้องปลดประจำการออกไปภายในอีกสิบปีข้างหน้าแน่นอน คำถามก็ตามมาว่าแล้วเราจะทดแทน บข.19/19ก ด้วยเครื่องบินอะไรดี
ก. F-35A เป็น บข.21
ข. JAS-39 E/F เป็น บข.20 ข/ค
ค. JAS-39 S/T เป็น บข.20 ข/ค
JAS-39 S/T มาจากไหน? ผมคิดเองแหละครับ
S - Siam / Single seat fighter
T - Thailand / Twin seat fighter
( พัฒนาตามความต้องการเฉพาะของทอ. เหมือน JAS-39DK ของเดนมาร์ค หรือ JAS-39N ของ นอร์เวย์ )
ขีดความสามารถที่เพิ่มขึ้น
- เปลี่ยนเครื่องยนต์เป็น F-414 เพิ่มแรงขับอีก 25%
- ยืดลำตัว เพิ่มพื้นที่ปีก เพิ่มพิสัยทำการและภารกรรมบรรทุกอาวุธ
- ติดตั่ง CFT ถังเชื้อเพลิงแนนลำตัวเพื่อเพิ่มพิสัยทำการ
- เพิ่มตำบลติดอาวุธใต้ช่งรับอากาสทั้งสองด้าน
- อาวุธนำวิถีรุ่นใหม่ เช่น IRIS-T, Meteor
ภารกิจที่เพิ่มขึ้น
- ภารกิจการโจมตีทางลึกด้วยอาวุธความแม่นยำสูง
- ภารกิจกดดันระบบป้องกันภัยทางอากาศของข้าศึก
อืมมมก็จริงอย่างที่หลายๆท่านเสนอแนะแฮะ........โครงอากาศยานถูกออกแบบมาราวๆ 40 ปีแล้ว ถ้าจะให้ตามเครื่องรุ่นใหม่ทันก็คงต้องออกแบบใหม่ทั้งหมดเลยจะดีกว่า โดยยังคงลักษณะเด่นเอาไว้
และอีกอย่างคือ ทางสวีเดนเองก็ดำเนินโครงการทำ Jas-39 E/F แล้วซึ่งจะมีสเปกใกล้เคียงกับที่ผมเสนอและอายุโครงอากาศยานของ Jas-39 ก็ออกแบบมาไม่เกิน 20 ปี ซึ่งถือว่ายังเหมาะสมต่อการปรับปรุงให้บเทคโนโลยี่เซมิสเตลธ์ เรด้าร์ AESA โดยที่เราไม่ต้องไปจ่ายตังค์เพิ่มอะไร.........ยกเว้นเราจะขอสเปกพิเศษแบบ Jas-39S อะไรเทือกนั้
ขอบคุทุกความเห็นครับ