หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


มาผลิต Tavor ใช้เองกันดีไหม

โดยคุณ : Skyman เมื่อวันที่ : 14/03/2008 22:34:44

เจอฝรั่งคนนึงทักมาครับ

เขาบอกว่า โอ้วววววว สุดยอด เมืองไทยมี Tavor ใช้ มันเจ๋งมาก ๆ เลย แล้วเมืองไทยซื้อ Final product มาหรือมาตั้งสายการผลิตเองล่ะ?

ผมก็บอกว่าซื้อเขาน่ะ

เขาว่าไม่ดี อย่างงี้ไม่ถูก เพื่อความมั่นคงของชาติ ยังไงก็ควรซื้อลิขสิทธิ์มาผลิตเองในประเทศ

 

emo

 

จริงแฮะ ผมเห็นด้วยนะฮะ

เราซื้อมาผลิตกันดีไหมครับ? อยากเรียนเชิญทุกท่านเสนอความเห็น เสนอได้ทุกแง่มุมครับ ทั้งเรื่องบวกและลบ ไปจนถึงคุณภาพและเรื่องทุจริตครับ





ความคิดเห็นที่ 1


เห็นด้วยครับ ที่จะขอซื้อสิทธิบัตรการผลิตมา เพื่อความมั่นคงทางยุทธศาสตร์การทหาร และเพื่อประสพการณ์การผลิต และเห็นด้วยอย่างยิ่งที่ให้ปลดประจำการ M 16 และ HK (ที่หน่วยผมใช้ HK)

โดยคุณ makropolo เมื่อวันที่ 09/03/2008 21:34:52


ความคิดเห็นที่ 2


อันที่จริงผมว่าควรจะมีการผลิตเองมันทุกอย่างละครับสำหรับอาวุธเบา รวมถึงเครื่องกระสุนด้วยที่จะต้องมีความสามารถในการผลิตเองได้ในระดับหนึ่ง แต่ว่าเท่าที่ทราบก็สามารถผลิตเองได้หลายอย่างแล้วนี่ครับ HK33 เราก็ทำอยู่ ลูกปืนใหญ่เรายังผลิตเองได้เลย

HK ที่ใช้นี้ HK33 หรือเปล่าครับ แล้วทำไมอยากให้ปลดไปเสียล่ะครับ (อยากทราบความคิดเห็นของผู้ใช้โดยตรง)
โดยคุณ Praetorians เมื่อวันที่ 09/03/2008 22:14:17


ความคิดเห็นที่ 3


มีข้อมูลว่าประเทศที่สนใจซื้อสิทธิบัตรในการผลิตปืน Tavor ในประเทศในก็มีอินเดียกับโปรตุเกสครับ แต่ดูเหมือนว่าทั้งสองประเทศจะติดปัญหาสักอย่างจึงไม่มีความคืบหน้าเพิ่มเติมครับ

โดยคุณ AAG_th1 เมื่อวันที่ 09/03/2008 22:27:12


ความคิดเห็นที่ 4


เห็นด้วย ด้วยคนครับ ในอาเซียนส่วนใหญ่เขาก็มีโรงงานผลิดปืนเป็นของตัวเองทั้งนั้นครับอย่างมาเลก็โรงงานสไตเออร์ยกกันมาทั้งสายการผลิด, สิงขโปร์นี่ก็ทั้งผลิด ออกแบบ และส่งขายต่างประเทศอีก(ทั่งๆที่ประชาชนเขามีสิทธิในการมีอาวุธน้อยมากๆ) อินโดก็โรงงานpindad ที่ชวาก็ผลิดปืนของ FN(ปลย.) กับบราวนิง(FN hi-power เป็นปืนพก)ภานใต้สิทธิบัตรอยู่ พม่าก็มีเป็นของตัวเองออกแบบเอง(หรือลอกแบบหว่า) ที่น่าเจ็บใจนิดๆ ก็ฟิลิปปินส์ครับปลายเดือนที่แล้วก็ดูดเงินผมไป70k กว่าๆ ก็ดันไปซื้ออาร์มสกอร์มาใช้(ยี่ห้ออื่นแสนกว่าๆ แพงกว่า HK กระบอกแรกของผมที่ซื้อเมื่อหกเจ็ดปีที่แล้วเสียอีก) ยังไงก็หนุนเต็มที่ละครับทำขายชาวบ้านด้วยก็จะดีมากๆ ครับเห็นชาวฟิลิปปินส์ทำปืนได้ไม่เลวคนไทยน่าจะดีกว่านี้อีกครับหรือจะเริมจากของทำง่ายๆ อย่างปืนลูกซอง(ผมหมายถึงแบบปั้มห้าถึงแปดนัดนะครับ ถ้าแบบเดียวหักลำกระโดดกลับหลังลงคลองเน่าๆ ครับอย่าไปทำอายชาวบ้าน) ก่อนก็ได้ครับ หลายๆ โรงงานก็เริ่มต้นกับปืนแบบนี้ทั้งนั้น
โดยคุณ natty เมื่อวันที่ 10/03/2008 03:03:42


ความคิดเห็นที่ 5


ดีครับเห็นด้วย แต่ก็ควรศึกษาข้อมูลของต้นทุนการผลิตเสียก่อน เช่นสั่งซื้อกี่กระบอกได้ลิขสิทธิ์มาผลิตกี่กระบอก ผลิตเสร็จแล้วจะทำอย่างไรต่อ หาที่ตั้งโรงงานการผลิตหรือยัง เพราะเครื่องจรักที่ผลิตมีราคาค่อนข้างสูง เครื่องปั๊มโลหะ เครื่องกลึง เครื่องมิลลิ่ง เครื่องขึ้นรูปพลาสติก วัตถุดิบเช่นเหล็กกล้า หาเองในประเทศหรือสั่งซื้อจากต่างประเทศ เพราะถ้าสายการผลิตหยุดลงเครื่องจรักเหล่านี้จะไปทำอะไรต่อ เพราะสายการผลิตปืนไม่ได้ยาวนานเป็น 10 ปี เหมือนเครื่องบิน รถถัง ต้องหาสายการผลิตใหม่รับรองเช่น อุปกรณ์ อะไหล่ หรือปืนรุ่นใหม่ไปเลย เพื่อให้คุ้มค่ากับสิ่งที่ลงทุนในการที่จะตั้งโรงงานใหม่

โดยคุณ Clevis เมื่อวันที่ 10/03/2008 04:36:09


ความคิดเห็นที่ 6


สำหรับปืน HK ผลิตในไทยครับ(แปลงเป็นบลูพับด้วย)ขอตอบถึงเหตุที่อยากให้ปลดประจำการเพราะ

๑.หนักมาก เมื่อผู้ถือมีอาการป่วยในสนาม แทบจะถือไม่ไหว

๒.โทรมเร็ว(เพราะรมดำไม่ดี)

๓.ศูนย์หน้าจะอยู่ในบริเวณง่ามนิ้วโป่งกะนิ้วชี้ ทหารใหม่เมื่อเริ่มฝึก จะได้รับบาดแผล ในบริเวณนั้น จริงอยู่เมื่อใช้นานไป ง่ามนิ้วมือบริเวณนั้นจะด้าน แต่ศูนย์หน้าซึ่งเป็นโลหะ จะสึกเป็นคม อันตราย

๔.พวกผมถูกสอนให้แขวน คันรั้งลูกเลื่อน ก่อนตบกลับ เพื่อขึ้นลูก จะมีเสียงดัง อาจไม่มีผลในยามปรกติ แต่ในสนามที่ต้องการความเงียบเพื่อปกปิดที่ตั้ง ลองนึกดู อันตรายไหม สำหรับเสียง ตบกลับคันรั้ง

สุดท้าย หน่วยผม มักจะทำเรื่องยืมปืน แบบ AK ไม่ก็ M16 จากหน่วยอื่นมาใช้เสมอ เมื่อถูกส่งภาคสนาม เพื่อผลัดเปลี่ยนเวรสนามกับหน่วยอื่น(ทุกอย่างที่กล่าวมาเป็นปรกติครับ ไม่มีชั้นความลับ)

โดยคุณ makropolo เมื่อวันที่ 10/03/2008 04:38:54


ความคิดเห็นที่ 7


อ้อ เป็นแบบนี้นี่เอง ขอบคุณสำหรับข้อมูลมากนะครับ (เรื่องหนักนี่ผมเองเคยได้ยินมาจากคนรู้จักที่เป็น ตชด. เก่าครับ เขาว่ามันหนักเอาเรื่อง ผมเองก็เคยไปลูบๆ คลำๆ ปืนกระบอกนี้มาด้วยเหมือนกัน ไม่ใช่ย่อยเลยนะครับ เยอรมันท่าทางจะไม่ได้ออกแบบมาให้เราชาวเอเชียใช้แต่แรก) แต่ว่า M16 มันขัดลำได้ง่ายกว่านี่ครับถ้าไม่ทำความสะอาดบ่อยๆ

เรื่องตบคันลูกเลื่อนนี่โอเคครับไม่ขัดข้องเพราะได้ยินเสียงมาแล้ว แชะเดียวดังไปเป็นโยชน์ ไม่เหมาะเวลาต้องใช้ความเงียบในสนามรบ

แต่ถ้าจะถามว่าควรเอาปืนอะไรมาเปลี่ยนผมเองก็บอกยากเหมือนกันครับเพราะผมไม่เคยใช้ และไม่คิดว่าจะได้ใช้ด้วย คงต้องรอดูกันต่อไปว่าอะไรเหมาะกับเรามากที่สุด
โดยคุณ Praetorians เมื่อวันที่ 10/03/2008 22:16:12


ความคิดเห็นที่ 8


เห็นด้วยครับ ยิ่งตอนนี้ความรู้ด้านนี้ของเราพัฒนาไปมาก เครื่องมือเครื่องจักรสมัยใหม่มีเยอะเลยครับ

ถ้าทหารไม่ลงทุน ก็จ้างให้เอกชนทำ จะเอาอะไร แม่พิมพ์ เหล็กปั๊มเหล็กหล่อทุกประเภททุกขนาดทุกแบบ หรือจะเอาแบบแม่นยำสุดๆกลึงCNCผ่านระบบคอมพิวเตอร์ก็มี   ทุกชนิดตอนนี้มีซัพพอร์ตในประเทศ สปริง น็อต สลัก หมุด จะเอาแบบไหนมีแทบทั้งนั้น ชุบแข็ง รมดำ อบความร้อน เหล็กพิเศษ  น็อตไททาเนียมยังทำให้ได้

โลหะปั๊มธรรมดาก็ให้โรงงานทหารทำเองก็ได้ พวกงานละเอียดลำกล้องลูกเลื่อนจ้างเอกชนทำCNCเอา  ไม่ต้องลงทุนเครื่องมือกระจายรายได้สู่ภาคเอกชนด้วย ถ้าทหารไม่ทราบก็ลองขับรถตะเวนตามนิคมอุตสาหกรรมบางจ้าวเปิดร้านตึกแถว2ห้องรับงานจากโรงงานตามนิคมเยอะแยะ

ผลิตอย่างมากแค่แสนสองแสนกระบอก จิ๊บจ๊อยกับงานแบบนี้ เขาดีลเข้าโรงงานกันเป็นล้านชิ้นถมเถไป ถึงแม้วัสดุศาสตร์เราจะอ่อนด้อยก็ตามเราวิจัยโลหะใหม่ๆไม่ได้เหล็กบางชนิดยังหล่อไม่เป็นทำไม่ได้ แต่วัสดุกองตรงหน้าฝีมือคนไทยในการแปรรูปผลิตชิ้นส่วนโลหะก็ไม่ด้อยไปกว่าใคร

 

โดยคุณ wap เมื่อวันที่ 10/03/2008 23:11:55


ความคิดเห็นที่ 9


เห็นด้วยครับ ยิ่งตอนนี้ความรู้ด้านนี้ของเราพัฒนาไปมาก เครื่องมือเครื่องจักรสมัยใหม่มีเยอะเลยครับ

ถ้าทหารไม่ลงทุน ก็จ้างให้เอกชนทำ จะเอาอะไร แม่พิมพ์ เหล็กปั๊มเหล็กหล่อทุกประเภททุกขนาดทุกแบบ หรือจะเอาแบบแม่นยำสุดๆกลึงCNCผ่านระบบคอมพิวเตอร์ก็มี   ทุกชนิดตอนนี้มีซัพพอร์ตในประเทศ สปริง น็อต สลัก หมุด จะเอาแบบไหนมีแทบทั้งนั้น ชุบแข็ง รมดำ อบความร้อน เหล็กพิเศษ  น็อตไททาเนียมยังทำให้ได้

โลหะปั๊มธรรมดาก็ให้โรงงานทหารทำเองก็ได้ พวกงานละเอียดลำกล้องลูกเลื่อนจ้างเอกชนทำCNCเอา  ไม่ต้องลงทุนเครื่องมือกระจายรายได้สู่ภาคเอกชนด้วย ถ้าทหารไม่ทราบก็ลองขับรถตะเวนตามนิคมอุตสาหกรรมบางจ้าวเปิดร้านตึกแถว2ห้องรับงานจากโรงงานตามนิคมเยอะแยะ

ผลิตอย่างมากแค่แสนสองแสนกระบอก จิ๊บจ๊อยกับงานแบบนี้ เขาดีลเข้าโรงงานกันเป็นล้านชิ้นถมเถไป ถึงแม้วัสดุศาสตร์เราจะอ่อนด้อยก็ตามเราวิจัยโลหะใหม่ๆไม่ได้เหล็กบางชนิดยังหล่อไม่เป็นทำไม่ได้ แต่วัสดุกองตรงหน้าฝีมือคนไทยในการแปรรูปผลิตชิ้นส่วนโลหะก็ไม่ด้อยไปกว่าใคร

 

โดยคุณ wap เมื่อวันที่ 10/03/2008 23:14:20


ความคิดเห็นที่ 10


ผลิตเองมันดีครับ แต่ว่า ถ้าโควต้า ผลิต 50000กระบอก แต่ใช้วัสดุในการผลิต ประมาณ 100000 กระบอก รึป่าว เข้าประจำการ 50000 กระบอก ที่เหลืออะไหล่ รึป่าว อะไรมันก้อเกิดขึ้นได้ ถ้ามีปาริก้า
โดยคุณ fujiwara เมื่อวันที่ 11/03/2008 06:57:57


ความคิดเห็นที่ 11


จริงของคุณ  Praetorians ที่ว่า M16 ขัดลำบ่อยครับ (ไม่ว่าทำความสะอาด รึไม่ ก็ตาม)ผมถึงอยากให้ปลดประจำการไปด้วย นี่ผมหมายถึง M16A2 นะครับ(ขนาดใหม่แท้ๆ) และผมเห็นควรว่า การจัดหาแต่ละครั้งควรให้หน่วยงานที่ลงภาคสนามบ่อยๆเช่น พล. ๑ รอ. ราบ.๑๑ รอ.ลว.ระยะไกลที่ ๑ ทหารพราน รบพิเศษ เป็นต้น เป็นผู้ทดสอบ พวกเขารู้ดีว่าอะไรควร อะไรเหมาะ อะไรห่วย เอาแบบอิสราเอล คือผู้ปฏิบัติเป็นผู้ทดสอบ และมีอำนาจตัดสินใจ ไม่ใช่พวกนั่งโต๊ะอยู่ในห้องแอร์ เป็นผู้ตัดสิน(เหมือนอังกฤษ เฮ้อ รอดตัวไป)

โดยคุณ makropolo เมื่อวันที่ 11/03/2008 10:00:55


ความคิดเห็นที่ 12


ถูกของคุณเรื่อน้ำหนักที่เด็กก็ถือได้ อย่าว่า HK เลย ปืนกล MAX เด็กก็ถือได้(ก็เวลาชั่วครู่ ไม่ก็ไม่เกินสัปห์ดา ก็ถือว่ารู้แล้ว)แต่ผมหมายถึงวงรอบปฏิบัติ สาม ถึง หาสัปห์ดา ต่อครั้งในสนาม ที่หมายถึงที่ ที่ยังไม่เคลียร์ เช่นชายแดนพม่า ชายแดนเขมร รึสาม จ.ชายแดนใต้ M 16 ก็ดังแต่เบากว่า ผมไม่ขัดแย้งอาวุธ ในประเทศ แต่ผมกล่าวในฐานะผู้ปฏิบัติงานสนามที่อยากมีดีๆกับเขาบ้าง ถ้ากองทัพให้อีดาบผมก็ต้องใช้เพราะผมเป็นทหารด้วยใจรัก น้องชายผมก็เรียน รด.เขาจะติด ว่าที่รต. เมื่อจบ ผมเป็นทหารที่ลงสนามตั้งแต่เป็นเสมียนกำลังพล จนเป็นจ่ากองร้อย ใช้เวลาหลายปี เป็นทหาร ๒๔ ชม.(ในภาวะ ร้อยร.เตรียมพร้อม)เมื่อถือนานๆของที่เคยเบามันจะเริ่มหนัก ถ้าไม่สบายหล่ะ ไม่มีหรอกซุ่มยิง นั้นมันหนัง ผมออกภาคสนาม สองครั้ง ครั้งแรกชายแดนพม่า ปะทะประปลาย มันกลัวเราว่ามีอาวุธดีกว่ามัน(มันใช้ปืนเซกาเซ่ คาบิล ลูกซอง ไม่ก็ FN)แต่ปัจจุบันมันไม่กลัวเรา(เพื่อนที่ พล.ร.๙ ยืนยันกับผม) ครั้งสองไม่นานมานี้ที่ปัตตานี ที่ค่ายอิงคยุทธฯตรงข้ามเป็นสนามบิน มีทหาร อย.เฝ้า ผู้หญิง(คิดว่าใช่)เอาปืนสั้นยิงทหาร รก. สนามบินแล้วคว้าปืน M16 ขึ้นรถจ้อย ทหารที่อยู่ในเหตุการณ์ ตลึง คุณยังหวังให้เข้าเซฟ ปลดไก รึ ทหารบางนาย ไม่เสียบซองกระสุนด้วยซ้ำ(สันดานแก้อยาก)

สุดท้ายผมคงไม่โต้แย้งนายทหารสัญญาบัติที่ใช้เวลา ๖ ชม.ต่อสัปห์ดา ผมเคารพนายทหารสัญญาบัติที่เรียนการรบจาการปฏิบัติจริง ด้วยของจริง ผมศรัทธา ในวิชาชีพผม และผมคิดว่าทหารเกณท์ทุกนาย ที่อยู่มาเกิน ห้าสัปห์ดาก็รักชาติไม่แพ้ใคร(ถึงเขาส่วนใหญ่จะจน ไม่มีเงินเรียนให้สูงไม่มีโอกาสเรียน รด.)

โดยคุณ makropolo เมื่อวันที่ 12/03/2008 01:10:45


ความคิดเห็นที่ 13


คนจำนวนมาก เห็นว่าอาวุธประจำกายทหาร ต้องผลิตได้เองในประทศ ถ้าไม่มีฝีมือพอที่จะคิดออกแบบเอง ก็ต้องไปซื้อแบบของคนอื่นมาผลิตเอง ถ้าอยากได้แล้วไปจ่ายตลาดซื้อเอา เขาว่าเสีย pride หรือบ้างก็ว่า อาวุธเป็นมาตรวัด caliber ของฝีมือเชิงช่างของชาติ
ในแง่ที่ หน่วยงานด้านอาวุธของเรา มีอายุมากว่าประเทศต่างๆ หลายประเทศในแถบนี้ คงต้องบอกว่า ก็น่าจะซื้อแบบ มาผลิตเองได้ อยากให้ลองเอาแนวทางที่เราเคยใช้สมัย HK33 คือ
Phase แรก ผลิตในต่างประเทศ นำเข้าทั้งกระบอก
(รุ่นนี้ถ้าผมไม่จำสับสน ตอกชื่อเมือง Obendoff ด้วย)
Phase ที่สอง ผลิตชิ้นส่วนในต่างประเทศ นำมาประกอบในประเทศ
Phase สุดท้าย ผลิตชิ้นส่วนและประกอบในประเทศทั้งหมด
เพราะฉนั้น ในตอนนี้ เราควรมีขีดความสามารถในการผผลิตปืนเล็กยาวได้ ไม่มากก็น้อย
ทำให้ ตั้งคำถามแฟนพันธ์แท้ ว่า ทำไมจึงไม่เอาขีดความสามารถนี้ไป Deal ก่อนทำสัญญา อย่างน้อย ก็รับชิ้นส่วน มาประกอบในประเทศ หรือ ถ้ามองในแง่ที่อิสราเอลต้องImport แรงงาน จากต่างประเทศ ทำไมไม่คิดถึงการ outsource งานบางส่วน มาทำส่งให้เขา หรือ การส่ง แรงงานไทยไปทำงานที่โรงงาน IWI ในอิสราเอล

แต่ยัง สงสัยว่า นี่เป็นการโยนหินถามทาง สำหรับTavor รุ่นต่อไปหรือไม่?
ทำให้ต้องย้อนมาคิดว่า เราพร้อมที่จะเปลี่ยนมาใช้ปืนแบบ Bullpup
โดยการจัดหาปืน Tavor มาเพิ่ม แล้วใช้ กันทั้งกองทัพ ในโอกาสต่อไป หรือไม่ ?

โดยคุณ Oldtimer เมื่อวันที่ 12/03/2008 06:02:15


ความคิดเห็นที่ 14


ผมยังเห็นว่า น่าจะ เร็วเกินไปที่จะก้าวไปถึงจุดนั้น
ผมอยากให้ มีการประเมินค่าความพึงพอใจ ของกำลังพล
ต่อการใช้ ปืนแบบ Bullpup ก่อน
ถ้าประเมินผลผ่าน ก็ค่อยคิดก้าวต่อ ใช้Tavor กันทั้งกองทัพ
แต่ถ้าการประเมิน ไม่ได้ผลที่น่าพอใจ
เราก็คงต้องใช้อาวุธประจำกายมากกว่าหนึ่งแบบ เหมือนกับที่มีทั้ง
HK33 ควบคู่กับ M16 คราวนี้คงเป็น Tavor คู่กับ อะไรดี 
ที่อยากให้มีการประเมินความพอใจก่อน ที่จะนำมาใช้งานอย่างกว้างขวาง                          เพราะผมเห็นว่า การเลือก Tavor มาใช้ ค่อนข้างรวบรัด
และเท่าที่ปรากฏเป็นข่าว Tavorได้รับเลือก เพราะเป็นปืนชนิดเดียวที่                                 ยื่นซองประกวดราคา หากข้อมูลผิดขออภัยครับ
จึงไม่แน่ใจว่า เมื่อแจกให้ผู้ใช้แล้ว เหล่าผู้ใช้จะชอบปืนชนิดนี้หรือไม่
ตัวผมเอง ชอบปืนแบบ Bullpup เหมือนกัน                                                                            แต่ก็ไม่แน่ใจว่าคนอื่นจะชอบแบบผมหรือไม่?

คงคล้ายๆกับ ที่มีผู้แสดงความคิดเห็นว่าผู้ใช้ควรมีสิทธิ์มีเสียงบ้าง

โดยคุณ Oldtimer เมื่อวันที่ 12/03/2008 06:09:54


ความคิดเห็นที่ 15


HK-33 ออกแบบในเยอรมันก็จริงแต่มาตั้งไลน์การผลิตที่เมืองไทย คุณภาพเลยออกมาแบบไทยๆนี่ไง (คนละเรื่องกับต้นตำหรับลิบลับ)

ผลิตออกมาทีแรกกะจะเอามาให้หน่วยรบใช้แต่ผีมือการผลิตมันไม่ได้มาตราฐานครับเลยต้องโละไปให้ หน่วย ตชด.กับทหาร บางหน่วยใช้ (หน่วยที่ไม่เกี่ยวกับการสู้รบโดยตรงเช่น พลา. หรือ สื่อสาร เป็นต้น) ส่วนหน่วยรบก็ใช้ เอ็ม-16 กับ เอเค-47 เป็นหลัก

ดังนั้นเรื่องจะตั้งไลน์การผลิตปืนใหม่ๆนี่ผมว่าลองตรวจสอบคุณภาพการผลิตของเราก่อนได้ไหมครับ เอาปืนสั้นก่อนก็ได้ พวก 9 มม. ก็ได้ครับ เอาให้ชัวร์ๆ แน่ๆ ว่าไม่มีปัญหาแล้วค่อยขยับขยายไปทำตัวอื่นๆ

โดยคุณ data เมื่อวันที่ 14/03/2008 11:34:45