สมมุติว่าอิริอายบินสอดแหนมริมชายฝั่งสุราษฏแล้วจุ่มีจรวดR-77วิ่งมาในระยะ170-180กม แน่นอนว่าERIEYEจับสัญาณอันตรายได้แต่จรวดวิ่งมาเร็วมากเครื่องERIEYEค่อนข้างจะช้าไปนิดเนื่องจากเป้นเครื่องใบพัด แน่นอว่าจะเอาตัวรอดยังไง
1.ถ้ามีตัวล่อก้น่าจะช่วยได้แต่ว่าไม่น่าจะรอดเพราะเป้นจรวดพิสัยปานกลางแล้วติดตามเป้าทีเครื่องบินรบศัตรูนั้นกําหนดแบบไม่มีที่สิ้นสุด อันตรายมากสําหรับเครื่องบินลําเลียง
2.รอให้จรวดมาก่อนเวลา10-15นาทีเมื่อใกล้เข้ามาแล้วบินปักหัวให้จรวดชนกับพื้นดินหรือบินตํ่าๆแล้วให้จรวดชนภุเขาหรือตึกเช่นเมือเราใกล้ชนกับตึกหรือภุเขาให้บินหลบแต่จรวดเลี้ยวไม่ทันชนกับตึกหรือภุเขา
แล้วผมขอฝากคําถามอีก1คําถามว่าERIEYE AEW&Cมีรบระบบสงครามอิเล้กทรอนิกส์ECM กับECCMไหมครับ
อาวุธปล่อยต่อต้านการแพร่คลื่น Radar หลายแบบที่เป็นอาวุธแบบอากาศสู่พื้นถูกนำมาทดสอบดัดแปลงเป็นอาวุธต่อต้าน AWACS ครับอย่างเช่น Kh-31 เป็นต้นซึ่งอาวุธชนิดนี้ก็มีหลายประเทศจัดหาไปใช้งาน
(นอกประเด็น: ตอนเล่น Falcon 4.0 ทั้งตัว Origin และ Allied Force ในภารกิจ SEAD หลายครั้งที่บินแล้วมักจะเหลือ HARM ผมสามารถปิด RADAR และยิง HARM ใส่ บ.ข้าศึกที่เปิด Radar ตกไปหลายลำครับ)
นอกจากนี้รัสเซียเองก็มีการพัฒนาอาวุธต่อต้านAWACS โดยเฉพาะเช่น KS-172 เป็นต้นซึ่งมีระยะยิงกว่า 400km ด้วยความเร็ว 4Mach ซึ่งติดตั้งบนเครื่องตระกูล Flanker และ MiG-31 แต่ปัจจุบันไม่ทราบว่ารัสเซียพัฒนาเสร็จหรือส่งออกให้ประเทศอื่นหรือยังครับ
ดูเหมือนจีนเองก็มีโครงการพัฒนาอาวุธลักษณะนี้ด้วยเช่นกันครับ
....เรดาห์ของพวก เอแวค นั้นระยะกวาดจะไกลมากครับต่ำๆก็200กิโลเมตรขึ้น ถ้าเป็นขนาด เอแวคใหญ่ๆจำพวก เวสเทลหรือแมนสเตย์จะไกลกว่าอีกหลายเท่า และทำสงครามอิเล็คทรอนิครบกวนตลอดเวลา ถ้ามาจำพวก เซมิ-แอคทีฟเรดาห์ จำพวก แอดเดอร์ หรือ อลาโม่ มีสิทธิพลาดเป้าน่ะครับ
....สรุปคือภัยคุกคามในแถบนี้ อิริอายเรายังมีสิทธิรอดถ้า แจ้งเตือนได้ทันและบ.ข.คุ้มกันสามรถเข้าต่อตีได้ทันน่ะครับ
....อีกอย่าง บ.ข.จำพวก รัสเซีย นั้นมีขนาด พ.ท.หน้าตัดเรดาห์กว้าง คงไม่รอดเรดาห์อิริอายน่ะครับ ถ้าจะให้ดีควรมีกระเปาะทำสงครามอิเล็คทรอนิค ติดไปด้วย เพื่อรบกวนเรดาห์ ที่จะชี้เป้าให้ จรวดตระกูล อาร์27 หรือ 77 น่ะครับ ซึ่งลูกยาวเกินกว่าเราจะเข้าไปยิงสวนได้ทันน่ะครับ
...เป็นไปได้ยากมากครับเพราะเรดาร์ของอิริอาย สามารถจับเป้าหมายได้ไกลกว่าเรดาร์ของเครื่องบินรบมากครับ ดังนั้นอิริอายเห็นเป้าหมายที่เป็นภัยคุกคามได้ก่อนที่เป้าหมายจะเห็นตัวอิริอายอีกครับ เมื่อเป็นเช่นนี้อิริอายสามารถนำทางเครื่องบินรบของเราเข้าต่อตีเป้าหมายได้ก่อนแน่นอน
...อีกทั้งจรวดต่อต้านเครื่องบินเอแวคที่รัสเซียคิดค้นอยู่นั้น ระยะยิงที่มากกว่า 400 กม.ผมก็ไม่รู้ว่ามันจะยิงยังไง (อันนี้รอผู้รู้มาตอบครับ) เพราะว่าเรดาร์บนเครื่องบินรบนั้นระยะตรวจจับของพวกตะกูล SU ทั้งหลายนั้นมีระยะได้ไม่เกิน 300 กม. ยิ่งถ้าถูกแจมแล้วประสิทธิภาพก็จะลดลงไป ไม่รู้ว่านักบินจะนำเครื่องเข้าสู่เป้าหมายเพื่อล็อคเป้าหมายได้อย่างไรในเมื่อระยะยิงของจรวดกับระยะตรวจจับของเรดาร์ไม่สอดคล้องกัน ถ้าจะบินเข้าไปเพื่อล็อคและนำวิถีให้กับจรวด อิริอายก็เห็นก่อนอยู่ดี
ที่เคยๆอ่านมานั้น หลักนิยมของการทำการบินสกัดกั้นทางอากาศของรัสเซียนั้นนักบินจะทำการเข้าโจมตีอากาศยานข้าศึกตามคำแนะนำของ GCI(Ground Control Intercept) ซึ่งสถานีRadarตรวจจับของรัสเซียนั้นจะคอบคลุมพื้นที่ของประเทศเป็นวงกว้างครับ ดังนั้นจึงสามารถทำการตรวจจับ บ.AWACS ได้จากระยะไกลๆ (ถ้าสถานีไม่ถูกทำลายเสียก่อน)
ระบบนำวิถีของ KS-172 นั้นเข้าใจว่าขั้นต้นจะLockเป้าด้วยการจับสัญญาน Radar ลักษณะเดียวกับอาวุธปล่อยต่อต้านการแพร่คลื่น Radar อย่าง Kh-31P ครับ และนำจะนำวิถีเข้าหาเป้าหมายด้วย INS หลังจากนั้นจะใช้ระบบ Active Homing ของRadar ในตัวเข้าทำลายเป้าหมายในขั้นสุดท้ายครับ
...ระบบ แซมระยะไกลเองก็น่ากลัวไม่ต่างจากบ.ข. สำหรับประเทศที่อยู่ใกล้ๆกันและพื้นที่ไม่กว้างมาก อย่างสิงค์โปร มาเลเซีย ไทย พม่าเป็นต้น อย่าง รัสเซีย เคยมี เอสเอ-5 เข้าประจำการ เป็นแบบฐานยิงตรึงที่ หลักๆจะใช้ยิง เอแวค เป็นหลัก ระยะยิงไกลความเร็วสูง และหัวรบรุนแรง
....หากมีประเทศใดประเทศหนึ่ง(ไม่รวมเวียดนาม) จัดหาระบบ แซมพิสัยไกล อย่าง เอส-300-400 ระยะยิงไกล2ถึง300กิโลเมตรขึ้น มาวางตามแนวชายแดน แถมเรดาห์ก็มีกำลังค้นหารวมถึงประสิทธิภาพสูงด้วย หากเราไปบินเลาะแนวชายแดนหรือในระยะยิงพอดีๆก็มีสิทธิโดนสอยได้น่ะครับ เพราะฐานแซม ไม่ได้เปิดเผยต่ำแหน่ง เหมือนบ.ข.ในอากาศ