เอาเฉพาะเทคโนโลยีของประเทศเพื่อนบ้านนะ
ผมขอจำลองทางภาคอีสานละกัน
ถ้าให้ลองนับสนามบินใน ไทย เอาเฉพาะภาค
ตะวันออกเฉียงเหนือ
    อุดรธานี  หนองคาย สกลนคร ร้อยเอ็ด
โคราช บุรีรัมย์ อุบลราชธานี มหาสารคาม
เลย   มี เกือบสิบสนามบิน ซึ่ง ถ้าอีริอายยังไม่ได้
ทำการขึ้นบิน เรดาร์ภาคพื้นดินก็ รับเรื่อง
เรียบร้อยแล้วครับ  แถวๆ ภูกระดึง
ปราสาทเขาพนมรุ้ง และเขาใหญ่  โคราช
      ระบบป้องกันภัยทางอากาศ ตรวจจับได้
เครื่องบิน F16 บินขึ้นไปสกัดกั้น

ภายในเวลาครึ่งชั่วโมง Dog fight
กันสนุก
   หรือเหตุการณ์เลวร้าย โดนถล่มคลังน้ำมัน
แต่ด้วย logistic ทางรถไฟจากภาคตะวันออก
สามารถขนน้ำมันมาได้ภายใน 24 ชั่วโมง
   แค่นับสนามบินในอีสานก็พรึ่บพรั่บ
ทั้งนี้น่าจะเกิดการทิ้งระเบิดผิดเป้าได้เหมือนกัน
เพราะสนามซีเมนต์ในภาคอีสานมีเยอะ
เช่นสนามกีฬา สนามสารพัด ทำเอางงกันได้ครับ
     แค่นี้ก็พอพึ่งพาได้ละครับ
Erieye คงไม่ต้องออกมาแสดงฝีมือหรอก 
 

  ส่วนภาคอื่นๆลองหาคนอื่นมาวิเคราะห์ละกัน


กำลังทางบก กับทางอากาศเราไม่ห่วงหรอกครับ
แต่ผมห่วงกำลังทางเรือทะเลมากกว่า
เพราะดูเทคโนโลยี แล้ว การป้องกันหละหลวมมาก
เอาแค่ผมนำเรือประมงประมาณ 100 ลำบุกขึ้นอ่าวไทย ด้านสุราษ ชุมพร ประจวบ
คิดดูครับว่ากำลังทางเรือเราจะปกป้องได้ขนาดไหน
นอกจากต้องพึ่ง กำลังทางบกมาสกัดกั้นอีกที

เห่อๆ ผมขอพูดตรงๆแล้วกันครับ

ถ้าเกิดเหตุการณ์อย่างนั้นขึ้น ต่อให้E-3 E-8 ก็ง่อยเช่นเดียวกันครับ

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น น่าจะเรียกว่าWorst Case Scenerio ทีเดียว ถ้าทอ.ปล่อยให้ทำได้อย่างนั้น ก็ยุบทิ้งไปซะดีกว่าครับ ด้วยความเคารพ

ถ้าสนามบินที่ ERIEYE ถูกโจมตีจน ERIEYE ขึ้นไม่ได้ ก็เก็บเอาไว้ดีกว่าครับ ไปใช้เครือข่ายเรด้าร์ภาคพื้นดินก็ได้ ยังไงเราก็ link กันได้อยู่แล้วครับผ่าน RTADS เพราะเครื่อง AEW&C พวก ERIEYE หรือ E-2C นี่ ถ้าไม่อยู่บนอากาศ ก็ใช้เรด้าร์พื้นดินดีกว่าครับ

กองทัพต้องการเครื่อง AEW&C มาใช้งานนั้น เพราะว่าต้องการเอามาอุดรูรั่วที่ RTADS ตามไปตรวจจับไม่ได้ครับ เช่นตามป่า ตามเขา ตามหน้าผาซึ่งมีจุดอับสัญญาณอยู่ครับ เครื่อง AEW&C จะเป็นตัวช่วยอุดรูรั่วเหล่านั้นครับ แต่ถ้าไม่มี AEW&C แม้ว่าประสิทธิภาพในการตรวจจับจะลดลงไป แต่ก็ไม่ได้ทำให้เครื่องบินขับไล่ของเราปฏิบัติการไม่ได้ครับผม

ฉะนั้นตามสถานการณ์นี้ เอา ERIEYE จอดเสีย แล้วโยน Gripen ขึ้นฟ้า แล้วส่งข้อมูลจาก Ground-Based Radar ผ่าน Datalink ขึ้นไปครับ

อยากถามผู้รู้หน่อยว่า เรดาร์ของอิริอายกับเรดาร์ของอเมริกันแบบลักษณะเป็นเรโดมที่ทำงานแบบหมุนกวาดตรวจจับแตกต่างกันอย่างไร ประสิทธิภาพต่างกันมากไหม เพราะเห็นบางประเทศนิยมมากกว่า เช่น ญี่ปุ่น ไต้หวัน สิงคโปร์

ถ้าเอา S100B ติดอีริอายแล้วจอดไว้กับพื้นเฉยๆ ต่อให้เปิดเรดาร์ทำงานมันก็สู้สถานีเรดาร์ภาคพื้นปกติไม่ได้ครับ เพราะ ถึงแม้ว่าระยะตรวจจับอีริอายเท่ากับเรดาร์ภาคพื้น แต่เจ้า S100B มันอยู่ในสนามบินที่มีความสูงจากพื้นดินไม่มากและมีสิ่งบดบังโดยรอบ ต่างจากสถานีเรดาร์ซึ่งปกติจะตั้งอยู่ตามยอดเขาที่มีความสูงมากๆ และแทบไม่มีอะไรมาบดบังครับ

ผมว่าโอกาสที่ ฐานเรดาห์จะโดนวินาศกรรมจากหน่วยรบพิเศษหรือสายลับมีสูง ครับ ดังนั้นการมีอิริอายไว้ก้อเป็นการดี เพราะฐานเรดาห์มันเคลื่อนย้ายไม่ได้ แล้วประเทศเราคนก้อเข้าออกง่าย และการรบนอกเขต พื้นที่ประเทศไทย ก้ออาจจำเป็นต้องใช้อิริอาย ลำพังพึ่งตาของJAS คงไม่ได้ ผมยังมองว่า JAS-39+Erieye มันต้องขายคู่กันถ้าขายJAS-39 อย่างเดียวก้อไม่ควรไปซื้อ