เป็นการสรุปข่าวในแวดวงนาวี มาให้อ่านกันครับ
จากข่าวกองทัพเรือเดือน กุมภาพันธ์
ตัวเรือดูโทรมไปเยอะเลย จะได้รับการซ่อมไม๊ครับนี่
ความคิดเห็นที่ 1
ต้องขออภัยอย่างยิ่งครับ ตะกี้เน็ตผมล่มครับ เข้าเรื่องเลยดีกว่า
ผู้อำนวยการสำนักงานวิจัยและพัฒนาการทางทหารกองทัพเรือ ลงนามในสัญญาจ้างสร้างยานใต้น้ำขนาดเล็ก
วันนี้ (๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๑) เวลา ๑๑.๐๐ น. พลเรือตรี สมหมาย ปราการสมุทร ผู้อำนวยการสำนักงานวิจัยและพัฒนาการทางทหารกองทัพเรือ เป็นประธานในพิธีลงนามในสัญญาจ้าง บริษัทอู่กรุงเทพ จำกัด ในการสร้างยานใต้น้ำขนาดเล็ก ส่วนที่ ๑ ณ ห้องประชุม สำนักงานวิจัยและพัฒนาการทางทหารกองทัพเรือ เขตทวีวัฒนา กรุงเทพมหานคร
การจ้างสร้างยานใต้น้ำขนาดเล็กนี้ เป็นส่วนหนึ่งของโครงการวิจัยและพัฒนาที่ สำนักงานวิจัยและพัฒนาการทางทหารกองทัพเรือ เป็นหน่วยเจ้าของโครงการ โดยมี พลเรือตรี รองศาสตราจารย์ พงศ์สรร ถวิลประวัติ เป็นนายทหารโครงการ ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากกระทรวงกลาโหมเป็นเงินจำนวน ๒๔,๙๕๓,๒๐๐.- บาท (ยี่สิบสี่ล้านเก้าแสนห้าหมื่นสามพันสองร้อยบาทถ้วน) และจากสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ เป็นเงินจำนวน ๕,๐๐๐,๐๐๐.- บาท (ห้าล้านบาทถ้วน) โดยโครงการนี้มีระยะเวลาในการดำเนินการ ๓ ปี คือปีงบประมาณ ๒๕๕๐ - ๒๕๕๒ ทั้งนี้ กระทรวงกลาโหมได้อนุมัติให้มีการศึกษาความเป็นไปได้ในการสร้างเรือดำน้ำขนาดเล็กในประเทศมาแล้วก่อนหน้านี้ เมื่อปี ๒๕๔๗ และโครงการวิจัย ฯ ยานใต้น้ำขนาดเล็กนี้นับเป็นขั้นที่ ๒ ในการต่อยอดองค์ความรู้ที่ได้รับ โดยได้กำหนดวัตถุประสงค์ในการสร้างต้นแบบยานใต้น้ำขนาดเล็กระวางขับน้ำประมาณ ๒๐ ตัน ในประเทศไทย และทำการถ่ายทอดเทคโนโลยีเกี่ยวกับการออกแบบ การสร้างและการทดลองเรือ มาสู่ประเทศไทย ผลจากวิจัยนี้จะทำให้กองทัพเรือมียานใต้น้ำขนาดเล็กไว้สำหรับใช้การฝึกหัดกำลังพลในการสร้างความคุ้นเคยกับการปฏิบัติการใต้น้ำ ใช้ดัดแปลงในการทำภารกิจต่าง ๆ ทั้งทางยุทธการ การหาข่าว การสำรวจใต้น้ำ นอกจากนั้น ยังเป็นแนวทางทำให้อู่ต่อเรือในประเทศมีความชำนาญมากขึ้น จนสามารถต่อเรือดำน้ำขึ้นใช้ในประเทศได้โดยไม่ต้องซื้อจากต่างประเทศ หรือถ้ามีการจัดหาจากต่างประเทศ ความรู้ความเข้าใจในเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นจากการวิจัยจะทำให้กองทัพเรือสามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพและใช้งานได้อย่างคุ้มค่า
โดยคุณ
น่าคิด เมื่อวันที่
02/03/2008 10:01:12
ความคิดเห็นที่ 2
เบลูก้า สกายเซล เรือพลังงาน ว่าว
เอ็มเอส เบลูก้า สกายเซล เรือพลังงาน ว่าว ของเยอรมัน มีระวางขับน้ำ ๑๐,๐๐๐ ตัน ประหยัดพลังงานเชื้อเพลิงร้อยละ ๑๐ - ๑๕ หรือประหยัดเงินราว ๑,๐๐๐ - ๑,๕๐๐ ดอลลาร์ต่อวัน โดยใช้ ว่าว ที่ควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์เข้าช่วย ซึ่ง ว่าว นี้ทำงานได้อย่างเต็มที่ เมื่อเรือแล่นเข้าไปในเขต ลมสินค้า ใกล้กับเกาะอะซอเรส ในทะเลแอตแลนติก ระบบ สกายเซล ที่ใช้นี้ เพื่อลดก๊าซเรือนกระจก และยังไม่เคยนำมาใช้กับเรือพาณิชย์ลำใดมาก่อน
นายสตีเฟน วเรจ อายุ ๓๔ ปี วิศวกรอุตสาหกรรม ผู้พัฒนาระบบ สกายเซล กล่าวว่า มีความคิดเรื่องนำ ว่าว มาใช้ตั้งแต่ยังเป็นเด็กนักเรียน และถ้าเรือพาณิชย์ทั่วโลกนำระบบนี้มาใช้อย่างน้อยร้อยละ ๖๐ ของเรือทั้งหมด ๑๐๐,๐๐๐ ลำ ก็จะสามารถตัดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานเชื้อเพลิงลงไปได้ร้อยละ ๓๕ และยังช่วยลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เข้าสู่บรรยากาศโลก
ว่าว ราคา ๕๐๐,๐๐๐ ยูโร เป็นราคาที่ไม่รวมค่าใช้จ่ายในการวิจัยนาน ๕ ปี มีพื้นที่ทั้งหมด ๑๖๐ ตารางเมตร สามารถลอยขึ้นสูง ๓๐๐ เมตร จากระดับน้ำทะเล เพื่อรับลมที่แรงที่สุด จะได้ช่วยการ ขับเคลื่อนของเรือ เอ็มเอส เบลูก้า สกายเซล ที่มีความยาว ๑๓๒ เมตร และช่วยผ่อนภาระของเครื่องยนต์เรือ ซึ่ง ว่าว ยิ่งใหญ่เท่าใดยิ่งจะช่วยให้ประหยัดเชื้อเพลิงมากขึ้น ต่อไปจะพัฒนาว่าวให้มีขนาด ๓๒๐ ตารางเมตร และ ๖๐๐ ตารางเมตร คาดว่าอีก ๗ ปีข้างหน้า จะสามารถนำไปติดตั้งบนเรือ ๑,๕๐๐ ลำได้
อย่างไรก็ตาม กว่าจะนำระบบ สกายเซล มาใช้ได้จริง ก็ต้องผ่านการทดสอบอีกหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าใช้เวลาเดินทางที่นานกว่านี้ ระบบ สกายเซล จะสามารถประหยัดเชื้อเพลิงไปได้เท่าไหร่ วัสดุที่ใช้ในการทำว่าวจะทนทานต่อลมพายุได้หรือไม่ พร้อมกันนี้ ผู้ที่อยู่ในแวดวงอุตสาหกรรมเดินเรือยังสงสัยว่า พลังงานที่ได้รับจาก ว่าว จะสามารถนำไปใช้กับเรือบรรทุกน้ำมันได้หรือ เพราะเรือบรรทุกน้ำมันมีขนาดใหญ่กว่าเรือ เอ็มเอส เบลูก้า สกายเซล ราว ๒๕ - ๕๐ เท่า ซึ่งใหญ่มาก แล้ว ว่าว จะสู้ได้หรือ?
โดยคุณ
น่าคิด เมื่อวันที่
02/03/2008 10:02:06
ความคิดเห็นที่ 3
กองทัพเรือสิงคโปร์จะนำเรือฟริเกต ชั้น Formidable (La Fayette) เข้าประจำการเพิ่มเติมอีก ๓ ลำ
นายเตียว ชี เฮียน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสิงคโปร์ แถลงเมื่อวันที่ ๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๑ ที่ผ่านมา ว่า กองทัพเรือสิงคโปร์ ขึ้นระวางประจำการเรือฟริเกต ชั้น Formidable (La Fayette) เพิ่มเติม อีก ๓ ลำ คือ RSS Intrepid RSS Steadfast และ RSS Tenacious ที่ฐานทัพเรือชางงี คาดว่าที่เหลืออีก ๒ ลำ จะสามารถขึ้นระวางประจำการ ได้ภายในปี ๒๕๕๒ ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสิงคโปร์ แถลงด้วยว่า การประจำการเรือฟริเกตชั้นดังกล่าวจะทำให้กองทัพเรือสิงคโปร์มีขีดความสามารถในการทำสงครามทางทะเลได้ทุกมิติ ก่อนหน้านี้ กองทัพเรือสิงคโปร์ประจำการเรือฟริเกตชั้นดังกล่าวเป็นลำแรก ชื่อ RSS Formidable
โดยคุณ
น่าคิด เมื่อวันที่
02/03/2008 10:02:34
ความคิดเห็นที่ 4
กองทัพเรือเกาหลีใต้ต้องการจัดหาเรือพิฆาตติดตั้งระบบ Aegis เพิ่ม
สำนักข่าวยอนฮัป ของเกาหลีใต้ รายงานว่า กองทัพเรือเกาหลีใต้กำลังพิจารณาจัดหาเรือพิฆาตติดตั้งระบบ Aegis เพิ่มอีก ๓ ลำ ทั้งนี้ กองทัพเรือเกาหลีใต้ได้จัดหาเรือพิฆาตติดตั้งระบบ Aegis จำนวน ๓ ลำ ภายในปี ๒๕๕๕ โดยลำแรกได้ทำการปล่อยลงน้ำ เมื่อเดือนเมษายน ๒๕๕๐ และจะขึ้นระวางประจำการในปี ๒๕๕๒ ลำที่ ๒ มีกำหนดปล่อยลงน้ำในปี ๒๕๕๓ และลำที่ ๓ มีกำหนดปล่อยลงน้ำในปี ๒๕๕๕ อย่างไรก็ตาม กองทัพเรือเกาหลีใต้มีความต้องการอย่างน้อย ๖ ลำ โดยจะเสนอต่อคะเสนาธิการทหารร่วมและคณะกรรมาธิการกลาโหมของรัฐสภาต่อไป
โดยคุณ
น่าคิด เมื่อวันที่
02/03/2008 10:03:10
ความคิดเห็นที่ 5
เครื่องบินทิ้งระเบิดรัสเซียล้ำน่านฟ้าญี่ปุ่น บินข้ามเรือบรรทุกเครื่องบินสหรัฐ
กระทรวงกลาโหมของสหรัฐอเมริกา รายงานว่า เครื่องบินทิ้งระเบิด ๒ ลำ ของรัสเซีย ทียู - 95 แบร์ บินผ่าน ยูเอสเอส นิมิตซ์ เรือบรรทุกเครื่องบินของสหรัฐอเมริกาทางตะวันตกของแปซิฟิค ที่ระดับความสูง ๒,๐๐๐ ฟุต เมื่อเช้าวันเสาร์ที่แล้ว ขณะที่นิมิตซ์กำลังลาดตระเวนตามปกติ
เครื่องบินรบของสหรัฐ เอฟ - 18 จำนวน ๔ ลำ พบเครื่องบินทิ้งระเบิดของรัสเซีย หลังจากที่เครื่องบินของ รัสเซียเพิ่งบินผ่านเครื่องบินขนส่ง ยูเอสเอส นิมิตซ์ ไป จึงได้ขับไล่จนออกไปจากพื้นที่ แต่ไม่มีการ สื่อสารระหว่างเครื่องบินนิมิตซ์กับเครื่องบินของรัสเซีย และนิมิตซ์เดินทางกลับมาถึงท่าเรือซาเซโบของญี่ปุ่นแล้วเมื่อวันก่อน แต่ยังไม่แน่ชัดว่าสหรัฐอเมริกาจะทำหนังสือประท้วงไปยังรัสเซียหรือไม่
ก่อนหน้านี้เครื่องบินเอฟ - 15 ของญี่ปุ่นเคยสกัดเครื่องบินทิ้งระเบิดแบร์ของรัสเซียได้ ๒ ลำ เช่นกัน และขับไล่ออกไปจากพื้นที่ จากนั้นทางการญี่ปุ่นได้ทำหนังสือประท้วงไปยังทางการรัสเซีย แต่ทางการรัสเซีย ปฏิเสธว่าเครื่องบินของรัสเซียไม่ได้รุกล้ำน่านฟ้าของญี่ปุ่น เหตุการณ์ครั้งนี้ ได้เกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกันกับที่รัสเซียได้ รื้อฟื้นโครงการลาดตระเวนทางอากาศระยะไกล ที่เคยใช้ในช่วงสงคราม และเป็นครั้งที่ ๒ แล้วนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ๒๕๔๗ ที่เครื่องบินทิ้งระเบิดของรัสเซียบินผ่านเรือบรรทุกเครื่องบินของสหรัฐ คือ ยูเอสเอส คิตตี้ ฮอว์ก ในเขตทะเลญี่ปุ่น
โดยคุณ
น่าคิด เมื่อวันที่
02/03/2008 10:03:56
ความคิดเห็นที่ 6
ไต้หวันจะจัดหาเครื่องบินปราบเรือดำน้ำจากสหรัฐ ฯ
เมื่อวันที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๑ สำนักข่าว CAN ของจีน รายงานว่า ไต้หวันได้ลงนามกับสหรัฐ ฯ เพื่อจัดหาเครื่องบินปราบเรือดำน้ำ P-3C จำนวน ๑๒ เครื่อง และก่อสร้างศูนย์ซ่อมบำรุงในไต้หวัน โดยรายงานดังกล่าวได้รับการยืนยันจากนาย Wu Wei - Jung ผู้อำนวยการกรมจัดหายุทโธปกรณ์ของไต้หวัน ว่า ไต้หวันได้ลงนามสัญญากับบริษัท Lockheed Martin เมื่อเดือนธันวาคม ๒๕๕๐ โดยสัญญาดังกล่าว รวมถึงการถ่ายโอนเทคโนโลยีหรือความร่วมมือด้านอุตสาหกรรม ซึ่งเครื่องบิน P-3C จำนวน ๘ ใน ๑๒ เครื่อง จะผลิตในไต้หวันเช่นเดียวกับเครื่องจำลองการบิน ๑ เครื่อง อนึ่ง ไต้หวันยังต้องการจัดหาเครื่องบิน F-16 C/D จำนวน ๖๐ เครื่อง เรือดำน้ำพลังดีเซล ๘ ลำ และอาวุธปล่อย PAC-3 จำนวน ๖ ชุด จากสหรัฐ ฯ
โดยคุณ
น่าคิด เมื่อวันที่
02/03/2008 10:04:34
ความคิดเห็นที่ 7
โสมยึดเรือรัสเซีย - ชี้แล่นใกล้ฐานขีปนาวุธ
บีบีซี รายงานว่า ยามฝั่งติดอาวุธสงครามของประเทศเกาหลีเหนือ บุกขึ้นไปยึดเรือขนส่งสินค้าสัญชาติรัสเซียและบังคับให้แล่นไปจอดยังท่าเรือเมืองชองจีน เบื้องต้นเชื่อว่าสาเหตุเนื่องจากเรือลำดังกล่าวแล่นเข้าไปใกล้กับฐานทดสอบขีปนาวุธมากเกินไป
รายงานแจ้งว่า เรือลิดา เดอเมช สัญชาติรัสเซีย บรรทุกรถยนต์ออกจากประเทศญี่ปุ่น เพื่อมุ่งหน้านำไปส่งยังท่าเรือเมืองวลาดิวอสสต๊อก ประเทศรัสเซีย แต่ระหว่างทางมีพายุฝนตกหนัก กัปตันจึงหันหัวเรือมุ่งหน้านำเรือแล่นเข้าไปในจุดปลอดภัย ห่างจากชายฝั่งแหลมมูซูดา ซึ่งเป็นน่านน้ำเกาหลีเหนือประมาณ ๕.๕ กิโลเมตร ทำให้เรือลาดตระเวนเกาหลีเหนือเข้ามาสกัดกั้น ขณะที่ยามฝั่งได้บุกขึ้นไปควบคุมตัวลูกเรือลิดา เดอเมช ๒๕ คน
หลังเกิดเหตุไม่มีการแถลงสาเหตุการยึดเรือรัสเซีย แต่เชื่อว่าเป็นเพราะแล่นเข้าไปใกล้กับฐานทดสอบขีปนาวุธของกองทัพเกาหลีเหนือมากเกินไป ก่อนหน้านี้เมื่อปี ๒๕๔๘ เคยเกิดเหตุการณ์ในลักษณะเดียวกัน แต่รัฐบาลทั้งสองชาติใช้ช่องทางการทูตเจรจาหาทางออกกันได้ภายใน ๑๕ วัน
โดยคุณ
น่าคิด เมื่อวันที่
02/03/2008 10:05:29
ความคิดเห็นที่ 8
หน่วยยามฝั่งเกาหลีใต้จัดซื้อ ฮ.AW 139 จำนวน ๒ เครื่อง
เมื่อสัปดาห์ก่อน บริษัท AgustaWestland แถลงว่า รัฐบาลเกาหลีใต้ลงนามสัญญาจัดหาเฮลิคอปเตอร์ AW139 จำนวน ๒ เครื่อง เพื่อประจำการในหน่วยยามฝั่งสำหรับใช้ในการตรวจการณ์ทางทะเล ปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัย (SAR) การส่งกลับทางสายแพทย์ (EMS) มีกำหนดนำเข้าประจำการในสิ้นปี ๒๕๕๒ ฮ.ดังกล่าวเป็น อ.เครื่องยนต์คู่ บรรทุกผู้โดยสาร ๑๕ คน หรือน้ำหนัก ๒,๕๐๐ กิโลกรัม ความเร็วสูงสุด ๑๕๗ นอต ระยะปฏิบัติการสูงสุด ๗๕๐ กิโลเมตร บินต่อเนื่องเป็นเวลา ๕ เซนติเมตร ได้รับการติดตั้งกล้องอินฟาเรด (FLIR) เรดาร์ค้นหา/ตรวจสภาพอากาศทุ่นลอยฉุกเฉิน ตลอดจนอุปกรณ์ในการค้นหาและกู้ภัยอื่น ๆ
โดยคุณ
น่าคิด เมื่อวันที่
02/03/2008 10:06:05
ความคิดเห็นที่ 9
เป็นข่าวความเคลือนไหวในแวดวงนาวี ในรอบเดือนที่ผ่านมา
ต้องขอโทษอีกครั้งครับที่โพสล่าช้าหลังเปิดกระทู้ อยู่ๆสัญญาณ ADSL มันหายไปเฉยๆ ของทรูไม่เป็นนะครับ เดินไปถามน้องห้องข้างๆมาแล้ว
ใครงอน เดี๋ยวบอกแฟนปล่อยที่จับอยู่นั่นเลย หุ...หุ...หุ....
โดยคุณ
น่าคิด เมื่อวันที่
02/03/2008 10:09:29
ความคิดเห็นที่ 10
ซีลไทยจะมียานปฏิบัติการใต้น้ำใช้แล้ว อิอิอิ
โดยคุณ analayo เมื่อวันที่
02/03/2008 19:38:00
ความคิดเห็นที่ 11
หน่วยสงครามพิเศษทางเรือของไทยน่าจะมียานปฏิบัติการใต้น้ำสำหรับปฏิบัติการพิเศษใช้มานานแล้วครับ ซึ่งเคยเห็นตั้งแสดงในส่วนพิพิธภัณฑ์ของกองทัพเรือที่ลงตีพิมพ์ในนิตยสาร(แต่จำไม่ได้ว่าเล่มไหนแต่ว่าเคยเห็น) ซึ่งยานเหล่านี้คงจะหมดอายุการใช้งานไปนานแล้วครับ
นับเป็นเรื่องดีครับที่กองทัพเรือจะต่อยอดพัฒนายานใต้น้ำขนาดเล็กแบบนี้ได้ ซึ่งสามารถนำมาใช้งานได้หลากหลายครับ (สังเกตว่าในช่วงงบประมาณ4-5ปีหลังมานี้กองทัพเรือใหก้ความสำคัญกับการพัฒนา นสร.มากขึ้นเป็นพิเศษครับ)
โดยคุณ
AAG_th1 เมื่อวันที่
02/03/2008 22:05:55
ความคิดเห็นที่ 12
เค้าอาสังกะสีรางน้ำมาทำเรือเหรอครับบุบซะขนาดนั้น ไม่เคยพบไม่เคยเห็น ไม่เข้าใจแนวคิดทร.จริงๆ
โดยคุณ fujiwara เมื่อวันที่
02/03/2008 23:40:22
ความคิดเห็นที่ 13
เหล็กโครงตัวเรือมันหดตัวตามอายุการใช้งานซึ่งเป็นเรื่องปกติของเรือครับ
เรือชุดเรือหลวงราชฤทธิ์ในภาพคือ ร.ล.ราชฤทธิ์(321) และ ร.ล.วิทยาคม(322)เป็นเรือเร็วโจมตีที่ต่อจากอู่ประเทศอิตาลีขึ้นระวางประจำการตั้งแต่ปี 2522 แล้วครับ
ซึ่งคงน่าจะได้รับการซ่อมบำรุงแล้วครับ(ภาพนี้ไม่ทราบว่าถ่ายเมื่อปีไหน)
โดยคุณ
AAG_th1 เมื่อวันที่
03/03/2008 03:55:58
ความคิดเห็นที่ 14
ตอบคุณ AAG_th1 ครับ....
รูปเรือทั้ง 2 ลำ ถูกถ่ายเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2550 ขณะเดินทางไปฝึกร่วม ที่ประเทศมาเลเซียครับ...
โดยคุณ highskygate เมื่อวันที่
03/03/2008 08:38:45
ความคิดเห็นที่ 15
ขอบคุณมากครับคุณ highskygate
ถามเพิ่มเติมอีกหน่อยครับว่าในภาพข้างบนนี้เป็น ร.ล.ปัตตานี หรือ ร.ล.นารธิวาสครับ
โดยคุณ
AAG_th1 เมื่อวันที่
03/03/2008 21:29:04
ความคิดเห็นที่ 16
ภาพข้างบนคือ เรือหลวง นราธิวาส ครับ...
โดยคุณ highskygate เมื่อวันที่
03/03/2008 23:26:28
ความคิดเห็นที่ 17
เออ อยากถามผู้รู้หน่อยคับ เรือเวลาใช้ไปนานๆตัวเรือมันหดตัวด้วยเหรอคับ เคยแต่ได้ยินเรื่องเหล็กโดนความร้อนมันจะยืดตัว ความเย็นก็หดตัว ก็เลยอยากทราบว่าลำตัวเรือที่เห็นมันเกิดจากสาเหตุอันใด
แบบว่าสงสัย เพราะเห็นแต่รอยเหมือนจะบุปเข้าไป ที่บุปมากหน่อย รอยบุ๋ม ไม่น่าเกิดจากหดม้าง น่าจากโดนแรงกดกระแทกมากกว่า ส่วนที่หดเป็นรอยก็มีบ้างตามลำตัวเรือทั่วไป ดาดฟ้าไม่ค่อยบุปเท่าไหร่ เลยสงสัย ตอนแรกนึกว่าเรือไปชนกะใครมา กำลังจาแนะนำให้ไปจ้างช่าง เคาะ พ่นสีรถมาซ่อมแล้วน่ะเนียะ อิอิ
โดยคุณ
kingkong_army เมื่อวันที่
04/03/2008 04:33:00
ความคิดเห็นที่ 18
เรือที่ใช้ไปนานๆมันไม่หดหรอกครับคุณวานรยักษ์กองทัพบก แต่ถ้าจะบอกว่าเมื่อใช้เหล็กไปนานๆนั้นจะเสียรูปหรือเปล่าก็คงจะตอบได้ว่าคงมีกระทบกระทั่งกับโขดหินมั่ง กับเรือเล็กมั่ง กับท่าเรือมั่งประมาณนี้ล่ะครับ และถ้าหากเรือโดนเปลี่ยนอุณหภูมิกันบ่อยๆ เช่นระหว่างผิวเรือบนแดดร้อนจัดกับช่วงล่างของเรือที่ติดกับพื้นน้ำล่ะก็ มีโอกาสได้สูงที่จะบิดตัวเสียรูป(distortion) ไปได้ครับผม เนื่องจากความแตกต่างของช่วงอุณหภูมิทำให้อัตราการขยายตัวของเหล็กแต่ละจุดมันเอื้อกันบ้างครับ แต่มีผลน้อยมาก หากเป็นเหล็กแผ่นหนาๆอย่างเรือรบครับผม ส่วนมากเค้าจะกลัวเหล็กเปลี่ยนโครงสร้างแล้วแตกหัก(crack) จากรูอากาศในเหล็กที่เกิดจากการผลิตแผ่นเหล็กที่ไม่ได้คุณภาพมากกว่าครับ และมักจะกลัวๆกันแถวๆประเทศที่มีน้ำแข็งเยอะๆด้วยครับผม เรือของชู้รักเรือล่ม(ไตตานิค)ก็มีส่วนหนึ่งของข้อบกพร่องทางโลหวิทยาที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดการล่มด้วยเช่นกันครับผม
โดยคุณ
TigerOod เมื่อวันที่
04/03/2008 23:44:07
ความคิดเห็นที่ 19
ขอคุณคุณเสืออ๊อดที่ตอบคราบ
แล้ววิธิแก้ไขมีหรือเป่าคับ กับเวลาที่เรือรบต้องเข้าอู่เป็นเวลานานๆนี่เค้าเข้าไปซ่อมแซมส่วนใดบ้างครับ รอยพวกนี้ซ่อมได้ไหมครับ แบบว่าอนาคต คาดว่าจะตั้งบริษัทอู่ต่อเรือรบขายกองทัพเรืออ่ะคับ อิอิ
โดยคุณ
kingkong_army เมื่อวันที่
08/03/2008 01:46:50