หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


ลายพรางใหม่ของกองทัพบกสหรัฐฯ และสงครามที่เปลี่ยนไป

โดยคุณ : PHEETOH เมื่อวันที่ : 03/02/2011 11:17:35

กองทัพสหรัฐอเมริกาคือกองกำลังที่ปฏิบัติงานเป็นขอบเขตกว้างขวางที่สุดในโลก นับแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 สหรัฐฯยังส่งทหารเข้าสู้รบในสงครามใหญ่น้อยอีกหลายครั้ง ทั้งในนามของสหประชาชาติและที่บุกเดี่ยวโดยลำพัง ตั้งแต่สงครามเกาหลี สงครามเวียตนาม ปานามา และล่าสุดคือสงครามยึดครองอิรัก การทำสงครามบ่อยครั้งเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของตนเอง  ทำให้กองทัพต้องปรับปรุงเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอเพื่อคงความได้เปรียบและลดการสูญเสียกำลังพล นอกจากยุทโธปกรณ์ต่างๆแล้วสิ่งหนึ่งที่เห็นชัดเจนก็คือรูปแบบและลวดลายของเครื่องแบบ  ทั้งเครื่องแบบสนามและเครื่องแบบปกติ  โดยเฉพาะเครื่องแบบสนามแบบล่าสุดนั้นถือว่าเป็นความเปลี่ยนแปลงแบบพลิกผันเพราะแตกต่างจากแบบเดิมสิ้นเชิง  ทั้งสีสันและการตัดเย็บ

                เครื่องแบบสนามกองทัพบกสหรัฐฯ(Army Combat Uniform  ACU)ที่เราเห็นบ่อยขึ้นจากสื่อต่างๆนี้  เป็นผลมาจากกระบวนการปรับเปลี่ยนครั้งสำคัญด้านการซ่อนพรางของหน่วยรบภาคพื้นดิน  หลังจากปล่อยให้เหล่านาวิกโยธินนำหน้าไปก่อนด้วยรูปแบบ”มาร์แพท”(Marine Pattern MARPAT)  เป็นลายพรางจุดสี่เหลี่ยมเล็กๆหลากสีเรียงตัวเต็มพื้นที่ทั้งเสื้อและกางเกง  โดยACUก็มีลักษณะการวางตัวของลวดลายแบบเดียวกัน เพียงแต่สีสันเท่านั้นที่แตกต่างเพื่อบ่งบอกสถานภาพชัดเจนว่าเครื่องแบบลวดลายนี้คือทหารบก

                กระบวนการเปลี่ยนแปลงเครื่องแบบของท.บ.สหรัฐฯนี้  เริ่มต้นขึ้นเป็นทางการในเดือนเมษายน 2005 โดยการเข้ามาทดแทนเครื่องแบบเดิมทั้งแบบพรางป่า(Woodland) และลายพรางทะเลทรายสามสี(Three Colors Desert Pattern)  เปลี่ยนลวดลายและรูปแบบใหม่ให้ใช้ทดแทนของเดิมทั้งหมดภายในปี 2007

                เครื่องแบบใหม่หรือACUนี้ใช้ลวดลายใหม่ในชื่อว่า Universal Camouflage Pattern(UCP)เรียกอย่างไม่เป็นทางการว่า”ลายพรางดิจิตอล” จากลวดลายจุดสี่เหลี่ยมเล็กๆคล้ายภาพสร้างจากคอมพิวเตอร์ เป็นการผสมผสานกันระหว่างสีเขียว,น้ำตาลอ่อนและเทา  นอกจากลวดลายจุดสี่เหลี่ยมเล็กๆเรียงรายไม่เป็นรูปทรง  คล้ายคลึงกับลายMARPATดังกล่าว มันยังไปคล้ายกับลายCanadian Disruptive Pattern(CADPAT)ของท.บ.คานาดาด้วย

ไม่ว่าลวดลายทั้งของคานาดาและสหรัฐฯจะเหมือนหรือแตกต่างอย่างไรก็ตาม  ทั้งหมดมีต้นกำเนิดมาจากลายพรางของกองทัพเยอรมันในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 มีชื่อเรียกเฉพาะว่า”เฟล็คตาร์น”(Flecktarn”การซ่อนพราง”ในภาษาเยอรมัน) ซึ่งต่อมาได้ถูกปรับเปลี่ยนเล็กน้อยเพื่อใช้เป็นลายพรางเครื่องแบบทหารใน”บุนเดสแวร์”(Bundeswehr กองกำลังป้องกันสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี)ในปัจจุบัน

                สีสันใหม่ที่ใช้กับACUนี้แตกต่างจากเดิม  แม้จะมีสีเขียว,น้ำตาลและเทา  แต่ก็ไม่มีสีดำเหมือนลายพรางป่าเดิม เพราะถูกพิจารณาแล้วว่ามองเห็นได้ง่ายไม่กลมกลืนไปกับสิ่งแวดล้อม และในสภาพธรรมชาติจริงๆก็มีสีดำให้เห็นน้อยมาก  เป็นผลจากการวิจัยของUnited States Army Soldier System Center(SSC) ศูนย์การวิจัยและพัฒนากองทัพบกในเมืองเนติกรัฐเมสสาชูเซ็ตต์ หน่วยงานสังกัดกระทรวงกลาโหมเพื่อวิจัยและพัฒนาสิ่งอุปกรณ์ต่างๆให้กองทัพ เน้นประโยชน์ใช้สอยและความอยู่รอดในสนามรบ 

ความโดดเด่นเห็นได้ชัดคือการใช้จุดสี่เหลี่ยมเล็กๆมาเรียงตัวไม่เป็นระเบียบ ทั้งแบบเป็นแถบและเป็นจุดเดี่ยวๆกระจายตัวเต็มผืนผ้าสลับไปมาทั้งสีเขียว,เทาและน้ำตาลอ่อน    เมื่ออยู่ในภูมิประเทศโดยเฉพาะเขตเมือง จะแยกแยะตัวทหารออกจากฉากหลังได้ยากกว่าลวดลายเดิมแบบเส้นเรียบมีสีดำปน





ความคิดเห็นที่ 1


ACUไม่ใช่แค่ความเปลี่ยนแปลงด้านลวดลาย  แต่รูปแบบการตัดเย็บก็แตกต่างจากของเดิมเห็นได้ชัด กระเป๋าเสื้อเดิมซึ่งมี 4 จุดยังคงอยู่  แต่เปลี่ยนให้สองใบด้านล่างใกล้ชายเสื้อมาติดที่แขนเสื้อใต้แนวไหล่ มีแถบเวลโครเพื่อติดสังกัดและเหล่า ฝากระเป๋าแขนเสื้อมีแถบอินฟราเรดบอกฝ่ายกว้าง,ยาวด้านละ1ซ.ม.ทั้งซ้ายขวา ทหารสามารถมองเห็นแถบนี้ได้ด้วยกล้องมองกลางคืน(Night Vision Goggle)  เครื่องหมายบอกชั้นยศเปลี่ยนจากหัวไหล่มาติดกึ่งกลางหน้าอกด้วยแถบเวลโคร  เมื่อสวมเกราะทับก็ถอดเครื่องหมายยศมาติดบนเกราะหรือหมวกนิรภัยแทน   กระดุมด้านหน้าถูกเปลี่ยนเป็นซิปมีแถบเวลโครติดสาบเสื้อเพื่อซ่อนซิป3จุด  กระเป๋าหน้าอกที่ยังคงอยู่ถูกเปลี่ยนรูปแบบให้เฉียงลงแต่เล็กกว่าเดิมเพื่อสะดวกแก่การใช้สอย  ฝาปิดติดแถบเวลโครเช่นกัน

หมวกนิรภัยก็เปลี่ยนใหม่เช่นกัน  จากเดิมที่ใช้หมวกผลิตจากแผ่นเคฟลาร์แบบ K-Pot มีสายรัดคางยึดติดหมวก2จุดเช่นที่เห็นในสงครามอ่าวครั้งแรก ก็เปลี่ยนเป็น Advance Combat Helmet(ACH)ที่เล็กลงแต่บุภายในด้วยฟองน้ำ สายรัดคางยึดหมวกเพิ่มเป็น4จุดบุฟองน้ำที่ท้ายทอยเพิ่มความกระชับ ไม่กระเด้งกระดอนบนศีรษะขณะวิ่ง  ใช้ประกอบชุดวิทยุสื่อสารหรืออุปกรณ์อื่นได้ เช่นระบบจอแสดงผลการรบ Head Up Display (HUD)  ขาติดตั้งกล้องNVG หรืออุปกรณ์อื่น

                ที่ลวดลายและรูปแบบการตัดเย็บเป็นเช่นนี้ เพราะสงครามสมัยใหม่เน้นการสู้รบในเขตเมืองมากยิ่งขึ้น  เห็นได้จากปฏิบัติการทางทหารของอเมริกาทั้งในอิรักและอาฟกานิสถาน เน้นการสู้รบระยะประชิดในย่านชุมชน รายล้อมด้วยหมู่อาคารใหญ่น้อย ทหารจึงเคลื่อนที่ช้าแบบอาคารต่ออาคาร เฝ้าระวังทั้งกองโจรปกติและพลซุ่มยิง ทำให้สวมเครื่องแบบแล้วยังต้องสวมเกราะและอุปกรณ์หลากหลายทั้งกระสุนและอุปกรณ์ช่วยรบอื่นๆ เครื่องแบบรุ่นใหม่จึงต้องเอื้ออำนวยต่อการเคลื่อนไหวและประโยชน์ใช้สอยจริงๆมากที่สุด  โดยใช้ข้อมูลจากทหารในหน่วยรบมาเป็นตัวกำหนดรูปแบบการตัดเย็บ

                แม้ฝ่ายวิจัยและพัฒนาจะอ้างว่าเครื่องแบบใหม่นี้ใช้งานได้ทุกสภาพภูมิประเทศ  แต่ทหารที่สวมใส่มันเข้าสู้รบจริงๆกลับบอกว่าเพราะมีสีเขียวตุ่นๆมากกว่าสีอื่น  จึงพรางตัวได้ไม่ดีเท่าไรในเขตป่าและทะเลทราย กระนั้นฝ่ายวิจัยและพัฒนาก็แย้งกลับมา  ว่าผลจากการทดลองในสภาพแวดล้อมเปรียบเทียบกับลายพรางอื่นๆแล้วลายพรางACUกลมกลืนกว่าจริงๆ 

เป็นเพราะหลักนิยมของการทำสงครามปัจจุบันเปลี่ยนไปจากเดิม เมื่อการสู้รบในปัจจุบันเป็นการรบในเมืองเสียเกือบ 90 เปอร์เซ็นต์  ฝ่ายตั้งรับตักตวงผลประโยชน์เต็มที่ทั้งจากการแอบแฝงฝูงชนและซอกหลืบของอาคาร  ทำให้ฝ่ายยกเข้ากวาดล้างต้องทำทุกอย่างเพื่อช่วงชิงความได้เปรียบ  ทหารท่านใดที่เคยฝึก”เมาท์”(Military Opration on Urban Terrain  MOUT)มาแล้วย่อมทราบดีว่ากองโจรเพียงหยิบมือเดียวสามารถตั้งยันฝ่ายเข้าตีใช้กำลังมากกว่าหลายเท่าได้ 

ตัวอย่างเห็นชัดๆของ”เมาท์”  คือสงครามยึดเมืองสตาลินกราดในสงครามโลกครั้งที่ 2  ศึกวันตรุษญวนในเมืองเว้ครั้งสงครามเวียตนาม  เหตุการณ์”แบล็คฮอว์คดาวน์”ที่กรุงโมกาดิสชูประเทศโซมาเลีย และเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาคือสงครามกวาดล้างในเมืองฟัลลูจาห์ของอิรักทั้งสองครั้งในปี2004  ระหว่างกองกำลังนาวิกโยธินสหรัฐฯอาวุธครบมือทั้งเครื่องบินและรถถัง กับฝ่ายต่อต้านกำลังน้อยกว่าที่ใช้อาวุธพื้นฐานเช่นปืนAK-47และเครื่องยิงจรวดRPG  แต่ใช้ประโยชน์เต็มที่จากหมู่อาคารและฝูงชน  ทวีความยากลำบากให้แก่ฝ่ายปราบปรามซึ่งต้องใช้ทรัพยากรสิ้นเปลืองกว่าการรบในป่ามหาศาล 

ราคาของเครื่องแบบใหม่ของท.บ.สหรัฐฯนี้ทั้งเสื้อและกางเกงคือ 76 ดอลลาร์  เทียบกับของเดิมแบบพรางป่ามีราคา 58 ดอลลาร์แต่กองทัพก็ปรับเพิ่มเบี้ยค่าเครื่องแบบให้ทหารตามไปด้วย  ราคานี้ยังไม่รวมค่าแถบชื่อ เหล่า สังกัด ชั้นยศซึ่งทหารต้องจ่ายเพิ่มอีกเล็กน้อยแต่จ่ายเพียงครั้งเดียว  เครื่องหมายบุแถบเวลโครข้างหลังนี้สามารถดึงลอกไปติดเครื่องแบบชุดอื่นที่มีอยู่ได้

โดยคุณ PHEETOH เมื่อวันที่ 25/02/2008 07:35:38


ความคิดเห็นที่ 2


ข้อบ่งชี้เพื่อการบำรุงรักษาให้เครื่องแบบใช้งานได้นานได้บอกไว้ว่าห้ามลงแป้งเด็ดขาด  ตามข้อความตอนหนึ่งในวิธีดูแลระบุว่า”ห้ามไม่ให้ทหารลงแป้งเครื่องแบบACUนี้เด็ดขาด  การลงแป้ง แก้ไขขนาด หรือกระทำการด้วยกรรมวิธีอื่นใดเช่นซักแห้งหรืออบไอน้ำจะมีผลกระทบต่อความทนทานของเนื้อผ้า  และไม่อนุญาตให้ทำเช่นนั้น”  วิธีการดูแลที่ถูกคือต้องซักด้วยน้ำธรรมดากับผงซักฟอกอย่างอ่อน  ปราศจากน้ำยาฟอกหรือกัดสีผ้า  ให้ตากเครื่องแบบไว้ในที่อุณหภูมิห้อง  หลังจากซักแล้วสะบัดแขวนเลยโดยไม่ต้องบิด 

กองทัพจะแจกเครื่องแบบให้ปีละสองชุด เพราะอายุการใช้งานของเครื่องแบบถูกกำหนดมาให้ใช้ได้ชุดละ 6 เดือน ตอนเพิ่งเข้าประจำการใหม่ๆเครื่องแบบลายนี้ค่อนข้างมีปัญหา  เช่นตะเข็บปริ เนื้อผ้าขาดแล้วลุ่ย ในปีหลังๆนี้มันได้ถูกปรับปรุงให้ดีขึ้นด้วยผ้าเนื้อคอตตอนผสมโพลีเอสเตอร์  เบาสบายไม่ลุ่ยลวดลายพิมพ์ชัดกว่าเดิม

ความเปลี่ยนแปลงด้านรูปแบบการตัดเย็บและลวดลายเครื่องแบบท.บ.สหรัฐฯ  สะท้อนให้เห็นถึงหลักนิยมในการทำสงครามที่เปลี่ยนไป  จากการรบในป่าและทะเลทรายมาเป็นการรบในเมือง  เป็นยุทธวิธีที่ฝ่ายตั้งรับได้เปรียบ  สามารถใช้กำลังพลน้อยช่วงชิงความได้เปรียบได้จากซอกมุมของอาคารสถานที่  กดดันและข่มขวัญฝ่ายกวาดล้างได้มหาศาล ด้วยอาวุธเบาทั้งปืนเล็กยาว,กับดักสังหารบุคคล,ทุ่นระเบิดทำลายรถถังและพลซุ่มยิง  กองโจรไร้เครื่องแบบเร้นกายในฝูงชนยากต่อการพิสูจน์ฝ่าย

ไม่ใช่เรื่องแปลกหากกองทัพสหรัฐฯจะบอกใครๆว่าตนพร้อมที่สุดในโลก  ทั้งกำลังพลและยุทโธปกรณ์ เพราะต้องทำสงครามปกป้องผลประโยชน์อยู่ตลอดเวลาไม่ว่าในยุคของประธานาธิบดีคนไหน  ความเปลี่ยนแปลงเท่านั้นที่จะคงความได้เปรียบไว้ได้ทุกสถานการณ์และทุกสมรภูมิ

                แล้วกองทัพบกไทยของเราล่ะ  เมื่ออเมริกามหามิตรที่ส่งทหารมาร่วมซ่อมรบเป็นประจำเปลี่ยนสไตล์การแต่งกาย  ทหารบกไทยมีอะไรปรับเปลี่ยนบ้างหรือเปล่า?  ตอบได้ว่าเปลี่ยนสีสันลวดลายของเครื่องแบบเหมือนกัน  จากลายพรางป่าท.บ.ที่เราเห็นกันเจนตามาเป็นลายพรางป่าดิจิตอล  คล้ายคลึงกับลายCADPATของคานาดา  เพราะภูมิประเทศบ้านเราอยู่ในเขตร้อนชื้นจึงไม่เหมาะจะใช้สีสันแบบเดียวกับท.บ.สหรัฐฯ  ลายพรางดิจิตอลของท.บ.ไทยนี้เปิดตัวไปแล้วในงาน Defense and Security 2007 ปลายปีก่อนที่ศูนย์แสดงสินค้าอิมแพคต์เมืองทองธานี  คาดว่าลายเครื่องแบบใหม่ของท.บ.ไทยจะเป็นที่พบเห็นมากขึ้นเรื่อยๆ หลังจากทยอยปลดประจำการเครื่องแบบลายเก่า 

                อาวุธของเราอาจด้อยกว่าก็จริง  แต่เรื่องความ”เท่”ทหารไทยไม่เคยเป็นรองใครอยู่แล้วครับท่าน!

               

โดยคุณ PHEETOH เมื่อวันที่ 25/02/2008 07:36:02


ความคิดเห็นที่ 3


ทหารอเมริกันคนหนึ่งที่มาเดินเที่ยวในงานรวมพลคนรักบีบี ที่กรมทหารราบที่ 11 กำลังให้สัมภาษณ์ เมื่อถูกถามความเห็นเกี่ยวกับนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน


โดยคุณ PHEETOH เมื่อวันที่ 25/02/2008 07:40:53


ความคิดเห็นที่ 4


รูปแบบลายพราง Digital ในงาน Defense & Security 2007 ถ่ายภาพโดยคุณCAPT.TOM

src=http://www4.pantown.com/data/428/board1/4498-20071110133525.jpg

src=http://www4.pantown.com/data/428/board1/4498-20071110133736.jpg

รูปแบบลายพรางนั้นคล้ายกับของเดิมครับ แต่ถ้าสังเกตุใกล้ๆแล้วจะเห็นว่าลายมีขนาดเล็กกว่า และเป็นเม็ด Pixel
ซึ่งรูปแบบนี้เหมือนกับว่าสร้างโดยการนำเอาลายพรางเดิมไปใส่ Photoshop แล้วทำ Filter Pixelate แล้วพิมพ์ครับ
(เคยเห็นมีขายเป็นกระเป๋าในจตุจักรมา2-3ปีแล้วครับ)

ชุดนี้ถูกแจกให้ทหารไทยที่ไปรักษาสันติภาพในนามกองกำลังสหประชาชาติที่ ดาร์ฟัวร์ ประเทศซูดานครับ ซึ่งถ้าผลการทดสอบเป็นที่น่าพอใจก็จะถูกผลิตขึ้นมาแจกให้กำลังพลเป็นจำนวนมากต่อไปครับ
(แต่จริงๆไปที่ซูดานนี้ภูมิประเทศมันเป็นเขตแห้งแล้งนะครับโทนพรางแบบนี้มันเหมาะกับป่าภูเขา ตอนนี้ชุดทหารที่ไปปฏิบัติการที่นั้นอาจจะกลับมาแล้วครับ แต่ผลการทดสอบชุดคงมีการรายงานเป็นการภายในครับ)

โดยคุณ AAG_th1 เมื่อวันที่ 25/02/2008 08:17:46


ความคิดเห็นที่ 5


รูปไม่ติด Linkไปที่หน้านี้ครับ

http://www.pantown.com/board.php?id=428&area=4&name=board1&topic=4498&action=view

โดยคุณ AAG_th1 เมื่อวันที่ 25/02/2008 08:20:42


ความคิดเห็นที่ 6


พูดถึงตอนประกวดลายพรางของอเมริกาก็มีการพูดถึงอีกลายหนึ่งเรียกว่า Multicam ที่ว่ากันว่าพรางดีนักดีหนาด้วยนี่ครับ (ขนาดในเกม GRAW ยังใช้เลย) อยากทราบเหมือนกันว่าอาโต และคนอื่นๆ มีความเห็นกับลายพรางอันนั้นว่าอย่างไรบ้าง เพราะส่วนมากผมไปดูในเว็บต่างประเทศคนเชียร์ Multicam ก็มากอยู่ ทั้งชาว BB ก็ใช้มาก

ปล. ผมคิดว่าเพราะ Multicam ราคาแพงอาเจียนเป็นโลหิตเลยไม่มีใครเอา

โดยคุณ Praetorians เมื่อวันที่ 26/02/2008 01:22:16


ความคิดเห็นที่ 7


ทดสอบการโพส
โดยคุณ Skyman เมื่อวันที่ 26/02/2008 09:06:35


ความคิดเห็นที่ 8


เข้ามาลงชื่ออ่าน

สบายดีไหมครับ พี่โต

โดยคุณ ลมหมุนวน เมื่อวันที่ 28/03/2010 22:58:59


ความคิดเห็นที่ 9


ท่าทางระบบมันเพี้ยนครับ เป็นกระทู้เก่า อยู่ๆ ดีมันก็เปลี่ยนวันที่ ^_^
โดยคุณ Ronin เมื่อวันที่ 28/03/2010 23:45:18


ความคิดเห็นที่ 10


แป่ว กระผมหน้าแตกสิครับ  - -
โดยคุณ ลมหมุนวน เมื่อวันที่ 29/03/2010 14:43:21