ตามหลักการตั้งชื่อเรือหลวงโดยใช้พระนามหรือราชทินนามของบุคคลสำคัญของชาตินั้นจะตั้งให้แก่เรือที่เป็นเรือพิฆาตครับ ซึ่งเช่น ร.ล.นเรศวร, ร.ล.ตากสิน, ร.ล.พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก และ ร.ล.พระพุทธเลิศหล้านภาลัย นั้นถึงแม้ว่าตามหลักการจัดประเภทเรือสากลนั้นเรือเหล่านี้จะเป็นเรือฟริเกตก็ตามแต่กองทัพเรือจัดเรือเหล่านี้เป็นเรือพิฆาตเพราะเป็นเรือที่มีขนาดใหญ่และมีสมรรถนะสูงครับ

ส่วนเรือฟริเกตนั้นจะตั้งตามชื่อแม่น้ำสายสำคัญครับ เช่น ชั้น ร.ล.เจ้าพระยาเป็นต้น เรือคอร์เวต จะตั้งชื่อตามเมืองหลวงและเมืองสำคัญตามประวัติศาสตร์ เช่ ชั้น ร.ล.รัตนโกสินทร์ เป็นต้น

ถ้านับจากอดีตไปนั้นเรายังมีเรือหลวงหลายลำที่นำพระนามหรือชื่อวีรบุรุษสำคัญของชาติมาเป็นชื่อเรือมาแล้วครับเช่น ร.ล.พระร่วง ซึ่งเป็นเรือพิฆาตที่ไทยซื้อต่อจากอังกฤษสมัย ร.๖ หรือแม้แต่ ร.ล.นเรศวร กับ ร.ล.ตากสิน เองนั้นก็เป็นชื่อเรือลาดตระเวนเบาที่ไทยเคยสั่งอิตาลีต่อในสมัยก่อนสงครามโลกครั้งที่๒ครับแต่ถูกอิตาลียึดไปใช้เอง(ภายหลักถูกทำลายและทิ้งไว้ในท่าเรือ หลังสงครามจบอิตาลีจึงชดใช้ค่าเสียหายให้ไทย)

การตั้งชื่อเรือรบนั้นทางกองทัพเรือจะพิจารณาชื่อตามความเหมาะสมของคุณสมบัติเรือและพระเจ้าอยู่หัวจะพระราชนามให้ตามที่กองทัพเรือเสนอให้ทรงพิจารณาครับ แน่นอนว่าถ้าเราจะต่อเรือพิฆาตลำใหม่นี้ก็ยังมีพระนามหรือนามของวีรบุรุษของชาติอีกหลายพระองค์และหลายท่านให้นำมาใช้ตั้งครับ

แต่ความเป็นจริงคือเราตอนนี้ไม่ได้มีโครงการจัดหาเรือพิฆาตจำนวนมากมายขนาดที่จะนำพระนามหรือนามวีรบุรุษมาใช้ตั้งได้ขนาดนั้นครับ

   หากพิจารณาจากความเหมาะสม ผมว่า พระนามของ สมเด็จพระเอกาทศรถ น่าจะเหมาะสมในลำดับต้นๆ หาก งบประมาณน้อยในการจัดหาเรือเรือพิฆาตผมว่าพระนามของพระองค์น่าจะเหมาะสมในลำดับต้นๆ

 เพราะพระองค์ทำศึกกับหงสาวดี ต่างชาติต่างเผ่าพันธ์ปกป้องชาติเราจากศัตรูที่คิดจะกดหัวเรา อยู่ทุกเมือ ต่างจาก พ่อขุนเม็งรายพระองค์สร้างเมืองเชียงใหม่ ความสำคัญน่าจะลดหลั่นจากการปกป้องเอกราชนะครับ  อย่าง ข้อเสนอชื่อ รล.ไชยเชษฐา ตามประวัติพระองค์เป็นเพียงราชนิกุลแห่งเชียงใหม่ไปตั้งเมืองที่ล้านช้างหรือประเทศลาวในปัจจุบัน

  ผมว่าถ้า เสนอ ชื่อเรือหลวงพญาเม็งราย ผมว่าเรือหลวงรามคำแหงมหาราชน่าจะ เหมาะสมกว่านะครับ พระองค์เก่งกล้าปรีชายิ่งเมื่อตอนเข้าช่วยพระราชบิดาคือพ่อขุนศรีอินทราทิตย์และทรงได้กระทำยุทธหัตถีมีชัยเหนือขุนสามชนเจ้าเมืองฉอด(พวกนี้เผ่าพันธุ์พม่าครับ) กลับมาถึงชื่อเรือหลวงกันครับ ที่ผมว่าอยากให้มีชื่อเรือหลวงเอกาทศรถเพราะพระองค์ได้ทำศึกสงครามเมื่อครั้งยังไม่ได้รับแต่งตั้งเป็นอุปราชแห่งกรุงศรีอยุธยา

 จนสมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงขึ้นครองราชย์พระองค์โปรดให้แต่งตั้งสมเด็จพระเอกาทศรถขึ้นเป็นอุปราชกรุงศรีอยุธยาและให้มีศักดิ์และสิทธิ์เท่าเทียมพระองค์   ซึ่งปกติผมว่าได้เป็นอุปราชก็ถือว่าบุญญาธิการอย่างยิ่งแล้วพระเชษฐาทรงให้มีศักดิ์และสิทธิ์เท่าพระองค์ จะมีพระอุปราชแห่งอาณาจักรไทยกี่พระองค์ที่ได้อาญาสิทธิ์เทียมเท่าพระมหากษัตริย์ นั่นก็เป็นเพราะความไว้วางใจของพระเชษฐาและพระอนุชาทรงมีพระปรีชายิ่งแล้วหลังทรงได้ขึ้นเป็นอุปราชแห่งกรุงศรีอยุธยาแล้ว พระองค์ได้กระทำศึกครั้งสำคัญเคียงข้างพระเชษฐาคือการกระทำยุทธหัตถีกับมังจาปะโรซึ่งพระองค์มีชัยเหนือพระพี่เลี้ยงอุปราชหงสาวดี เช่นเดียวกับกับพระเชษฐาที่ได้กระทำยุทธหัตถีมีชัยเหนือพระอุปราชจอมทัพหงสาวดี

(ผมว่าถ้าพระองค์ขาวทรงกระทำยุทธหัตถีกับพระสังกะทัตอุปราชตองตูแล้วมีชัยชนะเหนืออุปราชตองอูผมว่าพระเกียรติยศพระองค์จะเสมอเหมือนพระเชษฐาเลย อันนี้ตามความคิดผมซึ่งพระสังกะทัตได้แต่ทรงช้างดุการยุทธหัตถี)

   เกริ่นมายาวแล้ว   สิ่งหนึ่งอยากให้ช่วยกันพิจารณาคือความพระทัยเย็นของพระองค์ ซึ่งผมว่าสมเด็จพระนเรศวรทรงต้องพระทัยพระอนุชาด้วยเหตุผลข้อนี้ประกอบด้วย มีเหตุการประกอบหลายเรื่องเช่น ข่าวลือที่ว่าพระยาศรีไสยณรงค์คิดกบฏ  พระองค์ไม่นำทัพไปเองโดยโปรดให้พระอนุชาเสด็จนำทัพไปเองเพื่อดูว่าสาเหตุอะไร ซึ่งพระยาศรีไสยณรงค์ได้ปิดเมืองพระองค์เสด็จตีเมืองได้จับพระยาศรีไสยณรงคืได้ทรงยังไม่ประหารพระองค์จะนำไปขอพระราชทานอภัยโทษต่อสมเด็จพระนเรศวร

 นี่แสดงถึง พระทัยที่ดีงามเรื่องการให้อภัยคนผิดและพระทัยเย็นเรื่องการปกครอง  อีกเรื่องที่เด่นชัดคือ ทรงไปไก่ลเกลี่ยข้อพิพาทระหว่างพระเจ้าเชียงใหม่ซึ่งได้เข้าสวามิภักดิ์เป็นประเทศราชของกรุงศรีอยุธยากับเจ้าเมืองฝ่ายเหนือซึ่งมีปัญหาเรื่องเชื้อชาติเนื่องจากพระเจ้าเชียงหใม่ทรงเป็นพระราชโอรสแห่งพระเจ้าบุเรงนองแห่งหงสาวดี  ซึ่งในตอนแรกพระเจ้าเชียงใหม่ไม่ยอมมาพบด้วยตนเองส่งแต่เพียงพระยาขุนนางมาเฝ้าแทนพระองค์จึงใช้พระสติปัญญาของพระองค์เรื่องการปกครองจนพระเจ้าเชียงหใม่ยอมมาเสด็จ มาเข้าเฝ้าด้วยตัวเองพระองค์ได้เจรจาข้อพิพาทที่เกิดขึ้นจนเสร็จเรียบร้อยด้วยดีพระเจ้าเชียงใหม่ทรงได้สวามิภักดิ์ต่อกรุงศรีอยุธยาอย่างสนิทใจถึงขนาดส่งพระโอรสมาอยู่กรุงศรอยุธยา

ขนาดพระเจ้านันทบุเรงขึ้นครองหงสาวดีขณะนั้นพระองยังไม่ส่งพระโอรสไปเลยนะครับ  แล้วหัวเมืองฝ่ายเหนือก็สามัคคีกันในฐานะประเทศราชของกรุงศรีอยุธยาเป็นฐานทัพใช้รวมพลไปทำศึกกับพม่าอังวะที่ตั้งตนขึ้นมาใหม่  จนสิ้นรัชสมัยของสมเด็นพระนเรศวร กรุงศรีอยุธยาไร้สงครามกับพม่าเกือบ150ปี  ซึ่งผมว่า สมเด็จพระเอกาทศรถ กษัตริย์นักรบและรัฐบุรุษ    พระนามของพระองค์น่าจะ มีความสำคัญต้นๆในการตั้งชื่อเรือหลวงของราชนาวีไทย   หากมีการจัดหาเรือพิฆาตชุดใหม่

   ความเห็นของผมอาจจะยาวหน่อย ขอภัยในส่งที่ได้โพสถ้าเป็นความผิดพลาด เพราะผมอยากจะเทอดพระเกียรติ์พระมหากษัตริย์พระองค์นี้ให้เป็นที่รู้จักดียิ่งขึ้น  ผมว่าถ้าผมไม่ล้มหายตายจากก่อน คงจะมีโอกาสเห็น

   เรือพิฆาต นามเรือหลวงเอกาทศรถ  แห่งราชนาวีไทย

ปล. ขนาดค่ายทหารที่พิษณุโลกยังมีค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และค่ายสมเด็จพระเอกาทศรถ ไว้คู่กัน  เรือหลวงนเรศวรสักวันคงจะได้ออกทะเล คู่กับเรือหลวงเอกาทศรถ