หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


สหรัฐฯ ตัดสินใจใช้จรวด SM-3 ยิงดาวเทียมจารกรรมที่กำลังจะตกสู่พื้นโลก

โดยคุณ : rinsc seaver เมื่อวันที่ : 18/02/2008 12:00:49

เมื่อวันที่ 14 ก.พ. ที่ผ่านมานี้ ในการแถลงข่าวของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ประกาศว่าจะใช้อาวุธนำวิถีในการยิงทำลายดาวเทียมจารกรรมที่ไม่สามารถใช้งานได้และกำลังจะตกลงสู่พื้นโลก โดยเป็นการตัดสินใจของประธานาธิบดีบุช เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดอันตรายจากเชื้อเพลิง hydrazine ซึ่งเป็นสารพิษ ที่ยังคงเหลืออยู่ในปริมาณมากในดาวเทียมดวงนี้

ในการแถลงข่าวร่วมกัน ผู้ช่วยที่ปรึกษาด้านความมั่นคง ผู้ช่วยประธานเสนาธิการร่วม และผู้อำนวยการองค์การนาซ่า ได้กล่าวถึงความจำเป็นในการยิงทำลายดาวเทียมดังกล่าวว่า ถึงแม้ว่าความเป็นไปได้ที่ชิ้นส่วนของดาวเทียมจะตกใส่พื้นที่ที่มีประชากรอยู่อาศัยจะมีน้อยมากก็ตาม แต่ถ้าหากชิ้นส่วนตกลงสู่พื้นที่ที่มีประชากรอยู่อาศัยจริงก็จะเป็นอันตรายมาก เนื่องจากดาวเทียมดวงพึ่งจะถูกส่งเข้าสู่วงโคจรเมื่อเดือนธันวาคมปี 2006 จึงยังมีปริมาณเชื้อเพลิง hydrazine ที่ใช้ในจรวดขับดันเพื่อปรับวงโคจรเหลืออยู่มาก โดยดาวเทียมที่มีน้ำหนักกว่า 5,000 ปอนด์นี้ เมื่อตกลงสู่ชั้นบรรยากาศจะมีชิ้นส่วนที่เหลือจากการเผาไหม้กว่า 2,800 ปอนด์ (ประมาณ 1 ตันกว่าๆ) และเป็นเชื้อเพลิง hydrazine ถึง 1,000 ปอนด์ ทั้งนี้กองทัพเรือสหรัฐฯ จะเป็นผู้ใช้อาวุธยิงทำลายดาวเทียมดังกล่าวนอกชั้นบรรยากาศโลก ในช่วงหลังจากวันที่ 20 ก.พ. ไปแล้ว โดยมีระยะเวลาในการทำลายประมาณ 7-8 วัน ก่อนที่ดาวเทียมจะเข้าสู่ชั้นบรรยากาศ อาวุธจะถูกยิงจากบริเวณตอนเหนือของมหาสมุทรแปซิฟิก ไปยังดาวเทียมที่อยู่สูง 130 ไมล์ทะเล เหนือชั้นบรรยากาศเล็กน้อย ซึ่งจะต่ำกว่าความสูงของดาวเทียมอื่นๆ รวมทั้งสถานีอวกาศนานาชาติ (ISS) ด้วย ความเร็วในการพุ่งชนของอาวุธประมาณ 22,000 ไมล์ต่อชั่วโมง ชื้นส่วนประมาณ 50% ของดาวเทียมจะตกลงและถูกเผาไหม้ในบรรยากาศจนหมดในช่วงวงโคจร 2 วงแรก และที่เหลือซึ่งมีขนาดเล็กกว่าจะใช้เวลาหลายสัปดาห์จนถึงเดือนกว่าจะตกลงมาจนหมด

ทร.สหรัฐฯ จะใช้เรือลาดตระเวนชั้น Ticonderoga ซึ่งติดตั้งระบบ Aegis ที่ได้รับการดัดแปลงสำหรับใช้ในภารกิจป้องกันภัยจากขีปนาวุธ (BMD) เป็นเรือสำหรับยิง อาวุธที่ใช้ คือ อาวุธนำวิถี RIM-161A Standard SM-3 block IA  ติดหัวรบแบบ LEAP (Light Exo-Atmospheric Projectile) ซึ่งใช้หลักพลังงานจลน์ในการทำลาย (ไม่มีดินระเบิด) ซึ่งปกติใช้ในภารกิจสกัดกั้นขีปนาวุธพิสัยใกล้ถึงปานกลาง อาวุธนำวิถีจะถูกขับดันในช่วงแรกด้วยบูสเตอร์ Mk72 ออกจากแท่นยิง Mk41 VLS และในช่วงที่สองด้วยเครื่องยนต์จรวด Mk104 เหมือนกับอาวุธนำวิถี RIM-156A Standard SM-2ER block IV การนำวิถีในช่วงนี้ใช้ระบบ GPS ควบคู่กับ INS หลังจากนั้นอาวุธจะถูกขับดันในช่วงที่สาม (ช่วงสุดท้าย) ด้วยเครื่องยนต์จรวด Mk136 เพื่อพาหัวรบ LEAP เข้าสู่เป้าหมาย โดยใช้การนำวิถีด้วยอินฟราเรด อย่างไรก็ดีตัวอาวุธและระบบ Aegis จะต้องได้รับการดัดแปลงเพิ่มเติมพิเศษเพื่อใช้ในการสกัดกั้นดาวเทียมในครั้งนี้ แต่การดัดแปลงจะเป็นเพียงชั่วคราวเท่านั้น เพื่อไม่ให้ผิดข้อตกลงในเรื่องอาวุธต่อต้านดาวเทียม





ความคิดเห็นที่ 1


อาวุธนำวิถี SM-3


โดยคุณ rinsc seaver เมื่อวันที่ 15/02/2008 23:33:11


ความคิดเห็นที่ 2


อาวุธนำวิถี SM-3 ขณะยิงจากแท่นยิง Mk41 VLS


โดยคุณ rinsc seaver เมื่อวันที่ 15/02/2008 23:33:52


ความคิดเห็นที่ 3


เท่าที่อ่านคิดแบบชาวบ้านๆเลยนะคับ ผมว่า เป็นการป้องปราม ว่าฉานก็มีอาวุธที่ดียิงไกลแม่น แถมขู่ชาวบ้านด้วยว่าอย่าแหยมฉานนะเว้ย อะไรทำนองนั้น ประการที่ 2 ขายของ เพราะดูจากข่าวสารหลายๆอย่าง สหรัฐชอบแนวนี้จังเลย ทำให้เป็นเหตุการณ์ไปทั่วโลก
คิดเองนะคราบ ผิดถูกไงขออภัยด้วย
โดยคุณ xavious เมื่อวันที่ 16/02/2008 01:25:26


ความคิดเห็นที่ 4


ดาวเทียมดวงที่มีปัญหานั้นมีรหัสว่า NROL-21 USA-193 เป็นดาวเทียมที่ผลิตขึ้นตามโครงการ Future Imagery Architecture (FIA) เพื่อพัฒนาดาวเทียมที่เรียกว่า Enhanced Imaging System (EIS) สำหรับรวบรวมข่าวกรองทางภาพถ่าย (IMINT) โดยสำนักงาน NRO (National Reconnaissance Office) เป็นเจ้าของ ดาวเทียม EIS แบ่งเป็น 2 ระบบ คือ E-300 Enhanced Collection System ติดตั้งกล้องถ่ายภาพและ E-305 New Radar Capability ติดตั้งเรดาร์ สำหรับดวงที่กล่าวถึงก็คือ E-305 ดาวเทียม NROL-21 ถูกส่งเข้าสู่วงโคจรโดยจรวด Delta II 7920 เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2006 เข้าสู่วงโคจรแบบ LEO (Low Earth Orbit) ความสูง 351 x 367 กิโลเมตร หลังจากเข้าสู่วงโคจรได้เพียง 1 ชม. NROL-21 ก็เกิดปัญหาไม่สามารถกางแผง solar cell สำหรับผลิตพลังงานจากแสงอาทิตย์ได้ และจากนั้นในวันที่ 19 มกราคม 2007 NRO ก็ไม่สามารถสื่อสารกับ NROL-21 ได้และสูญเสียการควบคุมไปในที่สุด ต่อมาในวันที่ 22 มกราคม 2008 วงโคจรได้ลดความสูงลงเหลือ 271 x 282 กิโลเมตร และมีอัตราการลดลง 0.7 กิโลเมตรต่อวัน โดยจะเข้าสู่บรรยากาศในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ถึงต้นเดือนมีนาคม 2008

หมายเหตุ NRO เป็น 1 ใน 4 หน่วยงานข่าวกรองหลักของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ นอกจาก NSA (National Security Agency), NGA (National Geospatial-Intelligence Agency) และ DIA (Defense Intelligence Agency) โดย NRO ทำหน้าที่ออกแบบ ผลิต และใช้งาน ดาวเทียมรวบรวมข่าวกรองที่มีอยู่ทั้งหมด และส่งข้อมูลที่รวบรวมได้ไปยัง NGA ซึ่งจะทำหน้าที่แปลข้อมูลและส่งต่อไปยังผู้ใช้ต่างๆ ในเพนตาก้อน รวมทั้ง CIA ด้วย

โดยคุณ rinsc seaver เมื่อวันที่ 16/02/2008 01:55:10


ความคิดเห็นที่ 5


NROL-21


โดยคุณ rinsc seaver เมื่อวันที่ 16/02/2008 01:55:44


ความคิดเห็นที่ 6


ข่มกันชัดๆ

โดยคุณ galen เมื่อวันที่ 16/02/2008 07:17:20


ความคิดเห็นที่ 7


US ก็อย่างนี้ทุกทีอ่ะครับ โลกก็ไม่สงบซะที

โดยคุณ spond เมื่อวันที่ 16/02/2008 10:58:33


ความคิดเห็นที่ 8


จริงๆแล้วพี่ท่านยิงจรวดจากฐานภาคพื้นดินก็ได้ แต่งานนี้กะจะแสดงให้ประเทศที่เป็นคู่อริกับสหรัฐว่า ไอสามารถยิงสกัดจรวดข้ามทวีปจากมหาสมุทรทุกที่ในโลกโดยเฉพาะจีนกับรัสเซียคงจะเดือดปุดๆ

โดยคุณ sam เมื่อวันที่ 16/02/2008 13:04:10


ความคิดเห็นที่ 9


รัสเซียออกมาโวยตามคาดครับ 555+



รัสเซียชี้แผนทำลายดาวเทียมสหรัฐแท้จริงเป็นการทดสอบอาวุธ
มอสโคว์ 17 ก.พ. – กระทรวงกลาโหมรัสเซียวิจารณ์แผนยิงดาวเทียมจารกรรมที่บกพร่องของสหรัฐ ระบุเป็นการทดสอบอาวุธ และสะท้อนถึงความพยายามแข่งขันกันสะสมอาวุธในห้วงอวกาศ

แถลงการณ์โดยกระทรวงกลาโหมรัสเซีย โต้แย้งคำอ้างของรัฐบาลสหรัฐที่จะใช้การยิงดาวเทียมแบบใหม่เพื่อป้องกันไม่ให้เศษดาวเทียมตกสู่โลก โดยระบุเป็นคำอธิบายที่ไร้สาระ และแท้ที่จริงเป็นการอ้างความบกพร่องของดาวเทียมมาใช้ทดสอบประสิทธิภาพของระบบป้องกันขีปนาวุธในการใช้ทำลายดาวเทียม

กระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุว่า แผนทำลายดาวเทียมของสหรัฐครั้งนี้ คล้ายกันมากกับการทำลายดาวเทียมสำรวจสภาพอากาศของจีนเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ซึ่งสหรัฐเองประณามว่าเป็นการอวดแสนยานุภาพทางทหารว่ามีพิสัยการโจมตีถึงห้วงอวกาศ   ด้านกระทรวงต่างประเทศสหรัฐตอบโต้ว่าปฏิบัติการของจีนมีเป้าหมายเพื่อทดสอบประสิทธิภาพการทำลายดาวเทียมโดยเฉพาะ ขณะที่แผนของสหรัฐมีเป้าหมายเพื่อปกป้องประชาชนบนพื้นโลก

ก่อนหน้านี้สหรัฐเปิดเผยรายละเอียดปฏิบัติการทำลายดาวเทียมโดยจะใช้ขีปนาวุธจากพื้นสู่อากาศจากฐานบนเรือรบยิงเข้าใส่ดาวเทียม ซึ่งมีขนาดใกล้เคียงรถประจำทาง เพื่อให้เศษชิ้นส่วน ซึ่งคาดว่าจะตกสู่โลกในต้นเดือนมีนาคมกระจายลงในมหาสมุทร โดยยืนยันว่าปฏิบัติการนี้ไม่ได้มีเป้าหมายเพื่อป้องกันข้อมูลทางเทคโนโลยีรั่วไหล หรือทดสอบขีดความสามารถในการทำลายดาวเทียมแต่อย่างใด.- สำนักข่าวไทย


อัพเดตเมื่อ 2008-02-17 16:20:07

 

http://news.mcot.net/international/inside.php?value=bmlkPTE5OTM3Jm50eXBlPXRleHQ=

 

โดยคุณ ท.กองหนุน เมื่อวันที่ 17/02/2008 05:14:23


ความคิดเห็นที่ 10


แถมครับ ความสำเร็จของอิหร่าน

อิหร่านเผยผลสำเร็จส่งจรวดสำรวจอวกาศ
เตหะราน 17 ก.พ. - อิหร่านประกาศกำหนดการส่งดาวเทียมดวงแรกสู่ห้วงอวกาศ หลังจรวดสำรวจอวกาศประสบความสำเร็จส่งข้อมูลกลับสู่สถานี

สถานีโทรทัศน์ของทางการอิหร่านอ้างถึงเจ้าหน้าที่ศูนย์อวกาศเปิดเผยว่า จรวดสำรวจอวกาศได้ส่งข้อมูลทางวิทยาศาสตร์กลับมาแล้วหลังเข้าสู่วงโคจรที่ความสูง 200-250 กิโลเมตรเหนือพื้นโลก และว่า อิหร่านมีแผนจะส่งดาวเทียมโอมิด ซึ่งเป็นดาวเทียมที่อิหร่านผลิตขึ้นเองเป็นดวงแรกสู่วงโคจรที่ระดับ 650 กิโลเมตรในเดือนมิถุนายนนี้

โครงการยิงจรวดสู่ห้วงอวกาศของอิหร่านเป็นเหตุให้นานาชาติพากันวิตก เนื่องจากเทคโนโลยีในการสร้างจรวดยังสามารถนำมาใช้ผลิตหัวรบ ทว่าอิหร่านยืนยันว่า โครงการอวกาศของตนมีเป้าหมายเพื่อสันติ โดยก่อนหน้านี้ได้เปิดเผยจะส่งดาวเทียมขึ้นสู่วงโคจรเพื่อติดตามภัยพิบัติทางธรรมชาติและปรับปรุงกระบวนการสื่อสารโทรคมนาคม พร้อมกันนี้ยังได้อ้างความจำเป็นในการใช้ดาวเทียมเพื่อภารกิจความมั่นคงดังที่สหรัฐใช้ติดตามสถานการณ์ในอัฟกานิสถานและอิรัก 
 
อิหร่านซึ่งได้รับการสนับสนุนเทคโนโลยีอวกาศจากรัสเซียมีแผนจะส่งดาวเทียมขึ้นสู่ห้วงอวกาศเพิ่มอีก 4 ดวงภายในปี 2553 เพื่อขยายพื้นที่ให้บริการโทรศัพท์มือถือและช่องสัญญาณให้สามารถรองรับได้ 80 ล้านเครื่อง ทั้งยังมีแผนใช้ดาวเทียมเพื่อบริการผู้ใช้อินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้นเป็น 35 ล้านคนจากตัวเลขปัจจุบันซึ่งอยู่ที่ราว 5.5 ล้านคน. - สำนักข่าวไทย


อัพเดตเมื่อ 2008-02-17 16:11:51
http://news.mcot.net/international/inside.php?value=bmlkPTE5OTM2Jm50eXBlPXRleHQ=
โดยคุณ ท.กองหนุน เมื่อวันที่ 17/02/2008 05:17:22


ความคิดเห็นที่ 11


ภาพจำลองการยิงดาวเทียมของสหรัฐ


โดยคุณ Darksquadron เมื่อวันที่ 17/02/2008 08:10:29


ความคิดเห็นที่ 12


เมื่อวานนั่งดูข่าวนี้ทาง TV. เหมือนกันครับ เห็นข่าวแล้วนึก ถึง ตอนสกายแล๊ป ตก จังเลยครับ.......แถมในข่าวยังบอกอีกว่าประมาณว่า ทางอเมริกา ยินดีรับผิดชอบเสียหายทุกอย่าง หากชิ้นส่วนของดาวเทียวก่อความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน ของประชาชน ทั้งใน และต่างประเทศ .......... เป็นนัยว่า.... เอาล่ะเหวยยย.....หัวใครหัวมัน นะคร้าบบ..

โดยคุณ sam7 เมื่อวันที่ 17/02/2008 22:59:11


ความคิดเห็นที่ 13


อเมริกายิงจรวดทำลายดาวเทียม ไม่เห็นออกข่าวว่านานาชาติไม่วิตก ทั้งๆที่ชอบรุกราบชาวบ้านเขาจัง แต่ทีอิหร่านทดสอบจรวดปล่อยดาวเทียม มาออกข่าวว่า นานาชาติวิตก มาอ้างว่าเทคโนโลยีจรวดสามารถติดนิวเคลียร์ได้ โธ่เอ้ย! จรวดอะไรก็แล้วแต่ถ้าสร้างขึ้นมาแล้วมันก็ประยุกต์ติดนิวเคลียร์ได้ทั้งนั้นแหละ หรืออเมริกาไม่มีติด จะว่าไป อิหร่านทำอะไรไปก็เพราะเพื่อป้องกันประเทศเขาจากอันธพาลมหาอำนาจ ถ้าไม่คิดไปทำอะไรเขา เขาจะมาเร่งพัฒนาอาวุธของเขาเรอะ สมควรแล้วที่รัชเซียจะออกมาโวย ก็เพราะมีแต่รัชเซียเท่านั้นแหละที่กล้าโวย ที่เหลือก็ต้องเก็บอาการเดี๋ยวพี่ใหญ่แกจะเคืองแล้วทำตัวไม่สะดวก เฮ้อ...!

ป.ล. ถ้าความเห็นนี้เป็นความเห็นส่วนตัวถ้าไม่เหมาะสมลบได้ครับ คุณโรนิน

โดยคุณ เด็กทะเล เมื่อวันที่ 18/02/2008 01:00:49