คือผมมีความสงสัยเกี่ยวกับเหตุการณืที่ภาคใต้ครับ
เวลาที่เกิดเหตุปะทะกัน แล้วไม่สามารถหาตัวคนร้ายได้
ทำไมถึงไม่ใช้ฮ.ออกสนับสนุนช่วยในการไล่ล่าล่ะครับ(นักข่าวชอบบอกอะไรก็เหมือนในหนัง) แล้วจะซื้อแบล็คฮอร์คไว้ทำไมล่ะครับ หรืออย่างที่เวลาเจอกับระเบิดแล้วโดนวางตะปูเรือใบ รถเข้าไม่ได้ก็ใช้ฮ.บินวนตรวจดูเหตุการณ์แทนมันจะไม่ดีกว่าหรือครับ
หรือว่าพี่ ๆ คิดว่ายังไงล่ะครับ
ความคิดเห็นที่ 1
..เอาเจ้าUH-1Hueyไล่เหรอครับ โจรมันมุดลงรู้ตั้งแต่ได้ยินเสียงโรเตอร์แวกอากาศมาแล้ว ถ้าเป็นเจ้า Little Birdก็ว่าไปอย่าง..
โดยคุณ phositron เมื่อวันที่
15/02/2008 22:02:51
ความคิดเห็นที่ 2
ผมก็ลืมคิดไปเลย
แล้วถ้าจะให้เข้าถึงจุดเกิดเหตุอย่างรวดเร็วแล้วเราใช้ฮ.เข้าไปส่งจะไม่ดีกว่าหรือครับเอารถเข้าก็โนตะปูเรือใบ กับระเบิดอีก
โดยคุณ easycompany เมื่อวันที่
16/02/2008 06:59:40
ความคิดเห็นที่ 3
ผมเองก็สงสัยครับ..ว่าทำไมไม่ใช้ฮ.เข้าสนับสนุนในพื้นที่ประทะ
อย่างหลายๆเหตุการณ์ที่คนร้ายตามมายิงซ้ำทหารตำรวจที่ยังไม่ตายจากการระเบิด หากมีกำลังทางอากาศลาดตระเวนอยู่ใกล้พื้นที่อาจจะเข้าถึงพื้นที่เร็วขึ้นก็ได้นะครับ อาจช่วยชีวิตทหารตำรวจที่บาดเจ็บออกจากพื้นที่ได้เร็วขึ้นด้วย การที่ฮ.มีเสียงดังนั้น ผมคิดว่าช่วยข่มขวัญฝ่ายตรงข้ามได้ทีเดียวเลยล่ะครับ
หรือว่าพื้นที่ปฏิบัติการไม่เหมาะที่จะใช้กำลังทางอากาศสนับสนุน หรืองบประมาณไม่เพียงพอ ฯลฯ คงต้องถามผู้ที่เคยปฏิบัติการณ์ในพื้นที่ล่ะครับ
โดยคุณ dukky เมื่อวันที่
16/02/2008 07:29:27
ความคิดเห็นที่ 4
สนับสนุนครับแต่ข่าวไม่ค่อยออก ต้องไปอ่านรายละเอียดของบางเหตุการณ์ใน นสพ.ครับ ผมสังเกตุหลายครั้งแล้ว
แต่กว่า ฮ. จะไปถึง ภาระกิจจากสนับสนุนการปะทะก็ต้องเปลี่ยนเป็นภาระกิจไล่ล่าแทนละครับถ้าทหารสู้ไม่ไหว เพราะแต่ละเหตุการณ์จะไม่กี่นาทีรู้ผล
มีทางเดียว ต้องจัดหา.Little Bird รึมั้ยก็แมงปอที่มีอยู่ก็ได้ครับเอาทหารนั่งห้อยขาไปครับจัดหน่วยบินให้กระจายมากที่สุดทุกอำเภอได้ยิ่งดีครับอำเภอละ2-3ลำถ้าปะทะเกิน5-10นาทีได้เเจมแน่นอนครับ^^
แต่ความเป็นไปได้น้อยครับ
โดยคุณ
dremminaicc เมื่อวันที่
16/02/2008 08:29:26
ความคิดเห็นที่ 5
ฮ. ปัจจุบัน % ที่สามารถบินได้จริงๆ ถ้าได้ทราบแล้วจะตกใจ(ผมก็ตกใจเหมือนกัน).............ผมคนหนึ่งละที่เชื่อว่าถ้าจะทำกันจริงๆนะทำได้แต่จะทำหรือเปล่า ......ที่เคยบอกไปแล้วว่าถ้าแต่ละเหล่าทัพประสานกันจริงๆจังๆในเรื่องการยุทธร่วมแล้วละก็ ผมว่าทำได้.........รู้หรือเปล่าครับว่าภารกิจหลักอันดับต้นๆของ ฮ. ที่อยู่ในพื้นที่คืออะไร ต่างประเทศคงงงละครับ ว่า ฮ. ที่อยู่ในพื้นที่ส่วนหน้าที่มีการปะทะจริงๆ แต่ภารกิจหลักดันไม่ใช่ภารกิจที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายของผู้ที่ปฏิบัติในส่วนหน้าของพื้นที่.........อืมม แต่จะว่าไปมันกี่มีภารกิจที่เกี่ยวครับ(ประมาณข้อที่3-4ได้มั้ง)คือการ ส่งกลับสายการแพทย์ซึ่งส่วนใหญ่ก็ไม่ทันส่งกลับมาเยียวยา แต่ส่งกลับมาแต่ร่างอันไร้วิญญาณซะมากกว่า.......
โดยคุณ
FW190 เมื่อวันที่
17/02/2008 05:21:49
ความคิดเห็นที่ 6
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ผมเชื่อว่าจะให้ทำเลยนั้นยังคงทำไม่ได้ เพราะยังมีข้อจำกัดอีกเยอะ เช่น ผู้ปฏิบัติภาคพื้นสามารถเรียกและนำ ฮ. เข้าพื้นที่ได้หรือเปล่า ขีดความสามารถของยุทโธปกรณ์ เช่น วิทยุติดต่อสื่อสาร.......ดังนั้นสิ่งที่สำคัญสุดที่จะต้องทำก่อน(ถ้าคิดจะทำ) คือต้องจัดตั้งศูนย์ฝึกก่อนครับ เพื่อรองรับต่อภารกิจและภัยคุกคามโดยตรง(นำบทเรียนที่ได้มาเป็นหลักในการจัดทำรูปแบบของการฝึก) ...............
โดยคุณ
FW190 เมื่อวันที่
17/02/2008 05:25:21
ความคิดเห็นที่ 7
หน่วยภาคพื้นจะต้องพึ่งตนเองอันดับแรก สิ่งสำคัญคือ การฝึกในการปฏิบัติอย่างฉับพลัน ว่ามีมากแค่ไหน และที่สำคัญคือ ตัวบุคคลว่ามีขีดความสามารถแค่ไหน รุกรบ และมีอุดมการณืแค่ไหน............ผมยกตัวอย่าง 2 หน่วยของเพื่อนผมที่อยู่ในพื้นที่(หน่วยระดับ มว.) หน่วยหนึ่งนั้นได้รับการสนใจและเข้าใจเป็นอย่างดีจากหน่วยแม่ มีการฝึกปฏิบัติต่างๆในฐานอย่างต่อเนื่อง เรียกว่า ทั้งผู้บังคับบัญชาและผู้ใต้บังคับบัญชาแค่มองหน้ากันก็รู้ใจแล้วว่าจะต้องทำอย่างไร ใครที่ไม่สนใจ หรือ ไม่ปฏิบัติตามส่งกลับสถานเดียว ภารกิจ รปภ.ต่างๆ ขณะผ่านเส้นทาง หน่วยส่งคนลง ลว.ด้วยเท้าในพื้นที่อันตรายตลอด.....ในขณะที่อีกหน่วยหนึ่งนั้น ทั้งหน่วยลูกไม่ได้รับการเอาใจใส่เท่าที่ควร และที่แย่กว่านั้นคือ หน่วยแม่บางทีปฏิบัติแบบเกียร์ว่าง กองร้อยปฏิบัติ จับมาส่งกองพัน กองพันก็ไม่ทำอะไร ปล่อยไปอย่างเดียว กองร้อยก็เกิดอาการเซ็ง(อ้อ กองร้อย กับ ตัวกองพัน จัดมาจากคนละหน่วยครับ) ใน มว. มีคนอยู่ประมาณ 39 คน(อันนี้คือยอดเต็มยังไม่หักผู้ที่ลาพักตามวงรอบ) แต่ภารกิจที่ได้รับมามันไม่สมดุลต่อจำนวนคน ไหนจะต้องเข้าเวรประจำฐานแบบ 24 ชั่วโมง ไหนจะจำนวนคนที่ต้องออกภารกิจ หน่วยแม่ต้องบริหารภารกิจให้ดีครับ ไม่ใช่สักแต่รับมาหมดเพื่อเอาหน้าโดยไม่ดูขีดความสามารถที่แท้จริง......ทหารไม่สามารถปฏิเสธภารกิจได้ เมื่อได้ภารกิจมาถึงแม้รู้ว่าต้องกระจายคนออก ต้องมีเกณฑ์เสี่ยงที่สูงขึ้นก็ต้องทำ........การจะทำอะไรทุกอย่างมันมีเกณฑ์เสี่ยงครับ อยู่ที่ว่าเกณฑ์เสี่ยงนั้นยอมรับได้หรือยอมรับไม่ได้..........ความจริงแล้วสมมุติว่าเราวางแผนมาว่าในพื้นที่นี้ต้องใช้คนปฏิบัติในระดับ มว. ดังนั้นการที่เราจะประกันว่าจะต้องมีหน่วยระดับ มว. พร้อมที่จะปฏิบัติงานตลอดเวลา และที่สำคัญคือจะต้องไม่ล้าคือต้องกระปรี่กระเป่าและพร้อมตลอดนั้น เราน่าจะต้องมีหน่วยอยู่ในฐานนั้นถึง 2 มว. เพื่อที่ 1 มว. ออกปฏิบัติภายนอก และ 1 มว. เฝ้าฐาน จัดเวรยาม พักผ่อน และซักซ้อมการปฏิบัติ หรือทบทวนข้อผิดพลาดที่ผ่านมา ทำแบบนี้สลับกันทั้ง 2 มว. จะทำให้เรารับประกันได้ว่าอย่างน้อยๆจะมีกำลังระดับ 1 มว.เต็มๆ(ไม่หย่อน) ที่สดชื่น พร้อมจะปฏิบัติงานได้.......หุหุ ละเมอ อีกแล้วครับผม
โดยคุณ
FW190 เมื่อวันที่
17/02/2008 05:50:26
ความคิดเห็นที่ 8
ไหนๆ ก็ละเมอแล้วขออีกนิดละกันครับ หุหุ.......ผมมีบทเรียนของกองทัพประเทศหนึ่งครับ เอาเป็นว่าผมตั้งชื่อว่า กองทัพประเทศ Y ครับ เพื่อเป็นเกียรติแก่ท่าน ไอร์ซี่ และตาโยอันโด่งดังของเรา........กองทัพประเทศY นั้น มีบทเรียนการรบในอดีตมามากมาย มีวีรกรรมที่เป็นเกียรติประวัติเป็นที่ประจักต่อสายตานักรบของประเทศมหาอำนาจมาก็มาก.......ด้วยความภูมิใจดังกล่าวทำให้กองทัพYยังคงยึดติดในความภูมิใจในอดีต เรียกง่ายๆว่า ยังคงกินบุญเก่าที่รุ่นพ่อรุ่นปู่รุ่นทวดเค้าทำไว้ให้อยู่ โดยที่ไม่ได้ดูในปัจจุบันและอนาคต......ประกอบกับปัจจุบัน กองทัพYห่างศึกใหญ่ๆมานาน และก็เป็นปกติของวิศัยมนุษย์ เมื่อว่างมากๆเข้า ความคิดบันเจิดๆจะมีเยอะ คนรุ่นเก่าๆที่เคยผ่านการรบจริงๆเริ่มหมดไป หัวหน้ากับลูกน้องไม่ได้ร่วมเป็นร่วมตายกัน เหมือนเช่นอดีต ทำให้ หัวหน้าก็มัวแต่จะเอาเปรียบลูกน้อง ลูกน้องก็ไม่สนใจ ไม่สนโลก ทำตามแบบที่เคยทำไปวันๆ โดยรวมๆแล้วมีอยูุ่่ 2 แบบใหญ่ๆคือ 1 แก้วว่าง และ 2 น้ำเต็มแก้ว........และสิ่งที่น่ากลัวของกองทัพYก็คือ การหลอกตัวเอง เช่น เวลาที่จะรับตรวจที หน่วยที่จะรับตรวจก็จะทำทุกอย่างเพื่อให้ดูดี ให้ดูว่า หนู ทำได้(ทำได้วันนั้นวันเดียว) เรียกได้ว่า หลอกตัวเองว่า ตูทำได้(นะเฟ๊ย) และที่ฮาสุด(แต่ฮาไม่ออก) คือ ไอ้คนที่มาตรวจ ก็เจือก หลอกตัวเองตามไปด้วยว่า อืม เอ็ง ทำได้ ทั้งๆที่ก็รู้อยู่แก่ใจ(เพราะไอ้คนตรวจก็เคยโดนตรวจมาก่อน) สรุปสุดท้าย ก็หลอกกันเข้าไปเป็นวงรอบของมัน..........
โดยคุณ
FW190 เมื่อวันที่
17/02/2008 06:04:55
ความคิดเห็นที่ 9
(ต่อจากข้างบนครับ)........ อันนี้ผมกล่าวถึงประเทศ Y นะครับ อย่าเข้าใจผิด หุหุ........กองทัพY ฝึกในรูปแบบของการสาธิตซะมากกว่าฝึกจริงๆ.....การฝึกมันต้องมีผิดพลาดบ้าง เพื่อที่จะได้นำมาเป็นบทเรียนในการแก้ไขและรู้ข้อผิดพลาด....ส่วนการสาธิตมันจะผิดพลาดไม่ได้......ยิ่งถ้ามีผู้ใหญ่ละดับสูงๆของกองทัพYมาตรวจด้วยละก็ จากการฝึกที่กำหนดไว้ 2 อาทิตย์ มันจะเหลือเพียงแค่วันเดียว(ก็คือวันที่ผู้ใหญ่มาตรวจนั่นเอง)และเป็นการสาธิต ส่วนวันที่เหลืออีก 13 วันมันจะเป็นการเตรียมการในการแสดงหนัง เอ๊ย ในการฝึก(จริงๆมันคือสาธิต)ให้ผู้ใหญ่ชม....สุดท้ายสิ่งที่ได้จากการฝึก(สาธิต)ครั้งนั้น ของผู้ที่เข้ารับการฝึก(สาธิต) นั้นก็จะได้เพียง แอ็คชั่น บทบาทของตนเอง ที่ผู้กำกับ เอ๊ย ผู้ควบคุม บอกเท่านั้น และก็ไม่รู้ข้อผิดพลาดด้วย เพราะมันมีข้อผิดพลาดไม่ได้...........อันนี้เป็นบทเรียนของกองทัพYที่ กองทัพของเราน่าจะนำมาศึกษาครับ น่าสนใจมากครับ เพื่อที่กองทัพเราจะได้ไม่เป็นเช่นนั้น หุหุ
โดยคุณ
FW190 เมื่อวันที่
17/02/2008 06:19:15
ความคิดเห็นที่ 10
ผมอยากรู้ครับ ทำไมเวลาจะไปรับส่งนาย(ยศสูงๆ) ออกยกตัวเร็วจัง แต่ในเวลามีเหตุการณ์ต่างๆกว่าจะไป เอ้อ สงสารเจ้าหน้าที่ในพื้นที่(ชั้นผู้น้อย) มาเจ็บมาตาย อยู่ห่างไกลลูกเมีย ส่วนนาย(ยศสูงๆ) นั่งในoffice.....เมื่อไหร่ภาคใต้จะสงบซักที ขอบคุณครับ
โดยคุณ
UH-1D เมื่อวันที่
17/02/2008 10:34:25