เอาข่าวมาจากเวปของท่านท้าวฯ ครับ เพื่อนๆ ตามไปชมได้นะครับ ที่นี่เลย http://www.wingsofsiam.pantown.com/
อันนี้เนื้อข่าวครับ
กองทัพอากาศจะลงนามข้อตกลงการซื้อขายเครื่องบิน Gripen 39 C/D
ผู้บัญชาการทหารอากาศเดินทางไปลงนามข้อตกลงการซื้อขายเครื่องบิน Gripen 39 C/D ในวันจันทร์ที่ ๑๑ เดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๑ ณ ประทศสวีเดน
ตามที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติเห็นชอบในหลักการเมื่อวันอังคารที่ ๑๖ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๐ ให้กองทัพอากาศดำเนินโครงการจัดหาเครื่องบินขับไล่อเนกประสงค์ทดแทนเครื่องบินขับไล่แบบที่ ๑๘ ก/ข (F-5 B/E) ระยะที่ ๑ ตามที่ทราบโดยทั่วไปแล้วนั้น กองทัพอากาศได้แต่งตั้งคณะกรรมการการจัดซื้อเจรจากับผู้แทนรัฐบาลสวีเดน ตลอดระยะเวลาเกือบ ๓ เดือน จนได้เห็นชอบร่วมกันในร่างข้อตกลงการซื้อขายเครื่องบิน Gripen C/D และเมื่อ ๘ มกราคม พ.ศ.๒๕๕๑ คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้กองทัพอากาศดำเนินการจัดซื้อเครื่องบิน Gripen 39 C/D จำนวน ๖ เครื่อง พร้อมอุปกรณ์ อะไหล่ การฝึกอบรม สิ่งอำนวยความสะดวก ฯลฯ เป็นเงิน ๑๙,๐๐๐.- ล้านบาท ระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลสวีเดน (คณะรัฐมนตรีสวีเดนได้ให้ความเห็นชอบในการซื้อขายเครื่องบินครั้งนี้แล้ว เมื่อ ๒๔ มกราคม ๒๕๕๑) และผู้บัญชาการทหารอากาศ เป็นผู้รับมอบอำนาจลงนามในข้อตกลงการซื้อขายเครื่องบินในนามรัฐบาลไทย รวมทั้งสามารถแก้ไขข้อตกลงการซื้อขายเครื่องบินให้เกิดประโยชน์สูงสุดโดยวงเงินรวมไม่เปลี่ยนแปลง และให้รับข้อเสนอพิเศษจากรัฐบาลสวีเดน ประกอบด้วย เครื่องบินติดตั้งอุปกรณ์เรดาร์ ควบคุมและแจ้งเตือนทางอากาศ (AEW) จำนวน ๑ เครื่อง เครื่องบินลำเลียงแบบ Saab 340 สำหรับการฝึกจำนวน ๑ เครื่อง ระบบ Data Link สำหรับระบบควบคุมและแจ้งเตือนการป้องกันทางอากาศในภาคใต้ ทุนการศึกษาระดับปริญญาโท และความร่วมมือทวิภาคีด้านอุตสาหกรรม
กองทัพอากาศ ได้แต่งตั้งคณะกรรมการบริหารโครงการจัดซื้อเครื่องบิน Gripen 39 C/D ตลอดจนแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ และจะแต่งตั้งชุดนายทหารติดต่อประจำ ณ ประเทศสวีเดน เพื่อบริหารโครงการ กำกับดูแลการดำเนินงานในด้านต่าง ๆ นอกจากนี้ กองทัพอากาศยังได้เจรจาต่อรองเพิ่มเติม เพื่อให้การจัดซื้อเครื่องบินในครั้งนี้เกิดประโยชน์สูงสุดกับทางราชการ
ประโยชน์ที่จะได้รับจากการจัดซื้อตามโครงการในครั้งนี้ ได้แก่
- ได้รับเครื่องบินขับไล่อเนกประสงค์ซึ่งมีสมรรถนะสูงและทันสมัย จำนวน ๖ เครื่อง พร้อมอุปกรณ์ อะไหล่ และระบบสนับสนุนที่เกี่ยวข้อง ทดแทนเครื่องบินขับไล่แบบ F-5 ที่ปลดประจำการในปี ๒๕๕๔
- เพิ่มขีดความสามารถในการตรวจจับอากาศยาน และเป้าหมายภาคพื้นดินและพื้นน้ำ รวมทั้งระบบบัญชาการและควบคุมในพื้นที่ภาคใต้
- การพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ความสามารถในเทคโนโลยีสมัยใหม่ เพื่อให้สามารถนำมาพัฒนากองทัพอากาศให้ก้าวทันเทคโนโลยี
- ยุทโธปกรณ์และเทคโนโลยีที่ได้รับในการจัดซื้อตามโครงการนี้ จะเป็นแรงขับเคลื่อนกองทัพอากาศและกองทัพไทย ให้มีขีดความสามารถเพียงพอ และเท่าทันเทคโนโลยี เพื่อปกป้องอธิปไตย และรักษาไว้ซึ่งผลประโยชน์และความมั่นคงของชาติ
แผนการดำเนินงานที่สำคัญของโครงการ ดังนี้
- การผลิตและส่งมอบเครื่องบินขับไล่ Gripen 39 C/D สามารถใช้ระยะเวลา ๓๖ เดือน ภายหลังจากลงนามในหนังสือข้อตกลงการซื้อขาย
- การฝึกอบรม การส่งมอบอะไหล่ และอุปกรณ์ รวมทั้งการเตรียมรับนั้น ต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จก่อนการส่งมอบเครื่องบิน โดยการถ่ายทอดเทคโนโลยี และการฝึกอบรมในประเทศสวีเดน เริ่มดำเนินการในปี ๒๕๕๑ และการส่งมอบอะไหล่และอุปกรณ์ เริ่มดำเนินการในปี ๒๕๕๓
- การส่งมอบเครื่องบิน Saab 340 ทั้ง ๒ เครื่อง ดำเนินการได้ในต้นปี ๒๕๕๔
- การส่งมอบเครื่องบิน Gripen 39 C/D ทั้ง ๖ เครื่อง จะดำเนินการได้ภายในต้นปี ๒๕๕๔ โดยจะส่งมอบเครื่องบิน ๓ เครื่องแรกในเดือนมกราคม ๒๕๕๔ และอีก ๓ เครื่องในเดือนมีนาคม ๒๕๕๔ และหน่วยบินจะมีความพร้อมปฏิบัติการได้ ภายในเดือนกันยายน ๒๕๕๔ สอดคล้องกับแผนการปลดประจำการของเครื่องบิน F-5 ที่กองบิน ๗ จังหวัดสุราษฎร์ธานี
- การฝึกอบรมนักบิน ครูการบินและนักบินลองเครื่อง รวม ๑๐ คน ใช้ระยะเวลาประมาณ ๑๒ เดือน รวมทั้งการฝึกเจ้าหน้าที่เทคนิคของเครื่องบิน Gripen 39 C/D และเครื่องบิน Saab 340 ซึ่งจะเริ่มดำเนินการฝึก ณ ประเทศสวีเดน ในปี ๒๕๕๓ นอกจากนี้จะมีนักบินสวีเดน ๒ คน และผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคมาสนับสนุนในประเทศไทยเป็นเวลา ๒ ปี
- การส่งกำลังบำรุงสำหรับเครื่องบิน Gripen 39 C/D ด้วยการจัดหาอุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้ และเครื่องมือการซ่อมบำรุง ตามระบบการซ่อมบำรุง และอะไหล่ที่จำเป็น (Initial Spare Parts) สำหรับ การซ่อมบำรุงใน ๒ ปีแรก
- การฝึกอบรมเจ้าหน้าที่เทคนิค และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
- การปรับปรุงอาคารสถานที่ และติดตั้งระบบซ่อมบำรุง ณ กองบิน ๗ จังหวัดสุราษฎร์ธานี
นอกจากนี้ในระยะยาว กองทัพอากาศจะเข้าร่วมเป็นสมาชิกผู้ใช้งานเครื่องบิน Gripen และดำเนินการซ่อมบำรุงแบบ Pooling Program กล่าวคือ เป็นการรวมอะไหล่ไว้ในหมู่ประเทศสมาชิก เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการสะสมอะไหล่ ลดระยะเวลาในการซ่อมบำรุง และเป็นระบบการซ่อมบำรุงสำหรับเทคโนโลยีสมัยใหม่ อีกด้วย
ความร่วมมือทวิภาคีกับสวีเดน
- การถ่ายทอดเทคโนโลยีสำหรับเจ้าหน้าที่กองทัพอากาศ และกองทัพไทย เริ่มดำเนินการในปี ๒๕๕๑
- ทุนการศึกษาในระดับปริญญาโทในมหาวิทยาลัยชั้นนำของสวีเดน จำนวน ๙๒ ทุน ระหว่างปี ๒๕๕๒ - ๒๕๕๕ ซึ่งจะมีทุนการศึกษาจำนวน ๘๐ ทุน ขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย และอีก ๑๒ ทุนจะเป็นทุนสำหรับข้าราชการของกองทัพอากาศและเหล่าทัพอื่น
- ความร่วมมือทางอุตสาหกรรม ในด้านวิชาการ การลงทุน การผลิตสินค้า และการบริการ ซึ่งจะมีส่วนราชการอื่นที่เกี่ยวข้องร่วมกำหนดรายละเอียดต่อไปภายหลัง
...
ข่าวฉบับปรับปรุงเมื่อวันที่ ๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๑ เวลา ๑๑๐๐
ยินดีกับ ทอ.ด้วยครับ.........................................
กว่าจะได้เซ็นก็นึกว่าเซ็นกันเสร็จแล้วนะนั้น
ที่น่าสนใจ คือ รายละเอียดของสัญญาครับ โดยเฉพาะในส่วนของตัวเครื่อง gripen C/D ว่าจะมีอุปกรณ์อะไรติดมาบ้าง แต่ว่าจะมีการเปิดเผยรายละเอียดเหล่านี้หรือไม่ ต้องรอดูกันต่อไป
ไหนบอกว่าเป็นความลับไงเจ้าโย มันลับตรงไหนเนี่ย...!
เพราะพอวางสายปุ๊บ คุณเล็กโพสปั๊บเลย
ข่าวนี้เป็นไปตามลำดับขั้นตอนที่ ท.อ. จ่ารัตน์ และ จ่าดิบ เคยเล่าให้ฟังเมื่อปลายปีที่แล้ว หลังจากอนุมัติหลักการ ก็ต้องมาเตรียมการเรื่องร่างสัญญา จากนั้นก็ลงนาม
เป็นข่าวอีกที่ตอนพิธีลงนามละกันครับ
อะ..........ผมเอาความลับทางราชการมาเปิดเผยหรือเปล่านิ......... เราจะโดน สห.หมายหัวอีกคนหรือเปล่าน้อ.................. หรือจะโดนตัวแทนซาบ แอบส่งคนมาเก็บหรือเปล่านี่............. อิ...อิ....
สงสัยว่าผมคงจะได้เห็น Erieye แค่เปลือกนอกแน่ๆ เลยมั้ง เหมือน ARAVA................................