เหอะๆ ฝรั่งมันก็เป็นครับ เยอะไป อย่างพวกไอ้กันที่ทำงานกินเงินเดือนมันบ่นน่ะที่ต้องเสียภาษีแพงๆ แต่มันก็ก่อหนี้กันบ้าคลั่งเหมือนกัน ดูอย่างเรื่อง Sub Prime ซิครับ ว่ามันเกิดจากการก่อหนี้ไปซื้อของหรือเปล่า
คุณเชื่อไหมว่าโรงเรียนมัธยมปลายของอเมริกา สอนการคำนวณดอกเบี้ยเงินกู้ และ การยื่นกู้ตังแต่เด็กๆ
แต่ต้องยอมรับในบางเรื่องว่าประเทศตะวันตกมีการจัดการสวัสดิการของรัฐที่ดีกว่าประเทศสารขันฑ์อยู่หลายช่วงตัว
เห่อๆๆๆๆ
ชาวอเมริกันเปลี่ยนรถกันปีละคันครับ = =
แต่มือถือนี่ ผมแปลกใจกะวัยรุ่นบางคนจริงๆ เปลี่ยนมือถือยังงกะเปลี่ยนเสื้อผ้า บางคนมือถือราคาแพง แต่ใช้แค่ ฟังเพลง ส่งsms กะคุยโทรศัพท์ ยังงงเลยว่าพี่แกจะเอา3G ไปทำอะไร
ปล. ไม่รู้ว่าคนไทยจนรึเปล่า แต่ผมน่ะ จนครับ เดือนนี้กรอบสนิท 555 ว่าจะยืมตังค์ตาสกายแมนใช้ ได้ค่าคอมมิสชั่นมาแล้วนิ ต้องขอยืม 555
แต่ผมว่า ภาษี มันแพงจริง ๆ ครับ....
สมมติท่านเป็นพนักงานบริษัท มีเงินเดือน 30,000 บาท
เงื่อนไข เป็นคนโสด เลี้ยงดูพ่อ-แม่ ที่ไม่มีรายได้ เงินได้ที่ท่านมีทั้งปี ใช้จ่ายหมด ไม่มีเงินเก็บ ใน 1 ปี ท่านจะเสียภาษีให้แก่รัฐ รวมประมาณการสูงสุดที่ 30,651 บาท คิดว่ามาจาก
รายได้ทั้งปี 360,000 บาท
ท่านใช้เงินทั้งหมด ซื้อสินค้าและบริการ มีภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% ที่รัฐเรียกเก็บจากผู้ซื้อ ผ่านทางผู้ขาย เท่ากับ 23,551 บาท
ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เมื่อคำนวณหักลดหย่อนมาแล้ว จะเท่ากับ 7,100 บาท
เท่ากับ เงินเดือนประมาณ 1 เดือน ที่ท่านต้องเสียภาษีให้แก่รัฐ
ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% เป็นภาษีทางอ้อมที่ทุกคนในประเทศได้จ่ายให้แก่รัฐ แม้ท่านจะไม่มีรายได้สุทธิคงเหลือเพียงพอ ต้องนำส่งภาษี ( ชาวนา ก็จ่ายภาษีทางอ้อมนี้ จาก ปลากระป๋อง กะปิ น้ำปลา ที่ผลิตจากโรงงานอุตสาหกรรม รวมถึง ทีวี มือถือ เตาแก๊ส )
ดังนั้น ยิ่งท่านมีเงินเดือนมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งเสียภาษีมากเท่านั้น