หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


ยูเอวี กับการลดอัตราการสูญเสียทหารสหรัฐฯในอิรัก

โดยคุณ : PHEETOH เมื่อวันที่ : 04/02/2008 13:21:59

ดีใจเหลือเกินที่เพิ่งล็อกอินได้ เลยเอาบทความที่เขียนลงมติชนไปแล้วมาโพสต์ เพื่อคนที่สนใจแต่อาจจะไม่ได้ไปยืนอ่านตามแผงครับ

 

เมื่อกองทัพสหรัฐฯเข้าครอบครองกรุงแบกแดดและอิรักทั้งประเทศในปี2003 ทุกอย่างดูเหมือนง่ายดายหลังจากการปะทะประปรายกับกองกำลังอันอ่อนเปลี้ยของซัดดาม ฮูเซนเพียงไม่กี่สัปดาห์ ทหารจีไอสูญเสียเพียงหลักร้อยทั้งตายและเจ็บ เทียบกับกองทัพอิรักและกองกำลังพิทักษ์สาธารณรัฐ”รีพับลิกัน การ์ด”ที่ถูกทำลายด้วยตัวเลขมากกว่ากันหลายเท่า ครั้งนั้นสหรัฐฯชนะด้วยเทคโนโลยีเหนือชั้นและยุทโธปกรณ์ครบครัน กองทัพสหรัฐฯที่ออกตัวว่าเป็น”กองทัพที่มียุทโธปกรณ์ครบถ้วนที่สุดในโลก” ได้พิสูจน์แล้วว่าไม่ได้โฆษณาชวนเชื่อ สรรพกำลังทุกรูปแบบถูกขนมาถล่มแบบไม่เสียดาย จากสงครามอ่าวครั้งแรกเมื่อเข้าปลดปล่อยคูเวต ครั้งที่2เมื่อรุกเข้าสู่ใจกลางเมืองหลวงอิรักโดยตรง ด้วยเหตุผลว่าเพื่อปลดปล่อยชาวอิรักจากการปกครองระบอบทรราชย์ของซัดดาม ฮูเซน

                ถึงกองทัพสหรัฐฯจะคุ้นเคยกับสงครามกองโจรมาตั้งแต่สมัยบุกเบิก เคยชนะเมื่อครั้งปลดแอกจากอังกฤษก่อนได้ประธานาธิบดีคนแรก และเผชิญกับสงครามรูปแบบนี้เสมอมาจนถึงสงครามเวียตนาม แต่ก็ยังไม่มีสูตรสำเร็จในการเอาชนะได้แบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด แม้เทคโนโลยีจะเหนือกว่า แต่เมื่อฝ่ายต่อต้านมุดลงใต้ดินแล้วเล่นลอบกัดเพราะเป็นยุทธวิธีที่ถนัดและลงทุนน้อย กองทัพที่ยุทโธปกรณ์พร้อมที่สุดในโลกก็ยังย่ำแย่ ยอดจำนวนทหารที่เสียชีวิตตั้งแต่เริ่มรุกรานในปี2003ถึงปัจจุบัน นับรวมได้เกือบครึ่งหมื่นและยังทวีจำนวนขึ้นตามเวลาที่ผ่านไป แม้จะประกาศถอนทหารแล้วแต่ไพร่พลยังสูญเสีย

                สาเหตุแห่งความสูญเสียส่วนใหญ่มาจากระเบิดแสวงเครื่องหรือ”IED”(Improvised Explosive Devices) ที่ฝ่ายต่อต้านสร้างจากหัวกระสุนปืนใหญ่หรือวัตถุระเบิดอะไรก็ตามแต่จะหาได้ในท้องที่ ซ่อนพรางไว้ในรถยนต์หรือที่ซ่อนเร้นริมถนนในเส้นทางที่ทหารอเมริกันใช้ เมื่อการลาดตระเวนในถนนทำให้อเมริกันเสียเปรียบเพราะเล่นเกมตามศัตรู ทางออกคือต้องบีบให้ศัตรูต้องเล่นตามเกมของตน ต้องเป็นเกมที่เพนทากอนคุมได้และที่สำคัญคือต้องไม่สูญเสีย คำตอบคือการลาดตระเวนทางอากาศ สอดแนมด้วยยุทโธปกรณ์เทคโนโลยีสูง  สิ้นเปลืองน้อยทั้งกำลังพลและทรัพยากร ในรูปอากาศยานไร้นักบินหรือUAV(Unmanned Aerial Vehicles)

                ในยุคของการทำสงครามที่ไม่ได้ตัดสินกันแค่จำนวนกำลังพลอย่างเดียว แต่การช่วงชิงข้อมูลข่าวสารคือหัวใจสำคัญ การมองเห็นฝ่ายตรงข้าม ปรับตัว ตัดสินใจ และใช้อาวุธได้ก่อน(หรือการจบกระบวนการOODAได้ก่อนข้าศึก ตามที่เคยกล่าวไว้ในเรื่องของจอห์น บอยด์)คือความได้เปรียบ อากาศยานไร้นักบินจึงเกิดขึ้นมาด้วยแนวความคิดดังกล่าว มันถูกใช้อย่างได้ผลทั้งการลาดตระเวน สอดแนมและแม้แต่ติดอาวุธทำลายเป้าหมาย สมาชิกระดับสูงของโอซามา บิน ลาเดนหลายคนพลาดท่าถูก”Predator”UAVรุ่นหนึ่งของซีไอเอถล่มแหลก ไม่นับรวมถึงเป้าหมายน้อยใหญ่อีกมากที่พินาศไปเพราะUAV

มันถูกใช้มากขึ้นด้วยคุณสมบัติอันโดดเด่นคือบินได้นาน10-15ชั่วโมงในพื้นที่เป้าหมาย ระหว่างนักบินนั่งโยกคันบังคับพร้อมกาแฟและคุกกี้อยู่ในศูนย์บัญชาการห่างไกลเป็นหมื่นก.ม. ขณะเครื่องบินขับไล่อย่างF-16บินได้แค่4-5ชั่วโมงและนักบินต้องเสี่ยงถูกยิงตก มีต้นทุนสูงทั้งเชื้อเพลิง,ตัวเครื่องบิน,ระบบอาวุธและชีวิตนักบิน

                UAVถูกใช้ในอิรักทั้งช่วงเปิดศึกและช่วงยึดครอง และเมื่อกองทัพสหรัฐฯบางส่วนต้องถอนกลับUAVก็เพิ่มเที่ยวบินมากขึ้น ตัวเลขจากถ้อยแถลงของเพนทากอนหรือกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ระหว่างเดือนมกราคมถึงตุลาคมปีที่แล้ว ชี้ให้เห็นว่ากองทัพสหรัฐฯกำลังเปลี่ยนรูปแบบการทำสงครามต่อต้านการก่อการร้าย จากการใช้ทหารภาคพื้นดินมาเป็นอากาศยานไร้นักบินมากขึ้น ประมาณว่าใช้UAVทุกแบบไปแล้วรวมกว่า500,000ชั่วโมงในช่วงเวลาดังกล่าว ส่วนนักบินที่บินเครื่องบินจริงก็ถูกย้ายไปปฏิบัติหน้าที่ในเขตอื่นซึ่งเสี่ยงภัยน้อยกว่า การเพิ่มเที่ยวบินของUAVในทุกเหล่าทัพของสหรัฐฯโดยเฉพาะในอิรัก เป็นความพยายามมหาศาลเพื่อช่วงชิงความได้เปรียบข้าศึกและลดความสูญเสียของฝ่ายตนมากที่สุดในรอบ25ปี หลังจากสหรัฐฯทำสงครามน้อยใหญ่หลายครั้ง ทั้งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อเมริกากลางและยุโรป

                การใช้UAVเพิ่มขึ้นในกรุงแบกแดดช่วงฤดูร้อน เป็นไปอย่างเหมาะเจาะพร้อมเพรียงกับการเพิ่มกำลังทหารเพื่อเร่งบดขยี้กองกำลังผู้ก่อการร้าย ยิ่งรัฐบาลประกาศถอนทัพกลับบ้านไปบางส่วน UAVก็ยิ่งบินมากขึ้นเพื่อทดแทนจำนวนครั้งของการลาดตระเวนภาคพื้นดินที่ลดลง UAVหลายรุ่นได้ถูกกองทัพสหรัฐฯใช้อย่างคุ้มค่าทั้งเพื่อลาดตระเวนสอดแนมและทำลายเป้าหมาย พรีเดเตอร์(Predator),โกลเบิล ฮอว์ค(Global Hawk),แชโดว์(Shadow),ฮันเตอร์(Hunter)และเรฟเวน(Raven)คือนามของUAVที่จะปรากฏในข่าวสงครามตะวันออกกลางถี่ขึ้นในอนาคต

                จากหลักนิยมใหม่ในการลาดตระเวนนี้ นักบินจากกองทัพอากาศจำนวน120นายที่เดิมเคยขับทั้งเครื่องบินขับไล่และโจมตี ได้ถูกย้ายไปทำหน้าที่ควบคุมUAVเพื่อสนองภารกิจใหม่ แทนที่จะทนร้อนเพราะแดดแผดเผาในอิรัก นักบินเหล่านี้จะได้ควบคุมอากาศยานไร้นักบินจากสถานที่อันห่างไกลเช่นฐานทัพอากาศเนลลิสในเนวาดา ซึ่งพวกเขาต้องควบคุมพรีเดเตอร์ หนึ่งในระบบUAVที่ใหญ่และสลับซับซ้อนที่สุดแทนเครื่องบินจริงอันคุ้นเคย

                ทหารในกองกำลังรักษาดินแดนหรือ”เนชันแนล การ์ด”ก็ถูกเรียกมาเพื่อควบคุมระบบนี้เช่นกัน และจะมากขึ้นเรื่อยๆในปีนี้ ฐานทัพอากาศในนอร์ธเดโกตา,เท็กซัส,อาริโซนาและแคลิฟอร์เนียจะถูกเสริมระบบเพื่อรองรับการใช้งานUAVที่เพิ่มขึ้น ระหว่างฤดูใบไม้ผลิปีที่แล้วและช่วงต้นฤดูร้อนของปีก่อน ถึงกำลังพลของสหรัฐฯเพิ่มขึ้นจาก15เป็น20กองพลน้อย จากที่มีอยู่แล้ว135,000นายกลายเป็น165,000นาย แต่ในจำนวนนี้5กองพลน้อยได้ถูกถอนกลับ  ตามคำสั่งของรัฐบาลที่เริ่มดำเนินการในเดือนธันวาคมปี2007

                การเพิ่มปฏิบัติการทางทหารของสหรัฐฯทั่วอิรักเมื่อฤดูร้อนปีก่อน ทำให้ต้องเพิ่มเที่ยวบินของUAVขึ้น มันถูกใช้แพร่หลาย ถูกกองทัพแจกจ่ายภารกิจถ้วนทั่วตั้งแต่ระบบใหญ่และซับซ้อนที่สุดอย่างพรีเดเตอร์ ที่ทำได้ตั้งแต่การสอดแนมไปจนถึงปล่อยอาวุธทำลายเป้าหมาย ไปจนถึงระบบราคาถูกกว่าและซับซ้อนน้อยที่สุดอย่างเรฟเวน ตัวอย่างอันเด่นชัดที่สุดได้เกิดเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วในเมืองบาลัดของอิรัก เมื่อพรีเดเตอร์จับภาพผู้ก่อการร้าย3คนกำลังใช้เครื่องยิงลูกระเบิด(ค.)ถล่มที่มั่นของทหารสหรัฐฯได้ ภาพที่เห็นชัดเจนทำให้ผู้บังคับยานตัดสินใจยิงอาวุธปล่อยทำลายเป้าหมายสำเร็จ  โดยไม่ต้องเสี่ยงชีวิตทั้งนักบินและกองกำลังภาคพื้นดิน

                กองทัพอากาศสหรัฐแถลงว่าเฉพาะพรีเดเตอร์เพียงแบบเดียว เที่ยวบินของมันก็เพิ่มขึ้นมากแล้วจาก2,000ชั่วโมงในเดือนมกราคมเป็น4,300ชั่วโมงในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา และเดือนพฤศจิกายนกับธันวาคมก็เพิ่มชั่วโมงบินลาดตระเวนรบขึ้นจากวันละ14มาเป็น18ชั่วโมง โกลเบิล ฮอว์คซึ่งเป็นUAVอีกแบบยังเพิ่มเที่ยวบินขึ้นด้วยระหว่างกองทัพอากาศเพิ่มระบบUAVขึ้นเป็น3ระบบ จากเดิมเคยใช้งานอยู่2ระบบ ระบบที่ใช้แพร่หลายที่สุดเพราะราคาถูกและใช้ง่ายที่สุดคือเรฟเวน UAVน้ำหนัก2ก.ก.ของกองทัพบกที่ใช้งานระยะใกล้ด้วยการปล่อยจากมือ เที่ยวบินของมันทะลุ300,000ชั่วโมงไปเรียบร้อยเมื่อปลายปีที่แล้ว เป็นสองเท่าของปี2006

                กองทัพบกสหรัฐฯมีUAVใช้อยู่รวม361เครื่องเฉพาะที่อิรัก ประกอบด้วยแชโดว์,ฮันเตอร์และเรฟเวน ทั้งหมดนี้บินรวมกันได้300,000ชั่วโมงในช่วงสิบเดือนแรกของปี2007 UAVเหล่านี้มีคุณประโยชน์มากพอที่ผู้บังคับหน่วยรบจะพยายามสุดความสามารถเพื่อให้ได้มันมา เพราะใช้ง่าย น้ำหนักเบา ประหยัด และที่สำคัญคือมันลดความสูญเสียกำลังพลได้มาก แทนที่จะส่งทหารไปลาดตระเวนตามถนนสายต่างๆก็ส่งเรฟเวนหรือUAVอื่นไปแทน โอกาสที่ทหารจะเสียชีวิตเพราะคาร์บอมบ์ก็หมดไปแต่ได้ข้อมูลข่าวสารดีกว่า เพราะเป็นมุมมองจากอากาศ มองเห็นภาพพื้นที่ได้กว้างกว่า ระยะเวลาปฏิบัติการยังยาวนานกว่าใช้เครื่องบินขับไล่อย่างF16หรือเครื่องบินโจมตีเช่นA10 ซึ่งนักบินต้องเครียดและเสี่ยงชีวิต ต่างจากUAVที่บินสอดแนมได้ทั้งวันโดยทหารเปลี่ยนเวรกันมานั่งเฝ้าหน้าจอภาพ โยกคันบังคับบนเก้าอี้นุ่มในห้องแอร์เย็นสบาย

                ตามรายงานที่เผยแพร่โดยเพนทากอน บ่งบอกว่าจะพัฒนาระบบรบ”ไร้มนุษย์”ให้ได้ผลดีขึ้นไปอีกใน25ปีหน้า อันอาจรวมถึงยานทำลายกับระเบิดควบคุมระยะไกล รถสายพานควบคุมระยะไกลติดปืนกลเบาเพื่อทำลายที่มั่นแทนการใช้ทหารราบ หรือยานดำน้ำฉลาดที่คิดเป็น สามารถหลบหลีกอุปสรรคเข้าไปทำลายที่หมายชายฝั่ง สำหรับอากาศยานไร้นักบินหรือUAV มันได้กลายเป็นระบบอาวุธที่เหมาะกับการทำสงครามปราบปรามการก่อการร้ายในปัจจุบันไปแล้ว ตัวเลขชั่วโมงบินที่เพิ่มขึ้นในอิรักได้พิสูจน์แล้วว่าใช้ได้ผล ลดความสูญเสียได้จริง

                แล้วกองทัพไทยของเราล่ะสนใจUAVบ้างหรือเปล่า? คำตอบคือเรามีระบบอาวุธนี้ใช้งานเหมือนกัน เท่าที่ทราบคือของกองทัพบกมีUAVนำเข้าจากอิสราเอล  และที่กองทัพอากาศกำลังพัฒนาอยู่ในขั้นทดลอง อีกนานเท่าไรจึงจะสัมฤทธิ์ผลนั้นยังตอบไม่ได้  ระบบของเราอาจไม่ซับซ้อนหรือส่งข้อมูลได้ไกลเท่ากับพรีเดเตอร์หรือระบบอื่นๆของสหรัฐฯ แต่ก็น่าจะได้ประโยชน์จากมันมากกว่าที่เป็น ในภาวะข้าวยากหมากแพงเช่นนี้เรื่องการจัดหายุทโธปกรณ์อาจดูเหมือนฟุ่มเฟือยในสายตาของคนบางกลุ่ม  แต่จากตัวอย่างของสหรัฐฯในอิรักและอาฟกานิสถาน รัฐบาลไทยน่าจะหันมาให้ความสำคัญกับระบบนี้มากกว่าเดิม

ถ้าUAVของสหรัฐฯลดความสูญเสียของทหารในกองทัพของเขาได้จริง มันก็น่าจะช่วยเราได้ในทำนองเดียวกัน ผู้เกี่ยวข้องกับโครงการนี้จะคิดอะไรอยู่ก็โปรดผลักดันมันให้สำเร็จโดยเร็วเถิด ทหารหาญของเราเสียชีวิตใน3จังหวัดภาคใต้ไปมากแล้ว พวกเขาต้องสูญเสียเลือดเนื้อกันอีกเท่าไรกว่าจะพบสันติ ผู้ใหญ่ท่านใดในกองทัพจะให้คำตอบได้บ้าง? 

 





ความคิดเห็นที่ 1


ช่วย ๆ กันทำมาหากิน .... เอ้ย .... ช่วย ๆ กันซื้อนะครับ อิอิอิ


โดยคุณ Skyman เมื่อวันที่ 03/02/2008 07:29:33


ความคิดเห็นที่ 2


บทความทั้งหมดที่ผมนำลงทั้งในนิตยสารและเว็บไซต์ใดๆ หากผู้ใดต้องการเผยแพร่ ให้ติดต่อโดยตรงกับผมได้ ที่นี่ ห้ามลักขโมยไปเผยแพร่แล้วใช้คำว่าขอยืมหน่อยเดียวเองหรือใช้ถ้อยคำอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน อันเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ทรัพย์สินทางปัญญา หากผมรู้ ผมจะดำเนินคดีตามที่บัญญัติไว้สูงสุด  หรือถ้าหากการดำเนินคดียุ่งยากเสียเวลาจนผมระอาที่จะดำเนินการ ผมจะด่าบุคคลผู้นั้นให้เสียคน ไม่เชื่อลองดู

โดยคุณ PHEETOH เมื่อวันที่ 03/02/2008 07:53:51


ความคิดเห็นที่ 3


     UAV   RQ-1A  Predator เป็นเครื่องบินที่ไม่มีคนขับ หรือ ไม่ต้องมีนักบิน บินที่ระดับความสูงปานกลาง บินอยู่ในอากาศได้นาน ( UAV= Unmanned Aerial Vehicle). UAV ภาระกิจ สำหรับคอยลาดตระเวณ ตรวจสอบ และชี้เป้าหมาย (ในรุ่นต่อมา สามารถโจมตีได้ด้วย). สัญญาการสร้างได้ให้แก่บริษัท General Atomics Aeronautical Systems ในเดือน ม.ค.1994. Predator บินครั้งแรกในปี 1994 และเข้าสู่ สายการผลิตจริง ในเดือน ส.ค.1997.
     R เป็นสัญญลักษณ์ย่อ ของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ หมายถึง RECONNAISANCE (ลาดตระเวณ) , Q หมายถึง ไม่มีนักบิน หรือไม่มีคนบนเครื่องบิน , 1 บ่งบอกถึง เป็นเครื่องรุ่นแรก ของแบบ , A บ่งบอกถึง การปรับปรุง แก้ไข ของแบบ RQ-1 . ระบบ ของ Predator ประกอบไปด้วย : อากาศยาน ที่มีเครื่องมือตรวจจับ หรือตรวจวัดพร้อมด้วยระบบสื่อสารต่างๆ , สถานีควบคุมภาคพื้นดิน (GCS) , ระบบสื่อสารผ่านดาวเทียม Trojan Spirit II (Satcom communication system).
      อากาศยาน เป็นอากาศยานปีกชั้นเดียว มีปีกอยู่ตรงกลางลำตัว ลำตัวมีลักษณะเรียว ใช้ติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ และบรรทุกเชื้อเพลิง ปีกทั้งสองมีอัตราส่วนระหว่างความยาว ต่อความกว้างของปีกสูง . อากาศยาน มีส่วนหาง มีลักษณะเป็นตัว V คว่ำ. เครื่องยนต์ เป็นเครื่องยนต์ ลูกสูบ Rotax มีสี่สูบใช้เชื้อเพลิงเบนซินอากาศยาน อ็อคเทน 100 .
      อากาศยาน Predator แต่ละลำ สามารถถอดแยกชิ้นส่วน เพื่อการขนส่ง เป็นหกส่วนใหญ่ๆ และบรรทุกใส่กล่อง ที่มีชื่อ สัญญลักษณ์ว่า the coffin (โรงศพ) สถานีควบคุมภาคพื้นดิน GCS (Ground Control Station) เป็นส่วนประกอบ ของระบบที่ใหญ่ที่สุด ทั้งหมด ออกแบบมา ให้สามารถบรรทุก เคลื่อนย้ายได้โดยเครื่องบินขนส่ง C-130.
     Trojan Spirit II ประกอบด้วยจานดาวเทียมขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 6.1 เมตร, และ ขนาด 2.4 เมตร, พร้อมด้วยอุปกรณ์สนับสนุน อุปกรณ์ส่วนนี้ใช้ในการสื่อสาร ระหว่างหน่วยควบคุมภาคพื้นดิน และ อากาศยาน เมื่อ อากาศยานไม่ได้อยู่ในแนวเส้นตรง ที่ตามองเห็น ซึ่งจะเชื่อมต่อกับเครือข่ายหน่วยข่าวกรอง.
      UAV Predator ได้ใช้ปฎิบัติการในสงคราม Bosnia ตั้งแต่ปี 1995. ความสามารถในการรวบรวมข่าวต่างๆ ให้แก่กองกำลัง NATO ,UN , และ US รวมแล้วมากกว่า 600 ครั้ง. ในเดือน ต.ค. ปี 2001 Predator ได้ถูกนำเข้าปฎิบัติการใน Afghanistan เพื่อค้นหาข่าวคราวต่างๆ และ สามารถที่จะโจมตีได้ด้วย ในสงครามต่อต้านผู้ก่อการร้าย ในเดือน ก.พ. ปี 2001 จรวด Hellfire-C, ที่นำทิศทางด้วยแสง Laser ได้ถูกยิงจาก Predator เป็นผลสำเร็จครั้งแรก. การติดตั้งอาวุธ ให้แก่ Predator รวมถึงการเสริมจุดติดตั้ง ที่ปีก ทั้งสองด้วย ที่จุดติดตั้งที่ปีกนี้ก็เสริมความแข็งแรงด้วย เพื่อใช้ในการยิงจรวด Hellfire. การปรับปรุงของ Predator ในส่วนนี้ สืบเนื่องมาจากบทเรียนที่ NATO ได้รับ ระหว่าง สงครามใน Yugoslavia ในปี 1999. เมื่อ Predator ได้พบกองกำลังเป้าหมายของข้าศึก และแจ้งให้เครื่องบินรบมาโจมตี แต่กว่าเครื่องบินรบจะมาถึงเป้าหมาย เป้าหมายนั้นก็ได้เคลื่อนย้ายหายไปแล้ว ถ้าติดอาวุธให้กับ Predators และเป้าหมายทางทหาร ที่ตรวจพบ โดย Predator ก็สามารถ โจมตี ได้ทันที ด้วย จรวด Hellfire-C
      ในเดือน ม.ค. ปี 2000 ได้เริ่มโครงการ Predator B ด้วยความร่วมมือ ในการลงทุน ของ General Atomics Aeronautical Systems Inc. (GA-ASI) และ NASA เครื่อง Predator B-001 จะติดตั้ง ด้วยเครื่องยนต์ GE TPE-331-10T ซึ่งเป็น เจ็ทใบพัด เครื่องรุ่น Predator B จะเพิ่ม ความเร็ว ขึ้นเพื่อให้การ เคลื่อนย้าย และเปลี่ยนตำแหน่ง พื้นที่ปฎิบัติการ ได้รวดเร็วขึ้น และสามารถบรรทุกน้ำหนักได้มากขึ้น เช่นกล้องที่มีความสามารถมากขึ้น ตัวบ่งชี้เป้าหมาย อาวุธ และระบบค้นหาตรวจสอบ.
      การบรรทุก: ตัวตรวจจับ Electro-Optical (EO) / Infrared (IR) , กล้อง day-light video cameras สองตัว และ กล้อง อินฟาเรด ( IR camera ) ติดตั้งอยู่ที่เสา ที่สามารถหันไปมา, ระบบ Synthetic Aperture Radar (SAR) ช่วยสร้าง จุดต่อเนื่อง (ประมาณ พื้นที่ 800m x 800m ที่ความสูง 15000 ฟุต AGL) อย่างต่อเนื่อง ณ. เวลาที่เป็นจริง ที่มีความละเอียด และส่งผ่านระบบความถี่ KU band ผ่านดาวเทียม สู่สถานีควบคุมภาคพื้นดิน (GCS). อุปกรณ์ ที่ใช้ส่งข้อมูลบนอากาศยาน จะติดตั้งอยู่ที่ห้องตรงส่วนหน้าของอากาศยาน สถานีควบคุม ภาคพื้นดิน GCS จะต่อเข้ากับ TROJAN SPIRIT II, ซึ่งสามารถถ่ายทอดให้กับ ดาวเทียม SATCOM (Satellite Communication) สถานีควบคุมภาคพื้นดิน ประกอบไปด้วย ระบบ HF, UHF, VHF and SHF
      การควบคุมอากาศยาน และการส่งสัญญาณ ภาพ จากอากาศยาน ไปยังสถานีควบคุมภาคพื้นดิน GCS โดย ใช้ระบบต่างๆ อย่างใดอย่างหนึ่ง หรือมากกว่าหนึ่งอย่างจาก ; C-band Line-of-Sight 5.25-5.85 MHz, Ultra High Frequency (UHF 244.0 MHz - 318.0 MHz), หรือ KU band 11.45-14.5 GHz.


โดยคุณ Zicmainter เมื่อวันที่ 03/02/2008 08:02:22


ความคิดเห็นที่ 4


UAV Ground Control Station


โดยคุณ Zicmainter เมื่อวันที่ 03/02/2008 08:03:43


ความคิดเห็นที่ 5


ขอต้อนรับพี่โตฮะ

ตาโย ยังจะกินค่าคอมฯจากUAV อีกเรอะ แค่ยาสนี่ไม่พอใช่ป่ะ

โดยคุณ icy_nominee เมื่อวันที่ 03/02/2008 08:06:32


ความคิดเห็นที่ 6


ส่วนผมชอบเจ้านี่ ไว้ล่าโจรใต้เวลามันก่อเหตุเอาเจ้านี่ไล่ในที่เกิดเหตุ เพระกว่าเจ้าหน้าที่จะไปถึง โจรมันก็ใส่โสร่งจนไม่รู้ว่าไหนชาวบ้าน ไหนโจรซะแล้ว

ต้องไอ้นี้แหละครับ ฮึฮึฮึ...ถึงลูกถึงคนดี

โดยคุณ น่าคิด เมื่อวันที่ 03/02/2008 10:13:47


ความคิดเห็นที่ 7


รูปไม่ขึ้น เอาใหม่ครับ


โดยคุณ น่าคิด เมื่อวันที่ 03/02/2008 10:14:58


ความคิดเห็นที่ 8


น่าสนเหมือนกันครับที่เราจะใช้ UAV ในภาคใต้ ตลอดเวลาที่ผ่านมานี่ผมเองยังตั้งคำถามที่ไม่มีใครมาตอบเลยว่าทำไมเราไม่ได้ใช้ UAV เสียที อยากรู้เหมือนกันว่าคนในเขาจะตอบคำถามนี้ว่ายังไง
โดยคุณ Praetorians เมื่อวันที่ 03/02/2008 22:56:39


ความคิดเห็นที่ 9


ขอบคุณมากครับ กำลังสนใจในเรื่องเกี่ยวกับอิรักอยู่พอดี (ไอ้เจ้าIEDนี่ไม่รู้ว่าโจรใต้ได้ไอเดียมาจากอิรักรึเปล่า?)
โดยคุณ tan02 เมื่อวันที่ 04/02/2008 01:00:13


ความคิดเห็นที่ 10


ผมเคยมีโอกาศเข้าไปทำภาระกิจในค่ายอิงที่ปัตตานี แล้วมีโอกาศได้คุยกับกับเจ้าหน้าที่พบว่ามีการใช้ UAV แล้วแต่ภาระกิจนั้นปิดเป็นความลับ เท่าที่ทราบมาซื้อมาจากยิว เสียงดังคล้ายๆ OV 10 เพราะช่วงปี 2549-2550  มีการบินผ่านหลังคาบ้านผมบ่อยมาก

โดยคุณ prem เมื่อวันที่ 04/02/2008 02:22:00