หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


เสนอไทยนำทองคำขาวแลกยุทโธปกรณ์

โดยคุณ : สกายนาย เมื่อวันที่ : 01/02/2008 12:29:33

.......................... เมื่อวาน ผมได้มีโอกาสไปคุยกับผู้หลักผู้ใหญ่คนหนึ่งในบ้านเมืองไทยเรานี้ ซึ่งท่านได้มีโอกาสไปเที่ยวดูงานในประเทศจีนมา  และท่านได้เล่าให้ผมฟังว่า  ในระหว่างการไปครั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ทางฝ่ายจีนที่มาให้การตอนรับได้ชวนพูดคุยบอกมาว่า เขาทราบมาว่า ทางกองทัพของไทยมีความประสงค์จะจัดหาเครื่องบินรบและเรือดำน้ำใหม่มาประจำการในระยะเวลาอันใกล้นี้นั้น(ซึ่งขณะนั้นทางผู้ใหญ่ท่านนี้ก็ปฏิเสธออกตัวว่า ตัวท่านไม่ทราบเรื่องโครงการจัดหานี้และท่านได้บอกกลับไปว่า ตัวท่านไม่เกี่ยวกับสายงานทางด้านนี้) ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ของจีนก็ยังได้พูดคุยบอกต่ออีกว่า ในสายตาของเขา เขาว่าทางไทยเราไม่น่าจะเสียเงินเสียทองไปจัดซื้อจัดหามา ทำไมไทยเราไม่นำเอาทองคำขาวไปแลกมาเอา ท่านผู้ใหญ่ท่านนี้ก็งง เพราะท่านไม่เห็นจะทราบว่าทางไทยเราจะได้ไปมีเหมืองทองคำขาวอยู่ส่วนไหนของประเทศไทยเรา เจ้าหน้าที่ทางจีนเห็นว่าท่านดูท่าจะงง เขาจึงรีบบอกว่า ทองคำขาวที่ว่าเป็นการเปรียบเปรยถึง “ยาพาราและน้ำยางพารา” ที่ไทยเราเป็นประเทศผลิตและส่งออกยางพาราเป็นอันดับหนึ่งของโลก ซึ่งยางพารานี้เป็นสิ่งจำเป็นของโลกยิ่งกว่าน้ำมันเสียอีก เพราะน้ำมันใช้เวลาไม่มากในการเพิ่มปริมาณการผลิต แต่ยางพาราเป็นผลิตผลทางการเกษตรซึ่งจะต้องใช้ระยะเวลานานในการที่จะเพิ่มปริมาณผลิตให้ทันต่อความต้องการของโลกได้  จีนในปัจจุบันมีการเร่งพัฒนาประเทศให้เจริญรุดหน้าให้ประชาชนจีนอยู่ดีมีสุข  ยาพาราจึงเป็นปัจจัยหนึ่งที่จีนถือว่าสำคัญมากและจะขาดเสียไม่ได้ ไม่ในอุตสาหกรรมยานยนต์ขนส่ง, อุตสาหกรรมทางการทหาร และแม้แต่ในทางการสาธารณสุข เนื่องจากจีนมีประชากรมาก ในการป้องกันโรคเอดส์ การผลิตถุงยางอนามัย ก็ไม่สามารถจะนำยางสังเคราะห์หรือยางเทียม (ผลิตจากน้ำมัน)มาใช้ผลิตแทนยาพาราได้ ยิ่งราคาน้ำมันดิบก็ขึ้นราคาสูงมาก ยางสังเคราะห์ย่อมมีราคาสูงตาม ยางยางพาราก็ย่อมจะมีการขึ้นราคา ประกอบกับจำนวนการผลิตที่ยางพาราผลิตได้ต่อปี มีจำนวนเพิ่มขึ้นได้ในจำนวนจำกัด  หากจีนมัวแต่ค่อยรอจัดหาซื้อจัดหาในแต่ละปี จีนอาจจัดซื้อไม่ได้ครบได้ทันจำนวนที่ตนต้องการ เจ้าหน้าที่จีนจึงบอกว่า ทางจีนจึงอาจมีการเสนอขอแลกเปลี่ยนอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ผลิตในจีนกับการบาร์เตอร์เทรดยางพาราในอนาคตกับไทยก็เป็นได้ เพราะจีนมีเงินตราระหว่างประเทศจำนวนมากอยู่แล้ว ประกอบค่าเงินดอลล่าห์สหรัฐผันผวน การแลกเปลี่ยนกับสินค้าไทยโดยตรงจะเป็นผลดีกว่าการซื้อด้วยเงินสด แต่ถ้าไทยไม่ยอมแลกกับยางพารา ทางจีนก็ยินดีจะยอมเริ่มต้นแลกกับข้าวเหนียวของไทยแทนก็ได้ ครั้นท่านผู้ใหญ่ท่านนี้ถามกลับไปว่า นี่คือนโยบายของรัฐบาลจีนหรือ เจ้าหน้าที่จีนผู้นั้นกลับบอกว่าเป็นความคิดเห็นส่วนตัวของเขาเอง สงสัยว่าเจ้าหน้าที่จีนคนนี้จะใช้วิธีโยนหินถามทาง  เพราะคนระดับนี้แล้วจะมาพูดมั่วๆคงยาก  ทำให้ผมอดสงสัยว่า เรื่องข่าวลือที่ได้ยินมาว่า จีนใคร่อยากเสนอให้ไทยเราจัดหา บ.J-10 ของจีนมาประจำการ และจีนอยากให้ไทยเราจัดหาเรือดำน้ำจากจีนมาประจำการ ดูท่าแล้วจะเป็นความจริงเสียกระมัง  ...............ครับ/สกายนาย

 

ภาพประกอบ  Yuan Class Diesel-Electric Submarine  ขอโทษด้วยผมลืมว่าเคยก็อปมาจากเว็บไซด์ไหน





ความคิดเห็นที่ 1


ผมว่าถ้าเป็นเรือดำน้ำ ก็ดีนะคับ  ของจีน อย่างน้อยๆ ก็แสดงให้ เห็นแล้ว ว่า  หลายๆ ครั้ง ที่แม้แต่ อเมริกา เอง หรือ ญี่ปุ่น 2 มหาอำนาจ ยักษ์ใหญ่ ยังไม่สามารถ ตรวจสอบได้เลยว่า มี ด ของ จีน ไปลอยล่องอยู่ใกล้ๆ  แต่ ถ้าเป็น บข. ชื่อ j 10  อันนี้ คงต้องคิดหนักนะคับ แต่ถ้าเอามา แล้ว ปรับปรุง ในระบบ ต่างๆ ให้สามารถ จูนกับของที่เรามีอยู่ /ใช้กับ มาตรฐาน นาโต้ได้ ก็น่าจะ ok  นะคับ

โดยคุณ chitjaa เมื่อวันที่ 29/01/2008 00:02:22


ความคิดเห็นที่ 2


อ่านจากข่าวที่มาลงจากทองคำขาว กลายเป็นยางพารา

อืม เสริมนิดหน่อย อันทองคำขาว เป็นโลหะชนิดหนึ่งที่สามารถนำ

มาใช้กับอุตสาหกรรมพื้นฐานได้หลายอย่างและมีราคาแสนจะแพง

เหมาะสำหรับ การนำมาทำสายไฟฟ้า แรงสูง จะสังเกตง่ายๆ

ทำไมช่วงห้าปีที่ผ่านมามีข่าวขโมยสายไฟ แรงสูงตาม ย่านต่างๆ

เยอะเหลือเกิน เพราะทองคำขาวเป็นวัสดุที่นำไฟฟ้าได้ดี

ก็โลหะที่นำไฟฟ้าได้ดี คือ ทองแดง เงิน และทองคำขาว

   จากเนื้อข่าว จะแลก bater trade แลกทองคำขาว ? แปลกมาก เพราะเมืองไทยเรื่องสิน

แร่นี้น้อยมากๆเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน

        ถ้าอยากรู้ว่ามันมีค่าแค่ไหน ลองขับรถไปสังเกตตามเสาไฟ

วงแหวนใต้ บางพลี- ถ.พระรามสอง ฝั่งธนบุรี

จะเห็นว่าสายไฟโดนตัดขาดไปหลายกิโลเมตร เพราะโดนขโมย

   อีกทั้งถ้าใครมีเพือนขายสายไฟฟ้า แรงสูง ลองถามเขาดูว่าวัสดุที่

นำมาผลิตสายไฟฟฟ้าเนี่ยมีไรบ้างก็ ทองคำขาวนั่นละครับ

และยิ่งทองแดงยิ่งขายดี ตัดกันสนั่น เอาไปขายร้านยี่ปั๊วะได้หลายพันบาท

    ยิ่งในปีนี้ Raw material ขึ้นราคาแบบบ้าเลือด

โดยคุณ siamman18 เมื่อวันที่ 29/01/2008 00:36:11


ความคิดเห็นที่ 3


ยางยังต้องไปขายที่ตลาดมาเลย์เลย ม่ายข้าวจึย
โดยคุณ atipu เมื่อวันที่ 29/01/2008 00:51:36


ความคิดเห็นที่ 4


เปล่าครับ เขาเปรียบเทียบน้ำยางซึ่งมีสีขาว เป็นทองคำขาวครับผม


Skyman สวัสดีคุณสกายนายครับ หายไปนานเลยครับ พวกเราคิดถึง

...
...
...

ไอเดียเรื่องนี้ น่าสนใจมาก ๆ ครับ และน่าจะง่ายกว่าตอนลำไย เพราะตอนนั้น นอกจากการทุจริตของเราแล้ว ยังมีการตกลงราคากลางกันไม่ได้อีกด้วย ทำให้ deal ล้มไป

เราเป็นผู้ปลิตยางพาราอันดับต้นๆ  ของโลก บริษัทที่เรารวมมือกับประเทศเพื่อนบ้านตั้งขึ้นมา ควบคุมตลาดยางพารากว่า 70% ของโลก ...... ยิ่งน้ำมันแพง คนก็ยิ่งหันมาใช้ยางพารามากขึ้น และมันก็ทำให้ราคายางดีขึ้นไปด้วย พี่น้องชาวสวนยาง หวังว่าคงได้รับทรัพย์กันอย่างเต็มที่เสียทีนะครับ

ซึ่งไอเดียนี้ ถือว่าเยี่ยมมากครับ แม้ว่าจีนจะไม่เรื่องมาก แต่ผมยังไม่อยากให้เราใช้การ Barter Trade กับ deal ที่ใหญ่ขนาดเรือดำน้ำหรือ J-10 ซึ่งใช้เงินเป็นหมื่นๆ  ล้าน เพราะโอกาสล้มสูงมาก อย่างที่ 3 - 4 Deal ที่ผ่านมา ล้มหมดเกลี๊ยง ใจผม ผมอยากให้เราจัดหาของเล็ก ๆ มากกว่าครับ เช่น RPG, ปลย, หรือรถเกราะล้อยางก็ได้ครับ เอาแบบเยอะ ๆ เลย จะได้จัดได้เต็ม หรือไม่กี่ ใช้ในการ upgrade เรือชุดเจ้าพระยา ให้ติด LY-60 ได้

พูดตรงๆ ว่า สำหรับเรือดำน้ำ ยังไม่อยากให้เล่นของจีนตอนนี้ครับ ส่วนเครื่องบินรบ แม้ว่าจะดูดี แต่ส่วนตัวยังห่วงเรื่องความเข้ากันได้ของระบบ และการบำรุงรักษา ยิ่งเมื่อทอ.กำลัง integrate ทุกอย่างเข้าเป็นเครือข่าย ตามหลัก Network Centric Warfare ความเข้ากันได้สำคัญเหมือนกันครับ

ใจผม ผมอยากให้เราจัดหาของเล็ก ๆ มากกว่าครับ เช่น RPG, ปลย, หรือรถเกราะล้อยางก็ได้ครับ เอาแบบเยอะ ๆ เลย จะได้จัดได้เต็ม หรือไม่กี่ ใช้ในการ upgrade เรือชุดเจ้าพระยา ให้ติด LY-60 ได้ หรือซื้อ SHORAD จำพวก PL-9 ให้ได้ตามต้องการครับ

 

โดยคุณ Skyman เมื่อวันที่ 29/01/2008 00:59:24


ความคิดเห็นที่ 5


ขอละเรื่องรายละเอียดการแลกเปลี่ยนสินค้าน้ำยางพาราหรือแผ่นยางพารารมควันสำเร็จนะครับเพราะไม่สันทันด้านเศรษฐศาสตร์

ในส่วนของเรือดำน้ำดีเซล-ไฟฟ้าของจีนเองนั้นปัจจุบันจีนได้พัฒนาเข้าสู่เรือยุคที่3แล้วครับ นับจากการต่อเรือชั้นMing, ชั้นSong และชั้น Yuan ในปัจจุบัน แต่อย่างไรก็ตาม Techology ด้านเรือดำน้ำสมัยใหม่ของจีนนั้นยังคงจะเร็วเกินไปสำหรับการต่อเพื่อส่งออกครับ จะเห็นได้จากว่าระบบของเรือดำน้ำของจีนนั้นยังคงใช้ต้นแบบTechnologyจากแหล่งภายนอกหลายๆแหล่ง และยังมีการจัดหาเรือดำน้ำจากรัสเซียเข้าประจำการด้วย ซึ่งในปัจจุบันนั้นดูเหมือนจะยังไม่มีประเทศใดที่จัดหาเรือดำน้ำจากจีนเข้าประจำการครับ(แต่ก็มีข้อมูลว่าจีนได้ส่งมอบเรือดำน้ำชั้น Romeo เก่าให้เกาหลีเหนือจำนวนหนึ่ง)

ถ้าหากว่าจีนจะแลกเปลี่ยนโดยการมอบเรือดำน้ำให้ไทยเพื่อใช้เป็นเรือฝึกสัก1ลำก็น่าสนใจอยู่ครับ แต่สำหรับเรือดำน้ำที่จะใช้ปฏิบัติการหลักแล้วนี้ส่วนตัวคิดว่าถ้าตัดเรือจากกลุ่มยุโรปตะวันตกไปนี้ ถ้าเราเจรจาเรื่องการแลกเปลี่ยนสินค้ายางพาราเพื่อแทนเงินบ้างส่วนในการจัดหาเรือดำน้ำกับทางรัสเซียลักษณะเดียวกับที่มาเลเซียใช้น้ำมันปาล์มแทนเงินบ้างส่วนในการจัดหา Su-30MKM ก็น่าสนใจครับ(คิดว่ารัสเซียกับจีนน่าจะมีความต้องการสินค้าทางการเกษตรจากแถบนี้คล้ายๆกัน)

สำหรับในส่วน บ.รบนั้น บ.ขับไล่จากจีนหลายแบบที่ผลิตส่งออกให้กับประเทศอื่นนั้นก็สามารถติดอาวุธมาตรฐาน NATO ได้ระดับหนึ่งครับ เช่น บ.ขับไล่F-7P และ บ.โจมตีA-5 ของปากีสถานั้นสามารถติดตั้ง AIM-9 Sidwinder และระเบิดตระกูล Mk-80s ได้ ซึ่งการจัดหา บ.จีนโดยทำการปรับปรุงระบบให้สามารถใช้อาวุธจากฝั่งNATO ได้ในลักษณะเดียวกับ L-39ZA/ART นั้นเป็นเรื่องที่น่าจะทำได้ไม่ยากครับ(ดูเหมือนระบบของจีนเองก็ค่อนข้างจะรองรับการใช้งานกับอาวุธจากหลายๆค่ายอยู่แล้วในตัวด้วย) แต่ประเด็นอื่นๆเช่น ความเข้ากันได้กับระบบสนับสนุนที่มีอยู่ การสนับสนุนด้านอะไหล่ และอื่นๆนั้นยังเป็นประเด็นที่ต้องพิจารณาครับ ทางที่ดีควรจะให้ทางจีนส่ง บ.รุ่นใหม่มาทำการบินแสดงให้เราทำการประเมินก่อนน่าจะดีกว่าครับ

นอกจากนั้นก็เห็นด้วยกับคุณ Skyman ครับว่าสำหรับอาวุธจากจีนนั้นเราน่าจะจัดหาระบบอาวุธที่มีควาสิ้นเปลืองในการใช้งานน้อย ฝึกและบำรุงรักษาง่าย หรือเคยมีใช้อยู่แล้วและทำงานได้ดีก่อนจะดีกว่าครับ

โดยคุณ AAG_th1 เมื่อวันที่ 29/01/2008 02:08:57


ความคิดเห็นที่ 6


ดีใจจังเลยครับ บ้านผมมีไร่ทองคำขาวด้วยปลูกมาใด้ 2 ปีเอง ครับ

อันที่จริงแล้วเราหน้าจะเห็นด้วยถ้าเขาเสนอมาจริง เพราะว่าอีกหน่อยความต้องการยางพาราจากต่างประเทศของจีนจะลดลงเนื่องจากเขาใด้มีการทดลองปลูกยางกันแล้วในบางส่วนของจีน ถึงแม้อากาศและพื้นที่ไม่เหมาะสมก็ตามและมีผลวิจัยออกมาว่าคุณภาพยางและปริมาณไม่สู้แถวบ้านผมก็ตามแต่อย่าลืมนะครับถ้าจีนหันมาทำอะไรก็ตามน่ากลัวครับ

เรื่องอาวุธนะครับขอเป็นรถหุ้มเกราะและอาวุธเบาดีกว่า เพราะทางใต้เราขาด อย่างอืนไม่เห็นด้วยครับเพราะผมเชื่อว่า คุณภาพยังไม่ดีพอครับเมื่อเทียบกับ nato หรือ รัสเซีย

สำหรับสายไฟนั้นครับเราไมสามารถที่จะใช้อะลูมิเนียมใด้100% ครับแต่จะมีส่วนประกอบอย่างอื่นด้วยท้องคำขาวก็เป็นส่วนประกอบหนึ่งแต่เทียบอัตราส่วนน้อยมากครับจึงไม่คุมค่าที่จะสกัดครับ พวกที่แอบตัดสายไฟนั้นมันเอาไปขายในราคาอะลูมิเนียมครับก็แพงเการอยู่

โดยคุณ khampan เมื่อวันที่ 29/01/2008 20:59:17


ความคิดเห็นที่ 7


มาแล้วครับ เพื่อนเก่าเพื่อนแก่(หัวงูด้วยเปล่าไม่รู้) หายหน้าหายตาไปนาน มีความสุขดีนะครับ คุณสกายนาย จากเรื่องที่คุณสกายนาย ผมว่าน่าจะเป็นการดีหากทำได้จริงถือว่าดีมากๆครับ แต่ผมว่าน่าจะเป็นอาวุธที่ไม่ใหญ่โตและซับซ้อนมาก ถ้าเป็นไปได้อยากให้เป็นรถถังรุ่นใหม่ของจีนครับ หรือไม่ก็จรวดหลายลำกล้องพวกนั้น อย่างอื่นไม่มีความเห็นต่อครับ หมดมุก

ส่วนสายไฟแรงสูงนั้นเขาใช้สายอะลูมิเนียมครับ คุณสมบัติการนำไฟฟ้านั้นสู้เงินและทองแดงไม่ได้แต่มีราคาถูกกว่าและมีน้ำหนักเบา อีกทั้งระยะทางที่ส่งกระแสไฟฟ้าไปสู่สถานีย่อยนั้นมันค่อนข้างไกลอยู่ จึงนำเอาอะลูมิเนียมมาใช้เป็นสายส่งไฟฟ้าแรงสูงครับ

โดยคุณ เด็กทะเล เมื่อวันที่ 29/01/2008 07:13:29


ความคิดเห็นที่ 8


....อาวุธ จีนจำพวก ไฮเทคโนโลยี จำพวก เรือดำน้ำ  เครื่องบิน นั้นผมยังไม่อยากให้มองจีน ในด้าน จัดหาง่าย ออฟชั่นเยอะ นะครับ อย่าเอามาแบบว่า มาใช้ๆในปริมาณมากหรือข่มขู่ ถ่วงดุลไปก่อน ในขณะที่เขายังพัฒนาในเรื่องความไม่แน่นอนว่าจะอยู่ได้นานแค่ไหน แล้วก็หมดรุ่นนี้ไปมีบ้านเราเจ้าเดียวที่เอาไปใช้

....เจ-10 ยังไม่แรงขนาดแบ่งตลาด เอฟ16 หรือ มิราจ ได้เลย ผมอยากให้มองความเป็นต้นแบบ ประสบการณ์ ในเรื่องนี้ นาโต้ รัสเซีย ดีกว่าเยอะ  เรือดำน้ำก็เช่นกัน จีนเขาผลิตเอง ดัดแปลง แก้ไขได้หากเกิดปัญหา  เราเองเป็นฝ่ายเอามันมาใช้ หากเกิดปัญหาจะลำบากที่หลังนะครับ  ถึงจะได้มาง่ายๆก็ตามที แต่ก็ต้องเสียงบประมาณเช่นกันในการดูแล  ถ้าอยากมีจริงๆก็ เช่าเรือดำน้ำเขามาก็ได้นิครับ ฝึกไปพลางๆก่อน หากจะนำเข้าประจำการจริงๆต้องมองความเข้ากันได้ อะไหล่ การรองรับอาวุธในอนาคต

.....อาวุธจีน อย่างพื้นฐานที่บ้านเราไม่มีนี่น่ะครับ น่าสนใจ จำพวก จรวดหลายลำกล้อง รถหุ้มเกราะ จรวดต่อต้านรถถัง หรือประทับบ่าต่อสู้อากาศยาน รวมถึงแบบแท่นยิง ที่กล่าวมา บ้านเรายังไม่มีใช้เป็นหน้าเป็นตาเท่าไร แถมไม่ต้องกังวลถึงความเข้ากันได้ของอาวุธอีกด้วย

โดยคุณ MIG31 เมื่อวันที่ 29/01/2008 08:03:15


ความคิดเห็นที่ 9


ใช่แล้วครับคุณ helldiver    ผมเคยเห็นป้ายเขาบอกทางอยู่ที่จังหวัดตรังครับ แต่ว่าเป็นตั้นแรกจริงๆหรื่อเปล่านี่นะสิ   ต้องให้คนตรังช่วยตอบด้วยครับ
โดยคุณ MCS51 เมื่อวันที่ 29/01/2008 09:44:22


ความคิดเห็นที่ 10


 อย่างนี้ ผมก็มี ทองคำขาวเป็นร้อยไร่เลยดิครับ

 

 เรื่อง ยางนี่ พวก สินค้า commodity นี่ คาดหวังไม่ได้หรอกครับ ขึ้น ลงเป็นวัฏจักร ไม่ใช่ว่า รัฐบาลนี้ทำให้ขึ้น รัฐบาลอื่นทำไม่ได้ แล้ว เอามา คุยข่มกัน  คนรู้เรื่องยางก็ได้แต่ส่ายหัว   ราคาซื้อขายขึ้นกับ demand  supply เป็นหลัก  จะต่อรองไม่ได้ มาก เพราะว่ามันมีสินค้าทดแทนกันได้คือ ยางสังเคราะห์  โชคดี ของชาวสวนยาง ในรอบหลายปี นี้ ที่ ราคาน้ำมันมันขึ้นมาสูงมาก ราคายาง เลยขึ้นตาม    เรื่องมันแค่นี้เอง แต่มีคนเอามาคุยข่มกันแล้วเศร้าใจ เมื่องไทย  บอกตรงๆ ปัญญาอ่อน

 

  ก้ได้แต่ หวังว่า ราคามีเสถียรภาพ ไม่ขึ้นลงน่ากลัวจะดีกว่า หวังว่าน้ำมัน จะราคายืนสูงตลอดไป เพราะ จะทำให้เกิดการใช้ยางพารา แทนยางสังเคราะห์เยอะขึ้น   ปัจจุบัน สัดส่วนใช้ยางพารา เยอะกว่ายางสังเคราะห์  ปกติ ยางสังเคราะห์เยอะกว่ายางพารา

 

  เห็นหลายปีมานี้ ชาวสวนยาง ลืมตาอ้าปากได้    ก็ขอให้เกษตรกร ลืมตาอ้าปากได้บ้าง  หากน้ำมันยังแพง พวกปาล์ม มัน อ้อย ข้าวโพด  ก็คงจะดีขึ้น    แต่หากน้ำมันราคาลงเพราะว่าขึ้นจากเก็งกำไร ก็คงจบเห่เหมื่อนกันครับ

โดยคุณ ericson เมื่อวันที่ 29/01/2008 22:21:01


ความคิดเห็นที่ 11


                      ขอบคุณครับ เพื่อนทุกท่านที่เข้ามาเขียนแสดงความคิดเห็นในกระทู้นี้กัน ........และผมยังคิดถึงเพื่อนทุกท่านอยู่โดยตลอด โดยเฉพาะคนดังอย่างท่าน Skyman ทีเป็นคนดังไปโผล่ในหลายเว็บไซด์และในหน้าหนังสือพิมพ์เรียกว่า โกอินเตอร์ไปแล้ว ส่วนเพื่อนรักเพื่อนแค้นอย่างท่านเด็กทะเล ......ผมก็อยากจะมาทวงกลับคืนหัวงูที่ผมฝากท่านไว้  ....ไม่ทราบว่าทม่านนำไปใช้กี่มากน้อยแล้ว.....ครับท่าน............ ส่วนตัวผมแล้วไม่ได้หายไปไหน...เดิมเสรีภาพถูกจำกัด และงานมันมากมาย  จึงไม่ค่อยจะได้เข้ามาทักทายกันครับ......

                และขอแสดงความคิดเห็นส่วนตัวว่า อาวุธยุทโธปกรณ์ของจีน อย่างอืนๆนอกจากเรือดำน้ำและเครื่องบินรบ ที่หน้าจะนำมาแลกเปลี่ยนกับจีนนั้นยังมีอีกเยอะ ดังที่เพื่อนๆหลายท่านแสดงความคิดเห็นมานั้นผมว่าถูกต้องดีแล้ว เพราะอาวุธที่ต้องการกการบำรุงรักษาต่ำ(ไม่ต้องส่งกำลังบำรุงในเรื่องอะไหล่ในภายหลัง) เช่นจรวด RPG ,อาวุธพื้นสู่พื้นเช่นจรวดหลายลำกล้อง และระบบจรวดแซม พื้นสู่อากาศ(แมนแพ็ก)ยังควรจัดหาจากจีนอยู่ เพราะราคาถูก และคุณภาพอยอมรับได้..... แต่ที่จริงแล้ว เรือดำน้ำของจีนใช่ว่าจะขี้เหล่ นะ เพราะใช้เครื่องยนต์เยอรมัน และใช้ระบบตรวจจับของฝรั่งเศส และยังเริ่มต้น ใช้ระบบขับเคลื่อนAIP  ใช้ใน ด.ชั้นหยวนแล้ว ......น่าจัดหาแลกปลี่ยนมาใช้เป็น เรือฝึกก็คงจะดีครับ.......แต่ผมขอชมทางจีนว่า...บุคคลากรของเขาหัวการค้าดีจริงๆ.....เพราะจีนเดี๋ยวนี้รวยแล้ว ยังคิดตีตราจองซื้อยางพาราล่วงหน้าโดยไม่ใช้เงินสด...และยังคิดจะเปิดตลาดขายยุทโธปกรณ์ล็อกใหญ่ๆให้ไทยเราได้อีก........ครับ/สกายนาย

โดยคุณ สกายนาย เมื่อวันที่ 30/01/2008 01:42:12


ความคิดเห็นที่ 12


 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

คุณสกายนายครับ ผมเป็นคนเดินดีนธรรมดาคนหนื่งกินข้าวแกงขึ้นรถเมล์เมื่อวานนี้ผมกลับบ้านเวลาจะกลับก็ต้องนั้งรถสาย40 กลับเป็นประจำ พอดีมีรถสาย40แบบใหม่มาเป็นรถแอร์  (ถ้าทุกคนใช้ท้องถนนหลวงในกรุงเทพก็พอจะเห็นแล้วว่ามันมีรูปร่างน่าตาน่านั่ง) เหลือเกิน  ??????ผมก็เลยตัดสินใจควักตังเพิ่มขื้น เพื่อนั่งรถแอร์แบบใหม่พอขึ้นไปมันมีลักษณะของเก้าอี้แบบพลาสติกเหมือนนำของเก่ามาRecycleช่อแอร์ปรับอากาศต่ำมาก(ผมเป็นคนตัวสูงนิดนึง)ต่ำจนติดหัวผมช่องปรับแอร์ที่เป็นคล้ายๆกับรถยนต์ธรรมดาเวลาผมจะลงผมไปกดกลิ่งกลิ่งไม่ติด ผมเลยไปกดกลิ่งอีกอันหนึ่งมันติดครับทำให้ผมเกีบเลยป้ายผมไม่รู้ว่านั้นเป็นรถจีนใช่หรือไม่  ถ้าใช่ขออย่าให้มีมากเลยครับมันนั่งไม่สบายเลยจริงๆๆ ถ้าเปรียบเทียบกับรถยูโร  รถยูโรนั่งสบายกว่ากันมากครับ (จ่ายเงินแพงกว่ารถธรรมดาไม่เป็นไรแต่ขอให้นั่งสบายเบาะนุ่มหน่อยเอียงนิดนั่งยาวยาวแล้วมันจะได้ไม่เมื่อยมาก)สงสารคนกินข้าวแกงตาดำดำด้วยเถาะครับ

โดยคุณ tavv เมื่อวันที่ 30/01/2008 02:10:37


ความคิดเห็นที่ 13


ขอออกความเห็นนะครับ

เป็นเรื่องดีที่ไทยอาจจะใช้น้ำยางพาราซึ่งเป็นพืชผลทางเศรษฐกิจที่ได้เปรียบของแหล่งผลิตที่เอื้ออำนวยให้กับภูมิลำเนาของประเทศไทยครับ แต่ถ้าไม่ป้องกันดูแลสถานภาพให้ดีต่อไป GMOs หรือการพัฒนาทางด้านพันธุวิศวกรรมของประเทศมหาอำนาจทั้งหลายอาจจะเป็นตัวที่ทำให้พืชพวกนี้สามารถปลูกได้ในแหล่งที่ไม่น่าเชื่อว่าจะปลูกยางได้ก็เป็นได้ครับ  ซึ่งตอนนี้ถ้าประเทศจีนดำเนินการจริงจังในเรื่องนี้แล้ว เราก็อาจอยู่ได้ไม่นานเช่นกัน แล้วเสถียรภาพทางราคาที่เคยดีอย่างที่ คุณหนุ่มมือถือแห่งสวีเดน ได้กล่าวไว้นั้น ก็อาจจะไม่เป็นราคาตามที่คาดก็อาจเป็นได้ครับ

แต่ถ้าแลกได้ตอนนี้ขอแลกยุทโธปกรณ์ที่ผลิตได้ง่ายๆไม่มีระบบซับซ้อนหรือขอแบบอย่างมากๆก็เป็นระบบอนาลอกก็ยังพอไหวครับ แต่ถ้าเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องพัฒนาให้ถึงระดับก้าวหน้าเทียบเท่ากับกลุ่มประเทศมหาอำนาจเศรษฐกิจบางประเทศอย่างกลุ่ม G8 ก็ไม่น่าจะทำได้ในบางเฟสนะครับผม

โดยคุณ TigerOod เมื่อวันที่ 31/01/2008 23:55:38


ความคิดเห็นที่ 14


สายไฟฟ้าแรงสูงของ กฟผ. ปัจจุบัน นิยมใช้ระดับแรงดันอยู่ที่ ๑๑๕, ๒๓๐ และ ๕๐๐ กิโลโวลต์  ทั้งหมดใช้ตัวนำแบบ สายอลูมิเนี่ยมตีเกลียว คอร์ภายในเป็น ลวดเหล็กตีเกลียวเพื่อรับแรงดึงภายในสาย (สำหรับสายตัวนำเบบเหล็กผสมปัจจุบันเลิกใช้ไปแล้ว) ...............มีต่อ

โดยคุณ กบ เมื่อวันที่ 01/02/2008 01:10:49


ความคิดเห็นที่ 15


สำหรับสายส่งแบบ ๑๑๕ กว. จะใช้สายตัวนำขนาด ๗๙๕ เซอคิวล่าร์มิล มีทั้งแบบ ซิงเกิ้ลเซอร์กิต สังเกตที่จะมีสายไฟ ๓เส้น และมีสายล่อฟ้าใส้ในเป็นสายออปติคสื่อสารอยู่ด้านบนหนึ่งเส้น ส่วนแบบดับเบิ้ลเซอร์กิต จะมีสายไฟ ๖เส้น ด้านบนมีสายล่อฟ้าและสายล่อฟ้าไส้ในเปนสายสื่อสารอย่างละเส้น  ส่วนขนาด ๒๓๐ และ ๕๐๐ กว. จะใช้สาย ๑๒๗๒ เซอคิวล่ามิล มีทั้งแบบ ซิงเกิ้ลเซอร์กิต(๕๐๐ แม่เมาะไลน์เก่า)  ดับเบิ้ล และ โฟร์เซอร์กิต.......................มีต่อ
โดยคุณ กบ เมื่อวันที่ 01/02/2008 01:19:05


ความคิดเห็นที่ 16


จำนวนสายไฟต่อเฟส มีทั้ง ซิงเกิ้ลคอนดัคเตอร์ ทูบันเดิ้ล และ โฟว์บันเดิ้ล ............................. สายส่งที่มขนาดใหญ่ที่สุดของไทย(ในแง่ความใหญ่โตของเสา มิใช่ในแง่แรงดัน) จะเป็น สายส่ง ๒๓๐ เควี โฟร์เซอร์กิต โฟร์บันเดิ้ล นั่นคือ จะมีสายไฟจำนวน ๑๒ เฟส (วงจรละ๓เฟส) โดยแต่ละวงจร มีสายไฟขนาด ๑๒๗๒ จำนวน ๔เส้น รวมสายไฟทั้งหมดจำนวน ๔๘ เส้น.........................สาย ๑๒๗๒ มีน้ำหนักราว ๒ กก. ต่อความยาว ๑เมตร ถ้าหักน้ำหนักใส้ในเหล็กหรือคอร์ออก จะเหลือนน.อลูมิเนี่ยมเพียวๆราว กิโลกว่าๆ.................ราคาขายเศษอลูมิเนี่ยมร้านรับซื้อของเก่าอยู่ที่ โลละ ๖๕ บาท......................... เศษสายแม้แต่เมตรเดียวมีค่าเกือบร้อย ................... มันจึงเป็นรายได้เสริม(ที่มากว่ารายได้หลัก)ของพนักงานบางบริษัท        ไม่แปลกและถูกแล้วครับ ที่เรียกมันว่าทองคำขาว........................งงงง
โดยคุณ กบ เมื่อวันที่ 01/02/2008 01:29:34