ขนาดในอีรัก m1a2 เจอระเบิดฝังดินพอวิ่งผ่านกด ตูม มันยังเป็นซากเลยครับ และประสาอะไรกับรถหุ้มเกราะแบบนี้ ระเบิดที่พวกโจนมันใช้กันนับวันมันยิ่งรุนแรงขึ้น รถหุ้มเกราะถ้าไม่ดีจริง ไม่ทนจริง ๆ เละครับ ถึงทหารไม่ตายมันก็ตามมาซ้ำอีก งานนี้งานหนัก

ตราบใดที่ยังดึงประชาชนเป็นพวกไม่ได้ ก็จะตายกันแบบนี้ละครับ

การพัฒนา อะไรก็ตามของไทย ไม่มีการเหลียวแลจากภาครัฐ เลยก็จริง

แต่ ผมคิดว่า รถหุ้มเกราะตัวนี้ ไม่เหมาะจะเอาไปใช้ ในภาคใต้ ในตอนนี้เพราะ ว่าเรายังขาดเทคโนโลยี่ในการออกแบบรถทนแรงระเบิดจาก กับระเบิดได้ในระดับที่น่พอใจครับ

ภาคใต้ การซุ่มยิงมักจะเกิดกับเป้าหมายบุคคล มากกว่าเป้าหมายยานเกราะ ยานเกราะส่วนใหญ่พวกจะเล่น ระเบิดซะมากกว่าครับ

และรถกะบะที่มีในภาคใต้ก็มีทั้งแบบกันกระสุนและแบบะรรมดาครับ โจรมักจะไม่กราดยิงเท่าใดนักครับถ้ามันไม่เห็นว่าได้เปรียบ ดังนั้นการติดแผ่นเหล็กให้รถกะบะ เลยไม่เป็นที่เห็นด้วยนักครับ เอามาซื้อเสื้อเกราะกันกระสุนดีกว่า (เค้าว่ากันอย่างงั้นนะ)

ปัญหาไม่ได้อยู่ที่เรามีรถเกราะเพียงพอหรือทนระเบิดได้ขนาดไหนน่ะครับ ปัญหาอยู่ที่การปรับเปรียบยุทธวิธีในการดำเนินงาน และ การดำเนินการเชิงรุกด้านการเมืองและการทหารต่อแนวร่วมและกองกำลังฝ่ายตรงข้างอย่างต่อเนื่อง จริงจังและได้ผล ขนาดไหน รวมถึง การบริหารงานด้านการข่าวและงานด้านจิตวิทยาอย่างถึงแก่น รวดเร็วฉับไวและแน่นอน สุดท้ายที่สำคัญขวัญกำลังใจของผู้ปฏิบัติงานต้องดีไม่ใช่ได้ร้อยตรี พันเอก ตอนเสียชีวิตแล้วและที่สำคัญผู้ใหญ่อย่าเล่นการเมืองมากเกินไปจนเห็นชีวิตลูกน้องเป็นแค่หมากตัวหนึ่งครับ

ไม่ต้องคิดอะไรมาก ก็ V150เราโดนระเบิดหงายไปแล้วยังสืบสวนสอบสวนชาวบ้านแถวนั้นไม่ได้เลยว่าใครทำ ทั้งที่ห่างไปไม่เกิน 20 ม.ดีว่าไปกันสองคันไม่งั้น ตายยกคันเหมือนที่ผ่านมาน่าเสียใจจริงๆ