ลองอ่านดูครับ คัดมาให้อ่านกันจาก
ข่าวกองทัพเรือ
๙ มกราคม ๒๕๕๑ วันสถาปนากรมอู่ทหารเรือครบรอบ ๑๑๘ ปี
กรมอู่ทหารเรือ ได้ถือเอาวันที่ ๙ มกราคม ของทุกปีเป็น วันคล้ายวันสถาปนากรมอู่ทหารเรือ และในปีนี้ ครบรอบปีที่ ๑๑๘ ปี แห่งการเริ่มต้นกรมอู่ทหารเรือมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๔ เป็นต้นไป โดยในยุคนั้นเรียกว่า อู่เรือหลวง อันเป็นยุคแรกของเรือกลไฟในประเทศสยาม ทำหน้าที่ซ่อมสร้างเรือหลวงตั้งแต่บริเวณทิศใต้ของวัดระฆังโฆสิตาราม ตรงข้ามท่าราชวรดิฐ ครั้นในสมัยรัชกาลที่ ๕ เรือหลวงมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงทรงโปรดให้สร้างอู่เรือขนาดใหญ่ โดยสร้างเป็นอู่ไม้เมื่อก่อสร้างเสร็จได้เสด็จพระราชดำเนินมาทรงกระทำพิธีเปิดอู่ด้วยพระองค์เอง
กองทัพเรือได้มอบหมายให้กรมอู่ทหารเรือทำหน้าที่หลัก คือ การซ่อมและสร้างเรือให้แก่กองทัพเรือ เพื่อให้เรือทุกลำมีความพร้อมที่จะออกไปปฏิบัติภารกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ จากยุคที่มีเรือกลไฟ ซึ่งเป็นเรือที่ไม่มีเทคโนโลยีมากมายนัก เมื่อกาลเวลาเปลี่ยนไปวิวัฒนาการทางเทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงในทางที่สูงขึ้น เรือรบมีการพัฒนามากขึ้น และมีจำนวนเพิ่มขึ้น กรมอู่ทหารเรือได้มีการพัฒนาทั้งองค์วัตถุและองค์บุคคลอยู่ตลอดมา เพื่อให้ทันต่อวิวัฒนาการสมัยใหม่และมีวิสัยทัศน์กว้างไกล ปัจจุบันมี พลเรือโท วีรวัฒน์ วงษ์ดนตรี เป็นเจ้ากรมอู่ทหารเรือ
เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสถาปนากรมอู่ทหารเรือ ๙ มกราคม ๒๕๕๑ ได้จัดกิจกรรมต่าง ๆ ประกอบด้วย การทำบุญเลี้ยงพระเพื่อความเป็นสิริมงคลและการมอบทุนการศึกษาให้แก่บุตรของข้าราชการและลูกจ้าง
(ที่มา อร.)
มาเลเซียจับมือฝึกทหารร่วมกองทัพอินเดีย
รัฐบาลมาเลเซียและอินเดียเห็นพ้องที่จะเพิ่มความร่วมมือกันทางด้านกลาโหม ซึ่งรวมถึงการฝึกนักบินของกองทัพอากาศและเจ้าหน้าที่เรือดำน้ำ
เอ.เค.แอนโทนี รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของอินเดีย เปิดเผยหลังจากพูดคุยกับ นาจิบ ราซัก รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของมาเลเซีย ว่า รัฐบาลของอินเดียและมาเลเซียเห็นพ้องที่จะร่วมมือกันทางด้านกลาโหมในหลาย ๆ เรื่อง ซึ่งรวมถึงการสนับสนุนความร่วมมือในการฝึกฝนนักบินของกองทัพอากาศ การศึกษาในด้านยุทธศาสตร์และความมั่นคงของประเทศ ซึ่งภายใต้ข้อตกลงด้านกลาโหมนี้ ทางรัฐบาลอินเดียจะส่งเจ้าหน้าที่กองทัพอากาศ ๓๑ นาย มาฝึกอบรมให้กับนักบินกองทัพอากาศของมาเลเซียและนักเทคนิคที่ฐานทัพอากาศในมาเลเซียเป็นเวลา ๒ ปี เริ่มตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์นี้ นอกจากนี้ นักบินของมาเลเซียซึ่งขับเครื่องบินรบ ซูคอย ซู ๓๐ ได้มารับการฝึกที่อินเดียด้วย
ทั้งนี้ รัฐบาลของทั้งสองประเทศตกลงที่จะร่วมใช้เรือดำน้ำสกอร์ปินซึ่งรัฐบาลมาเลเซียได้ซื้อเรือดำน้ำสกอร์ปินจากฝรั่งเศส ๒ ลำ โดยที่ชุดแรกจะถูกส่งมาในปีหน้า ในขณะที่อินเดียได้สั่งซื้อเรือดำน้ำ ๖ ลำ และยังได้ตกลงที่จะแลกเปลี่ยนครูฝึกของกองทัพบกและขยายการฝึกฝนทางด้านกองทัพเรือร่วมกันด้วย
การฝึกผสม FLASH TORCH 08 - 1
หน่วยสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ กำหนดจัดตั้งกองอำนวยการฝึกผสม FLASH TORCH 08 - 1 โดยจัดกำลังพลเข้าร่วมการฝึก จำนวน ๖๕ นาย พร้อมยุทโธปกรณ์ ประกอบด้วย เรือตรวจการณ์ชายฝั่ง ชุดเรือ ต.๒๔๑ เรือระบายพลขนาดเล็ก เรือยางพร้อมเครื่องยนต์ติดท้าย รถยนต์บรรทุกทางทหาร และรถยนต์บรรทุกขนาดเล็ก เข้าร่วมการฝึกกับสหรัฐอเมริกา ณ พื้นที่ฝึกบริเวณอำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี จังหวัดระยอง จังหวัดจันทบุรี จังหวัดภูเก็ต และฐานขุดเจาะก๊าซธรรมชาติกลางอ่าวไทย ระหว่างวันที่ ๒ ถึงวันที่ -๗ มกราคม ๒๕๕๑ โดยมี นาวาเอก สมชาย กวินเฟื่องฟูกุล รองผู้บังการหน่วยสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ เป็นผู้อำนวยการฝึก
การฝึกผสม FLASH TORCH 08-1 มีวัตถุประสงค์เพื่อดำรงและพัฒนาขีดความสามารถของนักทำลายใต้น้ำจู่โจมในด้านยุทธวิธีสงครามพิเศษทางเรือ และเพื่อให้องค์บุคคลมีความรู้ ความเข้าใจ สามารถปฏิบัติการร่วมกันเป็นชุดปฏิบัติการและหน่วยปฏิบัติการได้ตามภารกิจที่ได้รับมอบหมายอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ยังเป็นการเสริมสร้างสัมพันธไมตรีและความเข้าใจอันดีในการปฏิบัติงานร่วมกัน โดยมีหัวข้อการฝึกที่สำคัญ ประกอบด้วย ยุทธวิธีหน่วยรบขนาดเล็ก การดำรงชีพในป่า การรวบรวมพิเศษ การยิงอาวุธทางยุทธวิธี การดำน้ำทางยุทธวิธี การยิงอาวุธในพื้นที่จำกัด การต่อต้านการก่อการร้ายบนแท่นผลิตก๊าซธรรมชาติ และการฝึกภาคสนาม/ภาคทะเล
(ที่มา คำสั่งการฝึก กร.ที่ ๒๖/๒๕๕๐)
ขอแสดงความยินดีกับกองทัพเรือมาเลเซีย (ด้วยความอิจฉา)
KD TUNKU ABDUL RAHMAN ลงน้ำเรียบร้อย ช่วงนี้คงอยู่ในช่วงระหว่างทดสอบ และฝึกฝนสำหรับพลประจำเรือ คาดว่าจะประจำการอย่างเป็นทางการได้ในเดือน ม.ค. 2552 (เลขสวย)
ช่วงนี้ มาเลเซีย ฟิตจัดมาก ทั้งฝึกร่วมกับ ไทย สิงคโปร์ อินเดีย และอินโดนีเซีย....เพื่อหาความชำนาญให้กับกำลังพล สงสัยกำลังจะจัดอันดับเป็น กองทัพจิ๋วแต่แจ๋ว แซงประเทศเพื่อนบ้าน ซะล่ะมั๊ง....
เรือดำน้ำชั้น Perdana Menteri (Scorpene) ลำแรกของมาเลเซียคือ KD Tunku Abdul Rahman นั้นได้ทำการปล่อยลงน้ำที่อู่เมือง Cherbourg แคว้นNormandy ไปเมื่อปลายเดือนตุลาคมปีที่ผ่านมาครับ
ส่วนเรือลำที่สองคือ KD Tun Abdul Razak นั้นจะต่อเสร็จภายในเดือนตุลาคมปี2009ครับ ซึ่งเรือทั้งสองลำคงจะพร้อมปฏิบัติได้ภายในปลายปี 2009ครับ
ท่านใดมีภาพเรือตรวจการณ์ชายฝั่ง ชุดเรือ ต.๒๔๑ บ้างครับ อยากเห็นครับ
ของไทยหรอครับ...
1. ปรับปรุงระบบรับ-ส่ง ฮอ. ร.ล.นเรศวร-ตากสิน ให้สามารถใช้ได้กับ Super Lynx ครับ ( เหมือนของ เรือชั้น ปัตตานี )
2. Super Lynx อีก 4 ลำครับ...ไม่ต้องบอกก็คงรู้นะครับ ว่าจะเอาไว้เล่นกับใคร แต่ยังไงก็ขอให้มีระบบตรวจจับเรือดำน้ำมาด้วยล่ะกันครับ...
จลก. หมายถึง จารกรรม หรือเปล่าครับ........... ขอภัยครับ Fw-190 ผมพิมพ์เองแต่ชื่อเป็นของท่านได้ไง ยัง งงๆ อยู่ครับ
ขออภัยเหมือนกันครับ ช่วงนี้ Webmaster เพื้อนๆ ครับ เขียนโปรแกรม Bug แยอะ สงสัยไม่ได้เขียนนาน
แก้ไขแล้วน่ะครับ