....คิดว่า อนาคตการค้าอาวุธระหว่างไทยกับ สวีเดนหรืประเทศอื่นๆจะเพิ่มขึ้นป่ะครับ ?
....ผมมองว่าน่าจะเพิ่มขึ้น อย่างน้อยๆก็เท่ากับเปิดโอกาสให้กองทัพอื่นๆสามารถเลือกจัดหาอาวุธได้นอกเหนือจาก อเมริกา ด้วยงบประมาณที่พอดีๆและพร้อมด้วยออฟชั่น ราคา ลูกแถม อย่างเช่นที่ ท.อ.ทำมาแล้วด้วยการนำเข้า แจส39 จากสวีเดน ได้ อิริอายมาเสริม ด้วยราคาไม่แพง ท.ร.ต่อเรือจากจีนเป็นเรื่องปกติ ระบบอาวุธประจำเรือก็มากจากยุโรปเช่นฝรั่งเศส (มากกว่าอเมริกา ) ท.บ.คงน่าจับตามากสุดก็เรื่องรถถังหลัก เบา กับรถหุ้มเกราะในอนาคต ถึงจะดูแล้วเงียบก็ตามแต่ แต่ที่น่าสนใจคือรถถังตระกูล ที จะมาเกิดหรือไม่ (แบบที่ ซู30 ถูกเลือกมาไว้พิจารณา)
......น่าจับตามองที่ แจส39 ฝูงต่อไปจะเกิดหรือไม่ ก็ลองนับไล่วันเวลาๆฝูงบินต่างๆดูว่า ฝูงใดใกล้จะหมดอายุ อเมริกาเองก็คงร้อนๆหนาวๆด้วยล่ะครับว่า แจส39จะมากินหมดหรือไม่ เพราะขนาดมาครั้งแรกยังได้รับเลือกเลย แล้วไหนอเมริกาจะเสียฐานการตลาด ในแถวนี้มากขึ้นไปอีก
.....กองทัพบ้านเรายังขาดอาวุธต่างๆอีกมากมายและรอปลดอีกก็มาก เช่น
1.ท.บ.บ้านเราไม่มีจรวดต่อสู้รถถัง ชนิดประทับบ่าขนาดกลางๆใช้เลย ดีสุดก็ อาร์พีจีที่สามารถพาไปได้ด้วยทหารคนเดียว นอกนั้นมีแต่โทว์ที่ใหญ่มากไป ส่วนดาร์ก้อน นี่อายุก็มากแล้ว ทำให้คิดว่า อาร์บีเอส บิล 2 จะเกิดหรือไม่ ไม่ก็อาจจะเป็น สไปซ์ ของอิสราเอล แบบที่ ท.บ.เลือกปืนมาใช้เร็วๆนี้ ? รถถังเบาอย่าง เอ็ม41 ที่อายุมากเต็มที ก็ตัวเลือกว่าจะเป็น ซีวี 90 มาแทนหรือไม่ ?
2.ท.ร.มีสิ่งเดียวน่าสนใจคือ อาร์บีเอส15 มาร์ค3 น่าสนใจมากด้วยมีความทันสมัยมาก ระยะยิงก็ไกล โดยสำหรับบ้านเรานั้น เอ็กซ์โซเซท ที่เป็นเสาหลักให้เรือคอร์เวตนั้น นั้นอายุมากเต็มที ระยะยิงไม่ต้องพูดถึงเลย ในขณะที่บ้านเราต่อเรือ โอพีวีมาตัวเลือกน่าจะเป็น ฮาร์พูน กับ เอ็กซ์โซเซท บล็อคใหม่ๆ นั้นแต่ราคาแพง เลยคิดว่า หากท.อ.เลือก อาร์บีเอส15 มาใช้กับ แจสด้วยนั้น ตัวเลือก ท.ร.น่าจะเพิ่มขึ้นอีกหนึ่ง เพราะใช้ร่วมกันได้ หากจัดหามาในราคาถูกล่ะก็
3.ท.อ. เองประเดิมด้วย แจส39 ไปแล้ว น่าสนใจคือระบบป้องกันอากาศยานขนาดกลาง อย่าง อาร์บีเอส23 นั้นเป็นระบบที่บ้านเราขาดมานาน ส่วนด้านอื่นๆน่าจะเป็นระบบอาวุธต่อตีเป้าหมายเช่น เทารัสเคอีพีดี
.....เลยอยากถามความเห็นพี่ๆว่าอนาคต การจัดหาอาวุธของกองทัพไทย มีสิทธิเป็นไปได้ตามที่ผมคิดไว้ม่ะครับ เชิญแสดงความคิดเห็นได้เต็มที่ค้าบ อย่าอิงการเมืองมากนะคับ
สำหรับขีปนาวุธต่อสู้รถถังนั้น Bill 2 เป็ระบบที่น่าสนใจสำหรับทดแทน TOW ที่ติดกับยานพาหนะครับ เพราะระบบมีน้ำหนักค่อนข้างมาก แต่ถ้าเป็นระบบขนาดเบาที่นำพาไปได้ด้วยทหารเพียง1-2นายนั้นระบบในตระกูล Spike จะน่าสนใจกว่าครับเช่น Spike-SR ซึ่งมีน้ำหนักเพียง 9กิโลกรัมใช้แทน Dragon ที่น่าจะหมดอายุการใช้งานได้เป็นอย่างดี และSpike-ER รุ่นที่ติดกับ Helicopter นั้นก็น่าสนใจมากถ้าจะนำมา Upgrade ติดตั้งกับ AH-1F ที่เรามีครับ
RBS 15 รุ่นที่ติดตั้งบนเรือกับรุ่นที่ติดตั้งกับอากาศยานนั้นถึงจะเป็นระบบเดียวกันแต่ก็เป็นคนละรุ่นครับใช้ตัวจรวดร่วมกันเลยไม่ได้เช่นเดียวกับ RGM-84 Harpoon รุ่นที่ติดบนเรือกับ AGM-84 รุ่นที่ติดอากาศยานนั้นละครับ การติดตั้ง RBS-15 บนเรือรบเพื่อแทนที่ขีปนาวุธรุ่นเก่าที่หมดอายุการใช้งานแล้วนั้นก็อาจจำเป็นต้องมีการติดตั้งระบบอำนวยการและควบคุมการยิงใหม่ด้วยครับ
สำหรับ CV-90 รุ่นติด ปถ.105มม. และ 120มม. ที่ใช้เป็น ถ.เบานั้นนอกจากทดแทน M41 ในส่วนของกองทัพบกแล้วก็น่าที่จะจัดหามาประจำการในกองพันรถถังนาวิกโยธินด้วยครับ(เช่นเดียวกับ ASCOD 105mm ที่เคยมีโครงการในอดีต)
ผมขอชมเชยการตั้งกระทู้นี้เป็นการส่วนตัวครับ
เพราะฉีกรูปแบบ การที่จะต้องมองอาวุธจาก อเมริกาเป็นอันดับแรก
และมีการวางแผนต่อเนื่องแบบระยะยาว มีความ บูรณาการณ์ ที่กองทัพเราขาดมานาน เราเคยขาดเอกภาพในการตัดสินใจจากผู้ใช้อาวุธตัวจริง ในการเลือกอาวุธด้วยตนเอง และความเหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจ
และเราเพิ่งได้มิตรประเทศที่พร้อมที่จะถ่ายทอด เทคโนโลยีให้ ในการที่จะสามารถยืนอยู่บนขาตนเองได้กับเขาบ้าง ในเรื่องอาวุธเพื่อการป้องกันประเทศ
อย่างสุดท้าย ผมอยากให้ทุกเหล่าทัพ ของเรา ได้พบผู้ขายอาวุธที่พร้อมจะถ่ายทอดเทคโนให้ อาวุธสามารถใช้ร่วมกันได้ รวมถึงดาต้าลิงค์แบบ 3 มิติ ที่สามารถทำงานเป็นทีมได้ หรือแม้กระทั่งซื้อลิขสิทธิ์ หรือถ้าเป็นไปได้ ตั้งโรงงานผลิตร่วม ถึงมันจะเป็นแค่ความฝัน แต่ผมเชื่อว่าทุกท่านอยากให้ไทยทำได้.......และเกิดขึ้นจริง
มันเป็นตัวอย่างที่ดีงาม แก่ข้าราชการไทย และประเทศไทย ของเราทุกๆคน......
บางครั้ง หนังฝรั่งน่าดู แต่บางอย่างก็ไม่น่าเลียนแบบ หันมาดูประเทศเราบ้าง.....................จะได้ไม่ถูกฝรั่งเขาดูถูกว่า มันเป็นได้แค่ลูกค้า มันทำเองไม่เป็น และมันอย่างผมเจ็บใจ....................