หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


JAS-39 Gripen กับ ร.ล.จักรีนฤเบศ

โดยคุณ : AAG_th1 เมื่อวันที่ : 16/03/2008 21:04:24

จากการไปตระเวนอ่าน Webboard ชุมชนทางทหารในกลุ่มASEAN เช่นสิงคโปร์ มาเลเซีย และอินโดนีเซียมาบ้างนี้(ซึ่งก็อ่านไม่ค่อยออกในwebอินโดนีเซียเพราะเขาใช้ภาษาBahasa-indo ซึ่งสิงคโปร์กับมาเลเซียส่วนใหญ่จะเป็นภาษาอังกฤษ) จะต้องมีการออกความคิดเห็นความคิดหนึ่งใน Forum แทบจะเหมือนๆกันในทุกทีในหัวข้อเกี่ยวกับการจัดหา JAS-39 จำนวน12ลำของกองทัพอากาศไทยคือ

"ไทยเขาจะเอาไปลงเรือจักรีนฤเบศหรือ!?"

ก็ตามที่หลายๆท่านทราบข้อมูลกันแล้วครับว่า ร.ล.จักรีนฤเบศนั้นเป็นเรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์(ถึงแม้ว่าในการจัดประเภทเรือต่างประเทศจะจัดเป็น"เรือบรรทุกเครื่องบิน"ก็ตาม) อากาศที่รองรับการปฏิบัติการจากเรือได้นั้นต้องเป็นอากาศยานขึ้นลงทางดิ่งเท่านั้น ซึ่งในส่วนของเครื่องบินปีกตรึงนั้นก็คือ บ.ตระกูล Harrier เช่น AV-8S ที่ กบร.มีประจำการในปัจจุบันนั้นเอง
แต่ก็มีข้อมูลออกมาว่าในการทดลองบนระบบจำลอง Simulator นั้น บ.JAS-39 สามารถทำการลงจอดบนเรือบรรทุกเครื่องบินได้โดยไม่ต้องใช้ Hook เกี่ยวลวดครับ และสามารถวิ่งขึ้นได้โดยไม่ต้องใช้ Catapult(แต่ข้อมูลไม่ได้บอกว่าเรือที่ใช้เป็นฐานลงจอดในระบบ Simulator เป็นเรือชั้นอะไร Nimitz กระมั๊ง?)

ที่นี้มาสรุปกันสั้นๆอีกครั้งครับว่า บ.Gripenนั้นจะสามารถปฏิบัติการจากเรือที่มีดาดฟ้าทางวิ่งยาวแค่ 175เมตรได้หรือไม่
ตามความเห็นส่วนตัวคิดว่า"อาจจะเป็นไปได้"ครับ ถ้าทำแบบ B-25 ของฝูงบินดูลิตเติ้ลที่ขึ้นจากเรือบรรทุกเครื่องบินในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง(ไปทิ้งระเบิดญี่ปุ่นแล้วไปลงจอดที่จีน)

จำนวนเครื่องที่บรรทุกไปได้:
ไม่แน่ใจว่า Lift ยกทั้งสองตัวของเรือจะสามารถรองรับการนำ บ.Gripen ขึ้นลงระหว่างโรงเก็บและดาดฟ้าได้หรือไม่ แต่ดูจากพื้นที่บนดาดฟ้าแล้วคิดว่าไม่น่าจะมี บ.ปฏิบัติการได้เกิน4ลำครับ เบียดๆกันอย่างมากก็6ลำ

การวิ่งขึ้นและลงจอด:
ถ้าท่านใดเคยชม Video การวิ่งขึ้นจากRunwayหรือถนนของ Gripen แล้วจะเห็นได้ว่า Gripen สามารถบินขึ้นลงโดยใช้ระยะทางวิ่งที่สั้นมากๆได้
แต่ในระยะวิ่งขึ้นจากดาดฟ้าเรือที่ยาวประมาณ250-300ฟุตนี้ถึงจะมี Ski-Jump ก็ตามนี้ไม่แน่ใจครับจะพอสำหรับการวิ่งขึ้นอย่างปลอดภัยหรือไม่ ต่อให้เพิ่มระยะทางวิ่งขึ้นอีกเป็นสัก 400ฟุตนี้ก็ตามก็ยังไม่แน่ใจครับ
บ.ที่จะบินขึ้นได้ในรอบหนึ่งอย่างต่อเนื่องนี้น่าจะอยู่ที่รอบละ 2ลำครับเพราะการวิ่งขึ้นของเครื่องลำหนึ่งอาจจะต้องเว้นระยะห่างเพื่อป้องกันอันตรายจากไอพ่นของเครื่องของหน้าด้วยเพราะไม่มีแผ่นป้องกัน Jet-Blast
การลองจอดยิ่งแล้วใหญ่อีกครับ เพราะเท่าที่ทราบนั้น ร.ล.จักรีนฤเบศไม่น่าจะสามารถทำการขึงลวดบนดาดฟ้าบินสำหรับเกี่ยว Hook สำหรับหยุดเครื่องบินได้ครับ การลงจอดด้วยมุมปะทะสูงของ บ.Gripen ลงเรือแล้วทำการหยุดให้ได้ภายในระยะ150-200ฟุตนี้เป็นเรื่องที่เสี่ยงมากๆครับ ถึงจะทำได้จริงนี้ดาดฟ้าอาจจะมีสภาพเสียหายอย่างรวดเร็วด้วยครับ(ถ้าฝึกทุกปีก็ต้องซ่อมดาดฟ้าใหญ่ทุกปี)

หลายๆประเทศในแถบนี้เขากลัวว่าถ้าไทยเราสามารถใช้ บ.Gripen ขึ้นลง ร.ล.จักรีนฤเบศได้จริงนี้เราจะมีขีดความสามารถในการครองอากาศเหนือน่านน้ำและสามารถยกกองเรือบรรทุกเครื่องบินย่อมๆไปโจมตีประเทศใดๆแถบนี้ได้เลยทีเดียวครับ
แต่ในความเป็นจริงก็คือมันไม่มีความจำเป็นอะไรที่เราจะต้องไปทำถึงขนาดนั้นหรอกครับ ถ้าเราจะต้องการต่อระยะการใช้ บ.ขับไล่ที่เรามีไปโจมตีประเทศใดๆก็ตามในแถบนี้ การจัดหา บ.Tanker เป็นแนวทางที่ดีกว่าการใช้เรือบรรทุกเครื่องบินขนาดเล็กเป็นฐานบินลอยน้ำแล้วหลังเสร็จภารกิจก็ให้ บ.บินมาลงฐานบินบกบกอีกทีหรอกครับ
และถ้ากองทัพจะจัดจัดหา บ.ปีกตรึงมากประจำการบน ร.ล.จักรีนฤเบศแทน AV-8S แล้วนี้ AV-8B Harrier II มือสองของสหรัฐฯที่มีเก็บสำรองไว้เป็นตัวเลือกที่เหมาะกว่าครับ ไม่ก็ Sea Harrier FA.2 ของอังกฤษที่เพิ่งปลดไปเมื่อ1-2ปีที่แล้ว

สรุปท้ายสุดคือกองทัพเรือและกองทัพอากาศคงไม่มีความเห็นร่วมกันในการใช้ บ.JAS-39 Gripen กับ ร.ล.จักรีนฤเบศ หรอกครับ





ความคิดเห็นที่ 1


เห็นด้วยทั้งหมดครับ

ปล. นาน ๆ ทีคุณ AAG_th1 จะโพสกระทู้ที ต้องมาลงชื่อไว้ก่อนครับ

โดยคุณ Skyman เมื่อวันที่ 23/10/2007 19:31:07


ความคิดเห็นที่ 2


....เดิมที เรือจักรี รองรับ ฮ.และ เครื่องบินขึ้นลงทางดิ่ง ซึ่งแสดงว่า ถ้าเป็น บ.ข.ที่น้ำหนักมากกว่า2แบบที่กล่าวมาน่าจะส่งผลต่อ รันเวย์แน่นอน คงไม่ถึงกับพังแต่ก็น่าจะเสียหายไม่น้อยล่ะครับ  และถ้าจะนำมาใช้จริงๆนั้น ต้องทำการปรับปรุงรันเวย์ เช่นเติมแผ่น Jet-Blast และเครื่องส่ง(ในเวลาบรรทุกอาวุธขึ้นปฏิบัติการ) รวมถึงระบบลงจอด อีกด้วย เพราะเวลาปฏิบัติการ กระแสลม การโคลงของเรือเองก็มีผลน่ะครับ  แถม กรีเพ้น เอง ต้องดัดแปลง ปีก ขอเกี่ยว ขณะลงจอดด้วย

......แต่ถ้าเรือเรามีขนาดซัก 2หมื่นตัน ประมาณเนี้ย แล้วสามารถเป็นเรือบรรทุกเครื่องบิน ยัดเครื่อง กรีเพ้น ลงไปคงจะเป็นกองเรือที่ประหยัดดีน่ะครับ ขนาดเล็กดีด้วยล่ะ

โดยคุณ MIG31 เมื่อวันที่ 23/10/2007 19:57:45


ความคิดเห็นที่ 3


ถ้าติดhook แล้วF-18 ก้ลงได้ครับ F-18 ลงด้วยทางวิ่ง 60เมตร และขึ้นด้วยทางวิ่ง 80 เมตร ถ้าอยากทำจริงๆ ของบพิเศษเลยครับ
ผมเคยดูสารคดีของช่องDiscovery ทำเขากำลังติดตั้ง ระบบนี้บนเรือบรรทุกเครื่องบินลำใหม่ของ สหรัฐ(ชื่ิอ บุช) ระบบมันเล็กนิดเดียวเองครับ เล็กจิงๆนะครับ



ป.ล. ทำได้อยู่แล้ว อยุ่ที่ใจมากกว่าว่าจะกล้าทำไม All things are possible ครับ ถ้ากล้าของบพิเศษ�
โดยคุณ VEranda เมื่อวันที่ 23/10/2007 20:07:22


ความคิดเห็นที่ 4


สวัสดีครับผมสมาชิกใหม่  ยินดีที่ได้รู้จักครับ  สำหรับผมแล้วกระทู้นี้โดนใจกับความคิดของผมมาก (เพราะผมเองก็คิดเหมือนกัน) แต่เครื่องบินที่ผมคิดว่าใกล้เคียงกับแนวความคิดนี้มากที่สุดน่าจะเป็นเครื่องตระกูล HAWK หรือเครื่อง T-45  ที่มีความสามารถขึ้นลงเรือได้อยู่แล้ว (เป็นเครื่องฝึก ทร.มะกัน) เพราะมีน้ำหนักเบา  ค่าใช้จ่ายต่อชั่วโมงบินไม่สูงนัก  ราคาเครื่องก็ถูกกว่าเครื่องขับไล่แน่นอน  เพราะถ้าจะไปหวังแฮริเออร์นั่น  ยิ่งนานวันอะไหล่ก็จะยิ่งหายาก F-35 ไม่ต้องพูดถึง  น่าจะไม่มีปัญญาซื้ออยู่แล้ว แต่เครื่องตระกูลHAWK อะไหล่น่าจะหาง่ายกว่า (ผมว่านะครับ) เนื่องจากมีผู้ใช้ก็ไม่น้อย  ผมว่าถ้าจะทำกันจริงๆ ให้ ร.ล.จักรีฯ สามารถรองรับการปฏิบัติการของเครื่องบินที่ไม่ใช่เครื่องขึ้นลงทางดิ่ง สามารถทำได้ (ในทางทฎษฎี) โดยเริ่มจากการเสริมคานเหล็กใต้พื้นรันเวย์ (หรือหลังคาของโรงเก็บอากาศยาน) ในจุดที่คำนวนว่าเครื่องจะลงแตะ ให้แข็งแรง  และในทางปฏิบัตินั่น เราอาจจะติดตั้งระบบหน่วงความเร็วด้วยสลิง (คนไทยอย่างเรา  วิศวกรมีเยอะ น่าจะทำได้) แล้วเวลาร่อนลงต้องเคียร์รันเวย์ให้ว่าง  นั่นหมายถึงจะต้องไม่มีเครื่องบิน จอดอยู่หน้าสะพานเดินเรือ  อาจจะเก็บไว้ในโรงเก็บอากาศยานได้ แต่สามารถจอดอยู่หลังสะพานเดินเรื่อได้สัก 2 ลำ เพราะT-45 น้ำหนักเบา  ผมเคยดูสารคดี T-45 ใช้ทางลงเมื่อใช้สลิง สั้นมาก สั้นจนผมคิดว่าความยาว ร.ล.จักรีฯ เหลือแน่นอน  ส่วนตอนบินขึ้นนี้หนักหน่อย  เนื่องจาก T-45 มีแรงขับสูงสุดประมาณ 6500 ปอนด์ ซึ่งน้อยมากเมื่อเทียบกับเครื่องขับไล่ทั่วไป อาจต้องใช้ทางวิ่งขึ้นประมาณ 150 เมตร (เหลือ 25 เมตรไว้ เพราะเป็นจุดติดตั้งของสลิง) อาจจะไม่ต้องสร้างเครื่องดีดก็ได้ แต่อาจใช้หลักการฉุดรั้งเครืองบินเอาไว้  จนกว่าเครื่องยนต์ไอพ่นจะมีกำลังสูงสุด แล้วค่อยปลดปล่อยไป อาจทำเป็นอุปกรณ์ที่ติดตั้งบนทางวิ่ง แล้วขัดล้อหน้าเอาไว้ แต่ทั้งหมดนี้ไม่รู้จะเกี่ยวอะไรกับ Gripen ป่าว  สรุป ผมว่าถ้าจะเอากันจริงๆ ทำได้ครับ


โดยคุณ RMUTK เมื่อวันที่ 23/10/2007 20:42:15


ความคิดเห็นที่ 5


ถ้าจะดัดแปลง เรือจักรี ให้ JAS39 ลงจอด ผมว่า ไปต่อเรือใหม่ เพิ่มอีกลำ ดีกว่าครับ�

หรือไม่ก็ปรับปรุง JAS39 เป็นรุ่นเทพ ขึ้นลงสั้นมาก ๆ ๆ ๆ� สร้างเฉพาะกองทัพไทย ??� (? แนวคิดนี้ ไม่แน่ อาจเป็นจริง ในอนาคต )?


โดยคุณ แมวบิน เมื่อวันที่ 23/10/2007 22:04:27


ความคิดเห็นที่ 6



อย่าว่าแต่ต่างประเทศเลยครับ ของเราก็มีคนอยากให้ทำเหมือนกัน

โดยคุณ Tasurahings เมื่อวันที่ 23/10/2007 22:05:41


ความคิดเห็นที่ 7


ขอฟันธง เลยนะครับว่า ถ้าไม่ไช่ อากาศยานที่สามารถขึ้น/ลงทางดิ่ง หรือ ขึ้นทางวิ่งสั้น/ลงทางดิ่งได้

ไม่มีโอกาสได้ประจำการบน 911 แน่นอนครับ

เพราะ 2 ตัวนี้

1. งบ

2. ขนาด

ทร. ไม่มีงบ ปรับปรุง 911 เกือบจะแน่นอน และ 911 ก็เล็กมาก มากจนถ้าเพิ่ม เครื่องดีดส่งหรืออุปกรณ์รับเครื่องขณะร่อนลง ก็แทบจะบรรทุก บ. ไปได้ไม่กี่เครื่องละมั้งครับ

และ 911 ก็แคบและเล็ก จนผมคิดว่าถ้าจะลงโดยใช้ตะขอเกี่ยวนี่นักบิน ต้องใจกล้าหน้าดู ละครับ

โดยคุณ ++++ เมื่อวันที่ 23/10/2007 22:35:14


ความคิดเห็นที่ 8


นานๆจะเห้นคุณ AAG_th1ตั้งกระทู้ ขอบคุณความรู้ครับ
โดยคุณ ped เมื่อวันที่ 24/10/2007 05:28:26


ความคิดเห็นที่ 9


รูปท่าน AAG_th1 จัดทำดีจริง ๆ ครับ... ในใจก็อยากให้เป็นอย่างนี้จริง ๆ....แต่ในความจริง ก็คงเป็นไปไม่ได้...เพราะก็ผิดวัตถุประสงค์ของสมรรถนะของ 911 อยู่แล้ว...911 ผมคิดว่าน่าจะอยู่ในหมวดเรือ แบบ LHA ของ ทร.สหรัฐ USS Tarawa เพียงแต่ด้วยสภาพ มีสกีจัพม์ แบบ เรือบรรทุก บ. ของ อังกฤษ หรือของอิตาลี สเปน  เพื่อนบ้านเลยพลอยมองเป็นเรือบรรทุก บ. ไป....เห็นด้วยกับท่าน AAG_th1 ครับ...ว่า น่าจะจัดหา แฮรริเออร์ มือสอง มาทดแทน หรือว่า ทร. น่าจะประสานความร่วมมือกับ อินเดีย ในเรื่องอะไหล่ และการบำรุงรักษา แฮรริเออร์ ซึ่งน่าจะใช้กันได้....

 

 

โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 24/10/2007 08:04:31


ความคิดเห็นที่ 10


ถ้าจะปรับปรุง 911 ละก็ งานช้างครับ ....... เรือไม่ได้ออกแบบมาให้ติดอุปกรณ์พวกนี้ ต้องปรับโน้น ตัดนี่ เพิ่มนั้น ........ ทำไปทำมาประสิทธิภาพเรืออาจจะลดลง แล้วเผลอ ๆ ซื้อเรือใหม่จะคุ้มกว่า
โดยคุณ Skyman เมื่อวันที่ 24/10/2007 08:53:40


ความคิดเห็นที่ 11


 

ซื้อ ฮ มาเติมเรือจักรีเข้าท่ากว่าครับ หรือ ถ้ามีตังค์เหลือจริงๆ AV-8 รุ่นของ นย ไอ้กัน ก็ไม่เลวเท่าไร ไม่ต้องปรับปรุงอะไรมาก ใช้งานได้เลยไม่ต้องมานั่งคิดว่าทำได้หรือไม่

 

โครงการของทหารน้ำยังมีอีกเยอะครับ ดังนั้น Navy Jet Fighter คงเป็นลำดับท้ายๆ ที่ ทร. เรียงความสำคัญในการจัดหายุทโธปกรณ์  โครงการ CIWS หรือ เรือป้องกันภัยทางอากาศ หรือ ปรับปรุงอาวุธของ นย น่าจะเป็นภารกิจใหญ่ของ ทร ครับ

โดยคุณ CoffeeMix เมื่อวันที่ 24/10/2007 10:10:01


ความคิดเห็นที่ 12


อนาคตข้างนู้นนน....  ผมว่าให้ทัพเรือหา เรือบรรทุกเครื่องบินอีกลำที่ใหญ่กว่ามาแทน 911ที่อ่าวไทย  แล้วเอา 911ไปอยู่ฝั่งอันดามันแทน..

แล้วตอนนี้ AV8 มีทางกลับมาบ้างเปล่าครับ..??
โดยคุณ charchar เมื่อวันที่ 24/10/2007 11:07:47


ความคิดเห็นที่ 13


คุณแมวบิน ครับ ผมอยากเห็น แจ็ส 39 รุ่นเทพครับ เพราะเป็นการเปิดตัวที่ประเทศไทย เป็นประเทศแรกครับและ สวีเดนจะให้ บินขึ้นลงบน เรือจักกรีชัวร์ให้ทั่วโลกเห็นครับ ว่า สวีเดนมีแนวคิดทำบินขึ้นลงแนวดิ่ง จากการที่ไทยเสนอมา และ บข21 ของไทยก็จะเป็น แจ็ส39 รุ่นเทพ โดยที่ฐานการผลิต ผลิตในประเทศไทย เนื่องจากสวีเดนให้รหัสในการผลิตแก่เราครับ  จบข่าว  ล้อเล่นน่า.......
โดยคุณ tik เมื่อวันที่ 24/10/2007 11:47:07


ความคิดเห็นที่ 14


ผมว่ามันยุ่งยากพอสมควร
ยิ่งถ้าเอาอาวุธที่Gripen ติดตัวไปโจมตีได้มาคิด
ดูจะไม่ค่อยคุ้ม
เอาว่าซื้อ Scud มาดีกว่า
ถ้าอยากให้มากกว่านั้นก็เอา Scud มาขยายแบบ Nodong
น่าจะเป็นการลงทุนที่คุ้มกว่า
โดยคุณ Oldtimer เมื่อวันที่ 24/10/2007 12:25:45


ความคิดเห็นที่ 15


สวัสดีพี่AAG_th1ค่ะ ปกติไม่ค่อยเห็นพี่ตั้งกระทู้เองและเป็นคนเดียวตั้งแต่อ่านบอร์ดมาที่ไม่เคยน๊อตหลุดหรือเสียการทรงตัวในการโพสท่ามกลางความคิดเห็น ที่บางครั้งขัดแย้งรุนแรง หรือขำกันหลายกลิ้งพี่ก็มานิ่งๆ ทรงภูมิอยู่เช่นนั้นจนบางครั้งก่อความสงสัยให้หนูตัวเล็กๆ ว่าพี่เป็นออโต้โปรแกรมตอบกระทู้หรือป่าวหน้อ....^^  (พาดพิงหน่อยหนึ่ง) >> พี่ไอซี่บอกว่าเหมือนพี่เดินมาจากเกมส์ (ฮึ่ม !!!  แบบหุ่นยนต์ ==" มาโพสค่ะ) อะไรประมาณนั้นด้วยค่ะ แต่เรื่องข้อมูลเชื่อถือได้ในอันดับต้นๆ ของเวปค่ะสิ่งนี้คือคิดจากใจจริงๆ ว่าเห็นชื่อแล้วไม่ต้องพิจารณานานๆ ถึงแทบไม่ต้องพิจารณาเลย ....จบการนอกเรื่องนอกราวค่ะ
โดยคุณ marineen เมื่อวันที่ 24/10/2007 14:18:20


ความคิดเห็นที่ 16


เฮ้ย ยัยหนูนีน อ้างพี่อย่างนี้ก็ตายอ่ะดิ เดี๊ยะๆๆ 

 

ส่วนเรื่องยาสนั้น ของดออกเสียงครับ เนื่องจาก มันทั้งมีความเป็นไปได้ และเป็นไปไม่ได้ในเรื่องเดียวกัน งงมั๊ย ผมเองยังงงเลย

 

แต่เคืองหนูนีนมาก เดี๋ยวๆ ทำเค้กโปะไข่ไปส่งเป็นของขวัญ 5555

โดยคุณ icy_nominee เมื่อวันที่ 24/10/2007 15:04:50


ความคิดเห็นที่ 17


"พี่ไอซี่บอกว่าเหมือนพี่เดินมาจากเกมส์"

จริงครับ.....ในอีกความหมายนึงนะ.....เพราะมั่นใจว่าเรื่องเกมส์ไม่มีใครแถวนี้เทียบท่าน AAG_th1 ได้...ผมเคยได้รับความช่วยเหลือมา..ขอบคุณนะคับ

โดยคุณ Skyman เมื่อวันที่ 24/10/2007 15:48:42


ความคิดเห็นที่ 18


^

^

^

ที่ใดมีmarineen ที่นั่นต้องมีskyman 

หุหุ อิจฉาจริงๆ คู่นี้

(ล้อไปเรื่อยๆ หุหุ ทำหน้าที่แทนตาโจ๊ก) 

 

โดยคุณ icy_nominee เมื่อวันที่ 24/10/2007 19:38:20


ความคิดเห็นที่ 19


คุณ Icy ครับ งั้น ผมช่วยเชียร์คู่นี้อีกคนนะครับ แล้วเขาจะว่าผมไม่เนี้ย โทษครับ ที่ไม่เกี่ยวกับกระทู้  

โดยคุณ Pad Thai เมื่อวันที่ 25/10/2007 12:02:17


ความคิดเห็นที่ 20


อืม ดูเหมือนได้ แต่จริงๆ มันเป็นไปไม่ได้เลยครับ อีกอย่างนึง

Gripen มีฐานล้อที่แข็งแรงพอที่จะรับแรงกระแทกที่รุนแรงได้หรือเปล่า ดีไม่ดีลงไปลงมา  ล้ออาจหน้าเครื่องไปก่อนก็ได้ ที่สำคัญ ความยาวของเรือด้วยครับ

หรือไม่ก็ซื้อ LHA USS  Saipan ที่สหรัฐพึ่งปลดไปมาติดสกีจั๊ม หน้าจะเป็นไปได้มากกว่า(นิด)

ปล.เรื่องรักผมไม่ยู้เด้อ เพราะอกหักตลอดดดดด 555

 

 

 

โดยคุณ Exocet เมื่อวันที่ 25/10/2007 21:14:53


ความคิดเห็นที่ 21


มิน่า ผมถึงว่าทำไมพักนี้มดเยอะชอบกล
หวานกันทุกกระทู้อย่างนี้นี่เอง ^^
โดยคุณ Zepia เมื่อวันที่ 25/10/2007 22:17:43


ความคิดเห็นที่ 22


อืม เป็นหัวข้อที่น่าสนใจครับ

คำถามก็น่าจะมีหลายอย่างตั้งแต่คำถามเริ่มต้นที่ว่า JAS39 หรือ 911 นั้นมีเงื่อนไขในด้านประสิทธิภาพและสมรรถนะ โครงสร้าง และส่วนประกอบอื่นๆที่เอื้อการทำงานเหมือนกันหรือเปล่า? เหมือนๆอย่างเช่นคุณ Exocet ถามของ JAS39 มีโครงสร้างของช่วงล่างของเครื่องบินรองรับการกระแทกรันเวย์ของเรือพอหรือเปล่านั้นก็เช่นกันครับ ผมก็สงสัยอยู่เหมือนกันว่ารันเวย์ของ 911 นั้นออกแบบในเงื่อนไขของการรองรับการร่อนลงของเครื่องบินขับไล่แบบไอพ่นหรือเปล่าเหมือนกันครับ เพราะเห็นเค้ารับแต่ ฮ. กับเครื่องบินที่ขึ้นลงแนวดิ่งอย่าง AV8 เท่านั้นครับ อย่างอื่นไม่รู้เหมือนกัน แต่ก็อยากรู้มั่งถ้ามีคนช่วยแชร์นะครับ

ส่วนการโมดิฟายเพิ่มความยาว ต่อรันเวย์ ใส่อุปกรณ์สกีจัมป์ฯลฯ น้ำหนักที่เพิ่มมาจะมีผลต่อระบบเครืองส่งกำลังของเรือเพิ่มขึ้นกี่มากน้อยแค่ไหน แล้วจะมีผลต่อโครงสร้างหลักของตัวเรือเท่าไหร่ ประสิทธิภาพด้านอื่นจะลดหรือจะเพิ่มหรือไม่ บลาบลาบลา... โอ้ น่าคิดครับน่าคิด

ขอให้ความเห็นว่าโอกาสทำให้เป็นไปได้ก็น่าจะมีครับ แต่คุ้มหรือเปล่านั้นคงจะเป็นอีกเรื่องนึงครับผม... 

โดยคุณ TigerOod เมื่อวันที่ 27/10/2007 15:46:41


ความคิดเห็นที่ 23


ง่า..แล้ว F-35 ล่ะครับพี่ๆ...
โดยคุณ Aceน้อย เมื่อวันที่ 27/10/2007 16:15:33


ความคิดเห็นที่ 24


ถ้าจะทำจริงก็ต้องรื้อดาดฟ้าใหม่หมด

เผลอๆลิฟตัวเดิมยกไม่ไหวอีก

ไม่คุ้มแน่ครับ

สู้ไปซื้อ ฮ.โจมตี ฮ.กู้ภัย ดีๆมาดีกว่าครับ

ส่วนเรือบรรทุกเครื่องบินลำใหม่ไว้รออีกซัก30ปี ค่อยต่อใหม่

หรือไม่ก็รอให้ อเมริกามันปลด Kitty Hawk ของมัน

แล้วเราไปขอซื้อมาก็ได้น่ะครับ 

แล้วเงินหละ???

ภาพKitty Hawk ของมะกันครับ

อนาคตของเรา^^


โดยคุณ dremminaicc เมื่อวันที่ 28/10/2007 08:49:43


ความคิดเห็นที่ 25


ผมว่าไอเดียของท่าน RMUTK น่าสนใจครับ   เพราะ T-45 นั้นเล็กกว่าและเบากว่า AV-8     แต่ปัญหาหลักของเครื่องตระกูลนี้คือต้องใช้ระยะทางวิ่งขึ้นลงค่อนข้างยาวมาก 

   อืมมมแต่เครื่องขนาด Hawk นี่น่าเหมาะกับเรือขนาดจักรีมากนะครับ    หลังจากเครื่องแบบ A-4 มาแล้วก็ไม่เห็นใครออกแบบเครื่องขนาดเล็กสำหรับการปฎิบัติการบนเรือบรรทุกบ.อีกเลย   ทั้งๆที่มันดูจะคุ้มค่ามากสำหรับประเทศที่มีเรือบรรทุกบ.ขนาดเบาใช้งาน

 

โดยคุณ neosiamese เมื่อวันที่ 16/03/2008 10:04:25