จากการไปตระเวนอ่าน Webboard ชุมชนทางทหารในกลุ่มASEAN เช่นสิงคโปร์ มาเลเซีย และอินโดนีเซียมาบ้างนี้(ซึ่งก็อ่านไม่ค่อยออกในwebอินโดนีเซียเพราะเขาใช้ภาษาBahasa-indo ซึ่งสิงคโปร์กับมาเลเซียส่วนใหญ่จะเป็นภาษาอังกฤษ) จะต้องมีการออกความคิดเห็นความคิดหนึ่งใน Forum แทบจะเหมือนๆกันในทุกทีในหัวข้อเกี่ยวกับการจัดหา JAS-39 จำนวน12ลำของกองทัพอากาศไทยคือ
"ไทยเขาจะเอาไปลงเรือจักรีนฤเบศหรือ!?"
ก็ตามที่หลายๆท่านทราบข้อมูลกันแล้วครับว่า ร.ล.จักรีนฤเบศนั้นเป็นเรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์(ถึงแม้ว่าในการจัดประเภทเรือต่างประเทศจะจัดเป็น"เรือบรรทุกเครื่องบิน"ก็ตาม) อากาศที่รองรับการปฏิบัติการจากเรือได้นั้นต้องเป็นอากาศยานขึ้นลงทางดิ่งเท่านั้น ซึ่งในส่วนของเครื่องบินปีกตรึงนั้นก็คือ บ.ตระกูล Harrier เช่น AV-8S ที่ กบร.มีประจำการในปัจจุบันนั้นเอง
แต่ก็มีข้อมูลออกมาว่าในการทดลองบนระบบจำลอง Simulator นั้น บ.JAS-39 สามารถทำการลงจอดบนเรือบรรทุกเครื่องบินได้โดยไม่ต้องใช้ Hook เกี่ยวลวดครับ และสามารถวิ่งขึ้นได้โดยไม่ต้องใช้ Catapult(แต่ข้อมูลไม่ได้บอกว่าเรือที่ใช้เป็นฐานลงจอดในระบบ Simulator เป็นเรือชั้นอะไร Nimitz กระมั๊ง?)
ที่นี้มาสรุปกันสั้นๆอีกครั้งครับว่า บ.Gripenนั้นจะสามารถปฏิบัติการจากเรือที่มีดาดฟ้าทางวิ่งยาวแค่ 175เมตรได้หรือไม่
ตามความเห็นส่วนตัวคิดว่า"อาจจะเป็นไปได้"ครับ ถ้าทำแบบ B-25 ของฝูงบินดูลิตเติ้ลที่ขึ้นจากเรือบรรทุกเครื่องบินในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง(ไปทิ้งระเบิดญี่ปุ่นแล้วไปลงจอดที่จีน)
จำนวนเครื่องที่บรรทุกไปได้:
ไม่แน่ใจว่า Lift ยกทั้งสองตัวของเรือจะสามารถรองรับการนำ บ.Gripen ขึ้นลงระหว่างโรงเก็บและดาดฟ้าได้หรือไม่ แต่ดูจากพื้นที่บนดาดฟ้าแล้วคิดว่าไม่น่าจะมี บ.ปฏิบัติการได้เกิน4ลำครับ เบียดๆกันอย่างมากก็6ลำ
การวิ่งขึ้นและลงจอด:
ถ้าท่านใดเคยชม Video การวิ่งขึ้นจากRunwayหรือถนนของ Gripen แล้วจะเห็นได้ว่า Gripen สามารถบินขึ้นลงโดยใช้ระยะทางวิ่งที่สั้นมากๆได้
แต่ในระยะวิ่งขึ้นจากดาดฟ้าเรือที่ยาวประมาณ250-300ฟุตนี้ถึงจะมี Ski-Jump ก็ตามนี้ไม่แน่ใจครับจะพอสำหรับการวิ่งขึ้นอย่างปลอดภัยหรือไม่ ต่อให้เพิ่มระยะทางวิ่งขึ้นอีกเป็นสัก 400ฟุตนี้ก็ตามก็ยังไม่แน่ใจครับ
บ.ที่จะบินขึ้นได้ในรอบหนึ่งอย่างต่อเนื่องนี้น่าจะอยู่ที่รอบละ 2ลำครับเพราะการวิ่งขึ้นของเครื่องลำหนึ่งอาจจะต้องเว้นระยะห่างเพื่อป้องกันอันตรายจากไอพ่นของเครื่องของหน้าด้วยเพราะไม่มีแผ่นป้องกัน Jet-Blast
การลองจอดยิ่งแล้วใหญ่อีกครับ เพราะเท่าที่ทราบนั้น ร.ล.จักรีนฤเบศไม่น่าจะสามารถทำการขึงลวดบนดาดฟ้าบินสำหรับเกี่ยว Hook สำหรับหยุดเครื่องบินได้ครับ การลงจอดด้วยมุมปะทะสูงของ บ.Gripen ลงเรือแล้วทำการหยุดให้ได้ภายในระยะ150-200ฟุตนี้เป็นเรื่องที่เสี่ยงมากๆครับ ถึงจะทำได้จริงนี้ดาดฟ้าอาจจะมีสภาพเสียหายอย่างรวดเร็วด้วยครับ(ถ้าฝึกทุกปีก็ต้องซ่อมดาดฟ้าใหญ่ทุกปี)
หลายๆประเทศในแถบนี้เขากลัวว่าถ้าไทยเราสามารถใช้ บ.Gripen ขึ้นลง ร.ล.จักรีนฤเบศได้จริงนี้เราจะมีขีดความสามารถในการครองอากาศเหนือน่านน้ำและสามารถยกกองเรือบรรทุกเครื่องบินย่อมๆไปโจมตีประเทศใดๆแถบนี้ได้เลยทีเดียวครับ
แต่ในความเป็นจริงก็คือมันไม่มีความจำเป็นอะไรที่เราจะต้องไปทำถึงขนาดนั้นหรอกครับ ถ้าเราจะต้องการต่อระยะการใช้ บ.ขับไล่ที่เรามีไปโจมตีประเทศใดๆก็ตามในแถบนี้ การจัดหา บ.Tanker เป็นแนวทางที่ดีกว่าการใช้เรือบรรทุกเครื่องบินขนาดเล็กเป็นฐานบินลอยน้ำแล้วหลังเสร็จภารกิจก็ให้ บ.บินมาลงฐานบินบกบกอีกทีหรอกครับ
และถ้ากองทัพจะจัดจัดหา บ.ปีกตรึงมากประจำการบน ร.ล.จักรีนฤเบศแทน AV-8S แล้วนี้ AV-8B Harrier II มือสองของสหรัฐฯที่มีเก็บสำรองไว้เป็นตัวเลือกที่เหมาะกว่าครับ ไม่ก็ Sea Harrier FA.2 ของอังกฤษที่เพิ่งปลดไปเมื่อ1-2ปีที่แล้ว
สรุปท้ายสุดคือกองทัพเรือและกองทัพอากาศคงไม่มีความเห็นร่วมกันในการใช้ บ.JAS-39 Gripen กับ ร.ล.จักรีนฤเบศ หรอกครับ
เห็นด้วยทั้งหมดครับ
ปล. นาน ๆ ทีคุณ AAG_th1 จะโพสกระทู้ที ต้องมาลงชื่อไว้ก่อนครับ
....เดิมที เรือจักรี รองรับ ฮ.และ เครื่องบินขึ้นลงทางดิ่ง ซึ่งแสดงว่า ถ้าเป็น บ.ข.ที่น้ำหนักมากกว่า2แบบที่กล่าวมาน่าจะส่งผลต่อ รันเวย์แน่นอน คงไม่ถึงกับพังแต่ก็น่าจะเสียหายไม่น้อยล่ะครับ และถ้าจะนำมาใช้จริงๆนั้น ต้องทำการปรับปรุงรันเวย์ เช่นเติมแผ่น Jet-Blast และเครื่องส่ง(ในเวลาบรรทุกอาวุธขึ้นปฏิบัติการ) รวมถึงระบบลงจอด อีกด้วย เพราะเวลาปฏิบัติการ กระแสลม การโคลงของเรือเองก็มีผลน่ะครับ แถม กรีเพ้น เอง ต้องดัดแปลง ปีก ขอเกี่ยว ขณะลงจอดด้วย
......แต่ถ้าเรือเรามีขนาดซัก 2หมื่นตัน ประมาณเนี้ย แล้วสามารถเป็นเรือบรรทุกเครื่องบิน ยัดเครื่อง กรีเพ้น ลงไปคงจะเป็นกองเรือที่ประหยัดดีน่ะครับ ขนาดเล็กดีด้วยล่ะ
ขอฟันธง เลยนะครับว่า ถ้าไม่ไช่ อากาศยานที่สามารถขึ้น/ลงทางดิ่ง หรือ ขึ้นทางวิ่งสั้น/ลงทางดิ่งได้
ไม่มีโอกาสได้ประจำการบน 911 แน่นอนครับ
เพราะ 2 ตัวนี้
1. งบ
2. ขนาด
ทร. ไม่มีงบ ปรับปรุง 911 เกือบจะแน่นอน และ 911 ก็เล็กมาก มากจนถ้าเพิ่ม เครื่องดีดส่งหรืออุปกรณ์รับเครื่องขณะร่อนลง ก็แทบจะบรรทุก บ. ไปได้ไม่กี่เครื่องละมั้งครับ
และ 911 ก็แคบและเล็ก จนผมคิดว่าถ้าจะลงโดยใช้ตะขอเกี่ยวนี่นักบิน ต้องใจกล้าหน้าดู ละครับ
รูปท่าน AAG_th1 จัดทำดีจริง ๆ ครับ... ในใจก็อยากให้เป็นอย่างนี้จริง ๆ....แต่ในความจริง ก็คงเป็นไปไม่ได้...เพราะก็ผิดวัตถุประสงค์ของสมรรถนะของ 911 อยู่แล้ว...911 ผมคิดว่าน่าจะอยู่ในหมวดเรือ แบบ LHA ของ ทร.สหรัฐ USS Tarawa เพียงแต่ด้วยสภาพ มีสกีจัพม์ แบบ เรือบรรทุก บ. ของ อังกฤษ หรือของอิตาลี สเปน เพื่อนบ้านเลยพลอยมองเป็นเรือบรรทุก บ. ไป....เห็นด้วยกับท่าน AAG_th1 ครับ...ว่า น่าจะจัดหา แฮรริเออร์ มือสอง มาทดแทน หรือว่า ทร. น่าจะประสานความร่วมมือกับ อินเดีย ในเรื่องอะไหล่ และการบำรุงรักษา แฮรริเออร์ ซึ่งน่าจะใช้กันได้....
ซื้อ ฮ มาเติมเรือจักรีเข้าท่ากว่าครับ หรือ ถ้ามีตังค์เหลือจริงๆ AV-8 รุ่นของ นย ไอ้กัน ก็ไม่เลวเท่าไร ไม่ต้องปรับปรุงอะไรมาก ใช้งานได้เลยไม่ต้องมานั่งคิดว่าทำได้หรือไม่
โครงการของทหารน้ำยังมีอีกเยอะครับ ดังนั้น Navy Jet Fighter คงเป็นลำดับท้ายๆ ที่ ทร. เรียงความสำคัญในการจัดหายุทโธปกรณ์ โครงการ CIWS หรือ เรือป้องกันภัยทางอากาศ หรือ ปรับปรุงอาวุธของ นย น่าจะเป็นภารกิจใหญ่ของ ทร ครับ
เฮ้ย ยัยหนูนีน อ้างพี่อย่างนี้ก็ตายอ่ะดิ เดี๊ยะๆๆ
ส่วนเรื่องยาสนั้น ของดออกเสียงครับ เนื่องจาก มันทั้งมีความเป็นไปได้ และเป็นไปไม่ได้ในเรื่องเดียวกัน งงมั๊ย ผมเองยังงงเลย
แต่เคืองหนูนีนมาก เดี๋ยวๆ ทำเค้กโปะไข่ไปส่งเป็นของขวัญ 5555
"พี่ไอซี่บอกว่าเหมือนพี่เดินมาจากเกมส์"
จริงครับ.....ในอีกความหมายนึงนะ.....เพราะมั่นใจว่าเรื่องเกมส์ไม่มีใครแถวนี้เทียบท่าน AAG_th1 ได้...ผมเคยได้รับความช่วยเหลือมา..ขอบคุณนะคับ
^
^
^
ที่ใดมีmarineen ที่นั่นต้องมีskyman
หุหุ อิจฉาจริงๆ คู่นี้
(ล้อไปเรื่อยๆ หุหุ ทำหน้าที่แทนตาโจ๊ก)
คุณ Icy ครับ งั้น ผมช่วยเชียร์คู่นี้อีกคนนะครับ แล้วเขาจะว่าผมไม่เนี้ย โทษครับ ที่ไม่เกี่ยวกับกระทู้
อืม ดูเหมือนได้ แต่จริงๆ มันเป็นไปไม่ได้เลยครับ อีกอย่างนึง
Gripen มีฐานล้อที่แข็งแรงพอที่จะรับแรงกระแทกที่รุนแรงได้หรือเปล่า ดีไม่ดีลงไปลงมา ล้ออาจหน้าเครื่องไปก่อนก็ได้ ที่สำคัญ ความยาวของเรือด้วยครับ
หรือไม่ก็ซื้อ LHA USS Saipan ที่สหรัฐพึ่งปลดไปมาติดสกีจั๊ม หน้าจะเป็นไปได้มากกว่า(นิด)
ปล.เรื่องรักผมไม่ยู้เด้อ เพราะอกหักตลอดดดดด 555
อืม เป็นหัวข้อที่น่าสนใจครับ
คำถามก็น่าจะมีหลายอย่างตั้งแต่คำถามเริ่มต้นที่ว่า JAS39 หรือ 911 นั้นมีเงื่อนไขในด้านประสิทธิภาพและสมรรถนะ โครงสร้าง และส่วนประกอบอื่นๆที่เอื้อการทำงานเหมือนกันหรือเปล่า? เหมือนๆอย่างเช่นคุณ Exocet ถามของ JAS39 มีโครงสร้างของช่วงล่างของเครื่องบินรองรับการกระแทกรันเวย์ของเรือพอหรือเปล่านั้นก็เช่นกันครับ ผมก็สงสัยอยู่เหมือนกันว่ารันเวย์ของ 911 นั้นออกแบบในเงื่อนไขของการรองรับการร่อนลงของเครื่องบินขับไล่แบบไอพ่นหรือเปล่าเหมือนกันครับ เพราะเห็นเค้ารับแต่ ฮ. กับเครื่องบินที่ขึ้นลงแนวดิ่งอย่าง AV8 เท่านั้นครับ อย่างอื่นไม่รู้เหมือนกัน แต่ก็อยากรู้มั่งถ้ามีคนช่วยแชร์นะครับ
ส่วนการโมดิฟายเพิ่มความยาว ต่อรันเวย์ ใส่อุปกรณ์สกีจัมป์ฯลฯ น้ำหนักที่เพิ่มมาจะมีผลต่อระบบเครืองส่งกำลังของเรือเพิ่มขึ้นกี่มากน้อยแค่ไหน แล้วจะมีผลต่อโครงสร้างหลักของตัวเรือเท่าไหร่ ประสิทธิภาพด้านอื่นจะลดหรือจะเพิ่มหรือไม่ บลาบลาบลา... โอ้ น่าคิดครับน่าคิด
ขอให้ความเห็นว่าโอกาสทำให้เป็นไปได้ก็น่าจะมีครับ แต่คุ้มหรือเปล่านั้นคงจะเป็นอีกเรื่องนึงครับผม...
ถ้าจะทำจริงก็ต้องรื้อดาดฟ้าใหม่หมด
เผลอๆลิฟตัวเดิมยกไม่ไหวอีก
ไม่คุ้มแน่ครับ
สู้ไปซื้อ ฮ.โจมตี ฮ.กู้ภัย ดีๆมาดีกว่าครับ
ส่วนเรือบรรทุกเครื่องบินลำใหม่ไว้รออีกซัก30ปี ค่อยต่อใหม่
หรือไม่ก็รอให้ อเมริกามันปลด Kitty Hawk ของมัน
แล้วเราไปขอซื้อมาก็ได้น่ะครับ
แล้วเงินหละ???
ภาพKitty Hawk ของมะกันครับ
อนาคตของเรา^^
ผมว่าไอเดียของท่าน RMUTK น่าสนใจครับ เพราะ T-45 นั้นเล็กกว่าและเบากว่า AV-8 แต่ปัญหาหลักของเครื่องตระกูลนี้คือต้องใช้ระยะทางวิ่งขึ้นลงค่อนข้างยาวมาก
อืมมมแต่เครื่องขนาด Hawk นี่น่าเหมาะกับเรือขนาดจักรีมากนะครับ หลังจากเครื่องแบบ A-4 มาแล้วก็ไม่เห็นใครออกแบบเครื่องขนาดเล็กสำหรับการปฎิบัติการบนเรือบรรทุกบ.อีกเลย ทั้งๆที่มันดูจะคุ้มค่ามากสำหรับประเทศที่มีเรือบรรทุกบ.ขนาดเบาใช้งาน