หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) เตรียมเปิดแถลงข่าวการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่แบบกริพเพน/ซีดี จำนวน 12 ลำ

โดยคุณ : eoOn เมื่อวันที่ : 18/10/2007 17:22:29

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในวันที่ 17 ตุลาคม เวลา 13.00 น. ที่กองบัญชาการกองทัพอากาศ พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) เตรียมเปิดแถลงข่าวการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่แบบกริพเพน/ซีดี จำนวน 12 ลำ ตามงบประมาณที่ ครม.อนุมัติไปเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม ที่ผ่านมา โดยจะจัดซื้อลอตแรก จำนวน 6 ลำ เป็นจำนวนเงิน 1.9 หมื่นล้านบาท โดยเป็นงบประมาณผูกพัน 5 ปี ตั้งแต่ปี 2551-2555 โดยปี 2551 ตั้งงบไว้ที่ 1,900 ล้านบาท ปี 2552 จำนวน 7,065 ล้านบาท ปี 2553 จำนวน 5,595 ล้านบาท ปี 2554 จำนวน 2,960 ล้านบาท และปี 2555 จำนวน 1,480 ล้านบาท 

ส่วนลอตที่สองอีก6 ลำ เป็นงบประมาณผูกพันตั้งแต่ปี 2556-2560 เป็นจำนวนเงิน 15,400 ล้านบาท รวมทั้งสิ้น 12 ลำ เป็นจำนวนเงิน 34,400 ล้านบาท โดยเครื่องบินขับไล่รุ่นนี้จะนำมาทดแทนเครื่องบินขับไล่แบบเอฟ 5 ที่ประจำการอยู่ที่ จ.สุราษฎร์ธานี และ จ.อุบลราชธานี ซึ่งจะปลดประจำการในปี 2552-2554 แหล่งข่าวกองทัพอากาศเปิดเผยว่า กองทัพอากาศมีแผนในการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่เพื่อมาทดแทนเครื่องบินแบบเอฟ 5 มาตั้งแต่สมัยรัฐบาลของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดย พล.อ.อ.ชลิต ได้แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณาเพื่อคัดเลือกแบบ โดยกองทัพอากาศให้ความสนใจในเครื่องบิน 3 รุ่น คือ เครื่องบินเอฟ 16 ซีดีของสหรัฐอเมริกา เครื่องบินซู 30 ของรัสเซีย และเครื่องบินกริพเพนของสวีเดน แต่ยังไม่ได้ข้อสรุปก็มีการเปลี่ยนรัฐบาล

 

ที่มา คมชัดลึก

 

http://www.komchadluek.net/2007/10/17/a001_162934.php?news_id=162934

 

ขอโทดทีนะถ้าซ้ำผมไล่ดูและมานมะมี ถ้าซ้ำขออภัยด้วยจ้า





ความคิดเห็นที่ 1


มันยาวเลย ก๊อป ส่วนที่ สำคัญ มา แค่นี้ ^^ เข้าไปอ่านได้ในที่ลิงค์ ที่แนบให้ นะคับ

โดยคุณ eoOn เมื่อวันที่ 17/10/2007 12:48:53


ความคิดเห็นที่ 2


ในที่สุดก็เลืกได้ซะทีนะครับว่าจะเอา Grippen C/D ก็ดีครับเหมาะกับทอ.เราดี แถมยังได้ของแถมอีกตั้งหลายรายการก็คุ้มละครับงานนี้
โดยคุณ photo pds เมื่อวันที่ 17/10/2007 12:50:16


ความคิดเห็นที่ 3


.....ดีกว่าไม่ได้อะไรเลยอ่ะครับ สำหรับช่วงนี้ มาลุ้นดูของแถมและอาวุธที่จะนำมาใช้กับ กรีเป้น ดีกว่าอ่ะ ว่าให้อะไรเราได้บ้าง เทารัส เคอีพีดี  ไออาร์เอส ที เมเทเออร์ ประมาณเนี้ย อ๋อ อาร์บีเอส 15 ด้วยมาป้องกันทางทะเล

.....อย่างน้อยผมก็คิดว่า กรีเป้น ก็ดีไม่น้อยหน้าใครอ่ะครับ ทันสมัยพอๆกัน แค่เล็กกว่าหน่อยเดียว  แล้วมาลุ้นดูสายการผลิตที่เขายังคงพัฒนาไปเรื่อยๆอ่ะครับ

โดยคุณ MIG31 เมื่อวันที่ 17/10/2007 13:14:38


ความคิดเห็นที่ 4


ฟังผบ.ทอ. แถลงว่าซื้อ แค่6 เครื่อง ไม่มี erieyes ในโครงการนี้ด้วย

ในถ้อยแถลงไม่มีเกี่ยวกับบาร์เตอร์เทรดแปลว่าเราซื้อเงินสดครับ

 

ถ้าซื้อมาก็ต้องมีค่าโรงซ่อมบำรุงและเครื่องจักรในการซ่อมบำรุงอีกหลายหมื่นล้าน แถมยังต้องฝึกนักบินและช่างเครื่องอีกหลายร้อยคน เป็นเงินเท่าไหร่ลองคูณกันดู อะไหล่ที่ต้องสำรองอีกบานเบอะเยอะแยะ ไม่คุ้มที่จะลงทุนโรงซ่อมและฝึกคนเพื่อนใช้งานเครื่องบินเพียง12 เครื่อง(ถ้าซื้อ jas จะซื้อไม่เกิน12 ลำ เนื่องจากว่า jas ไม่มีเทคโนโลยี stealth หรือเทคโนโลยีที่ตรวจจับเครื่อง stealth ได้ อีก10 ปีก็จะหมดคุณค่าทางการรบที่จะต่อกรกับเครื่อง stealth ) แต่ถ้าซื้อเครื่อง f16 ก็ไม่ต้อง train คนใหม่ แถมยังสร้างอำนาจต่อรองได้ เพราะพิสัยบินไกลถึง สิงค์โปร์ จาการ์ตา ฮานอย ร่างกุ้ง ปิ่นมะนา ในขณะที่ jas ถ้าประจำแถวภาคกลางจะบินไม่ถึงสิงค์โปร์ ถ้าประจำที่สุราษฎร์ก็บินไม่ถึงฮานอย ซื้อจริงๆ จะกลายเป็นเสียเงินเปล่า แต่ได้คุณค่าทางยุทธศาสตร์กลับมานิดเดียวครับ แต่ถ้าไม่อยากอิงอเมริกันมาก ก็ su30 ไปเลย เพราะพิสัยบินไกลทั่วภูมิภาค สร้างอำนาจต่อรองได้เยอะครับ

กรณีซื้อรถเกราะล้อยางยูเครนก็เหมือนกัน รถเกราะล้อยางมีความอ่อนตัวในการปฏิบัติภารกิจในเมืองต่ำ เวลาโดนตะปูเรือใบ แม้จะวิ่ง flat tire ได้ แต่ยางล้อที่พรุนบ่อยๆ เวลากลับที่ตั้งก็ต้องเปลี่ยนอยู่ดีครับ

โดยคุณ nars เมื่อวันที่ 17/10/2007 13:34:20


ความคิดเห็นที่ 5


ขอโทษทีครับมี erieyes ด้วยครับ

 

โดยคุณ nars เมื่อวันที่ 17/10/2007 13:45:11


ความคิดเห็นที่ 6


แต่ถ้าพิจารณาในแง่ บาลานซ์ออฟ เพาเวอร์ก็เหมาะสมดีอยู่ เพราะสวีเดนกับไทยก็มีความสัมพันธ์ที่ดีมากๆ คนสวีเดนมาไทยปีละหลักล้านคน พระราชธิบดีสวีเดนก็เสด็จเยือนไทยบ่อยมากเรื่องการแซงค์ชั่นถ้าไม่ถึงขนาดไทยยึดครองแผ่นดินพม่า เขมรคงเกิดได้ยาก  ระยะหลังๆที่ผ่านมา อินโดต้องกราวด์ f16 มาเลย์มีปัญหากับ mig29 เรื่องการคงความพร้อมรบ ตุรกีซึ่งเป็นพันธมิตรแนบแน่นกับอเมริกันช่วยถล่มอิรัก ก็ยังโดนประนามว่า เป็นอาชญากรสงคราม มีแต่ปากีสถานที่มีพรมแดนติดกับอิหร่านศัตรูสำคัญของอเมริกันที่ งอนง้ออเมริกันแล้วลูกพี่เมตตาให้ขายอาวุธให้มาต่อรองกับอินเดีย แต่ถ้าเราเป็นเจ้าของเงินแล้วต้องไปง้อซื้อของมันก็ไม่ค่อยจะโสภาเท่าไหร่ครับ
โดยคุณ nars เมื่อวันที่ 17/10/2007 14:19:13


ความคิดเห็นที่ 7


.......ซู 30 เองถ้าจัดหามาได้แต่ ว่า การเสียเงินภายหลัง ต่อค่าอาวุธ  อะไหล่ ช.พ.และการเปลี่ยนเครื่องยนต์นั้น ซู 30 ก็มากไม่น้อยเลยน่ะครับ กำลังพลก็ต้องฝึกใหม่เช่นกัน ถึงจะมีดีที่อะไหล่ยังเหลือเยอะเพราะใช้กันทั่วไป
โดยคุณ MIG31 เมื่อวันที่ 17/10/2007 14:21:15


ความคิดเห็นที่ 8


พูดกันตรงๆว่า

การมีเครื่องบินใหญ่ๆ บินไกล โจมตีเก่ง ดีแน่ครับ

แต่ ศักยภาพ ในการป้องกันในกรณีที่โดนสวนกลับ ดีพอหรือยัง

เราจะมั่นใจได้แค่ไหน กับ เอฟ-16ของเรา

ดูกรณีสงคราม6วันครับ

1 ในยุทธวิธีที่ทำให้อิสราเอลชนะสงครามคือ Turn Around Rate ของบ.ยิว มีเพียงแค่ 7นาที

แต่แน่นอนครับ 1ในยุทธวิธี ที่ทำให้อิสราเอลชนะสงครามคือ pre-emptive strike 

แต่ อาหรับจะไม่เสียหายมากขนาดนั้น หาก บ.ที่มีนั้น  ทำการป้องกันที่ดีพอให้แก่ฐานบินตนเอง

อาหรับมี ตู-16 มีบ.ทิ้งระเบิดแบบต่างๆ แต่กลับสวนกลับไม่ได้ เพราะถึงสวนกลับ ก็เจอ ไอ้เครื่องบินที่บินไปบอมบ์ฐานตัวเองนั่นแหละมาสกัดกั้น (แต่อาหรับไม่มีโอกาสสวนกลับ เนื่องจาก สนามบินและกองกำลังตนเองถูกทำลายเป็นอันมาก)

จุดมุ่งหมายของผมที่โพส คือ ผมอยากได้เครื่องที่ป้องกันบ้านผมดีๆไว้ก่อน 

ถาม แล้วซู-30 ทำไม่ได้หรือ

ตอบ ได้ครับ แต่ซู-30 มีข้อเสียเรื่องการส่งกำลังบำรุง Turm Around Rateของซู-30นั้น มากเกินไป  กินทรัพยากรมากเกินไป(ทั้งกำลังคน และน้ำมัน)

สำหรับตอนนี้ ผมอยากให้ยาส เป็นเครื่องหลัก ในการป้องกันประเทศ ถึงตอนนั้น ค่อยคิดว่า จะหาอะไร บินไปตีหัวเค้าครับ 

 

พูดมาตั้งนานหาสาระไม่เจอเลยวุ้ย - -"    

โดยคุณ icy_nominee เมื่อวันที่ 17/10/2007 14:46:55


ความคิดเห็นที่ 9


ลืม ประเด็นเรื่องStealth ไปครับ โดยส่วนตัวผมคิดว่า Stealth นั้นดีครับ แต่มันไม่ได้ช่วยให้บ.นั้นๆ เป็นอมตะ เทคโนโลยีIRST ในสมัยนี้ ก็ก้าวหน้าถึงขั้นตรวจจับเครื่องบินได้จากระยะ 50KM (ในยาสยุคหน้า มีIRSTติดครับ)  ถามว่า อนาคตจะได้ไกลกว่านี้ไหม ผมว่าน่าจะ ได้ครับ เครื่องStealthนั้น ยังไงก็ยังมองเห็นตัว และความร้อนนั้นไม่ใช่สิ่งที่ปกปิดกันง่ายๆ ไม่ว่าจะจากท่อท้าย ความร้อนที่เกิดจากอากาศเสียดสีลำตัว  รัสเซียเองมองเห็นจุดนี้ จึงพัฒนา อวป.อ-อ นำวิถีด้วยความร้อน พิสัยกลางขึ้นครับ  

Stealth มีไว้ก็ดีครับ แต่มันไม่ได้ช่วยให้บ.นั้นเป็นอมตะ 

ผมมองสงครามในอนาคตว่า ไม่ใช่บ.Stealthหรอกที่จะมาสู้กัน

แต่จะเป็นUCAV ที่มาสู้กันต่างหาก ถ้ามองไกลถึงขั้นว่า อีกหน่อยบ.ที่ไม่มีStealth จะหมดคุณค่าทางยุทธการในอีก10ปี  ผมก็มองว่า อีก20ปี บ.ที่มีคนขับ ก็จะใกล้หมดคุณค่าทางยุทธการเช่นกันครับ บ.นั้นพัฒนาได้ไม่จำกัด แต่คนขับนั้น มีขีดจำกัดของตนอยู่ครับ

 

เอ๊ะ ยิ่งพูดยิ่งออกทะเล ไปดีกว่า   

โดยคุณ icy_nominee เมื่อวันที่ 17/10/2007 15:05:21


ความคิดเห็นที่ 10


ใบ้หวย ครับ

งวดแรก  6 + 2(1) = 7

งวดสอง  อาจจะอีก 6  แต่ก็ยัง เท่ากับ 7 เหมือนเดิม

 

โดยคุณ Gapster เมื่อวันที่ 17/10/2007 15:35:13


ความคิดเห็นที่ 11


ห้ามเสนอข้อความหรือเนื้อหาที่ส่อไปในทางหยาบคาย ก้าวร้าว เกินกว่าที่บันทัดฐานของสังคมจะยอมรับได้

 

หวังว่าคงจะเข้าใจเพราะโตจนใช้คอมพิวเตอร์เป็น เห็นแบบนี้หลายครั้งแล้ว ไม่สำนึกสักทีไม่ต้องบอกคงทราบนะว่าหมายถึงใครค้า

โดยคุณ ผู้กองค้า เมื่อวันที่ 17/10/2007 16:41:45


ความคิดเห็นที่ 12


ดีใจและมีความสุขกับการเลือกซื้อเครื่องบินรบชุดนี้ ครับ หลังจากที่กองทัพอากาศและนักบินต้องรอมานาน

แต่ที่กังวลอยู่คือเราจะได้ระบบอาวุธอะไรมาบ้าง

 


โดยคุณ military เมื่อวันที่ 17/10/2007 16:58:37


ความคิดเห็นที่ 13


JAS39/C/D ก็ดีนะครับ
สำหรับเรื่องระบบอาวุธ การซ่อมบำรุง ไม่น่ามีปัญหา หรือถ้ามีคิดว่าปัญหาคงน้อยกว่า SU-30 ครับ
(ระบบอาวุธมาตรฐานนาโต้+ของสวีเดน) เรื่องพิสัยบิน เราคงไม่ใช้ยาสบินเจาะไปถึงฮานอยเพื่ออินเตอร์แคปหรอกครับ
โดยส่วนตัวคิดว่าเหมาะสมครับกับการจัดหาครั้งนี้ (แต่ใจนึงก็เสียดาย F-16C/D block52)
โดยคุณ MIGGERS เมื่อวันที่ 17/10/2007 17:23:46


ความคิดเห็นที่ 14


ในที่สุดก็ได้เลือก JAS 39 มาแล้ว ดีใจครับ ผมแอบเชียร์มานานแล้ว ^^


โดยคุณ ZeroCraft เมื่อวันที่ 17/10/2007 18:07:40


ความคิดเห็นที่ 15


มาซะทีนะครับ ยินดีด้วยๆ....

 

แต่อย่าให้เป็นเหมือนคราวF-18ก็แล้วกันครับ...

โดยคุณ thelonelyman เมื่อวันที่ 17/10/2007 18:15:14


ความคิดเห็นที่ 16


 

เห็นด้วยกับท่านไอซี่ในเรื่อง UCAV ร้อยเปอร์เซนต์ครับ

ว่าแต่ไทยเรามีโครงการหา ucav มาเล่นบ้างป่าวเนี่ย

อีกอย่าง โครงการนี้ ผลประกาศแล้ว ทางสื่อผู้ยิ่งใหญ่แถวๆพระอาทิตย์ ว่าไงม้งอะ

โดยคุณ Johnny_Thunders เมื่อวันที่ 17/10/2007 18:46:13


ความคิดเห็นที่ 17


ซื้อซะที เดาไว้ถูกจริงๆด้วย ว่าไง มันต้องออก เบอร์ 39

เบอร์ 39 น่าสนใจที่สุดนี่หว่า อิอิ 30 ก็โดนด่า เบอร์ 16 คนรับแทงก็ชอบอั้น

อิอิ ความจริง ไรก้ดีทั้งงั้นเหละ ใจคนใช้อะนะ ขอให้มันดูดีหน่อยเท่านั้น ไม่ใช่มาแบบ สภาพดูไม่ได้ อันนี้ก้ไม่ไหว

โดยคุณ ++++ เมื่อวันที่ 17/10/2007 19:37:18


ความคิดเห็นที่ 18


ถ้าเกิดมีขบวนการปลุกปั่นอะไรอีกล่ะก็ ทอ.แจงให้เคลียร์เลยนะครับ

โดยคุณ phongrapee เมื่อวันที่ 17/10/2007 21:15:58


ความคิดเห็นที่ 19


ดีใจจังที่ได้ของใหม่เสียทีถึงเป็นแค่ แจส-39 ก็เถอะ  ....เรื่องส่งกำลังบำรุงผมว่าไม่มีปัญหานะ..ลองไปดูเจ้าสติงเรย์สิครับใช้ประเทศเดียวในโลกยังใช้ได้อยู่เลย..ไม่เห็นมีปัญหาอะไรเลย
โดยคุณ u209 เมื่อวันที่ 17/10/2007 21:24:31


ความคิดเห็นที่ 20


เฮ้อ ......  อุตส่าห์พิมพ์ซะตั้งยาวๆเกือบ 30 นาที    พอส่งปั๊บหายจ้อยหมดเพราะการ LOG IN หลุด

     เอาเป็นว่าดีลนี้น่าผิดหวังที่สุด   ทั้งๆที่เหมาะสมที่สุดคือ F-16 50/52+  

     เพราะประสิทธิภาพ JAS-39 C/D นั้นต่ำที่สุดในเครื่อง 3 รุ่น  ทั้งประสิทธิภาพเรด้าร์ที่ด้อยกว่าเพื่อน   ทั้งนน.บรรทุกที่ด้อยกว่าเพื่อน    ทั้งระยะบินที่สั้นที่สุดกว่าเพื่อน   ระบบสงครามอิเลคทรอนิคที่ดูจะด้อยกว่าเพื่อน    และ ค่าอะไหล่ที่จะต้องเตรียมใจได้เลยว่าแพงแน่ๆและอาจจะหาได้ยากหรืออาจหาไม่ได้เลยเมื่อคราวจำเป็นจวนตัว (ไปถามอิสราเอลสิ  เขารู้รสชาติดีจริงๆในคราวสงครามโยมคีปเปอร์ที่หาอะไหล่เครื่องบินรบจากฝรั่งเศสไม่ได้เลย  เพราะฝรั่งเศสไม่กล้าส่งให้เนื่องจากถูกชาติอาหรับบีบ  นี่ขนาดฝั่งเศสเป็นชาติมหาอำนาจนะนี่)

         ราคาประมาณ 1800 ล้านบาทต่อเครื่อง  รวมค่าอาวุธและหักค่าเครื่อง AEW&C แล้ว    ราคาขนาดนี้สู้ไปซื้อ F-16  50/52+  แล้วไปซื้อ SAAB 340 แยกต่างหากยังถูกซะกว่า

   อย่างว่าแหล่ะ   ถ้าไม่ซื้อตอนนี้   หลังจากได้รัฐบาลจากการเลือกตั้ง    ก็อาจจะไม่ได้เครื่องบินอะไรเลยสักลำ    เพราะเศรษฐกิจที่แทบจะพังเนื่องจากการปฎิวัตินั่นเอง  

โดยคุณ neosiamese เมื่อวันที่ 17/10/2007 22:02:16


ความคิดเห็นที่ 21


 

  เรื่องของเรื่อง ทอ. คงอยากได้ AEW&C มากจนถึงมากที่สุด   ถึงขนาดตั้งฝูงรอเอาไว้เลยทั้งๆที่ยังไม่เครื่องในฝูงสักกะลำ

        เป็นผมนะ F-16  50/52+   12 เครื่อง   และ E-2D  2  ตัว    โดยบวกเงินเพิ่มอีกราวๆ 5000-6000 ล้านบาท   คุ้มกว่ามากเพราะประสิทธิภาพทั้งเครื่องบินรบและเครื่อง AEW&C กินขาดทุกกรณี     (ระยะตรวจจับของ E-2D ราวๆ 600 กว่ากม.   ต่างกันมาก)

   อย่างว่าแหล่ะ  สถานะของประเทศขณะนี้เขาไม่ขายให้หรอก  และ หลังการเลือกตั้ง ทอ. คงอดได้เครื่องบินรบทุกแบบแหง๋ๆเพราะรัฐบาลกระเป๋าฉีก    เอาของปานกลางประทังไปก่อนดีกว่าแม้จะแพงไปหน่อย (ค่าอะไหล่รับรองหนาวววววว)

 

          

โดยคุณ neosiamese เมื่อวันที่ 17/10/2007 22:12:00


ความคิดเห็นที่ 22


อ่านจากกรุงเทพธุรกิจ ลงเหตุผลไว้ว่า ซู-30 ไม่เหมาะ เอฟ-16 อเมริกาไม่ยอมขายให้กับรัฐบาลที่มาจากรัฐประหาร เลยเหลือเพียง ยาส 39 เท่านั้นครับ ทั้งที่จะเลือกตั้งอยู่แล้วแท้ ๆ (ถ้าเป็นไปตามกำหนดการ) รอตั้งรัฐบาลจากการเลือกตั้งไม่ได้หรืออย่างไร อาจจะเป็นอย่างที่คุณ neosiamese ว่าก็ได้นะ ถ้ามีรัฐบาลจากการเลือกตั้งแล้วอาจจะต้องรอต่อไปอีก
โดยคุณ กิตติโชค เมื่อวันที่ 18/10/2007 00:50:24


ความคิดเห็นที่ 23


ก็ยังดีกว่าไม่ได้อะไรเลยครับ  คาดว่าน่าจะได้รับมอบประมาณปี 2553 แล้วฝึกนักบินอีก 1 ปี แล้วป้องกันประเทศได้ประมาณปี 2554

ว่าแต่ AEW&C จะไปที่กองบินไหนครับ

โดยคุณ Exocet เมื่อวันที่ 18/10/2007 11:12:29


ความคิดเห็นที่ 24


(ค่าอะไหล่รับรองหนาวววววว)   : neosiamese  

 

ผมว่ามันก็ต้องหนาวววจริงๆ เพราะประเทศสวีเดนเขาเป็นเมืองหนาวว อิอิ ขำๆนะครับ

โดยคุณ เขาหลวง เมื่อวันที่ 18/10/2007 17:22:29