ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในวันที่ 17 ตุลาคม เวลา 13.00 น. ที่กองบัญชาการกองทัพอากาศ พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) เตรียมเปิดแถลงข่าวการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่แบบกริพเพน/ซีดี จำนวน 12 ลำ ตามงบประมาณที่ ครม.อนุมัติไปเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม ที่ผ่านมา โดยจะจัดซื้อลอตแรก จำนวน 6 ลำ เป็นจำนวนเงิน 1.9 หมื่นล้านบาท โดยเป็นงบประมาณผูกพัน 5 ปี ตั้งแต่ปี 2551-2555 โดยปี 2551 ตั้งงบไว้ที่ 1,900 ล้านบาท ปี 2552 จำนวน 7,065 ล้านบาท ปี 2553 จำนวน 5,595 ล้านบาท ปี 2554 จำนวน 2,960 ล้านบาท และปี 2555 จำนวน 1,480 ล้านบาท
ส่วนลอตที่สองอีก6 ลำ เป็นงบประมาณผูกพันตั้งแต่ปี 2556-2560 เป็นจำนวนเงิน 15,400 ล้านบาท รวมทั้งสิ้น 12 ลำ เป็นจำนวนเงิน 34,400 ล้านบาท โดยเครื่องบินขับไล่รุ่นนี้จะนำมาทดแทนเครื่องบินขับไล่แบบเอฟ 5 ที่ประจำการอยู่ที่ จ.สุราษฎร์ธานี และ จ.อุบลราชธานี ซึ่งจะปลดประจำการในปี 2552-2554 แหล่งข่าวกองทัพอากาศเปิดเผยว่า กองทัพอากาศมีแผนในการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่เพื่อมาทดแทนเครื่องบินแบบเอฟ 5 มาตั้งแต่สมัยรัฐบาลของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดย พล.อ.อ.ชลิต ได้แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณาเพื่อคัดเลือกแบบ โดยกองทัพอากาศให้ความสนใจในเครื่องบิน 3 รุ่น คือ เครื่องบินเอฟ 16 ซีดีของสหรัฐอเมริกา เครื่องบินซู 30 ของรัสเซีย และเครื่องบินกริพเพนของสวีเดน แต่ยังไม่ได้ข้อสรุปก็มีการเปลี่ยนรัฐบาล
ที่มา คมชัดลึก
http://www.komchadluek.net/2007/10/17/a001_162934.php?news_id=162934
ขอโทดทีนะถ้าซ้ำผมไล่ดูและมานมะมี ถ้าซ้ำขออภัยด้วยจ้า
มันยาวเลย ก๊อป ส่วนที่ สำคัญ มา แค่นี้ ^^ เข้าไปอ่านได้ในที่ลิงค์ ที่แนบให้ นะคับ
.....ดีกว่าไม่ได้อะไรเลยอ่ะครับ สำหรับช่วงนี้ มาลุ้นดูของแถมและอาวุธที่จะนำมาใช้กับ กรีเป้น ดีกว่าอ่ะ ว่าให้อะไรเราได้บ้าง เทารัส เคอีพีดี ไออาร์เอส ที เมเทเออร์ ประมาณเนี้ย อ๋อ อาร์บีเอส 15 ด้วยมาป้องกันทางทะเล
.....อย่างน้อยผมก็คิดว่า กรีเป้น ก็ดีไม่น้อยหน้าใครอ่ะครับ ทันสมัยพอๆกัน แค่เล็กกว่าหน่อยเดียว แล้วมาลุ้นดูสายการผลิตที่เขายังคงพัฒนาไปเรื่อยๆอ่ะครับ
ฟังผบ.ทอ. แถลงว่าซื้อ แค่6 เครื่อง ไม่มี erieyes ในโครงการนี้ด้วย
ในถ้อยแถลงไม่มีเกี่ยวกับบาร์เตอร์เทรดแปลว่าเราซื้อเงินสดครับ
ถ้าซื้อมาก็ต้องมีค่าโรงซ่อมบำรุงและเครื่องจักรในการซ่อมบำรุงอีกหลายหมื่นล้าน แถมยังต้องฝึกนักบินและช่างเครื่องอีกหลายร้อยคน เป็นเงินเท่าไหร่ลองคูณกันดู อะไหล่ที่ต้องสำรองอีกบานเบอะเยอะแยะ ไม่คุ้มที่จะลงทุนโรงซ่อมและฝึกคนเพื่อนใช้งานเครื่องบินเพียง12 เครื่อง(ถ้าซื้อ jas จะซื้อไม่เกิน12 ลำ เนื่องจากว่า jas ไม่มีเทคโนโลยี stealth หรือเทคโนโลยีที่ตรวจจับเครื่อง stealth ได้ อีก10 ปีก็จะหมดคุณค่าทางการรบที่จะต่อกรกับเครื่อง stealth ) แต่ถ้าซื้อเครื่อง f16 ก็ไม่ต้อง train คนใหม่ แถมยังสร้างอำนาจต่อรองได้ เพราะพิสัยบินไกลถึง สิงค์โปร์ จาการ์ตา ฮานอย ร่างกุ้ง ปิ่นมะนา ในขณะที่ jas ถ้าประจำแถวภาคกลางจะบินไม่ถึงสิงค์โปร์ ถ้าประจำที่สุราษฎร์ก็บินไม่ถึงฮานอย ซื้อจริงๆ จะกลายเป็นเสียเงินเปล่า แต่ได้คุณค่าทางยุทธศาสตร์กลับมานิดเดียวครับ แต่ถ้าไม่อยากอิงอเมริกันมาก ก็ su30 ไปเลย เพราะพิสัยบินไกลทั่วภูมิภาค สร้างอำนาจต่อรองได้เยอะครับ
กรณีซื้อรถเกราะล้อยางยูเครนก็เหมือนกัน รถเกราะล้อยางมีความอ่อนตัวในการปฏิบัติภารกิจในเมืองต่ำ เวลาโดนตะปูเรือใบ แม้จะวิ่ง flat tire ได้ แต่ยางล้อที่พรุนบ่อยๆ เวลากลับที่ตั้งก็ต้องเปลี่ยนอยู่ดีครับ
ขอโทษทีครับมี erieyes ด้วยครับ
พูดกันตรงๆว่า
การมีเครื่องบินใหญ่ๆ บินไกล โจมตีเก่ง ดีแน่ครับ
แต่ ศักยภาพ ในการป้องกันในกรณีที่โดนสวนกลับ ดีพอหรือยัง
เราจะมั่นใจได้แค่ไหน กับ เอฟ-16ของเรา
ดูกรณีสงคราม6วันครับ
1 ในยุทธวิธีที่ทำให้อิสราเอลชนะสงครามคือ Turn Around Rate ของบ.ยิว มีเพียงแค่ 7นาที
แต่แน่นอนครับ 1ในยุทธวิธี ที่ทำให้อิสราเอลชนะสงครามคือ pre-emptive strike
แต่ อาหรับจะไม่เสียหายมากขนาดนั้น หาก บ.ที่มีนั้น ทำการป้องกันที่ดีพอให้แก่ฐานบินตนเอง
อาหรับมี ตู-16 มีบ.ทิ้งระเบิดแบบต่างๆ แต่กลับสวนกลับไม่ได้ เพราะถึงสวนกลับ ก็เจอ ไอ้เครื่องบินที่บินไปบอมบ์ฐานตัวเองนั่นแหละมาสกัดกั้น (แต่อาหรับไม่มีโอกาสสวนกลับ เนื่องจาก สนามบินและกองกำลังตนเองถูกทำลายเป็นอันมาก)
จุดมุ่งหมายของผมที่โพส คือ ผมอยากได้เครื่องที่ป้องกันบ้านผมดีๆไว้ก่อน
ถาม แล้วซู-30 ทำไม่ได้หรือ
ตอบ ได้ครับ แต่ซู-30 มีข้อเสียเรื่องการส่งกำลังบำรุง Turm Around Rateของซู-30นั้น มากเกินไป กินทรัพยากรมากเกินไป(ทั้งกำลังคน และน้ำมัน)
สำหรับตอนนี้ ผมอยากให้ยาส เป็นเครื่องหลัก ในการป้องกันประเทศ ถึงตอนนั้น ค่อยคิดว่า จะหาอะไร บินไปตีหัวเค้าครับ
พูดมาตั้งนานหาสาระไม่เจอเลยวุ้ย - -"
ลืม ประเด็นเรื่องStealth ไปครับ โดยส่วนตัวผมคิดว่า Stealth นั้นดีครับ แต่มันไม่ได้ช่วยให้บ.นั้นๆ เป็นอมตะ เทคโนโลยีIRST ในสมัยนี้ ก็ก้าวหน้าถึงขั้นตรวจจับเครื่องบินได้จากระยะ 50KM (ในยาสยุคหน้า มีIRSTติดครับ) ถามว่า อนาคตจะได้ไกลกว่านี้ไหม ผมว่าน่าจะ ได้ครับ เครื่องStealthนั้น ยังไงก็ยังมองเห็นตัว และความร้อนนั้นไม่ใช่สิ่งที่ปกปิดกันง่ายๆ ไม่ว่าจะจากท่อท้าย ความร้อนที่เกิดจากอากาศเสียดสีลำตัว รัสเซียเองมองเห็นจุดนี้ จึงพัฒนา อวป.อ-อ นำวิถีด้วยความร้อน พิสัยกลางขึ้นครับ
Stealth มีไว้ก็ดีครับ แต่มันไม่ได้ช่วยให้บ.นั้นเป็นอมตะ
ผมมองสงครามในอนาคตว่า ไม่ใช่บ.Stealthหรอกที่จะมาสู้กัน
แต่จะเป็นUCAV ที่มาสู้กันต่างหาก ถ้ามองไกลถึงขั้นว่า อีกหน่อยบ.ที่ไม่มีStealth จะหมดคุณค่าทางยุทธการในอีก10ปี ผมก็มองว่า อีก20ปี บ.ที่มีคนขับ ก็จะใกล้หมดคุณค่าทางยุทธการเช่นกันครับ บ.นั้นพัฒนาได้ไม่จำกัด แต่คนขับนั้น มีขีดจำกัดของตนอยู่ครับ
เอ๊ะ ยิ่งพูดยิ่งออกทะเล ไปดีกว่า
ใบ้หวย ครับ
งวดแรก 6 + 2(1) = 7
งวดสอง อาจจะอีก 6 แต่ก็ยัง เท่ากับ 7 เหมือนเดิม
ห้ามเสนอข้อความหรือเนื้อหาที่ส่อไปในทางหยาบคาย ก้าวร้าว เกินกว่าที่บันทัดฐานของสังคมจะยอมรับได้
หวังว่าคงจะเข้าใจเพราะโตจนใช้คอมพิวเตอร์เป็น เห็นแบบนี้หลายครั้งแล้ว ไม่สำนึกสักทีไม่ต้องบอกคงทราบนะว่าหมายถึงใครค้า
ดีใจและมีความสุขกับการเลือกซื้อเครื่องบินรบชุดนี้ ครับ หลังจากที่กองทัพอากาศและนักบินต้องรอมานาน
แต่ที่กังวลอยู่คือเราจะได้ระบบอาวุธอะไรมาบ้าง
มาซะทีนะครับ ยินดีด้วยๆ....
แต่อย่าให้เป็นเหมือนคราวF-18ก็แล้วกันครับ...
เห็นด้วยกับท่านไอซี่ในเรื่อง UCAV ร้อยเปอร์เซนต์ครับ
ว่าแต่ไทยเรามีโครงการหา ucav มาเล่นบ้างป่าวเนี่ย
อีกอย่าง โครงการนี้ ผลประกาศแล้ว ทางสื่อผู้ยิ่งใหญ่แถวๆพระอาทิตย์ ว่าไงม้งอะ
ซื้อซะที เดาไว้ถูกจริงๆด้วย ว่าไง มันต้องออก เบอร์ 39
เบอร์ 39 น่าสนใจที่สุดนี่หว่า อิอิ 30 ก็โดนด่า เบอร์ 16 คนรับแทงก็ชอบอั้น
อิอิ ความจริง ไรก้ดีทั้งงั้นเหละ ใจคนใช้อะนะ ขอให้มันดูดีหน่อยเท่านั้น ไม่ใช่มาแบบ สภาพดูไม่ได้ อันนี้ก้ไม่ไหว
ถ้าเกิดมีขบวนการปลุกปั่นอะไรอีกล่ะก็ ทอ.แจงให้เคลียร์เลยนะครับ
เอาเป็นว่าดีลนี้น่าผิดหวังที่สุด ทั้งๆที่เหมาะสมที่สุดคือ F-16 50/52+
เพราะประสิทธิภาพ JAS-39 C/D นั้นต่ำที่สุดในเครื่อง 3 รุ่น ทั้งประสิทธิภาพเรด้าร์ที่ด้อยกว่าเพื่อน ทั้งนน.บรรทุกที่ด้อยกว่าเพื่อน ทั้งระยะบินที่สั้นที่สุดกว่าเพื่อน ระบบสงครามอิเลคทรอนิคที่ดูจะด้อยกว่าเพื่อน และ ค่าอะไหล่ที่จะต้องเตรียมใจได้เลยว่าแพงแน่ๆและอาจจะหาได้ยากหรืออาจหาไม่ได้เลยเมื่อคราวจำเป็นจวนตัว (ไปถามอิสราเอลสิ เขารู้รสชาติดีจริงๆในคราวสงครามโยมคีปเปอร์ที่หาอะไหล่เครื่องบินรบจากฝรั่งเศสไม่ได้เลย เพราะฝรั่งเศสไม่กล้าส่งให้เนื่องจากถูกชาติอาหรับบีบ นี่ขนาดฝั่งเศสเป็นชาติมหาอำนาจนะนี่)
ราคาประมาณ 1800 ล้านบาทต่อเครื่อง รวมค่าอาวุธและหักค่าเครื่อง AEW&C แล้ว ราคาขนาดนี้สู้ไปซื้อ F-16 50/52+ แล้วไปซื้อ SAAB 340 แยกต่างหากยังถูกซะกว่า
อย่างว่าแหล่ะ ถ้าไม่ซื้อตอนนี้ หลังจากได้รัฐบาลจากการเลือกตั้ง ก็อาจจะไม่ได้เครื่องบินอะไรเลยสักลำ เพราะเศรษฐกิจที่แทบจะพังเนื่องจากการปฎิวัตินั่นเอง
เรื่องของเรื่อง ทอ. คงอยากได้ AEW&C มากจนถึงมากที่สุด ถึงขนาดตั้งฝูงรอเอาไว้เลยทั้งๆที่ยังไม่เครื่องในฝูงสักกะลำ
เป็นผมนะ F-16 50/52+ 12 เครื่อง และ E-2D 2 ตัว โดยบวกเงินเพิ่มอีกราวๆ 5000-6000 ล้านบาท คุ้มกว่ามากเพราะประสิทธิภาพทั้งเครื่องบินรบและเครื่อง AEW&C กินขาดทุกกรณี (ระยะตรวจจับของ E-2D ราวๆ 600 กว่ากม. ต่างกันมาก)
อย่างว่าแหล่ะ สถานะของประเทศขณะนี้เขาไม่ขายให้หรอก และ หลังการเลือกตั้ง ทอ. คงอดได้เครื่องบินรบทุกแบบแหง๋ๆเพราะรัฐบาลกระเป๋าฉีก เอาของปานกลางประทังไปก่อนดีกว่าแม้จะแพงไปหน่อย (ค่าอะไหล่รับรองหนาวววววว)
ก็ยังดีกว่าไม่ได้อะไรเลยครับ คาดว่าน่าจะได้รับมอบประมาณปี 2553 แล้วฝึกนักบินอีก 1 ปี แล้วป้องกันประเทศได้ประมาณปี 2554
ว่าแต่ AEW&C จะไปที่กองบินไหนครับ
(ค่าอะไหล่รับรองหนาวววววว) : neosiamese
ผมว่ามันก็ต้องหนาวววจริงๆ เพราะประเทศสวีเดนเขาเป็นเมืองหนาวว อิอิ ขำๆนะครับ