หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


กองทัพเรือนำเรือหลวง “จักรีนฤเบศร” เข้าอู่เพื่อบำรุงรักษาครบรอบ 10 ปี

โดยคุณ : sam เมื่อวันที่ : 26/06/2010 00:34:48

 พล.ร.ต.สรชา ศรประทุม ผู้บัญชาการกองเรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ กองเรือยุทธการ ตำบลพลูตาหลวง อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ว่าขณะนี้ได้มีการเตรียมการขนสิ่งอุปกรณ์เสริมที่อยู่ภายในระวางเรือหลวงจักรีนฤเบศร เพื่อให้เรือมีน้ำหนักเบาสะดวกในการนำเรือเข้าบำรุงรักษาตามรอบอายุ 10 ปี ภายในอู่ราชนาวีมหิดลอดุลยเดช กรมอู่ทหารเรือ ซึ่งเป็นอู่แห้งกองของทัพเรือที่มีขนาดใหญ่มากแห่งหนึ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีที่ต้องอยู่ติดกับท่าเรือจุกเสม็ด การท่าเรือสัตหีบ ฐานทัพเรือสัตหีบ อำเภอสัตหีบ
       
       ถือว่าเป็นครั้งแรกของอู่แห่งนี้ที่ได้รองรับเรือหลวงจักรีนฤเบศรเข้าบำรุงรักษาสภาพเรือภายนอกให้เกิดความสง่างามยิ่งขึ้น จึงขอแจ้งให้ประชาชนทั่วประเทศ ภาครัฐ เอกชน สถาบันการศึกษาที่ได้วางแผนการเยี่ยมชมเรือหลวงจักรีนฤเบศรในช่วงวันที่ 17 ตุลาคม 2550 ถึง วันที่ 26 พฤศจิกายน 2550 จะไม่สามารถเข้าเยี่ยมชมเรือได้
       
       ด้าน พล.ร.อ.ประวิทย์ ศรีสุขวัฒนา ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ ได้เห็นชอบให้ปรับแผนการรองรับให้จัดเรือหลวงสิมิลัน ซึ่งเป็นเรือขนาดใหญ่ และเรือหลวงพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก เปิดให้ประชาชนได้เข้าเยี่ยมชมแทนเรือหลวงจักรีนฤเบศรในช่วงที่เข้าอู่
       
       พล.ร.ต.ประสิทธิ์ชัย ศรีวรรธนะ ผู้อำนวยการอู่ราชนาวีมหิดลอดุลยเดช กรมอู่ทหารเรือ เปิดเผยว่า อู่แห้งแห่งนี้กองทัพเรือได้จัดสร้างตามแผนพัฒนาขีดความสามารถของกองทัพจากกองทัพเรือใกล้ฝั่ง มาเป็นกองทัพเรือทะเลลึกหรือทะเลสีน้ำเงิน ได้มีการสั่งต่อเรือขนาดใหญ่จากต่างประเทศตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2531 ถึง 2540 และได้สั่งต่อเรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ขนาดใหญ่ ก็คือ เรือหลวงจักรีนฤเบศร จากประเทศสเปน และเรือหลวงสิมิลัน ซึ่งเป็นเรือส่งกำลังบำรุงขนาดใหญ่จากสาธารณรัฐประชาชนจีน แต่ขีดความสามารถของอู่ของกองทัพเรือที่มีอยู่ในปัจจุบันไม่สามารถรองรับการเข้าซ่อมทำ ซ่อมบำรุงเรือที่มีความยาวกว่า 130 เมตรได้
       
       สำหรับการเข้าบำรุงรักษาสภาพตัวเรือของ เรือหลวงจักรีนฤเบศรครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งแรกที่อู่แห้งแห่งนี้สามารถรองรับตามแผนพัฒนากองทัพได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นความหวังสูงสุดของกองทัพเรือ การสร้างอู่มหิดลอดุลยเดชถือว่าเป็นการลงทุนของรัฐบาลและกองทัพเรือที่คุ้มค่าตามสายงานส่งกำลังบำรุง การซ่อมบำรุง สามารถรองรับการขยายตัวการซ่อมบำรุงในระยะยาวกว่า 20 ปี
       
       ผู้สื่อข่าวรายงานจากฐานทัพเรือสัตหีบว่า หลังจากทางกองทีพเรือต้องเตรียมเรือหลวงจักรีนฤเบศร เพื่อเข้าอู่แห้ง ราชนาวีมหิดลอดุลยเดช กรมอู่ทหารเรือ ในช่วงนี้จะห้ามนักท่องเที่ยวเข้าชม เพราะต้องมีการขนย้ายอุปกรณ์บนเรือบางส่วนออก ทำให้ประชาชนจำนวนมากที่เดินทางมาจากทั่วประเทศไทยในช่วงวันหยุดต้องผิดหวังเมื่อไม่พบเรือหลวงจักรีนฤเบศรจอดอยู่ที่ท่าเรือ จึงได้ปรับแผนการท่องเที่ยวขึ้นเยี่ยมชมเรือหลวงสิมิลัน ซึ่งเป็นเรือส่งกำลังบำรุงขนาดใหญ่ของกองเรือยุทธบริการ กองเรือยุทธการแทน และยังได้เข้าไปเที่ยวชมศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล กองทัพเรือเป็นการชดเชย
http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9500000121888

อยากให้เรือหลวงจักรีนฤเบศรติดระบบป้องกันระยะประชิดกับเรด้าครบชุดจังเลยผ่านไป 10 ปีแล้ว





ความคิดเห็นที่ 1


อุ๊ย.....ผมว่างานนี้ไปดูร.ล.สิมิลันกับร.ล.พุทธท่าจะคุ้มเหมือนกันนะครับ

ว่าง ๆ ต้องหาจังหวะแว๊บไปดีกว่า หุหุ

โดยคุณ Skyman เมื่อวันที่ 15/10/2007 17:13:15


ความคิดเห็นที่ 2


คุณ skyman ไปแล้วช่วยถ่ายรูปมาฝากด้วยนะครับอยากเห็นภายในตัวเรือ สิมิลันนะ

โดยคุณ sam เมื่อวันที่ 15/10/2007 17:34:02


ความคิดเห็นที่ 3


แล้วเมื่อไรเราจะต่อเรื่อบรรทุกเองได้มั่งเนี่ย คนก็ส่งไปศึกษาแล้ว เรียนก็แล้ว เฮ้อเมื่อไรจะมีเงินซะที
โดยคุณ xavious เมื่อวันที่ 16/10/2007 01:07:55


ความคิดเห็นที่ 4


ถ้าได้ไปนะครับท่าน SAM อิอิอิ
โดยคุณ Skyman เมื่อวันที่ 16/10/2007 08:12:48


ความคิดเห็นที่ 5


ในตัวเรือสิมิลันจะเหมือนเรือสินค้าทั่วไปมากกว่าครับ มีระวางบรรทุกสิ่งของต่าง ทั้งของเหลว ของแข็งมากมาย ที่น่าไปเยี่ยมชมคือ ห้องเย็นครับ ใหญ่จริงๆ ใหญ่ขนาดทำฉากประกอบหนังอินเดียให้นางเอกพระเอกวิ่งไล่กันได้  ส่วนบริเวณสะพานเหมือนเรือสินค้าเลยครับ ไม่มีอะไรพิเศษ

 

แต่ใหญ่จริงครับ แนะนำว่า ควรเรียนวิชา แผนที่เข็มทิศ ก่อนขึ้นเรือ ไม่งั้นท่านอาจจะหลงทางได้

 

 

โดยคุณ CoffeeMix เมื่อวันที่ 16/10/2007 10:29:19


ความคิดเห็นที่ 6


^
^
^
งั้นผมก็ซวยสิครับพี่ เพราะตอนเดินป่าวิชาแผ่นที่-เข็มทิศตอนรด.ปี 4 นี่ ทีมผมหลงด้วยเน้อ เอิ๊ก ๆ ๆ ๆ ๆ
โดยคุณ Skyman เมื่อวันที่ 16/10/2007 11:02:23


ความคิดเห็นที่ 7


...เรือสิมิลันใหญ่โคต แต่เห็นจอดอยู่เฉยๆ น่าจะใช้บรรทุกสินค้าได้นะเนี่ยถ้ารับงานต่อจากเอกชนมาอีกที


โดยคุณ sam เมื่อวันที่ 16/10/2007 13:11:52


ความคิดเห็นที่ 8


ภาพจากท่าน AAG_th ผมชอบภาพนี้มากโดนใจ


โดยคุณ sam เมื่อวันที่ 16/10/2007 13:15:32


ความคิดเห็นที่ 9


มีใครทราบบ้างไหมครับว่าสิมิลัน มีอาวุธป้องกันตัวหรือเปล่า เห็นเรือแบบนี้ของประเทศอื่นๆเค้ามี CIWS กันด้วย??

โดยคุณ petch_a เมื่อวันที่ 16/10/2007 13:48:14


ความคิดเห็นที่ 10


ในบ้านเรามีอู่ไหนต่อเรือใหญ่ อย่างสิมิลันได้บ้างครับ  เช่น มาร์ซันต่อได้ยังครับ..  จะได้ไม่ต้องจ้างเมืองนอก.. ได้ความภาคภูมิใจด้วยครับ..
โดยคุณ charchar เมื่อวันที่ 17/10/2007 00:19:19


ความคิดเห็นที่ 11


อู่ต่อเรือบ้านเราตอนนี้ไม่สามารถต่อเรือขนาดใหญ่ได้ครับ แต่เอกชนอุตสาหกรรมต่อเรือได้ขอให้รัฐบาลช่วยเหลือในเรื่องนี้ครับ ในเรื่องของเงินทุนน่าจะใช้อยู่หลายหมื่นล้าน แต่ยังไม่มีเสียงตอบกลับจากทางภาครัฐเลย ทั้งที่เรือขนส่งสิ้นค้าขนาดใหญ่ในบ้านเรามีไม่เพียงพอต้องเช่าเรือสิ้นค้าต่างประเทศ ประกอบกับราคาน้ำมันที่แพงขึ้นอีก

โดยคุณ sam เมื่อวันที่ 17/10/2007 01:34:58


ความคิดเห็นที่ 12


จักรีไปตรวจสุขภาพไม่ทันไร คนอื่นก็ไปหาสิมิลันซะแล้ว :D

อู่ต่อเรือใหญ่สุดในไทยจะเป็นของยูนิไทย ชิปยาร์ด ต่อได้ 13,000 ตันกรอส ซึ่งทิ้งห่างจากเจ้าอื่นเป็นเท่าตัว ส่วนมาร์ซันได้แค่ 1,000 ตันกรอส เท่านั้น แต่ข้อมูลนี้มาจากกรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี ตั้งแต่ พ.ศ. 2545 ไม่รู้ปัจจุบันเป็นอย่างไรบ้าง
โดยคุณ กิตติโชค เมื่อวันที่ 18/10/2007 00:39:28


ความคิดเห็นที่ 13


ก็อู่มหิดลไงครับ  ตามที่เจ้าของกระทู้บอก    ใหญ่สุดในประเทศไทย  รับเรือหลวงจักรีฯได้  ก็รับเรือหลวงสิมิลันได้   อนาคตอู่นี้เป็นความหวังของกองทัพเรือเลยนะ (ทหารเรือบอกมา)

โดยคุณ ขี้ม้าแก่ เมื่อวันที่ 19/10/2007 07:38:07


ความคิดเห็นที่ 14


็การต่อเรือกับการซ่อมเรือไม่ใช่ค่าเดียวกันนะครับ อู่ราชนาวีมหิดลอดุลยเดช ซ่อมเรือขนาด 18,000 ตัน ได้ ส่วนของยูนิไทย ชิปยาร์ด ต่อเรือขนาด 13,000 ตันกลอส ซ่อมเรือ 80,000 ตันกรอส
โดยคุณ กิตติโชค เมื่อวันที่ 20/10/2007 01:11:32


ความคิดเห็นที่ 15


ร.ล.สิมิลันเข้าอู่


โดยคุณ Zeno เมื่อวันที่ 25/06/2010 13:34:52