หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


เทียบชั้นอาวุธ ปืนเล็กยาวแต่ละรุ่น

โดยคุณ : Aceน้อย เมื่อวันที่ : 29/09/2007 14:38:23

ได้ข่าวมาใหม่ๆๆๆ ว่ากองทัพจะซื้อปืนของอิสราเอล ที่เป็นปืนแบบ บูลพัป จำนวนไม่มากไม่น้อย แหม....เล่นเอาหลายคนตะลึง เพราะมีข่าวออกมาช่วงก่อนหน้านี้ว่า ท่านพลเอกสนธิ ได้ไปดุการสาธิตปืนเล็กยาวรุ่น AK-101,AK-102 พร้อมอุปกรณ์เสริม ที่ทางการรัสเซียนำมาโชว์ ผมเองก็อดคิดไม่ได้ แอบดีใจอยู่นิดๆ ว่ากองทัพเราจะได้ปืนรุ่นที่ทนทายาทที่สุดในโลกมาใช้อีกรุ่นแล้ว....แต่ไปๆมาๆ ดันเป็นของอิสราเอลซะนี่ เวรแท้ๆ ....

ส่วนตัวผมแล้วครับ อยากให้ใช้ AK จะดีกว่า...เพราะ

ราคางามๆที่ไม่น่ามองข้าม..

อะไหล่เกลื่อนโลก...

ทนดีต่อทุกสถาวะ บำรุงรักษาง่ายๆๆๆๆๆๆๆๆ..

อำนาจการยิง รุนแรง....

หรือท่านอื่นคิดว่าไงครับ..........................





ความคิดเห็นที่ 1


จุดหนึ่งที่ทำให้ปืนรัสเซียอย่าง AK-101 นั้นดูจะไม่ค่อยเหมาะกับ ทบ. ถ้าเทียบกับ TAVOR คือเรื่องความเข้ากันได้กับอาวุธประกอบและอุปกรณ์เสริมแบบต่างๆที่ ทบ.มีใช้งานอยู่เดิมครับ

ในขณะที่ TAVOR นั้นมีรางPicatinny ที่สามารถติดตั้งอุปกรณ์ช่วยเล็งต่างๆตามมาตรฐาน NATO ที่ ทบ.มีใช้งานอยู่ได้ครับ อย่างพวกกล้องเล็ง ACOG หรือ Reflex Sight เป็นต้น(ถึงแม้ว่ารางจะสั้นไปหน่อยก็ตาม) รวมถึงสามารถติดตั้งเครื่องลูกระเบิด M203 ได้ด้วย 

แต่ AK นั้นทำไม่ได้ครับอุปกรณ์เสริมต่างคงต้องจัดหาของรัสเซียมาใหม่หมดครับตั้งแต่กล้องเล็งเสริมยันเครื่องลูกระเบิดยิง(ยกเว้นแต่ว่าจะทำการดัดแปลงผ่านชุด Adaptor พิเศษซึ่งมีบางบริษัทพัฒนาออกมา)

อีกอย่างปืนรัสเซียถึงแม้ว่าจะมีการนำชิ้นส่วนอย่าง Polymer มาใช้ในการผลิตเพื่อลดน้ำหนักแล้วก็ตามปืนก็ยังค่อนข้างหนักอยู่ดีครับ(ปืนเปล่าราว3.5กิโลกรัม ในขณะที่ Tavor น้ำหนักปืนเปล่า 2.8กิโลกรัมเท่านั้น

โดยคุณ AAG_th1 เมื่อวันที่ 26/09/2007 16:03:15


ความคิดเห็นที่ 2


ไม่จริงครับ Akไม่ได้ดีอย่างที่ทุกคนคิด
1. Ak ขาดวามแม่นยำอย่างมากเวลายิงแล้วเป้าจะส่ายออกทางซ้าย
2. ตัวดีดกลับของak นั้นยาวมากทำให้เกิดแรงกระแทกสูง
3. Ak ใช้กระสุนใหญ่เกินความจำเป็นทำให้เอาไปได้น้อย
4. เคยมีการทดสอบระหว่างAkกับM16 แล้ว M16 ชนะขาดครับ
5. Ak ติดoption เสริมได้น้อย
6. เป้าเล็งของak ใช้เทคโนโลยียุคสงครามโลกครั้งที่2
7. Ak ขัดลำกล้องบ่อยมากยิ่งเวลาเจอทรายกับโคลนยิ่งเกิดบ่อย

ส่วนTavor
1. Tavor มีเป้าเล็งควบคุมการยิงด้วยLaserทำให้มีความแม่นยำแทบจะเท่ากับSniper rifle ในระยะไม่เกิน 500 เมตร
2. Tavor มีขนาดเล็กสามารถประทับบ่าได้พอดีทำให้หมุนได้เร็วเหมาะกับการรบสมัยใหม่
3. Tavor แทบจะไม่ขัดลำกล้องเลยเพราะปืนแบบ bull-pup ขัดลำกล้องยาก
4. Tavor เป็นปินแบบBull-pup ทำให้มีลำกล้องปินที่ยาวขึ้นช่วยเพิ่มความแม่นยำได้
5. Tavor ใช้กระสุนแบบเดียวกับM4ซึ่งมีขนาดกำลังพอเหมาะ
6. ถึงราคาจะแพงไปนิดนึง แต่่ว่าคุณภาพนั้นเยี่ยมยอดจนรายการFuture Weapon ของช่องDiscovery ยกย่องให้เป็นปินให้อนาคต
โดยคุณ VEranda เมื่อวันที่ 26/09/2007 18:59:25


ความคิดเห็นที่ 3


ราคากับคุณภาพ.......

โดยคุณ galen เมื่อวันที่ 26/09/2007 19:07:10


ความคิดเห็นที่ 4


ถึงคุณ: VEranda    นะครับ  

 

ลองดูเพื่อนของ AK ก่อนนะครับ  อาจจะคิดใหม่ก็ได้

http://www.thaifighterclub.org/webboard.php?action=detailQuestion&questionid=646&language=1

M16 นั้นดีกว่า AK จริงๆใช่    เเต่ M16 รุ่นไหนล่ะ? Ak รุ่นไหนละ   อย่าลืมนะครับ  Ak  ไม่ได้มีเเค่รุ่น Ak-47  เท่านั้น    

 

 

อย่างที่รู้กัน Ak-47 ผลิตในปี 1947  เเละในเวลาน้น  กองทัพ สหรัฐ มีเพียงปืนใหม่ที่ชื่อ M-14  ที่ดูจะถ้าเทียบทียบกับ AK-47    เเต่เห็นได้ชัดในสงครามเกาหลี อาวุธส่วนใหญ่ของสหรัฐ ยังใช้ M-1 เเกรน เเละ ปืนกลมือ เเบบอื่นที่ใช้ในสงครามโลกเป็นส่วนใหญ่   ในขณะที่ทหารเกาหลีเหนือมี Ak-47 เเละปืน SVT-40   เเละปืนอื่น  มือ2 จากโซเวียต       เเละมันได้พิสูจน์หลายๆอย่างเเล้ว     ลองไปดูเอาเองทำไมทหารผ่านศึก จำนวนมาก  ของสหรัฐ ต้องเเพ้ทหารชาวนาจีน    เเต่ อย่าบอกว่า เพราะจีนมีจำนวนมากกว่า     ในสงครามโลกครั้งที่สอง ทหารเยอรมัน สิบเอ็ดล้าน  ต่อสู้กับทหารรัซเซีย ยี่สิบสองล้าน  ได้อย่างไร??  พวกต่อสู้ไดอย่างยาวนานก่อนที่จะ ถูก อังกฤษ สหรัฐ เเคนนาดา ฝรั่งเศษ  ยกพพลที่อิตาลี           ถึงค่อยเสียเเนวรบไป             

 

 

สงครามเวียดนาม   M-16  ถูกนำมาใช้ เเต่  ก็นั่นเเหละ มันยังเทียบ AK-47 ไม่ได้     ถ้ามันดีจริง  คงไม่มีสารคดีของสหรัฐ เอาทหารผ่านศึดเวียดนาม มาบ่นเรื่อง ความ ไม่สมบูรณ์ของปืนหรอกครับ     จากนั้นปืน AK-74 ก็ออกมาใช้กระสุนขนาดเล็กกว่าเดิม เเละการโฆษณา          เเน่นอน M-16 ก็พัฒนาด้วย    เเต่ที่เห็นกันในปัจจุบันว่าปืน M-16 น้นเลิศ  มันก็เเค่ โฆษณาชวนเชื่อจากสหรัฐ   (เหมือนกับ รถถัง นั่นเเหละ)

 

 

ปล.ผมเมา  อย่าสนใจผมมาก 

 

 

โดยคุณ oatbcc เมื่อวันที่ 26/09/2007 20:19:38


ความคิดเห็นที่ 5


เป็นยังใงหรือครับไอ้เจ้า ข้อความนี้อะ

1. Tavor มีเป้าเล็งควบคุมการยิงด้วยLaserทำให้มีความแม่นยำแทบจะเท่ากับSniper rifle ในระยะไม่เกิน 500 เมตร
 
 
ควบคุมการยิงด้วยเลเซอร์ เอ ผมเมาแหะ เลเซอร์มันแค่เอาไว้เล็งใช่มะ แล้วก็ AK เองก็มีเหมือนกันนิ มันแค่อุปกรณ์เสริม ปืนพกยังมีเลย  
โดยคุณ TIGGER03 เมื่อวันที่ 26/09/2007 20:58:52


ความคิดเห็นที่ 6


7. Ak ขัดลำกล้องบ่อยมากยิ่งเวลาเจอทรายกับโคลนยิ่งเกิดบ่อย

ไอ้ข้อนี้ผมว่า m16 ยังจะเป็นหนักกว่าอีกนะในรุ่นแรกๆนะ
โดยคุณ Tasurahings เมื่อวันที่ 26/09/2007 22:21:51


ความคิดเห็นที่ 7



อ้อ สงสัยอีกข้อครับ
เหมือนจะอ่านมาจากในนี้ว่า tavor รุ่นแรกๆ มีปัญหาเวลาเจอฝุ่นเจอทราย
รุ่นที่เข้ามามันแก้ไขรึยังครับ
โดยคุณ Tasurahings เมื่อวันที่ 26/09/2007 22:25:19


ความคิดเห็นที่ 8


ไม่จริงครับ Akไม่ได้ดีอย่างที่ทุกคนคิด
1. Ak ขาดวามแม่นยำอย่างมากเวลายิงแล้วเป้าจะส่ายออกทางซ้าย---> แล้วปืนไหนไม่ส่ายเวลายิง ?
2. ตัวดีดกลับของak นั้นยาวมากทำให้เกิดแรงกระแทกสูง
3. Ak ใช้กระสุนใหญ่เกินความจำเป็นทำให้เอาไปได้น้อย------->AKรุ่นใหม่ๆ ใช้กระสุน 5.56 นาโต้ได้ครับ
4. เคยมีการทดสอบระหว่างAkกับM16 แล้ว M16 ชนะขาดครับ---------> ในการทดสอบแบบไหน วัดผลด้วยอะไร ยิงแบบไหน
5. Ak ติดoption เสริมได้น้อย-----------------> Ak ติดอุปกรณ์เสริมเท่าที่จะจินตนาการได้ครับ เท่าที่เห็น มันติดครบเครื่องแล้วไม่ต่างจากเอ็ม16
6. เป้าเล็งของak ใช้เทคโนโลยียุคสงครามโลกครั้งที่2 ------->ถ้ามันไม่ดี มันคงไม่ยืนยงมา50ปีหรอกครับ
7. Ak ขัดลำกล้องบ่อยมากยิ่งเวลาเจอทรายกับโคลนยิ่งเกิดบ่อย

ส่วนTavor
1. Tavor มีเป้าเล็งควบคุมการยิงด้วยLaserทำให้มีความแม่นยำแทบจะเท่ากับSniper rifle ในระยะไม่เกิน 500 เมตร-------> ถ้าเลเซอร์ช่วยยิงล่ะก็ Ak ก็ทำได้ครับ ก็ตอนเด็กบ้าควงปืนถล่มตลาดไทย พวกใช้เลเซอร์ช่วย ยิงตำรวจร่วงระนาว
2. Tavor มีขนาดเล็กสามารถประทับบ่าได้พอดีทำให้หมุนได้เร็วเหมาะกับการรบสมัยใหม่ ------------> แล้วAk ตัดสั้น ทำไม่ได้?
3. Tavor แทบจะไม่ขัดลำกล้องเลยเพราะปืนแบบ bull-pup ขัดลำกล้องยาก -------->บูลพับนี่ ขัดลำกล้องที่ เรื่องใหญ่ครับ ระบบมันซับซ้อนกว่าแบบปกติมาก
4. Tavor เป็นปินแบบBull-pup ทำให้มีลำกล้องปินที่ยาวขึ้นช่วยเพิ่มความแม่นยำได้ ------->หลักการออกแบบปืนบูลพับ คือการทำให้ลำกล้องยาวเท่าเดิม แต่ทำให้ขนาดเล็กลง ความยาวลำกล้องจึงไม่ได้ยาวกว่าเดิมครับ
5. Tavor ใช้กระสุนแบบเดียวกับM4ซึ่งมีขนาดกำลังพอเหมาะ ------>Akก็ทำได้ครับ
6. ถึงราคาจะแพงไปนิดนึง แต่่ว่าคุณภาพนั้นเยี่ยมยอดจนรายการFuture Weapon ของช่องDiscovery ยกย่องให้เป็นปินให้อนาคต ------> แล้วมันตัดสินอะไรได้ครับ  
 
 
 
สรุป ผมไม่ชอบ ทาวอร์ เพราะมันเป็นบูลพับ ดูแลยาก และ ข้อเสียของมัน ดูได้ที่
http://en.wikipedia.org/wiki/Bullpup 
โดยคุณ icy_nominee เมื่อวันที่ 26/09/2007 22:41:40


ความคิดเห็นที่ 9


ปืนในอนาคต เท่าที่เห็น (ยึดถือตามกองทัพสหรัฐ ) ไม่ค่อยเห็นบูลพับมากนัก

เช่น

Robinson Arms XCR

Heckler & Koch HK416

FN SCAR

Colt ACR

แต่ ดีไซน์ Bullpup มีเพียง

Steyr ACR

Project Salvo

ไม่รู้เหตุผลกลใดทำไมกองทัพสหรัฐถึงไม่ชอบดีไซน์บูลพับ แต่กองทัพที่ทำสงครามบ่อยๆ ไม่ยอมรับนี่ น่าคิดนะครับ

โดยคุณ icy_nominee เมื่อวันที่ 26/09/2007 22:57:28


ความคิดเห็นที่ 10


ขอแทรกหน่อยนะครับ
ลองไปหาข้อมูลของปืนกลเล็ก Negev เห็นว่าใช้ระบบแก็ส ไม่ทราบว่า...ใช้แก็ส NGV ได้ไหม เมื่อลองตัดตัว e ในชื่อออกแล้วกลายเป็น NGV ด้วยน่ะ คิกคิก (อ็ะ หรือ ปตท. จะมีส่วนในการจัดหาในครั้งนี้ ?)

คลายเครียดกันหน่อยนะครับ
โดยคุณ กิตติโชค เมื่อวันที่ 27/09/2007 01:39:07


ความคิดเห็นที่ 11


แฟน M-16 ขอแซวหน่อย ครับ

ไม่จริงครับ M-16 ไม่ได้ดีอย่างที่ทุกคนคิด และ Akก็ไม่ได้แย่อย่างที่ทุกคนคิด

1. Ak ขาดวามแม่นยำ อย่างมาก > ถ้าเอามายิงแข่ง น่าจะใช่ แต่ถ้าเอามายิงเป้าขนาดคนในสนามรบแม่นพอ

2. ตัวดีดกลับของak นั้นยาวมากทำให้เกิดแรงกระแทกสูง > แต่เชื่อใจได้ไม่ขัดลำ ส่วนของ M-16 ปืนเจ้าปัญหาเลย ตั้งแต่สมัยเวียตนาม จนHK ได้ลิขสิทธิ์ทำM-16 เลยปรับปรุงระบบให้ ไว้ใจได้ HK 416 ไง

3. Ak ใช้กระสุนใหญ่เกินความจำเป็น > กำลังดีสำหรับยิงคนครับ ในอัฟกานิสถานพวกSF มันบ่นว่า M-4 ต้องยิงที่หัวเท่านั้นถึงจะลง สมัยเวียตนาม XM177 ก็เป็นข่าวเหมือนๆกัน

4. เคยมีการทดสอบระหว่างAkกับM16 แล้ว M16 ชนะขาดครับ > โดยกลุ่มแฟน M-16

5. Ak ติดoption เสริมได้น้อย > สมัยนี้เครื่องเคราของทหารอเมริกัน ตกคนละประมาณหกแสนบาทครับ เฉพาะที่ติดบนตัวปืน M-16/M-4 นี่ก็ไม่น้อย

6. เป้าเล็งของak ใช้เทคโนโลยียุคสงครามโลกครั้งที่2 > ศูนย์เล็งครับไม่ใช่เป้า ศูนย์แบบสะพานนี่ใช่กันป์นมาตรฐานตั้งแต่ก่อนสงครามโลกครั้งที่หนึ่งครับ ไม่ใช้สอง แต่ AK เป็นเจ้าแรกที่เอาพรายน้ำที่ทาเข็มนาฬิกา กะตัวเลข ไปทาที่ศูนย์หน้าและศูนย์หลังครับ ทำให้สามารถเล็งยิงในที่แสงน้อยได้ เป็นเจ้าแรกครับ

7. Ak ขัดลำกล้องบ่อยมากยิ่งเวลาเจอทรายกับโคลนยิ่งเกิดบ่อย > น่าจะสะกดผิด สลับตำแหน่ง เป็น M-16ที่เป็นปืนเจ้าปัญหา ส่วน AK พวกทหารยิว ให้ฉายาว่า เสือแห่งทะเลทราย เพราะรบในทะเลทรายไม่มีปัญหาเลย

 

ส่วนTavor

1. Tavor มีเป้าเล็งควบคุมการยิงด้วยLaser > ศูนย์ปืนครับไม่ใช่เป้าเล็ง ใช้ไฟทำให้เป็นจุดแดงเล็กๆ ไม่ได้ควบคุมการยิง หรือเป็นLaser และต้อง Sniping Rifle ครับ อย่าเอามาเทียบกัน ปืน M-16 ถ้าจะเอามาแต่งซิ่งเป็น Sniping Rifle ก็พอทำได้แต่ต้องลงทุนต่างกันมาก ต้องใช้วัสดุ เครื่องมือ ความชำนาญของช่างอีกมากเมื่อเทียบกับปืนที่แจกให้ทหารธรรมดาใช้ ที่ระยะ๒๕ เมตรนี่ก็เห็นความต่างชั้นกันแล้วครับ

2. Tavor มีขนาดเล็กสามารถประทับบ่าได้พอดีทำให้หมุนได้เร็วเหมาะกับการรบสมัยใหม่ > อันนี้ไม่รู้ อยากลอง แต่น่าจะเหมือนๆกับยิง พาราเปลลั่มลำกล้องสั้นที่ติดพานท้าย HK VP-70 หรือ FN P90

3. Tavor แทบจะไม่ขัดลำกล้องเลยเพราะปืนแบบ bull-pup ขัดลำกล้องยาก > ไม่เกี่ยว Bullpup เป็นชื่อวิธีการออกแบบ ที่ตัดพานท้ายออก เลื่อนด้ามกับไกไปข้างหน้า ทำให้ลดความยาวของปืน ไม่เกี่ยวกับระบบการยิงที่เป็นตัวทำให้ปืนยิงดีหรือขัดลำ ปืนBullpupที่มีข่าวว่าขัดลำบ่อย ก็ L85 และ Famas ส่วนตัวอื่นไม่เป็นข่าวหรือเป็นข่าวในภาษาที่ผมอ่านไม่ออก

4. Tavor เป็นปินแบบBull-pup ทำให้มีลำกล้องปินที่ยาวขึ้นช่วยเพิ่มความแม่นยำได้ > คล้ายข้อก่อน แต่ทำให้ไม่ต้องตัดลำกล้องให้สั้นลงเท่านั้น Bullpupทำให้ปืนสั้นลง คล่องตัวขึ้น แทนที่จะตัดปืนให้สั้นลงเพื่อให้ใช้งานคล่อง

5. Tavor ใช้กระสุนแบบเดียวกับM4ซึ่งมีขนาดกำลังพอเหมาะ > กระสุน M-16/M-4 ใช้กระสุนแบบ .223 Remington หรือ5.56 เป็นกระสุนที่พรานฝรั่งออกแบบไว้เพื่อยิงกวางขนาดเล็กเท่าเก้งบ้านเรา ซึ่งเล็กและเบากว่าคน ในทุ่งโล่ง ส่วนAK ใช้กระสุน7.62x39ที่ใกล้กับกระสุนแบบ .30-30 Winchester ที่พรานอเมริกันใช้ล่ากวางในป่ารก กวางใหญ่และหนักกว่าคนหน่อย พอมาใช้กะคน กำลังดีครับ

6. ถึงราคาจะแพงไปนิดนึง แต่่ว่าคุณภาพนั้นเยี่ยมยอดจนรายการFuture Weapon ของช่องDiscovery ยกย่องให้เป็นปินให้อนาคต > ราคาแพงมากไป ถ้าแข่งกันแบบเปิดๆ น่าจะได้ราคาถูกกว่านี้ และตั้งแต่คุณจ่า แฮรี่ คัลลาแฮนด์ใช้ปืน S&W .44 Magnum ทำให้ปืนที่ขายแทบไม่ออก ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ตั้งแต่นั้นมาปืนทุกแบบต้องมาออกตัวในหนังหรือหนังสารคดี เป็นเรื่องธรรมดาครับ

 

โดยคุณ Oldtimer เมื่อวันที่ 28/09/2007 14:41:25


ความคิดเห็นที่ 12


และที่พวกอเมริกันไม่ชอบปืนแบบ Bullpup น่ะในส่วนหนึ่ง เพราะมันติดดาบปลายปืนไม่ค่อยได้ หรือติดได้แต่ใช้แทงไม่สะดวก เพราะในการใช้อาวุธพวกอเมริกันจะคิดเผื่อ ถ้ากระสุนหมด ปืนขัดข้องทหารจะรบอย่างไรต่อ คำตอบคือเขาจะต้องรบด้วยดาบปลายปืน หรือใช้ด้ามพานท้ายตีแทนไม้พลอง ปืนหลุดมือก็ต้องสู้ด้วยมือเปล่าต่อ ปืนของพวกอเมริกันจึงต้องสนองตอบต่อการรบด้วยดาบปลายปืน ด้วย

สำหรับ Tavor ในกองทัพไทยผมไม่ห่วงการใช้งาน แต่ห่วงการต้องออกแบบท่าประกอบอาวุธใหม่ เพราะตัวปืนมันสั้นมาก สงสัยว่าจะต้องใช้การสะพายแบบFamas ของฝรั่งเศส และ Tavor ติดดาบปลายปืนได้หรือไม่ครับ จะสวนสนามกันอย่างไร สงสัยว่าจะต้องส่งคนไปดูงาน ท่าประกอบอาวุธของทหารอังกฤษกับฝรั่งเศส

 

โดยคุณ Oldtimer เมื่อวันที่ 28/09/2007 14:57:46


ความคิดเห็นที่ 13


การจัดหาอาวุธประจำกายหลักๆอย่างปืนเล็กยาวนั้นมีวัตถุประสงค์เพื่อเอามาใช้ทำการรบเป็นหลักนะครับไม่ได้เอามาให้ทหารประกอบการเดินสวนสนาม ปืนที่ใช้งานในสนามจริงๆกับปืนที่ใช้ประกอบในงานต่างๆมันคนละประเด็นกันครับ

(เคยได้ยินว่ามีประเทศหนึ่งในASEAN นี้ละครับเคยจัดหา Steyr AUG มาเป็นปืนประจำกายในกองทัพแต่ใช้ในฐานปืนมาตรฐานหลักของกองทัพไม่ได้เพราะมีปัญหาเรื่องการใช้ปืนประกอบท่าบุคคลของเขา มันน่าตลกครับที่กล่าวว่าปืนBullpup ไม่เหมาะที่จะจัดหาเพราะเอามาใช้ประกอบท่าบุคคลและการเดินสวนสนามได้ไม่ดีเท่าปืนเล็กยาวทั่วๆไป)

ส่วนตัวไม่คิดว่า TAVOR จะกลายมาเป็น ปลย.หลักของกองทัพบกแทน M-16 หรือ HK หรอกครับ อย่างน้อยๆก็ในขณะนี้ครับ

โดยคุณ AAG_th1 เมื่อวันที่ 28/09/2007 16:30:56


ความคิดเห็นที่ 14


ปืนรุ่นไหนถ้าคนยิงห่วยก็ส่ายหมดแหละครับ สำหรับสงครามเวียตนามเป็นตัวอย่างนะครับM-16ออกแบบให้ยิงสิ่งมีชีวิตแต่AK-47ออกแบบให้ยิงได้ทุกอย่างเพราะฉะนั้นความเเม่นยำไม่เป็นปัญหาเช่นมีทหารคนนึงหลบหลังต้นไม้ซึ่งส่วนใหญ่ที่โดนสอยเพราะงี้แหละครับเพราะAKมันยิงเอาต้นไม้ขาดกระจุยไปด้วย เมื่อไม่มีต้นไม้ก็ถึงคราวละ และก็กระสุนใหญ่ไม่ใหญ่ไม่รู้แต่7.62มันก็เหมาะสมกับตัวมันแล้วแหละแล้วอยากได้สั้นๆๆนะ นี่เลยAK-74u AK-74suนี่สั้นพอมั้ยครับแถมมีที่ติดของที่พอฟัดพอเหวี่ยงกะM4ได้เลยแล้วไอ้ที่เจอฝุ่นโคลนยิงไม่ออกนี่มันM16มากกว่านะครับโดนเฉพาะไอ้รุ่นเวียตนามนะส่วนศูนย์เล็งก็คือศูนย์เล็งไม่มีอะไรพิเศษแปลกใหม่ครับLaser=aimpointครับไม่ใช่เลเซอร์มันเกิดมาเพื่อการยิงระยะประชิดเท่านั้นครับ ไม่มีความสามารถในการขยายเพื่ออำนวยความสะดวกแก่พวกประเภทต่อต้านการก่อการร้ายที่ยึดที่แคบๆอยู่เช่น อาคาร ตึก บ้านพวกนี้แล้วรายการของอเมริกานะน่าเชื่อมั้ยละครับ ตามหลักการpropaganda  ส่วนมะกันไม่ชอบbull pupหรือไม่นี่ไม่ทราบนะครับ แต่ไอ้เจ้าHK416นี่มันM4จิตวิญญาณG36นิ ส่วนaimpointที่ผมชอบสุดเห็นจะเป็นของP90แหละครับ กลางวันใช้แสงอาทิตย์ กลางคืนใช้แสงจันทร์จุดจะเปลี่ยนเป็นสีเขียว ช่วยตอนกลางคืนได้พอสมควรครับ

โดยคุณ L96A1 เมื่อวันที่ 28/09/2007 17:35:36


ความคิดเห็นที่ 15


ก็ลองดูครับ มาจับบูลพัพก็ดีเหมือนกัน  เรื่องspec.คงไม่ต้องพูดอะไรมาก โดยรวมก็ดีครับ ถ้าพูดกันให้ชัดเจน ก็คงต้องว่าเรื่องราคาซื้อครับ ผมว่าแพงไป ( ผมพูดในฐานะพลเรือน ที่สมัยนี้ปืนพวกนี้สามารถเช็คราคาขายกันจากอินเตอร์เนท ได้ ราคาขายปลีกต่อหน่วย กลับถูกกว่าราคาขายยกล๊อตใหญ่ ทั้ง ๆ ที่พูดกันตามจริงถ้าทำราคาให้เท่ากันหรือถูกกว่า รวมค่าฝึกสอนค่าอะไหล่ หลาย ๆ อย่างก็ย่อมได้ การจัดซื้อจัดซื้อปืน ถ้าจัดซื้อปืนและอะไหล่ก็ต้องระบุว่าปืนและอะไหล่  ถ้าเขียนว่าซื้อปืนเฉย ๆ มันก็มีอุปกรณ์มาตฐานและอุปกรณ์เสริมที่มาให้ในชุดของมัน เช่น ซื้อปืน มีแมกกาซีน อาจจะมีแมกสำรอง 1 แมก มีชุดทำความสะอาดปืน 1 ชุด กล้องเล็งที่รวมเป็นอุปกรณ์มาตรฐานที่แถมให้ในชุดของมันอยู่แล้ว ... ผมก็ทำงานค้าขายกับหน่วยงานราชการเหมือนกันนาครับ อยากจะพูดเยอะกว่านี้ ก็เกรงใจท่านเจ้าบ้านครับ ก็ให้ความเห็นเท่านี้แล้วกัน ที่สำคัญของเมื่อซื้อมาแล้วถ้ามันได้ประโยชน์จริงจัง อันนี้ก็โอเคครับ )

โดยคุณ ลุงหมี เมื่อวันที่ 28/09/2007 23:54:01


ความคิดเห็นที่ 16


ดีมากเลยครับทุกท่าน...การถกกันก็จะทำให้ได้ความรู้ด้วยกันทั้งสองฝ่าย จะทั้ง M-16 หรือ AK ผมก็ไม่เคยใช้เพราะไม่ใช่ทหาร รด.ก็ไม่ได้เรียน แต่แสดงความรักชาติผ่านกรมสรรพากรประจำทุกปี ทุกบาททุกสตางค์ที่เป็นรายได้จะถูกหักไว้เป็นภาษีทุกครั้ง.........อันว่าเรื่องปืนต่างๆ นี่  จริงๆ แล้วผู้ที่จะให้คำตอบได้ดีน่าจะต้องเป็นผู้ที่สัมผัสกับมันบ่อยๆ และหลายๆ ยี่ห้อหลายๆ สภาพการใช้งาน  จริงๆ ก็น่าจะนำมาเป็นหัวข้อการวิจัยระดับปริญญาเอกได้เลยนะครับ  ทำไปเลย 10-20 ปีแล้วค่อยสรุปกัน (แต่ไม่รู้ว่าผลที่ได้จะคุ้มหรือเปล่า...เหมือนฆ่าตัวตายเพียงแค่อยากรู้ว่าตายแล้วไปไหน) ไม่จำเป็นต้องเป็นทหารหรือตำรวจหรอกครับ แต่ เอ...จริงๆ แล้วก็มีแต่ทหารหรือตำรวจเท่านั้นที่จะคุ้นเคยกับมัน (ไม่นับโจร) แต่ก็เฉพาะยี่ห้อที่ประจำการเท่านั้นยี่ห้ออื่นเลยไม่เคยใช้ การเปรียบเทียบกันจึงทำไม่ได้.....สุดท้ายจึงต้องใช้ความพอใจมาตัดสิน  ไอ้เจ้าความพอใจนี้วัดไม่ได้ครับ  ว่าชอบกี่เปอร์เซนต์ไม่ชอบกี่เปอร์เซนต์ ความพอใจส่วนมากจะเกิดจากความคุ้นเคยแล้วก็จะโน้มเอียงไปหาสิ่งคุ้นเคยนั้น  ปัญหานี่คล้ายๆ กับ โตโยต้า วีโก้ กับอีซูสุ อะไรดีกว่ากัน โอ้โห....กระทู้ยาวกันข้ามปี  เรื่องนี้เป็นเรื่องของความพอใจ.........การจะเอาสเปคมาว่ากันก็เป็นเพียงแค่ตัวเลขเท่านั้น  ความเหมาะสมเท่านั้นครับที่น่าจะเอามาใช้วัดกัน ลงทุนซื้อรถเฟอร์รารี่วิ่งเร็วกว่า 200 กม/ชม. แต่ทั้งปีมีใจวิ่งแค่ 100 กม./ชม. สเปคก็เลยกลายเป็นแค่ตัวเลขเท่านั้นเองครับ.....สรุปก็คือเค้าพอใจขายให้ใช้ก็ใช้ไปเถอะครับ ใช้มันให้เกิดประโยชน์กับประเทศเรา 

โดยคุณ terdkiet เมื่อวันที่ 29/09/2007 10:16:45


ความคิดเห็นที่ 17


จำนวนของปืน tavor ที่สั่งก็ไม่ได้เยอะมากกว่าที่จะเป็นปืนหลักของทบหรอกครับ ก็แค่ 15,000 กระบอกเท่านั้น แค่แจกให้ นสศ หน่วยเดียวก็เกลี้ยงแล้วครับ แต่ที่น่าสนใจก็คือทำไมราคามันถึงแพ๊ง แพง แบบว่าแพงมาก.......

โดยคุณ mooyong เมื่อวันที่ 29/09/2007 12:53:20


ความคิดเห็นที่ 18


ขอบคุณทุกท่านครับ
โดยคุณ Aceน้อย เมื่อวันที่ 29/09/2007 14:38:23