ที่ว่าจังๆ จังๆแค่ไหนครับ
อาวุธนำวิถี พื้น สู่ พื้น มีระยะยิงเกินขอบฟ้าทั้งนั้นครับเดี๋ยวนี้ ทั้งเค้าและเรา มีเครื่องบิน ฮ. เป็นตาให้กับเรืออยู่แล้ว เอาเป็นว่า วางใจได้แล้วกันครับ แต่ของเราเมื่อเทียบกับเพื่อนบ้านแล้ว แฮ่ๆ ใกล้อ่ะ C-801 ,Exocet MM 38 ระยะยิงประมาณ 40 ก.ม. ส่วน Exocet MM 40 ระยะยิงประมาณ 70 ก.ม. มันจะตายก็ตรงนี้แหละครับ กว่าเรานำเรือให้เข้าสู่ระยะยิงได้ เค้ายิงเอาหมดแม็กแล้วครับ คิดเอาแล้วกัน กองเรือเราจะเป็นอย่างไร
http://www.softwar.net/c801.html
ของจีนเพื่อจะได้ศึกษาเพิ่มเติม ศัพท์ไม่ยากนักครับ
C-801 > 40 km.
Exocet MM38 > 40 km.
Exocet MM40 > 120 km.
Harpoon > 110 km.
แม้กระทั่ง
Main Gun 76 mm. > 16 km.
Main Gun 100 mm. > 20 km.
Main Gun 120 mm. > 20 km.
ทั้งหมดก็เกินระยะขอบฟ้า หรือระยะพิสูจน์ทราบด้วยสายตาทั้งหมดครับ...
IFF
ESM/ECM
Electronic/Radar Radiation...
ยังมีอีกหลายปัจจัยครับ สำหรับการรบในท้องทะเล ระบบอาวุธ ระบบ radar ระบบอำนวยการรบ ระบบ electronic ทั้งหลาย ทุกอย่างสามารถเป็นปัจจัยในการรบได้ทั้งสิ้นครับ
แต่ในการรบจริงๆนั้น บอกได้เลยครับ ไม่มีใครเค้าเดิน radar ให้อีกฝ่ายตรวจจับได้ง่ายๆ หรอกครับ...ความเร็ว...การถือเข็มเดินเรือ...การพิสูจน์ทราบ...ยุทธวิธีหลอกลวงข้าศึก....ทั้งหลายคือปัจจัย...
เรือธงบัญชาการ...ความสามารถในการสื่อสาร...ยุทธวิธี...ยุทธศาสตร์ และความชำนาญนั่นหล่ะครับ คือสิ่งที่สำคัญครับ...
ปล. ตามคำถามของคุณ MaDee ทาง ทร. มีระเบียบปฎิบัติเรื่องการติดอาวุธประจำเรืออยู่แล้วครับ โดยจะอิงตามภารกิจ สถานที่ และสถานะการณ์ ขณะนั้นอยู่แล้วครับ...
Harpoon ซิครับ ไกลพอๆ กับ MM-40 (เคยได้ยินมาน่ะ)แต่ต้องเป็นชั้น นเรศวรกับชั้นรัตนโกสินทร์ หรือชั้น พุทธยอดฟ้าจุฬาโลก เท่านั้นที่มี
เห็นว่า C-802 ที่เราจะหามามีระยะยิงเพิ่มขึ้น ประมาณกี่ กม.ครับ
....เมื่อฮ.ตรวจเจอเรือเป้าหมาย ระยะยิงอาวุธ เองก็มีส่วนครับ ถ้าเรือเราระบบ ลวง ป้องกันระยะประชิดไม่ดี เท่ากับต้องบุกฝ่าดงกระสุนไปให้ถึงระยะยิงของ เรือเรา โอกาส รอดมีน้อยมากมาย อาวุธที่ลือชื่อ อย่าง เอ็กซ์โซเซ็ท เอ็มๆ 40 (บล็อค 3 ระยะยิง 180 ก.ม.)หรือ ฮาร์พูน บล็อค ต่างๆ ราคาแพงมาก แต่ก็แลกด้วยระบบนำวิถี ( ฮ.ไม่ค่อยจะใช้ เน้น จีพีเอส ไอเอ็นเอส ) สามารถป้องกันการลวงการแจมหรือตั้งจุดเลี้ยวโจมตีหลายจุดก็ได้ พูดง่ายๆคือไม่เปิดเรดาห์แอ็คทีพ แต่ไกล มาแบบล่องหนหรือหาจุดยิงไม่เจอนั้นเอง ถ้ามองดีๆอาวุธในรุ่นหลังๆมา โดยเฉพาะสายรัสเซีย เน้นพิสัยยิงต่ำๆก็ 100 กิโลฯขึ้น และความเร็วขั้นสุดท้ายในการพุ่งชนและ บนเรี่ยน้ำด้วย ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของเรือที่ยิง และหวังผลในขั้นโจมตีหาก ระบบป้องกันเรือเป้าหมายไม่ดี บินเรี่ยน้ำเรดาห์จับยาก ยิงไกลกันสวนกลับ และหัวรบรุนแรง ความเร็วเข้าตีขั้นสุดท้าย (ซันเบิรน์ เกือบ 4 มัค) เร็วกว่าระบบป้องกันระยะประชิดจะทำงานทัน สังเกตุเรือคอร์เวต ลำเล็กแต่หมัดยาว เช่น สวิตซ์เบลด เวียดนามก็ใช้อยู่ ลูกเล็กพอๆกับ ฮาร์พูน แต่ระยะยิงไกลถึง 130 ก.ม. และสามารถติดตั้งได้ถึง 16 ลูกต่อลำ จึงทำให้อาวุธโจมตีเรือจากรัสเซีย น่ากลัวกว่าทางตะวันตกอีก
....อีกระบบนึงก็น่ากลัวไม่แพ้กันก็ นำทางด้วย อินฟาเรด จำพวกเพนกวิ้น อาจระยะยิงใกล้ไปก็ เอ็นเอสเอ็ม ของนอร์เวย์ (นำทางด้วย จีพีเอส ไอเอ็นเอส อินฟาเรด ) ระบบอิเล็คทรอนิค ลวงไม่ได้แน่นอน นอกจากใช้ ชาร์ฟ/แฟร์ ยังพอลวงได้ แต่ก็มีรุ่นใหม่ๆพวกเล่นยัดตั้งแต่ นำทางด้วย จีพีเอส อินฟาเรด เรดาห์แอ็คทีพในขั้นสุดท้าย(พูดง่ายๆตรวจพบเจอเมื่อมันเข้ามาใกล้มากแล้วนั้นเอง ) พวก โพลีเฟรม(นำทางด้วยใยแก้ว เล็งจุดไหน ชนจุดนั้น) สแลม อีอาร์ ยิงจาก เอฟ18 เป็นต้น
.....หากบ้านเราต้องการรุ่นที่มันดีๆทัดเทียมชาวบ้านและป้องกันเรือด้วยการยิงไกล ก็มีหลายระบบครับ เช่น ออตโตแมต (มาเลใช้กับ ลักมานา) หรือ อาร์บีเอส15 มาร์ค3 เองก็ ทันสมัยพอๆกับ ฮาร์พูนและเอ็กซ์โซเซท อาจจะลูกใหญ่เล็กน้อย ส่วนทางด้านจีน ยิงไกลแต่ไม่ทราบถึงประสิทธิภาพในการโจมตี