ขอตอบข้อที่หน้าจะพอตอบได้นะครับ

2. Gripen กับ F-16 นี่ รู้สึกว่า Gripen จะได้เปรียบตรงที่ระบบ Data Link ระบบเชื่อมโยงข้อมูล อะไรต่างๆ น่าจะดีกว่า F-16  แต่พิสัยบิน กับ การโหลดอาวุธ จะด้อยกว่า แต่ก็ลองดู Jas-39 E/F รุ่นใหม่ที่กำลังจะพัฒนาดูนะครับ เห็นเขาว่าจะบรรทุกอาวุธได้มากขึ้น บินไกลกว่าเก่า เรดาห์จะเปลี่ยนเป็นแบบ AESA   และมีความเป็น Stealth ด้วย

4. Cobra ตอนนี้มี 3 ลำ แต่หนังสือ สมรภูมิ ฉบับ อากาศยานทหารบก เขาบอกว่า กำลังจะประจำการอีก 7 เครื่องในปี 2551 ผมก็เลยงง เพราะเห็น เขาบอกว่าล้มไปแล้วนี่ รอผู้รู้มายืนยันครับ

5.เห็นเขาบอกมาว่า มี 7 ลำ

6. MH-60S ลงนามไปแล้วครับ เรียบร้อย

7.รุ่น A/B ตรงบริเวณโคนหางเสือจะไม่นูนออกมา แต่รุ่น C/D จะมีการนูนออกมา ซึ่งน่าจะเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์(มั้ง)  รุ่น E/F จะมี เฟลอร์ ที่หัวเครื่องครับ นี่เป็นแค่การสังเกตง่ายๆ   

1.มีระบบปรับอากาศครับถ้าไม่มีเวลาบินสูงๆคงได้แข็งตายกันบ้าง

2.ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมความคุ้มค่ามากกว่าครับถ้าจะซื้อใหม่แบบไม่เคยมี  f16  มาก่อน จะซื้อกริบเปนก็ได้ เพราะ option ก็เหมือนๆกัน ทั้ง ระบบเรดาห์ aesa irst ระบบสงครามอิเล็คทรอนิคส์(แต่ระบบตรวจจับและชี้เป้าก็ต้องใช้ของusa อยู่ดี เช่น lantern2,sniper) ระบบอาวุธนำวิถีโจมตีเรือก็ มี rbs15 หรือ harpoon ,penguin  ระบบ data link ทอ.ยิวใช้ในการรบจริงก่อนจะมีกริบเปน อีกครับ ระบบสงครามอิเล็คทรอนิกส์ f16 ก็มีและล่าสุด ยิวใช้ถล่มเลบานอนซะเละเทะไปหลายรอบแล้ว ส่วนที่ว่ากริบเปนมีเทคโนโลยีเสตลท์นั้นไม่น่าเป็นไปได้ แต่มีหน้าตัดเรดาห์ที่เล็กกว่า f16 เท่านั้นครับ ถ้าถามว่า เครื่องบินแบบใหม่ (ระหว่างรอเปลี่ยนยุคเทคโนโลยีไปสู่เครื่องเสตลท์ยุค5 อย่าง f35 หรือ mig1.42) เราจะใช้แค่ฝูงเดียวไม่กี่เครื่องแล้วซื้อ กริบเปน แต่ต้องฝึกเจ้าหน้าที่สนับสนุนภาคพื้นหลายร้อย ต้องสำรองอะไหล่ ต้องซื้ออุปกรณ์สนับสนุนภาคพื้น ซึ่ง ใช้งบประมาณเผลอๆจะมากกว่าค่าตัวเครื่องเสียอีก ซึ่งทำนายเอาไว้เลยว่า ถ้าซื้อแจส จะซื้อแค่ไม่เกิน 1 ฝูง 12 เครื่อง หลังจากนั้นจะไม่มีการซื้อแจสอีก(หลังจาก10 ปีข้างหน้านั้นเครื่องบินที่มีคุณค่าพอที่จะปกป้องน่าฟ้าได้ จะมี แค่ f35 และเครื่องจากค่ายอื่นๆที่มีเทคโนโลยีเสตลท์เท่านั้น เป็นการเปลี่ยนยุคเทคโนโลยีเหมือนๆกับช่วงสงครามเกาหลีที่เครื่องใบพัดโดยเครื่องไอพ่นสอยข้างเดียว อีก10 ปีข้างหน้าก็เหมือนกัน เครื่องที่ไม่มีเทคโนโลยีเสตลท์ take off ไปก็โดนสอยข้างเดียวครับ) ทำให้ โครงสร้างทอ. จะมี f16 59 ลำ jas ไม่เกิน 12 ลำ และเป็นเครื่องเสตลท์แบบใหม่ ทำให้ต้องแบกภาระงบประมาณในการซ่อมบำรุงรักษา เครื่องบินถึง 3 แบบ

ประเด็นสำคัญที่สุด พิสัยทำการรบ ถ้าให้ jas ประจำการที่ตอนกลางประเทศ ก็จะบินไม่ถึง สิงค์โปร์  จาร์กาตา และ ซาบาร์ ซาราวัค(มีฐานทัพอากาศ มาเลย์) ถ้าไป ฮานอย หรือ กัวลาลัมเปอร์ ก็มีเวลาบินเหนือเป้าหมายได้ไม่กี่นาทีครับ แต่ถ้าเป็น f16 block52 ติด cft จะมีพิสัยรบประมาณ พันกว่าkm ครับ ไปได้ทั้งภูมิภาคทีเดียว และไม่ต้องสร้างโรงซ่อมบำรุงและซื้ออุปกรณ์สนับสนุนใหม่ทั้งหมดครับ

3.ปืนใหญ่ดีที่สุดน่าจะเป็น paladin ที่เป็นปืนใหญ่อัตราจร155 มม. หุ้มเกราะครับ

1.ติดครับ เช่น เอฟ-16 อยู่ใกล้กับ เป้านักบิน เป็นท่อขนาด 6 หุน

3. 155 ม.ม.