หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


คิดถึง t33

โดยคุณ : Acid เมื่อวันที่ : 09/08/2007 11:37:17

ไม่มีอะไรมากครับ แค่คิดถึง เครื่องบิน

รูปร่างประหลาดๆที่อยู่รับใช้ประเทศ

ชาติมานานแสนนาน





ความคิดเห็นที่ 1


ว่ากันว่า รุ่นนี้ลำนี้ ไทยเราได้มาเพราะฝีมือชั้นครู

ของเหล่าเสืออากาศไทย ที่ฝรั่งท้าพนันว่าถ้าขับได้

ก็เอาไปเลย อะไรประมาณนั้น ใครรู้เรื่องราวโดย

ละเอียด ช่วย เล่าให้เกล้ากระผมอ่านด้วยครับจะเป็น

พระคุณยิ่ง

โดยคุณ Acid เมื่อวันที่ 06/08/2007 12:19:19


ความคิดเห็นที่ 2


เขาว่ากันว่า (หลายว่าเหลือเกิน) รุ่นนี้นั้นขับยากเหลือ

เกินแต่ ทหารไทยนั้นแสนกล้า ขับได้ง่ายดั่งใจนึก


โดยคุณ Acid เมื่อวันที่ 06/08/2007 12:20:51


ความคิดเห็นที่ 3


t33


โดยคุณ Acid เมื่อวันที่ 06/08/2007 12:22:50


ความคิดเห็นที่ 4


พี่ Acidและเพื่อนๆสมาชิกที่มีแบบโมเดลกระดาษ ขอความกรุณาโพสต์ โมเดลกระดาษ  ผมอยากมีโมเดลกระดาษทำเป็นงานอดิเรกบ้างครับ หรือลิงค์ที่มีแบบให้โหลดก็ได้ครับ   ผมมันเงินไม่ถึงที่จะเล่นโมเดลพลาสติก

โดยคุณ UH-1D เมื่อวันที่ 06/08/2007 13:39:14


ความคิดเห็นที่ 5


ผมเคยลงไว้นานมากแล้วลองค้นย้อนหลังดูนะครับ

โดยคุณ Acid เมื่อวันที่ 06/08/2007 14:02:17


ความคิดเห็นที่ 6


ตอนนี้ไม่รู้แคนาดาปลดไปหรือยัง  พี่เล่นปรับปรุงเป็นเครื่องบินฝึก Lead In Fighter ซะทันสมัยเลย
โดยคุณ phongrapee เมื่อวันที่ 06/08/2007 18:00:04


ความคิดเห็นที่ 7


คิดถึงจริง ๆก้อไปเยี่ยมเยียนกันได้คับ ที่พิพัณฑ์กองทัพอากาศ ถนนพหลโยธิน จากสะพานใหม่ ข้ามสะพานไปอยู่ซ้ายมือคับ


โดยคุณ X-1 เมื่อวันที่ 06/08/2007 18:45:44


ความคิดเห็นที่ 8


ลำนี้ดิคับ รู้ข่าวตอนซื้อมา แต่ปลดตั้งแต่เมื่อไหร่ม่ายรู้ รู้อีกทีก้อเข้าพิพิธภัณ์ไปแหล่ว แฟนเทรนเนอร์คับ


โดยคุณ X-1 เมื่อวันที่ 06/08/2007 18:50:44


ความคิดเห็นที่ 9


OV.10 Blongo ในอดีตเป็นไม้เบื่อไม้เมากับ ผกค. เป็น บ.โจมตีใบพัดเครื่องยนต์เทอร์โบแฟน ที่มีขีดความสามารถสูงในการโจมตีอากาศสู่พื้นในระดับต่ำ แถมใช้เป็นเครื่องบินพยาบาลขนาด 1 เปลได้ด้วย

ปัจจุบันแจกให้ฟิลิปปินส์ไปฟรี ๆ 6 เครื่อง เอาไปซ่อมปรับสภาพเพื่อการอนุรักษ์ส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งยังใช้งานอยู่ และอีกส่วนหนึ่งเข้าพิพิธภัณฑ์ไว้ให้เด็กดูคับ


โดยคุณ X-1 เมื่อวันที่ 06/08/2007 18:55:21


ความคิดเห็นที่ 10


Cessna A.37 B. Dragon Fly บ.โจมตีทิ้งระเบิดขนาดจิ๋วเลยดีกว่ามั๊ง กระเดื่องเดชมาจากสงครามเวียดนามยันลาว คู่ปรับอีกตัวของ ผกค. เครื่องบินกระป๋องพวกนี้อย่าดูถูกคับ สร้างผลงานสร้างชื่อเสียงมากมากกว่า เอฟ.16 ซะอีก


โดยคุณ X-1 เมื่อวันที่ 06/08/2007 19:00:41


ความคิดเห็นที่ 11


Cessna O-1 Birthdog ถูกเวียดกงตั้งฉายาให้ว่า "ไอ้ปากหมา" เพราะมันชอบยิงจรวดควันเข้าใส่ที่ตั้งข้าศึก หลังจากนั้น ปืนใหญ่ก้อจะบรรเลงตามหลัง โดยเล็งไปที่ควัน

หากจำเป็นมันก้อเป็นเครื่องบินทิ้งระเบิดได้เหมือนกัน ทหารไทยหัวใสเหม่ง สงครามช่องบก เอฟ.5 บอมบ์แกวไม่โดนซักที ติดเหลี่ยมเขา เราก้อเอา เอ็ม.26 ใส่แก้ว แล้วถอดสลัก โปรยจากไอ้ปากหมา ผลคือแกวอ่วมคับ


โดยคุณ X-1 เมื่อวันที่ 06/08/2007 19:08:14


ความคิดเห็นที่ 12


Northrop RF.5A. มีอยู่สองลำ เข้าพิพิธภัณฑ์ไปแล้วเรียบร้อย เอ้า แล้วเวลารบทัพจับศึกจะเอาเครื่องบินอะไรไปถ่ายรูปพิสูจน์ทราบผลการทิ้งระเบิด หรือบอมบ์ด้วยปืนใหญ่กันล่ะ ถ้าบอกว่าเลียร์เจ๊ตล่ะก้อ แฮ่ ๆ ไหวเหรอคับ ถ้าเกิดฐาน ปตอ.ข้าศึกมันรอดอยู่ซักสองสามฐาน


โดยคุณ X-1 เมื่อวันที่ 06/08/2007 19:13:22


ความคิดเห็นที่ 13


Northrop F.5 A. Freedom Fighter คู่ขวัญมิก.21 จากสงครามเวียดนาม กว่าสหรัฐจะยอมรับว่า มันเท่านั้นที่พอยัน มิก.21 ได้ ก้อแพ้เรียบร้อยแหล่ว

ถั่วลิสงสองฝักที่ปลายปีก เป็นถังน้ำมันสำรอง ทำให้ เอฟ.5 เอ.สามารถบินรวดเดียวจากเวียดนามตอนอเมริกันแตกทัพ มาลงที่เมืองไทยได้โดยสวัสดิภาพ


โดยคุณ X-1 เมื่อวันที่ 06/08/2007 19:19:54


ความคิดเห็นที่ 14


โอวี 10  เครื่องยนต์เทอร์โบพร็อพครับ...........และที่บอกว่า เปลพยาบาล 1 เปล นี่คงหมายถึงช่องด้านหลังลำตัวใช่ไหมครับ  โอวี 10 จะมีช่องระวางบรรทุกด้านหลังตรงลำตัวสามารถบรรทุกคนหรือสิ่งของได้   แต่ที่เขาเอาไว้ใช้งานจริงๆคือ การบรรทุกนักโดด สำหรับแทรกซึมทางอากาศครับ  ซึ่งถ้าจำไม่ผิดบรรทุกได้ประมาณ 2-3 นายครับ สำหรับภารกิจการแทรกซึมทางอากาศ......ยังไม่เคยได้ยินว่าช่องดังกล่าวใช้เป็นเปลพยาบาลแต่อย่างใด  แต่ถ้าคิดถึงเหตุผลความเป็นจริงแล้ว ไม่น่าจะเหมาะสมในการทำเปลพยาบาลครับ

         1.  ถ้าทำเป็นเปลพยาบาลจริงจะทำเพื่ออะไร   จะให้ส่งกลับทางสายการแพทย์(คงเข้าใจคำว่าส่งกลับฯนะครับ)ส่งกลับจากแนวหน้ามายังที่พยาบาล   แล้วโอวี 10 จะลงไปรับคนเจ็บเพื่อส่งกลับอย่างไร? ลองนึกภาพครับ ผมยังมองไม่เห็นทางที่ โอวี 10 จะลงไปรับได้

         2   หรือถ้าคุณหมายความว่าส่งกลับจากสนามบินส่วนหน้าไปยังสนามบินส่วนหลัง  ผมก็ยังมองไม่เห็นถึงความจำเป็นที่จะเอา โอวี 10 มาใช้เพื่อภารกิจดังกล่าวบรรทุกทีละ 1 เปล เนี่ยนะครับ ไหนจะความยุ่งยากในการดูแลคนเจ็บในระหว่างการลำเลียง  ซึ่งมันมีเครื่องบินที่รับภารกิจนี้อยู่แล้ว  หรือจะบอกว่า เครื่องบินที่รับภารกิจดังกล่าวมีไม่เพียงพอ  มันก็ไม่เวิร์ค อยู่ดีที่จะเอา โอวี 10 มาทำภารกิจดังกล่าว  และก็ยังมองไม่เห็นทางจะเป็นไปได้ด้วย     

 

โดยคุณ FW190 เมื่อวันที่ 06/08/2007 20:47:27


ความคิดเห็นที่ 15


ทหารไทยหัวใสเหม่ง สงครามช่องบก เอฟ.5 บอมบ์แกวไม่โดนซักที ติดเหลี่ยมเขา เราก้อเอา เอ็ม.26 ใส่แก้ว แล้วถอดสลัก โปรยจากไอ้ปากหมา ผลคือแกวอ่วมคับ<-------------------------    ทำอย่างไรครับ  ลองอธิบายหน่อยสิครับ  ผมนึกภาพไม่ออก............ต้องใช้ เอ็ม 26 ซักกี่ลูกต่อ โอ 1  1 ลำ ครับ และต้องใช้  โอ 1 กี่ลำต่อ 1 ภารกิจ  แล้วทิ้งลงมายังไงครับ  โยนมาทางหน้าต่างหรือครับ  แล้วตอนใส่แก้วแล้วบรรทุกไปในเครื่องบินนี่ทำยังไงครับ ผูกรัดมัดตรึงยังไง  แล้วถ้าเกิดตอนเทค ออฟ  หรือเครื่องบินตกหลุมอากาส  แล้วแก้วที่ใส่ เอ็ม 26 มันดันกระทบกันหรือกระทบตัวเครื่องแตกนี่คงมันส์พิลึกครับ สงสัยไม่แกวหรอกครับที่อ่วม ผมว่าลูกเรือ โอ 1 ลำนั้นแหละครับที่อ่วม.......และการบินเข้าไปทิ้งแก้วระเบิดนี่จะต้องบินต่ำๆใช่ไหมครับ เพราะถ้าบินสูงนี่สงสัยมันจะลงตรงไหนก็ไม่รู้ เผลอๆอาจจะไปโดนหัวพวกเดียวกันก็ได้   ผมว่านักบิน โอ 1 ลำนั้นใจถึงสุดยอดครับ  บินต่ำลงไปฝ่าห่ากระสุนปืนและอาวุธปล่อยทั้งนำวิถีและไม่นำวิถี เพื่อที่จะไปหยอดแก้วระเบิด  แล้วจะหยอดใส่อะไรดีครับ  สงสัยต้องเลือกเบิม(บังเกอร์) ทก.(ที่บังคับการณ์) หรือ เบิมสื่อสารก่อน  แล้ว เอ็ม 26 มันจะเจาะลงไปได้หรือเปล่าหว่า  อืมมมม......สงสัยคนอนุมัติภารกิจดังกล่าวยังแฮงก์ไม่สร่างเลย อนุมัติภารกิจ.........แต่ยอมรับอย่างใจถึงมากครับ

                       

 

โดยคุณ FW190 เมื่อวันที่ 06/08/2007 21:01:57


ความคิดเห็นที่ 16


อันนี้เทอร์โบแฟน


โดยคุณ TIGGER03 เมื่อวันที่ 07/08/2007 08:20:59


ความคิดเห็นที่ 17


ส่วนอันนี้เทอร์โบพรอพ


โดยคุณ TIGGER03 เมื่อวันที่ 07/08/2007 08:23:02


ความคิดเห็นที่ 18


ที่ O-1 Birddog ถูกเรียกว่าไอ้ปากหมาก็เพราะว่ามันทำหน้าที่เป็น FAC ครับ....Forward Air Controller มีหน้าที่ความคุมปฏิบัติการทางอากาศของเครื่องบินขับไล่-โจมตี โดยจะทำหน้าที่ชี้เป้าให้กับเครื่องบินเหล่านั้นด้วย smoke ครับ และเครื่องลินขับไล่-โจมตีก็จะเข้าทำภารกิจครับ
โดยคุณ Skyman เมื่อวันที่ 07/08/2007 08:23:22


ความคิดเห็นที่ 19


OV.10 สามารถเปิดช่องท้ายลำตัว ซึ่งมีที่กว้างพอบรรจุผู้บาดเจ็บและเปลพยาบาลได้ 1 ที่นะคับ คือตามสเป๊กเขาว่ามาแบบนั้น

หรืออาจใช้บรรทุกอะไรก้อแล้วแต่ที่มันบรรทุกได้ ส่วนการรับผู้บาดเจ็บก้ออาจกระทำได้คับถ้ามีสนามบิน

กรณี เอ็ม.26 ใส่แก้วน้ำนั้น คงต้องไปดูปูมสงครามที่บันทึกไว้ในหนังสือของทหารนะคับ อย่างเช่นยุทธโกษ เพราะผมก้อดูมาจากตู้หนังสือของกองร้อยเหมือนกัน แต่ไม่ได้จำว่าปีไหน

เชื่อว่าสามารถทำได้คับ แล้วก้อหลายวิธี เช่น เอาแก้วใส่ลังขึ้นไป เอาระเบิดยัด ดึงสลักแล้วโปรยลงมา หรือเอาระเบิดใส่แก้วหนาหน่อย ให้กระเดื่องยัดอยู่ในแก้ว มันก้อจะอัดลูกระเบิดแน่นอยู่กับแก้ว แล้วก้อเอาแก้วใส่ลัง ลังที่ใส่แก้วมันก้อเป็นช่อง ๆ ที่บังคับแก้วอยู่แล้ว เครื่องบินตกหลุมอากาศก้อคงไม่กระเทือนมากไปกว่ารถบรรทุกตกหลุมดอกคับ ไม่งั้นเค้าคงขนแก้วใส่ลังไปขายทั่วประเทศไม่ได้ มีหวังแตกป่นปี้หมด

ในการรบจริง อาวุธที่ว่าสุดยอดไฮเท็คบางที่ บางสถานการณ์มันก้อไม่มีความหมาย ในที่สุดก้อสติปัญญาของทหารเองแหล่ะคับ ที่จะนำเอาสิ่งที่มีอยู่มาทำเป็นอาวุธที่เหมาะสมกับสถานการณ์ และสภาพพื้นที่ในเวลานั้น

โดยคุณ X-1 เมื่อวันที่ 07/08/2007 11:52:25


ความคิดเห็นที่ 20


ยิ่งพวก ตชด. พวกนี้เก่งมากเรื่องดัดแปลงอาวุธ เคยเห็นเค้าเอาระเบิด มินิ วี.4 มาถอดดินถ่วงเวลาเอาไปทำทุ่นระเบิดดักเขมรกัน บางคนเอาลูกปืนเอชเค.มาทำกับดัก คนเดินเหยียบก้อขาทะลุ สมัยนี้เราไม่ได้รบกับใคร ก้อเลยไม่มีคนรู้เรื่องการรบนอกตำราเท่าไรคับ เอาไว้ได้รบแถวบ้านเราจริง ๆ นั่นแหล่ะ จึงจะรู้ว่า เมื่อยิงกันแล้วปัญญาจะเกิด แม้ไม้ใกล้มือก้อเป็นอาวุธฆ่าคนได้คับ
โดยคุณ X-1 เมื่อวันที่ 07/08/2007 11:57:41


ความคิดเห็นที่ 21


ถ้าพูดคำว่าใจถึง สมัยก่อนทหารใจถึงทุกคนคับ ในเรื่องความบ้าบิ่นกล้าทำในสิ่งที่ทหารอเมริกันยังตาค้าง เอาแค่คงจำกันได้ ตอนที่แขกอาหรับจี้รถบรรทุก 6 ล้อ เอาไปบรรทุกปุ๋ยยูเรียคลุกโซล่าหนัก 1 ตัน กะเอาไปถล่มสถานทูตอิสราเอล จนเกิดเฉี่ยวชนกับมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ตำรวจเลยเอามาจอดหน้า สน.ลุมพินี.ได้มั๊ยคับ

พอรู้ว่าเป็นระเบิด พลาธิการของตำรวจก้อมาจัดการเก็บกู้ ภาพการเก็บกู้ระเบิดขนาด 1 ตันของเจ้าหน้าที่ไทย อิสราเอลตาค้างเลยคับ พอหายตกใจ อิสราเอลก้อรีบส่งหุ่นยนต์เก็บกู้วัตถุระเบิดมาให้ 3 ตัว พร้อมส่งวิทยากรมาฝึกสอนให้ อิสราเอลถึงกับร้อง โอย...ยูใช้มือเปล่ากู้ระเบิดขนาด 1 ตันรึนี่

คับ...ภาพที่ออกไป เจ้าหน้าที่ไทยมีเพียงมือที่สวมถุงมือ เปิดฝาแท๊งก์ระเบิด แล้วก้อเอามือล้วงเข้าไปควักเอาปุ๋ยยูเรียออกมาที่ละอุ้งมือ ใส่กระป๋อง

คิดว่านี่ข้อมูลมั่วอีกหรือเปล่า....

 

โดยคุณ X-1 เมื่อวันที่ 07/08/2007 12:07:58


ความคิดเห็นที่ 22


เครื่องยนต์ของ OV.10 ตอนแรกก้อคิดว่าเทอร์โบพร็อพเหมือนกัน แต่ดูแล้วเห็นว่าหัวมันโต ไม่เรียวแบบเทอร์โบพร็อพ หาดูในเว็บ ก้อเจอแต่บอกว่าเป็นเครื่องยนต์กำลัง 715 แรงม้า 2 เครื่องยนต์ เลยใส่เทอร์โบแฟนลงไปก่อน เพราะหัวเครื่องยนต์มันโตคล้ายกัน

ถ้าผิดก้อขอขอบคุณท่านที่ชี้แจงมาคับ


โดยคุณ X-1 เมื่อวันที่ 07/08/2007 12:28:54


ความคิดเห็นที่ 23


 เชื่อว่าสามารถทำได้คับ แล้วก้อหลายวิธี เช่น เอาแก้วใส่ลังขึ้นไป เอาระเบิดยัด ดึงสลักแล้วโปรยลงมา หรือเอาระเบิดใส่แก้วหนาหน่อย ให้กระเดื่องยัดอยู่ในแก้ว มันก้อจะอัดลูกระเบิดแน่นอยู่กับแก้ว แล้วก้อเอาแก้วใส่ลัง ลังที่ใส่แก้วมันก้อเป็นช่อง ๆ ที่บังคับแก้วอยู่แล้ว เครื่องบินตกหลุมอากาศก้อคงไม่กระเทือนมากไปกว่ารถบรรทุกตกหลุมดอกคับ ไม่งั้นเค้าคงขนแก้วใส่ลังไปขายทั่วประเทศไม่ได้ มีหวังแตกป่นปี้หมด<------------- ไอ้เรื่องระเบิดแสวงเครื่องนะผมเข้าใจครับ แต่ที่งงก็คือวิธีการโปรยนั่นเอง มันคงทุลักทุเลน่าดู ลองนึกภาพดูครับ  เรื่องความสูงอีก เรื่องความคุ้มค่า และที่สำคัญคนที่อนุมัติให้ทำนี่แหละ .............ผมพอรู้แล้วว่าคุณ เอาข้อมูลมาจากไหน........หาอ่านตามหนังสือในห้องพักผ่อนกองร้อย  ฟังจ่าโม้บ้างจริงบ้าง+ประสบเจอเองหรือฟังหน่วยที่อยู่พื้นที่เดียวกันเล่าให้ฟัง และสุดท้ายก็มาประมวลผลประติดประต่อกันเองผสานด้วยความรู้สึกของคุณ......อืมมม  ผมพอจะมองภาพออกแล้ว.................ดึงถุงปุ๋ยออกนั่นนะ ถ้ามันตัดวงจรไปแล้ว(เข้าใจไหมครับ)ก็ดึงออกได้สบายครับ   เพราะไอ้ปุ๋ยนะมันเป็นแค่ตัวขยายการระเบิดครับ(เข้าใจไหมครับ ถ้ายังงง ถามมาได้เลยครับ เดี๋ยวอธิบายให้ฟัง)............ใครมีข้อมูลละเอียดของเรื่องดังกล่าวหรือเปล่าครับ...แต่ผมเชื่อว่า คงตัดวงจรไปแล้วถึงได้เคลื่อนย้ายถุงปุ๋ย.....หรือไม่เช่นนั้นละก็ ถ้ายังไม่ตัดวงจรแล้วทำเช่นนั้นก็หมายความว่า คนทำไม่รู้ ทำไปด้วยความไม่รู้แต่โชคดีที่มันไม่เกิดอะไรขึ้น

  

โดยคุณ FW190 เมื่อวันที่ 07/08/2007 12:36:03


ความคิดเห็นที่ 24


  ลองดูภาพเครื่องยนต์ เทอร์โบแฟน กับ เทอร์โบพร็อพ ดีๆครับ  ผมว่ายังไงมันก็ดูไม่คล้ายกันมากเลยนะครับ มันมีจุดเด่นชนิดที่ว่ามองภายนอกละก็ไม่มีทางสับสนครับ  คุณรู้หรือเปล่าว่า เอฟ 16 นี่มันใช้เครื่องยนต์อะไร...........................  ถ้าคุณบอกว่า เครื่องลูกสูบ กับ เครื่องเทอร์โบพร็อพ ยังพอทน  แต่นี่ผมว่าคุณไม่ได้สับสนที่รูปหรอกครับ แต่คุณสับสนที่ชื่อมันมากกว่า  และจะลงอะไรที่มันเป็นข้อเท็จจริงก็ต้องพิจารณาดีๆครับ ถ้าไม่ชัวร์อย่าลงแบบฟันธง  เพราะมันจะลดความน่าเชื่อถือของคุณเอง    ลำพังผิดกระทู้ สอง กระทู้ไม่มีใครเขาว่าหรอกครับ มีแต่จะอธิบายให้ทราบถึงข้อเท็จจริง.........ผมไม่อยากให้คนที่เข้ามาที่หลังในบอร์ดมาว่าแบบเหมารวมได้ว่า  ไอ้คนบอร์ดนี้มันมั่วนี่หว่า  มันจะทำให้คุณภาพบอร์ดลดลงไปเยอะครับ และจะทำให้ผู้ที่เริ่มศึกษาหาข้อมูลในด้านนี้สับสนครับ......ผมว่าคุณคงจะเข้าใจ
โดยคุณ FW190 เมื่อวันที่ 07/08/2007 12:44:13


ความคิดเห็นที่ 25


ถูกของท่านคับ ระเบิดชุดที่เป็นตัวจุด คือเชื้อปะทุ กับ ดินทีเอ็นที.ขนาด 1 ปอนด์ 3 แท่งถูกตัดวงจรไปแล้ว เป็นท่านเป็นผมแล้วก้อบอกว่ามันสบายมาก คิดว่า จนท.พลาฯ ก้อคงคิดยังงั้นเหมือนกัน จึงได้เอามือโกยมาเป็นเรื่องปกติที่ทำกันมานานนม

แต่ฝรั่งเค้าไม่เคยทำนี่คับ เค้าก้อร้องมายก้อดหยั่งที่ว่า ผมถึงบอกว่าไอ้สิ่งที่เราทำในสนามรบ บางครั้งมันก้อเป็นเรื่องที่เราทำปกติพื้น ๆ แต่ฝรั่งเห็นมันตกใจคับ

อเมริกันสร้างหนังแรมโบ้ขึ้น เท็จจริงอย่างไรไม่รู้ แต่ว่าสร้างขึ้นโดยมีแรงดลใจจากสงครามเวียดนาม โดยพระเอกเอาลูกบ้ามาจากทหารไทยนี่แหล่ะคับ

เป็นข้อมูลไม่ยืนยันนะคับ เพราะฟังเค้าว่ามาอีกที

ในการรบที่ช่องบก ผมไม่ได้ไปรบด้วยนะคับ มันก้อเลยต้องดูต้องฟังจากรุ่นพี่ที่เค้าไปกันมา เค้าว่ามามีเหตุมีผล ผมก้อเป็นคนทะลึ่ง ๆ แอบเอาระเบิดยัดแก้วน้ำดู มันก้อแน่นดีคับ คิดว่าเค้าก้อน่าจะทำได้เหมือนกันอย่างที่เค้าว่านั่นแหล่ะ

ประสบการณ์ทหาร ถ่ายทอดจากรุ่นพี่สู่รุ่นน้องอยู่แล้วคับ จะไม่เชื่อรุ่นพี่ได้ยังไง?

โดยคุณ X-1 เมื่อวันที่ 07/08/2007 12:57:04


ความคิดเห็นที่ 26


Cessna O-1 Birthdog ถูกเวียดกงตั้งฉายาให้ว่า "ไอ้ปากหมา" เพราะมันชอบยิงจรวดควันเข้าใส่ที่ตั้งข้าศึก หลังจากนั้น ปืนใหญ่ก้อจะบรรเลงตามหลัง โดยเล็งไปที่ควัน >>>  Birthdog ตามความหมายของคนที่ตั่งฉายาเจ้าโอวัน คือ หมาของนายพรานครับ เมื่อพรานยิงนกตกลงมาได้ เจ้าหมาที่ว่านี้ก็จะวิ่งไปหา แล้วคาบนกโชคร้ายมาให้เจ้าของครับ มันดันมาตรงกับสำนวนไทย เราเลยเข้าใจว่ามันปากหมา บอกให้เครื่องมาโจมตี   

โดยคุณ Gapster เมื่อวันที่ 07/08/2007 14:33:10


ความคิดเห็นที่ 27


ขอแจมT-33 ซักรูป ไม่ทราบชื่อคนถ่าย ยกเครดิตให้กองทัพอากาศละกันครับ


โดยคุณ Gapster เมื่อวันที่ 07/08/2007 14:34:46


ความคิดเห็นที่ 28


 ครับผมไม่เถี่ยงเรื่องการถ่ายทอดจากรุ่นพี่ไปยังรุ่นน้องแต่เราต้องพิจารณาให้ดีครับ และ ยิ่งจะมานำลงถ่ายทอดในสื่อสาธารณะนี่ยิ่งต้องพิจารณาให้ดีและรูปแบบการลงด้วยครับ.............ที่ฟังมาที่ผมพิจารณาแล้ว ไอ้ทำได้นะ มันทำได้ครับ แต่ความสมเหตุผลนะมันอีกเรื่องนึง ถ้าทำจริงๆ ที่ผมคิดตามนะครับน่าจะเป็นลักษณะในทำนองที่ว่า เครื่อง โอ 1 ขึ้นบินตรวจการณ์ เพื่อ ตรวจการณ์หาแนวการวางตัวและตำบลจุดสำคัญต่างๆ ซึ่งมันก็เป็นภารกิจหลักอันนึงของมันอยู่แล้ว   แต่ไหนๆก็บินขึ้นไปอยู่แล้วก็เลยมีของแถมขึ้นไปก็ไอ้เจ้าระเบิดแสวงเครื่องที่คุณว่านั่นแหละครับ ซึ่ง มันก็คงไม่ได้มีความมุ่งหมายหลักที่จะทำลายโดยตรง แต่มันเป็นผลของเรื่องขวัญและกำลังใจมากกว่า บินผ่าน เพื่อตรวจการณ์แล้ว เทกระจาดลงไปซักถาด มั่วลงไป เพื่อทำลายและข่มขวัญข้าศึก ข้าศึกดวงกุดก็อาจจะแจ็คพ็อตแตกถูกหวย 2 ตัวตรง 26 ไปกินก็กลับบ้านเก่าไป ไม่โดนอย่างน้อยๆมันก็ข่มขวัญละครับ.........แต่สิ่งที่คุณนำเสนอออกมานั้นมันตีความหมายว่า เราเอา เอฟ 5 ทำแอร์สไตรค์ แล้วไม่ได้ผล จึงเอา โอ 1 มาทำอย่างที่คุณว่าแทน   ซึ่งความหมายมันออกมาคนละเรื่องเลยครับ ความสมเหตุสมผลมันฟังไม่ได้น้ำหนัก   เอฟ 5 บินเร็ว ทำให้ทิ้งลงไม่แม่นยำ  ม้ารองก้คงไม่ใช่ โอ 1 อยู่ดี(ในภารกิจเดียวกับ เอฟ 5) มันน่าจะเป็น โอวี 10 มากกว่า...........ลองพิจารณาดีๆครับ ถ้าไม่ชัวร์อย่าลงแบบฟันธงครับ
โดยคุณ FW190 เมื่อวันที่ 07/08/2007 14:49:22


ความคิดเห็นที่ 29









ผบ.บยอ.เป็นประธาน พิธีปลดประจำการ OV-10 C

พลอากาศเอก ชลิต พุกผาสุข ผู้บัญชาการกองบัญชาการยุทธทางอากาศ คล้องพวงมาลัยเครื่องบินโจมตีแบบ ๕ (OV-10 C) เนื่องในโอกาสเป็นประธานในพิธีปลดประจำการภายหลังจากประจำการมานาน ๓๓ ปี โอกาสนี้ พลอากาศเอก ทองเลื่อน ประพัฒน์ทอง ผู้บัญชาการกองบัญชาการสนับสนุนทหารอากาศ ทำหน้าที่หัวหน้าหมู่บินหมู่ ๘ LAST FLIGHT ณ ลานจอดฝูงบิน ๔๑๑ กองบิน ๔๑ กองพลบินที่ ๓ กองบัญชาการยุทธทางอากาศ เมื่อวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๔๗

อำลา อาลัย เครื่องบินโจมตีแบบ ๕ ( OV-10 C) เครื่องบินมิตรภาพแห่งปี ๒๕๔๖
เมื่อวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๔๗ ที่ผ่านมา พลอากาศเอก ชลิต พุกผาสุข ผู้บัญชาการกองบัญชาการยุทธทางอากาศ เป็นประธานในพิธีปลดประจำการเครื่องบินโจมตีแบบ ๕ (OV-10 C) ณ ลานจอดฝูงบิน ๔๑๑ กองบิน ๔๑ กองพลบินที่ ๓ กองบัญชาการยุทธทางอากาศ
เครื่องบิน OV-10 C เป็นเครื่องบินโจมตีที่ได้รับการออกแบบสร้างโดยบริษัท นอร์ธอเมริกัน ประเทศสหรัฐฯ ซึ่งภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท ร็อคเวลอินเตอร์เนชั่นแนล บรรจุเข้าประจำการตามความต้องการของกองทัพอากาศ กองทัพเรือ และนาวิกโยธินสหรัฐฯ เพื่อใช้ในภารกิจการควบคุมอากาศยานหน้าและโจมตีสนับสนุนโดยใกล้ชิด ในระหว่างสงครามเวียดนาม
ปี ๒๕๑๕ กองทัพอากาศมีความต้องการเครื่องบินที่ใช้ในภารกิจโจมตีสนับสนุนกองกำลังภาคพื้นในการ ปราบปรามผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ ทดแทนเครื่องบินฝึกโจมตี AT-6 G และ AT-28 D ที่รับใช้ราชการมานานจนใกล้หมดอายุการใช้งาน จึงมีการจัดส่งนักบินไปทำการประเมินค่าเครื่องบิน OV-10 A ตามคำเชิญของบริษัท จนกระทั่ง ตกลงใจซื้อเครื่องบินแบบนี้ จำนวน ๑๖ เครื่องในวงเงิน ๓๒๐ ล้านบาท ถือเป็นการใช้งบประมาณมากที่สุดภายหลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สอง กลาโหมสหรัฐกำหนดชื่อรุ่นของไทยว่า OV-10 C กองทัพอากาศทำพิธีบรรจุเครื่อง OV-10 C เมื่อวันที่ ๑๖ มิถุนายน ๒๕๑๔ ณ ลานจอดอากาศยานกองบัญชาการกองทัพอากาศ กำหนดชื่อเป็น เครื่องบินโจมตีแบบ ๕ (บ.จ.๕) บรรจุในฝูงบิน ๒๑ กองบิน ๒ โดยมี นาวาอากาศโท พิศิษฐ์ ศรีกาฬสินธุ์ เป็นผู้บังคับฝูงบิน OV-10 C คนแรก และเมื่อวันที่ ๘ ธันวาคม ๒๕๑๗ กองทัพอากาศได้ทำพิธีบรรจุเครื่องบิน OV-10 C ฝูงที่สองอีก ๑๖ เครื่องที่ฝูงบิน ๕๓ กองบิน ๕ โดยในปี ๒๕๒๕ ได้ย้ายฝูงที่สองไปบรรจุประจำการที่ ฝูงบิน ๗๑๑ กองบิน ๗๑ ฯ และย้ายไปรวมกับฝูงบินแรกที่ฝูงบิน ๔๑๑ กองบิน ๔๑ฯ อีกครั้งในปี ๒๕๓๔ จนกระทั่งปัจจุบัน โดยมี นาวาอากาศโท วิธูร ขำเจริญ ผู้บังคับฝูงบิน ๔๑๑ ฯ เป็นผู้บังคับฝูงบิน OV-10 C คนสุดท้าย
ตลอดระยะเวลา ๓๓ ปีของการประจำการ เครื่องบินโจมตีแบบ OV-10 C ได้สร้างวีรกรรมไว้ทั่วทุกหนทุกแห่ง ในการปราบปรามผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ภายในประเทศ และชายแดน จนอาจจะกล่าวได้ว่ามีการรบที่ไหน ต้องมีเครื่องบินโจมตีแบบนี้เข้าไปร่วมรบด้วยแทบทุกครั้ง
แม้ว่าภารกิจการโจมตีเพื่อสนับสนุนกองกำลังภาคพื้นจนเป็นที่กล่าวขวัญถึงวีรกรรมมากมายทั้งจากนักบินของกองทัพอากาศเอง รวมไปถึงการเป็นวีรบุรุษที่ได้รับการยกย่องจากกองกำลังภาคพื้นของกองทัพบกและกองทัพเรือแล้ว ยังเป็นที่กล่าวขวัญถึงอำนาจการทำลายล้างและความแม่นยำในการโจมตีจากบรรดาอดีตผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ในสมรภูมิต่างๆ จะไม่มีหรือสิ้นสุดไปแล้วในปัจจุบัน ซึ่ง ณ วันนี้ของ OV-10 C จึงเปลี่ยนจากภารกิจการรบเป็นภารกิจมิตรภาพระหว่างประเทศ โดยเมื่อวันที่ ๘ กันยายน ๒๕๓๖ ที่ผ่านมา พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ทำพิธีมอบเครื่องบิน OV-10 C จำนวน ๔ เครื่อง(หมายเลข 17,19,22และ25)ให้ นางกลอเรีย มาร์คาปากัล อาร์โรโย ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ ณ ฐานทัพอากาศ VILLAMORE ประเทศฟิลิปปินส์ เพื่อบรรจุประจำการในกองทัพอากาศ ฟิลิปปินส์ เพื่อใช้ในภารกิจปราบปรามผู้ก่อการร้าย และในเดือนพฤษภาคม ๒๕๔๗ กองทัพอากาศจะมอบเครื่องบินรุ่นนี้ให้กองทัพอากาศฟิลิปปินส์เพื่อเป็นความช่วยเหลือทางทหารต่อกัน อีกจำนวน ๔ เครื่อง (หมายเลข ๐๔,๐๗,๑๑ และ ๒๘) จึงน่าที่จะกล่าวได้ว่า เครื่องบินโจมตีแบบ OV-10 C นอกจากจะเป็นวีรบุรุษในยุคสงครามปราบปรามผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์แล้ว น่าที่จะได้รับการยกย่องให้เป็นเครื่องบินมิตรภาพแห่งปี ๒๕๔๖ อีกด้วย
อนึ่งเครื่องบินที่เหลือจะทำการอนุรักษ์ไว้ที่มูลนิธิอนุรักษ์และพัฒนาอากาศยานไทย ฯ ๓ เครื่อง พิพิธภัณฑ์ของกองทัพอากาศ ๑ เครื่อง กองบิน ๗ ฯ และกองบิน ๕๓ฯ แห่งละ ๑ เครื่อง ที่เหลือ ๓ เครื่อง คงเก็บไว้ที่ กองบิน ๔๑ฯ
http://www.rtaf.mi.th/rtafnews/rtafnewsdetail.asp?id=12
โดยคุณ แมวบิน เมื่อวันที่ 07/08/2007 16:37:53


ความคิดเห็นที่ 30


ครับ ผมขออนุญาต มาเสริม นิส นึงนะครับ........เรื่องเครื่องยนต์เครื่องบินอ่ะครับ....................................เอาเป็นว่าหยั่งงี้ครับ..............................เครื่องยนต์กังหันก้าซของเครื่องบินนี้ มีหลักๆอยู่ 4 ชนิดครับ เรียงจากกำลังมาก/แพง จากมากไปหาน้อย.....................คือ 1.เทอร์โบเจ็ต  2.เทอร์โบแฟน  3.เทอร์โบพร็อพ 4.เทอร์โบชาฟต์.......................

ข้อแตกต่างระหว่างแบบที่ 1 กับอีก 3แบบที่เหลือคือ เทอร์โบเจ็ตจะใช้แรงดันจากก้าซร้อนพ่นออกท่อท้ายเป็นตัวสร้างแรงกริยา ในขณะที่ 3 แบบหลัง เกียร์ที่ต่อเชื่อมระหว่าง กังหันเทอร์ไบน์จะเป็นตัวส่งกำลังให้กับใบพัด..............................

....เอาหล่ะที่นี้เรามาเริ่มต้นดูหลักการทำงานของกังหันไอพ่น มันทำงานกันอย่างไร...............................มีต้อ

โดยคุณ กบ เมื่อวันที่ 07/08/2007 17:18:06


ความคิดเห็นที่ 31


กังหันก้าซ ประกอบด้วยส่วนหลักคือ คอมเปรสเซ่อร์อัดอากาศ มีลักษณะเป็นวงกลีบซ้อนกันหลายๆชั้น เมื่อได้รับแรงหมุนมันจะพัดดันอัดอากาศไปที่ห้องเผาใหม้ซึ่งเป็นส่วนที่สอง ณห้องเผาใหม้ ฝรั่งเค้าเรียก คอมบัสชั่นแชมเบอร์(บริเวณสันดาป) เชื้อเพลิงจะถูกพ่นเข้าไปและจุดเผาใหม้ เกิดเป็นก้าซร้อน ขยายตัวและพ่นออกมาทางด้านหลัง.....................เอาหล่ะ อีตรงนี้แหล่ะสำมะคัน..................ถ้าเป็นเทอร์โบเจ็ท ไอร้อนที่พ่นออกมาส่วนหนึ่งจะถูกส่งต่อไปที่กังหันเทอร์ไบน์ เจ้านี่จะถูกกระแสไอพ่นกระทำให้เกิดแรงหมุน เค้าก็จะต่อแกนเป็นเกียร์ส่งกำลังกลับไปหมุนคอมเปรสเซอร์ สรุปคือคอมเปรสเซอร์ก็ได้แรงของเจ้ากังหันเทอรืไบน์นี่แหล่ะมาขับให้หมุน หมุนอัดก้าซร้อนไปห้องเผาใหม้ จุดไฟเผาให้ขยายส่งเป็นก้าซร้อนออกไปปั่นกังหันเทอร์ไบน์  แต่อย่างที่ว่า เทอร์โบเจ็ท ใช้แรงขับจากกระแสเจ็ทที่ออกจากท่อท้ายเป็นหลัก...............มีต่อ
โดยคุณ กบ เมื่อวันที่ 07/08/2007 17:27:10


ความคิดเห็นที่ 32


ดังนั้นกระแสเจ็ทที่นำมาปั่นกังหันเทอร์บายนี้เป็นเพียงส่วนน้อย.........................กระแสเจ็ทส่วนใหญ่จะบายพาส ตรงออกด้านหลัง เกิดเป็นกระแสเจ็ทรุนแรงใช้ในการขับเคลื่อนเครื่องบิน..................เครื่องยนต์ชนิดนี้ถ้าเปรียบกับรถก้ต้องบอกว่าเป็นของ รถสูตร1 คือต้องการรีดแรงทุกม้าออกมาแบบสุดๆ ส่วนของคอมเปรสเซอร์ต้องอัออากาศได้สุดๆดังนั้นมันจึงต้องมีหลายชั้นซ้อนกัน ห้องเผาใหม้ต้องสร้างก้าซร้อนได้มากๆ และชุดกังหันเทอร์ไบน์ที่แข็งแรง ซ้อนกันหลายชั้น เพื่อให้มีแรงมากพอไปขับชุดคอมเพรสเซอร์ขนาดมหึมา...............ดังนี้เจ้าเทอร์โบเจ็ตจึงมีแรงขับมาก มีราคาแพง  และที่สำคัญคือ บริโภคด้วยอัตราคอนสัมชั่นแบบสูบเป็นอีเงือก..........................อากาศยานที่ใช้เครื่องยนต์ประเภทนี้จึงเป็นจำพวกที่ต้องการแรงขับมากๆเพื่อใช้ในการไต่ และสร้างความเร็ว และแน่นอนนที่สุด  ....... มันจึงเหมาะกับเครื่องบินรบ...................มีต่อ
โดยคุณ กบ เมื่อวันที่ 07/08/2007 17:35:38


ความคิดเห็นที่ 33


ต่อเรื่องเทอร์โบเจ็ตอีกหน่อย............................เราเห็นเรือบินรบ บางทีตอนกำลังวิ่งขึ้น หรือบางทีตอนไต่อยู่ในอากาศ มีไฟแดงๆพ่นออกมาจากท่อท้าย...........อันนั้นเค้าเรียกว่า อาฟสะเตออร์เบิร์น  คือไอพ่นอันเป็นก้าซร้อนผ่านกรรมวิธีดังกล่าวมาแล้ว แต่เมื่อมาถึงท่อท้าย ก้าซร้อนนั้นจได้รับการพ่นเชื้อเพลิงและเผาใหม้อีกรอบ ทำให้กระแสเจ็ทเกิดการขยายตัว เพิ่มแรงขับออกมาอีกเป็นทวีคูณ..............................อาฟสเตอร์เบิร์น หรือ สันดาปท้ายนี้ ไม่จำเป็นว่าเครื่องเทอร์โบเจ็ททุกลุกทุกแบบจะต้องมี แต่ที่แน่ๆ เหล่าดารา พ่นไฟก้นดำกันทุกๆนางเลยเชียว............................................

......มาที่ 3 แบบที่เหลือ....................หลักการ/กรรมวิธีการอัดอากาศและเผาใหม้ก็เหมือนกับเทอร์โบเจ็ททุกประการ จะต่างตรงขั้นสุดท้ายคือส่วนกังหันเทอร์ไบน์ นั่นคือ 3แบบหลังนี้ จะไม่มีกระแสเจ็ทบายพาส หมายความว่า กระแสเจ็ททุกเม็ดทุกหน่วยจะถูกถ่ายทอดไปยังกังหัน เมื่อกังหันเกิดการหมุนจากแรงดังกล่าว ก็จะถ่ายกำลังไปยังเกียร์ ส่งต่อกลับไปหมุนชุดคอมเปรสเซอร์ส่วนหนึ่ง และที่เหลือส่วนใหญ่ถุกใช้ไปในการหมุนชุดใบพัด.......................เป็นที่ทราบกันว่า เครื่องบินที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ทั้ง 3 แบบนี้ ขับเคลื่อนด้วยใบพัด............................แต่เจ้าเทอร์โบแฟนนี่คือตัวเจ้าปัญหา..............................บางทีเราอาจสับสนว่าเทอร์โบแฟนคือเทอร์โบเจ็ท เนื่องจากไม่ปรากฏใบพัดใดๆอยู่ด้านนอกของเครื่อง ดูมนเป็นก้อนๆกลมๆ ดูแล้วน่าจะเป็นเทอร์โบเจ้ท..................แต่เปล๊า........ถ้าดูจากภาพข้างบน เทอร์โบแฟนก็คล้ายกับเทอร์โบพร็พ คือแกนต่อจากกังหันเทอร์ไบน์ส่งกำลังหมุนใบพัด เทอร์โบพร็พมีใบพัดอยู่นอกเครื่องเห็นชัดเจน เราก็เรียกว่าเครื่องบินใบพัด.............................แต่เทอร์โบแฟนนี่ ใบพัดอยู่ข้างใน...........มีต่อ

โดยคุณ กบ เมื่อวันที่ 07/08/2007 17:54:04


ความคิดเห็นที่ 34


ก่อนอื่นขออภันนะครับ บางที่ผมชอบเขียนเล่นๆสนุกๆ บางทีดูไร้สาระ ยกตัวอย่าง "อาฟสะเต้อเบิรน" เดี๋ยวทึกทักว่าจริงจังนอกจากไม่ขำแล้วเดี๋ยวสวดไม่แข็งแรงแล้วยังเดาะ ......จริงๆแล้ว ปะกิต เค้าเขียน after-burn อ่านว่า อาฟเตอร์เบิร์นนะครับ แปลตรงๆว่า เผาทีหลัง ซึ่งตรงกับภาษาไทยว่า เผาจริง ตรงข้ามกับ บีฟอร์เบิร์น แปลว่า เผาหลอก.......................

......................ถึงไหนละ..................เดี๋ยวกลับไปอ่านก่อน .....มีต่อ

โดยคุณ กบ เมื่อวันที่ 07/08/2007 18:02:20


ความคิดเห็นที่ 35


อ่า..................ต่อๆ...................เทอร์โบแฟน    ใบพัดมันอยู่ข้างในครับ...............ชุดใบพัดนี้เป็นคนละชุดกับคอมเปรวเซอร์ และลมจากใบพัดตัวนี้ ก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับกระแสอากาศที่ต้องอัดและเผาใหม้...............ดูเผินๆ เทอร์โบแฟนก็มีลมออก"ตูด" เหมือนเทอร์โบเจ็ทเหมือนกัน ......แต่มันเป็นลมเย็นครับ (ลมเย็นไม่ใช่นมเย็น)  ลมที่เกิดจากการหมุนพัดด้วยใบพัดเหมือนเทอร์โบพร็อพ...........................เครื่องยนต์ชนิดนี้ใช้เชื้อเพลิงประหยัดกว่าเทอร์โบเจ็ต แต่แน่นอนที่สุด กำลังขับก็ย่อมน้อยกว่า(แต่ก็ยังสูงกว่าเทอร์โบพร็อพ)   เครื่องบินที่ใช้เครื่องยนต์ประเภทนี้ก็พวก เครื่องบินโดยสาร ที่ต้องการแรงขับสูง แต่ก็ยังต้องการความประหยัดอยู่ด้วย.....................ขอข้ามเรื่องเทอร์โบชาฟท์ไปก่อน..........ถึงตรงนี้เลยมีคำถามมาทายว่า ท่านคิดว่า เครื่องยนต์ของเครื่องบินทิ้งระเบิดขนาดใหญ่อย่าง บี-52  เป็นเครื่องยนต์แบบ เทอร์โบเจ็ทหรือเทอร์โบแฟน ..................ทราบคำตอบแล้วเขียนลงพร้อมชื่อที่อยู่ แนบกับห่อผ้าอนามัยยี่ห้อใดก็ได้ ขอให้ให้เป็นเป็นห่อเปล่าๆ ไม่รับห่อที่ใส่ชิ้นที่ใช้แล้ว..................ส่งมาที่ตู้ปณ. 123456789 .........จะจับรางวัลพรุ่งนี้.........ผู้โชคดีจะไดรับ เครื่องยนต์เทอร์โบเจ็ต 1 ลูก พร้อมผ้าอนามัย(ยังไม่ได้ใช้) 1 กล่อง........รีบๆส่งนะครับ.............................ไปหล่ะ..........................
โดยคุณ กบ เมื่อวันที่ 07/08/2007 18:19:44


ความคิดเห็นที่ 36


ผมว่า ในการรบที่บ้านร่มเกล้า ทอ. ยังติดวิธีการใช้กำลังทางอากาศโจมตีแบบคลาสสิคอยู่นั่นเองครับ..............................กล่าวคือ ในสมัยสงครามเวียตนาม ก่อนไอ้กันมันจะส่งทหารราบเข้าตีญวน มันจะส่ง เอฟ- 4 เอฟ-5 เอฟ-105 เข้าทิ้งบอมบ์ก่อน หลังจากคลื่นการโจมตีระรอกแรกๆบดบี้ข้าศึกง่อยเปลี้ยได้ที่ เอ-1 หรือ ที-28 จะตามมาเก็บสแปร์อีกรอบ รอบหลังนี้ ก๊อเนื่องจากอกาศยานบินได้ช้า ประกอบกับส่วนต่อสู้อากาศยานของข้าศึกโดนมหาไฟกวาดบรรลัยไปมากแล้ว เหล่าท่านจึงมีเวลาบินอ้อยอิ่ง ค่อยบรรจงทอยเก็บเสี้ยนหนามที่หลงเหลือได้อย่างปราณีต..................................... น่าขนลุกซ์ ตรงที่ข้าศึกของเราที่บ้านร่มเกล้า เป็นเกลอเก่ากะสหายรบครั้งเวียตนาม  เพราะฉนั้นมุกตื้นๆเหล่านี้เค้าอ่านขาดหมด........................ แนวคลาสสิค จึง โดนดัดหลังด้วย สไตล์โมเดิ้ล และโพสโมเดิ้ล ร่วง เดี้ยงไปเป็นแถบ............................. ถึงตรงนี้พูดได้เลยว่า โอกาศที่เครื่องบินโจมตีใบพัดจะกลับเข้ามารับใช้ชาติอีกครั้ง คงยากส์เต็มทีแล้ว นอกเสียจากจะเป็นเครื่องบินดัดแปลง ที่ใช้ปืนยิงออกทางด้านข้าง บินวนที่ระยะสูงแล้วสาดเม็ดถั่วลงมาเป็นข้าวตอกแตก อย่างนี้แนวนี้ คงพอยังได้เกิด ไอ้กันก็ยังมีใช้(เอซี-130)....................................พูดถึงสถิติการดีดตัวของ โอวี-10 ถือว่าใช้ได้ครับ เท่าที่ได้ยินข่าว ดีดออกทุกที........................แต่เคสสุดท้าย (ก่อนปลดราว 3-4ปี) บรองโก้ เครื่องขัดข้อง นักบินประคองม้าขาเป๋บินวนไปที่อ่างเก็บน้ำ พอถึงจุดก็สละอากาศยาน ปรากฎว่าการดีดตัวราบรื่น แต่ตอนลงน้ำ สายร่มพันตัวยุ่งเหยิง นักบินค่อยๆจมลง มีชาวประมงใกล้รุดพายเรือไปช่วยแต่ไม่ทัน ภาพสุดท้ายที่เห็นคือ นักบินค่อยๆจมลง พร้อมคำขอร้อง "ช่วยด้วยๆ" ก่อนจมมิดหายไปต่อหน้าต่อตา

โดยคุณ กบ เมื่อวันที่ 09/08/2007 08:55:45


ความคิดเห็นที่ 37


ที่นั่งของนักบิน OV-10 ทุกรุ่นนั้น  เป็นที่นั่งที่สามารถดีดตัวได้ครับ ในประเทศไทย เท่าที่ทราบก็มีสองครั้ง  ครั้งแรกน่าจะเป็นครั้งของครูมอส ที่ OV-10 ของท่านถูกยิงขณะเข้าโจมตีเป้าหมายบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา  นักบินทั้งสองท่านสามารถดีดตัว และได้รับการช่วยเหลือกลับมาออกมาได้อย่างปลอดภัย  ส่วนครั้งที่สอง  ก็ที่บ้านร่มเกล้า  ที่เครื่อง OV-10 ถูกยิง  นักบินคือ น.ท.สมนึก เยี่ยมสถาน (ขออภัยถ้าจำนามสุกลของท่านผิด) ส่วนนักบินที่สองจำไม่ได้ครับ  ทั้งสองท่านดีดตัวออกจากเครื่องได้  แต่ถูกฝ่ายลาวควบคุมตัวไว้และมอบกลับมาให้กับฝ่ายเราในภายหลัง  ในครั้งบ้านร่มเกล้านี่ขอถามหน่อยเถอะครับว่า  กองทัพอากาศคิดยังไง  ถึงได้ส่งเครื่องบิน OV-10 ไปโจมตีเป้าหมายที่มีการป้องกันจาก ปตอ. และ จรวดแซม อย่างหนาแน่ขนาดนั้น   แต่ที่น่าแปลกใจคือ ไม่มี A-37 ร่วมกันการรบครั้งนั้นเลย  รบกวนท่านที่ทราบบอกหน่อยเถอะครับ  สงสัยมาเกือบจะ 20 ปีแล้ว

โดยคุณ vasin เมื่อวันที่ 09/08/2007 06:52:16


ความคิดเห็นที่ 38


ขอข้ามเรื่องเทอร์โบชาฟท์ไปก่อน..........ถึงตรงนี้เลยมีคำถามมาทายว่า ท่านคิดว่า เครื่องยนต์ของเครื่องบินทิ้งระเบิดขนาดใหญ่อย่าง บี-52  เป็นเครื่องยนต์แบบ เทอร์โบเจ็ทหรือเทอร์โบแฟน ..................ทราบคำตอบแล้วเขียนลงพร้อมชื่อที่อยู่ แนบกับห่อผ้าอนามัยยี่ห้อใดก็ได้ ขอให้ให้เป็นเป็นห่อเปล่าๆ ไม่รับห่อที่ใส่ชิ้นที่ใช้แล้ว..................ส่งมาที่ตู้ปณ. 123456789 .........จะจับรางวัลพรุ่งนี้.........ผู้โชคดีจะไดรับ เครื่องยนต์เทอร์โบเจ็ต 1 ลูก พร้อมผ้าอนามัย(ยังไม่ได้ใช้) 1 กล่อง........รีบๆส่งนะครับ.............................ไปหล่ะ.......................... >>>>>>> ขำกลิ้งกับประโยค นี้ ท่านกบคนเดิมกลับมาแล้ว กรั่กๆๆๆๆๆๆๆๆ


โดยคุณ nok เมื่อวันที่ 07/08/2007 23:17:45


ความคิดเห็นที่ 39


พี่ๆครับ เจ้า OV-10Cนี่ผมสงสัยตรง เก้าอี้นักบินครับ มันสามารถดีดตัวออกได้หรือปล่าวครับ ผมเห็นมันหนาๆ ดูเหมือนเก้าอี้ที่มันดีดตัวได้ สงสัยครับสงสัย

โดยคุณ ineedonly เมื่อวันที่ 09/08/2007 01:03:20


ความคิดเห็นที่ 40


: ขอข้ามเรื่องเทอร์โบชาฟท์ไปก่อน..........ถึงตรงนี้เลยมีคำถามมาทายว่า ท่านคิดว่า เครื่องยนต์ของเครื่องบินทิ้งระเบิดขนาดใหญ่อย่าง บี-52  เป็นเครื่องยนต์แบบ เทอร์โบเจ็ทหรือเทอร์โบแฟน ..................ทราบคำตอบแล้วเขียนลงพร้อมชื่อที่อยู่ แนบกับห่อผ้าอนามัยยี่ห้อใดก็ได้ ขอให้ให้เป็นเป็นห่อเปล่าๆ ไม่รับห่อที่ใส่ชิ้นที่ใช้แล้ว..................ส่งมาที่ตู้ปณ. 123456789 .........จะจับรางวัลพรุ่งนี้.........ผู้โชคดีจะไดรับ เครื่องยนต์เทอร์โบเจ็ต 1 ลูก พร้อมผ้าอนามัย(ยังไม่ได้ใช้) 1 กล่อง........รีบๆส่งนะครับ.............................ไปหล่ะ.......................... >>>>>>>  ร่วมด้วยช่วยฮากับพี่Nok


โดยคุณ icy_nominee เมื่อวันที่ 07/08/2007 23:40:46


ความคิดเห็นที่ 41


 

...ฮาด้วยคนฮะพี่ไอซ์ อิอิ....

...ปล.ผมยังไม่ลืม เรื่อง ระยะยิงหวังผล ของปืน ไม่ได้เลย เอิ๊ก ๆ ๆ....คงจำกันได้นะคับ ปลย.เอ็ม-16 หวังผล แค่ 50 เมตร ใครก็ไม่รู้ บอกไว้...555+

http://72.14.235.104/custom?q=cache:y6lJ6OOfSSAJ:www.thaifighterclub.com/%3Faction%3DdetailQuestion%26questionid%3D3139%26language%3D1+%E0%B8%9B%E0%B8%81.93&hl=th&ct=clnk&cd=3

 

 

โดยคุณ ท.กองหนุน เมื่อวันที่ 08/08/2007 21:21:44


ความคิดเห็นที่ 42


คิดถึง T33 นะจ๊ะ ฮือๆ~

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ขำๆครับ แฮ่

โดยคุณ Acid เมื่อวันที่ 09/08/2007 11:37:17