หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


will be mother day แม่โกหกผม 8 ครั้งในชีวิต

โดยคุณ : Therminator เมื่อวันที่ : 03/08/2007 16:54:06

แม่โกหกผม 8 ครั้งในชีวิต

1. เรื่องเริ่มขึ้นตอนเมื่อผมเป็นเด็ก ๆ

ผมเกิดในครอบครัวยากจน ครอบครัวของเราจนมากจนต้องอดข้าวบ่อยๆ เมื่อไหร่ก็ตามเมื่อถึงเวลากินข้าว...แม่จะแบ่งข้าวมาให้ผมเพิ่มขึ้นอีก พร้อมทั้งพูดว่า"ลูกต้องกินข้าวเพิ่มขึ้นนะ...ส่วนแม ่ไม่ค่อยหิว" นี้เป็นครั้งแรกที่แม่โกหกผม

2. เมื่อผมเติบโตขึ้น

คุณแม่เพียรพยายามหาเวลาว่างไปตกปลาในแม่น้ำ เพื่อว่าผมจะได้กินอาหารที่มีประโยชน์ต่อการเจริญเติบโตของผม แม่ต้มปลาที่ตกมาได้ทำเป็นซุปให้ผมกิน ในขณะที่ผมกินแกงต้มปลา..แม่จะนั่งข้าง ๆผม แทะกิน เศษเนื้อปลาที่ติดอยู่ตามก้างปลาหลังจากที่ผมได้กินเนื้อปลาไปแล้ว ผมรู้สึกตื้นตันใจมาก..ผมพยายามแบ่งเนื้อปลาให้แม่ แต่แม่ปฎิเสธทันควันพร้อมกับกล่าวว่า "ลูกกินเถอะ...แม่ไม่ค่อยชอบกินเนื้อปลา" นี่เป็นครั้งที่ 2 ที่แม่โกหกผม

3. เมื่อผมเรียนอยู่ชั้นมัธยม

เราต้องใช้เงินเพิ่มมากขึ้น แม่ต้องหารายได้พิเศษด้วยการรับงานเล็ก ๆน้อยจากโรงงานมาทำที่บ้าน บางครั้งผมตื่นขึ้นมาตอนตี 1 หรือตี 2...ผมยังเห็นแม่กำลังทำงาน "แม่ครับ...นอนเถอะครับมันดึกมากแล้ว พรุ่งนี้แม่ต้องไปทำงานอีก" แม่ยิ้มกับผมพูดว่า "ลูกนอนต่อก่อนนะ...แม่ยังไม่เหนื่อย...นอนไม่หลับ" ครั้งที่ 3 แล้วที่แม่โกหกผม

4. ตอนเมื่อใกล้จบชั้นมัธยมผมต้องไปสอบเป็นวันสุดท้าย

แม่อุตส่าห์หยุดงานไปเป็นเพื่อนและเพื่อเป็นกำลังใจใ ห้ผม มันเป็นวันที่แดดร้อนมาก ๆ...แม่ต้องรอผมอยู่หลายชม. เมื่อผมทำข้อสอบเสร็จ...รีบออกมาหาแม่ เห็นแม่ผมมีเหงื่อออกท่วมตัว.. แต่ท่านกลับรินน้ำเย็นที่เตรียมมาให้ผมดื่ม ผมเห็นแม่รู้สึกเหนื่อยและร้อนจึงขอให้แม่ดื่มน้ำก่อน แม่พูดขึ้นว่า "ลูกดื่มเถอะ....แม่ยังไม่กระหายน้ำ" นั่นเป็นครั้งที่ 4 ที่แม่โกหกผม

5. หลังจากที่พ่อผมล้มป่วยและเสียชีวิต

คุณแม่ที่น่าสงสารต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อหารายได้มาจุนเจือครอบครัว แต่ก็ยังไม่ค่อยเพียงพอไม่ว่าคุณแม่จะพยายามมากขึ้นเพียงไร คุณลุงที่อยู่ข้าง ๆบ้านท่านเป็นคนดี พยายามมาช่วยเหลือครอบครัวเราเสมอ....เช่นซ่อมแซมบ้า นที่ผุพัง..ฯลฯ เพื่อนบ้านเห็นครอบครัวลำบากมากก็แนะนำให้แม่แต่งงานใหม่ แต่แม่ยืนกรานไม่เห็นด้วย แม่พูดกับผมว่า "แม่มีลูกอยู่ทั้งคน...แม่ไม่ต้องความรักอีก" แม่โกหกผมเป็นครั้งที่ 5 แล้ว

6. ในทื่สุดผมก็เรียนจบและมีงานทำ

ผมอยากให้แม่ซึ่งตรากตรำทำงานหนักมาตลอดได้พักผ่อนบ้าง แต่แม่ไม่ยอม.....กลับไปตลาดทุกเช้า ขายผักที่หามาได้เพื่อเลี้ยงชีพทั้ง ๆที่ผมพยายามส่งเงินมาให้แม่ (ผมต้องไปทำงานในเมืองที่ห่างไกล) แม่ผมไม่ค่อยยอมรับเงินผม..บางครั้งยังส่งเงินกลับคื นให้ผมอีก แม่พูดกับผมว่า "แม่มีเงินพอใช้แล้ว...ลูกควรเก็บเงินไว้สร้างฐานะ" แม่โกหกผมเป็นครั้งที่ 6

7. เพื่ออนาคตที่ก้าวหน้า..

ผมตัดสินใจเรียนต่อปริญญาโทด้วยทุนของมหาวิทยาลัยที่ม ีชื่อเสียงในอเมริกา เมื่อผมเรียนจบก็ได้งานทำที่นั่นและมีเงินเดือนค่อนข้างสูง เมื่อทำงานไปได้สักพัก...ผมอยากให้แม่ผมมาอยู่กับผมที่อเมริกา เพื่อว่าแม่จะได้หยุดทำงาน...พักผ่อนให้สบายในบั้นปลายของชีวิต แต่แม่ผมไม่อยากรบกวนผม...บอกผมว่า "แม่ไม่คุ้นเคยกับชีวิตต่างแดน" ครั้งที่ 7 แล้วซินะที่แม่โกหกผม

8. เมื่อแม่แก่ตัวลงไปเรื่อย ๆ..
 
ในที่สุดแม่ก็เป็นมะเร็งและต้องเข้ารับการผ่าตัดที่โรงพยาบาล ผมลางานแล้วรีบบินกลับมาหาแม่สุดที่รักทันที แม่ผมนอนพักฟื้นอยู่บนเตียงเมื่อผมไปถึง น้ำตาผมไหลอาบแก้มเมื่อเห็นแม่ซึ่งผ่ายผอมและดูทรุดโทรมลงอย่างมาก แม่รู้สึกดีใจมากที่เห็นผม....พยายามยิ้มอย่างสดชื่น ด้วยความลำบาก ผมรู้ดีว่าแม่ได้ฝืนความเจ็บปวดรวดร้าวอย่างสุดฝืน จากโรคมะเร็งร้ายที่ลามไปทั่วทั้งตัว ผมโอบกอดแม่พร้อมกับร้องไห้ด้วยความสงสาร หัวใจผมในขณะนั้นเศร้าหมองและเจ็บปวดอย่างที่สุด แม่พยายามปลอบผมด้วยเสียงที่แหบพร่าและสั่นเครือ "ลูกรักของแม่...เห็นหน้าลูกแม่ไม่รู้สึกเจ็บแล้ว" นี่เป็นครั้งที่ 8 ที่แม่โกหก และเป็นครั้งสุดท้ายในชีวิตของแม่ที่โกหกผม

แม่ที่ผมรักและบูชามาตลอดชีวิตได้ปิดตาลงและจากผมไปอย่างไม่มีวันกลับ หลังจากที่เธอกล่าวคำโกหกครั้งที่ 8 จบลง......... แปลและเรียบเรียงจาก English Forward Mail -"mother's 8 lies" ใกล้วันแม่แล้วครับ อย่าลืมว่ามีคนๆนึงนึกถึงอยู่นะครับ

ที่มา : English Forward Mail -"mother's 8 lies" FW mail
http://variety.teenee.com/foodforbrain/3503.html




ความคิดเห็นที่ 1


อ่านแล้วน้ำตาไหลเลยครับ....
โดยคุณ spinnecker เมื่อวันที่ 02/08/2007 23:18:00


ความคิดเห็นที่ 2


ปราชญ์ทุกท่าน ยกย่องความกตัญญู ..............หลายโอกาส บางคนแกล้งลืม.................... การเสียสละที่ยิ่งใหญ่ เกิดขึ้นในภาวะขาดแคลน..........................อย่ารอจนกว่าจะพร้อม การตอบแทนบุญคุณทำได้ทุกโอกาส กุศลจิตหาได้วัดจากจำนวนมูลค่า.....................ทำได้ดีที่สุดทำได้มากที่สุดเท่าที่ความสามารถจะทำได้.................วันหนึ่งเมื่อเกือบทุกสิ่งเพียบพร้อม แต่ขาดแล้วซึ่งเนื้อนาบุญผ่านวาระแห่งการทดแทน................เวลานั้น ป่วยการเปล่าที่จะถวิลหา....................ร้องให้ทำไม................ อาหารหวานคาวผลไม้ ความห่วงไยทะนุถนอม ไม่มีทางส่งให้ท่านได้.........................จงรีบทำซะ อย่าให้โอกาสผ่านไป.......................................
โดยคุณ กบ เมื่อวันที่ 03/08/2007 09:15:34


ความคิดเห็นที่ 3


เห็นด้วยครับท่าน กบ

เพราะบางคนมานึกได้ตอนที่สายไปแล้ว  ว่าถ้ารู้อย่างนั้น อย่างนี้  จะทำให้ท่านที่เรารัก  ที่ให้ชีวิตเราได้ดีว่านี้

เคยจำกันตอนที่เราไม่สบายได้ไหมใครกันที่คอยเป็นห่วงดูแล  พอโตขึ้นมาหน่อย   โดนแฟนทิ้งอยากจะโดดตึกตายไม่ได้คิดถึงคนที่รักเราทั้งสองท่านเลย

เริ่มตั้งแต่วันนี้ 

ดีกว่าไปเคาะโลงแล้วบอกว่า  ผมเอาของที่ พ่อ แม่ ชอบมาให้ครับ....อย่ารู้สึกตัวเมื่อสายเกินไป

 


โดยคุณ MCS51 เมื่อวันที่ 03/08/2007 10:18:14


ความคิดเห็นที่ 4


อ่านแล้ว คิดว่า กลับบ้านไปเยี่ยมแม่ดีไหมหว่า  
โดยคุณ icy_nominee เมื่อวันที่ 03/08/2007 12:10:16


ความคิดเห็นที่ 5


จงอย่าถามว่าแม่ได้ให้อะไรกับเรา แต่จงถามว่าเราได้ให้อะไรกับแม่ ขอให้แม่ทุกคนจงมีความสุขครับ

โดยคุณ Pad Thai เมื่อวันที่ 03/08/2007 15:08:31


ความคิดเห็นที่ 6


อ่านแล้วอุ่นใจครับ เหมือนแม่ยังมีชีวิตอยู่เลย 

โดยคุณ muto เมื่อวันที่ 03/08/2007 16:54:06