ประมวลความรู้เกี่ยวกับอาวุธทางเรือ (Naval Weapons)
โดยคุณ : OA
เมื่อวันที่ :
01/08/2007 22:48:32
อันว่าตอนนี้ดิฉันกำลังทำกระทู้รวบรวมความรู้ ความหมายศัพท์เกี่ยวกับอาวุธทางเรือ (Naval Weapons) อยู่ ในเว็บบอร์ด รร นายเรือ ซึ่งโพสเรื่องนี้เป็นหลักอยู่ ก็ไม่สามารถโพสภาพต่อได้ (ความจุเว็บบอร์ดเต็ม เพราะ OA ซุกซนโพสรูปเยอะไปเกินพิกัด) เว็บไซด์ Wing21 ก็เข้าไม่ได้ (ท่านเว็บมาสเตอร์ไปเวียนเทียนที่วัดอยู่) จึงมาขอพึ่งใบบุญ ไทยไฟเตอร์คลับ เป็นที่พึ่งพิงสุดท้ายคะ หวังว่าคงจะชอบเรื่องราวที่นำมาให้อ่านกันต่อไปนี้นะคะ 
กระทู้นี้ได้รวบรวมเรื่องราวที่นำมาจากพจนานุกรมศัพท์ทหารเรือ ซึ่ง ต.ต. ได้ประมวลเรียบเรียงความรู้เกี่ยวกับการเรือและอาวุธทางเรือ จากตำรา เว็บไซด์ต่างประเทศ และจากคำแนะนำของเซียนทางด้านการทหารต่างๆ โดยมีพื้นฐานมาจากพจนานุกรมศัพท์ทหารเรือ ของเว็บไซด์นายเรือ 88 http://www.navy.in.th/navyterm.php?alph=1
จึงขอนำเนื้อหาของพจนานุกรมนี้ในส่วนของอาวุธทางเรือ (Naval Weapons) มาให้อ่านกันคะ และหวังอย่างยิ่งว่าจะเป็นประโยชน์ต่อท่านที่สนใจทางด้านนี้ หากท่านใดมีข้อติชมเกี่ยวกับข้อมูลใดๆในเนื้อหาของกระทู้นี้ เพื่อให้มีการแก้ไขปรับปรุงให้ถูกต้องขึ้นหรือต้องการเพิ่มเติมในเนื้อหาที่เป็นประโยชน์ ก็จะเป็นพระคุณยิ่งคะ 
เนื้อหาก่อนๆที่เคยลงไว้ในเว็บบอร์ด รร นายเรือ คงจะไม่นำมาโพสซ้ำที่นี่ เพราะยาวมาก ปาเข้าประมาณ 50 เรื่องคะ ท่านที่สนใจกรุณาเข้าไปอ่านย้อนหลังได้ที่นี่คะ http://www.rtna.ac.th/webboard/index.php?board=5;action=display;threadid=83;start=0
เมื่อวันที่
30/07/2007 19:04:24 เดิมหมายถึงเรือพิฆาตขนาดเล็กติดตอร์ปิโดออกแบบมาเพื่อเป็นเรือตอร์ปิโดขนาดเล็ก พร้อมๆกับการมีตอร์ปิโดใช้เป็นเรืออเนกประสงค์ ซึ่งไม่หุ้มเกราะ ติดอาวุธเบาความเร็วสูง และมีขนาดเล็ก ซึ่งสมควรเป็นที่ชื่นชอบของนายทหารเรือผิวน้ำ มีรูปทรงหลายแบบตามการใช้งานพิเศษ มักแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแบบตามเทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง และเรือชนิดนี้มีขนาดใหญ่ขึ้นมากขณะที่ยังคงใช้ชื่อว่าเรือพิฆาต เรือตอร์ปิโดขนาดเล็กเคยมีน้ำหนักเพียงประมาณ 100 ตัน เรือพิฆาตรุ่นแรกๆ มีขนาดใหญ่กว่าเป็นสองเท่า เรือพิฆาตในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 มีขนาด 1,000 ตัน เรือตอร์ปิโดขนาดเล็กจึงไม่มีการนำมาใช้อีก และเรือพิฆาตได้เข้ามาทำหน้าที่แทน ตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 เรือพิฆาตได้มีขนาดใหญ่ขึ้นกว่า 10,000 ตัน เรือพิฆาตขนาดใหญ่ซึ่งเดิมเรียกว่าเรือพิฆาตหลักหรือเรือฟริเกต (ทร.อม.) มีหน้าที่เป็นเรือคุ้มกันกองกำลังเฉพาะกิจเรือบรรทุกเครื่องบินในภารกิจการรบต่อต้านอากาศยาน เมื่อไม่นานมานี้เรือพิฆาตขนาดใหญ่ก็ได้รับการกำหนดให้เป็นเรือลาดตระเวน และคำว่า 'ฟริเกต' ก็นำมาใช้กับเรือคุ้มกันที่ความเร็วต่ำกว่าและขนาดเล็กกว่า ซึ่งไม่เหมาะสมกับภารกิจคุ้มกันเรือบรรทุกเครื่องบิน
เรือพิฆาตในราชนาวีไทย กำหนดใช้อักษรย่อ เรือ พฆ. และอักษรย่อของเรือนี้ในภาษาอังกฤษ คือ DD หากเป็นเรือพิฆาตติดอาวุธนำวิถี (Guided Missile Destroyer) จะใช้อักษรย่อภาษาอังกฤษ DDG
เมื่อวันที่
30/07/2007 19:07:19 เรือพิฆาตในปัจจุบัน ถือเป็นเรือรบที่มีขนาดใหญ่ที่สุดรองลงมาจากเรือบรรทุกเครื่องบิน (aircraft carrier) โดยมีระวางขับน้ำอยู่ในช่วงประมาณ 4000-7000 ตัน ใหญ่กว่าเรือฟริเกต (frigate)ซึ่งมีระวางขับน้ำอยู่ในช่วงประมาณ 2000 - 4000 ตัน และเรือคอร์เวต (corvette) ซึ่งมีระวางขับน้ำอยู่ในช่วงประมาณ 1000 - 2000 ตัน
เรือพิฆาตของกองทัพเรือสหรัฐอเมริกาและรัสเซีย ในสมัยก่อนถูกใช้ในภารกิจเฉพาะทางใดทางหนึ่ง เช่น ใช้ต่อสู้อากาศยาน (anti-aircraft warfare) เช่น เรือพิฆาตชั้น Arleigh Burke ของสหรัฐอเมริกา หรือ ใช้ปราบเรือดำน้ำ (anti-submarine warfare) เช่น เรือพิฆาตชั้น Spruance ของสหรัฐอเมริกา และเรือพิฆาตชั้น Udaloy ของประเทศรัสเซียเป็นต้น แต่ในปัจจุบันเรือพิฆาตของสหรัฐอเมริกาและรัสเซีย ได้ถูกปรับใช้ในภารกิจเอนกประสงค์ โดยสามารถทำการรบได้ทั้ง 3 มิติ (ใต้น้ำ, ผิวน้ำ, เหนือผิวน้ำ) และเพิ่มภารกิจเหนือพื้นดินและบนพื้นดินรวมเข้าไปด้วย แต่สำหรับกองทัพเรือของประเทศอื่นๆ เช่น อังกฤษ, ญี่ปุ่น จะใช้เรือพิฆาตในภารกิจต่อสู้อากาศยานเป็นหลัก เนื่องจากไม่มีงบประมาณพอเพียงสำหรับการสำหรับเรือขนาดใหญ่กว่า คือ เรือลาดตระเวนเช่นที่สหรัฐอเมริกา
ภาพประกอบ: เรือพิฆาตติดอาวุธนำวิถี (Guided Missile Destroyer) ชั้น Arleigh Burke (Aegis) ของกองทัพเรือสหรัฐอเมริกา ในภาพคือ เรือ USS Bulkeley ซึ่งเข้าประจำการในกองทัพเรือสหรัฐเมื่อเดือนธันวาคม ค.ศ. 2001
เมื่อวันที่
30/07/2007 19:08:29 เรือพิฆาตคุ้มกัน คือ เรือคุ้มกันทางทะเลซึ่งพัฒนาขึ้นในช่วงสงคราม โลกครั้งที่ 2 โดยให้เป็นเรือคุ้มกันเรือพาณิชย์เป็นภารกิจหลัก แต่มีลักษณะเฉพาะบางประการของเรือพิฆาต นับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นต้นมา เรือชนิดนี้ได้ผ่านการเปลี่ยนแปลงภารกิจและแบบมาบ้างแล้วและเป็นที่รู้จักกันในนามเรือฟริเกต เป็นเรือ เดินสมุทรอเนกประสงค์ ขนาดเล็ก ประมาณ 4,000 ตัน ใบจักรเดียว ความเร็วปานกลาง มีสมรรถนะในการสงครามปราบเรือดำน้ำและต่อสู้อากาศยาน
ภาพประกอบ: เรือพิฆาตติดคุ้มกัน (Destroyer Escort) ของกองทัพเรือสหรัฐอเมริกา ชื่อเรือ U.S.S. BRONSTEIN (DE-1037
เมื่อวันที่
30/07/2007 19:09:38 เป็นอุปกรณ์โซนาร์ใช้โดยเฮลิคอปเตอร์หรือไฮโดรฟอยล์ ใช้หย่อนลงไปในน้ำเพื่อตรวจจับคลื่นสัญญาณที่แพร่ออกมาในน้ำ ดิปปิ้งโซนาร์ถูกนำมาใช้ค้นหาเรือดำน้ำ โดยอากาศยาน ในสงครามปราบเรือดำน้ำ (anti-submarine warfare)
ภาพประกอบ: เฮลิคอปเตอร์ Sea King Mk.5 ของราชนาวีอังกฤษ กับ dipping sonar ใช้ในสงครามปราบเรือดำน้ำ
เมื่อวันที่
30/07/2007 19:13:06 โดมเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในเรืออย่างหนึ่ง เป็นเหล็กทรงกลมล้อมรอบสิ่งทีอยู่ข้างใน ซึ่งอาจจะเป็น เครื่องส่งสัญญาณเรดาร์หรือโซนาร์ หากเป็นเรดาร์ เรียกว่า radar dome ใช้วัดระยะทางบนผิวน้ำ หากเป็นโซนา ซึ่งเรียกว่า sonar dome จะใช้วัดระยะทางโดยการส่งสัญญาณคลื่นเสียง (pip) ไปในน้ำ ก็จะได้ภาพหรือระยะทางจากเป้า ปกติ dome ถูกออกแบบให้ทำงานได้รอบทิศ ในเรือน้ำมันขนาดใหญ่ที่กินน้ำลึกมาก จะมีอุปกรณ์นี้ไว้เพื่อกันเรือเกยตื้นด้วย ดู sonar dome ประกอบ
เมื่อวันที่
30/07/2007 19:15:30 ในยุคเรือใบ เรือฟริเกตเป็นเรือรบ 3 เสา ขึงใบตามขวาง ติดปืนบนดาดฟ้าปืน บนดาดฟ้า ยกหัวเรือ และท้ายเรือ ดาดฟ้ายกหัวเรือและ ท้ายเรือนี้เชื่อมต่อกันด้วยทางเดินรายกราบ (gangway) แต่ละกราบเพื่อความสะดวก แต่ทางเดินรายกราบไม่แข็งแรงพอที่จะติดปืนได้ อย่างไรก็ตาม ในการพัฒนาแบบเรือ, เรือฟริเกตขนาดใหญ่ถูกสร้างโดยมีทางเดินรายกราบที่แข็งแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อรวมดาดฟ้ายกหัวเรือ ทางเดินรายกราบ และดาดฟ้ายกท้ายเรือเข้าเป็นดาดฟ้าเปิดเดี่ยวเหนือดาดฟ้าปืน เรียกว่า ดาดฟ้าทางเดิน (spar deck) (เดินบนเสาพาดบนคานรับดาดฟ้า) และติดตั้งปืนรายกราบตามความยาวของดาดฟ้านี้ เรือฟริเกตแบบนี้เรียกว่า เรือฟริเกต กราบคู่ เรือหลวง Serapis ของอังกฤษซึ่งถูกยึดโดย John Paul Jones ก็เป็นเรือเช่นนี้ เรือ Constitution ของสหรัฐอเมริกา ก็เช่นกัน ดู deck (er), razee
ภาพประกอบ: เรือฟริเกตกราบคู่ H.M.S. Serapis ของราชนาวีอังกฤษในสงคราม จากภาพบน เรือ H.M.S. Serapis คือเรือลำที่มีเสากระโดงเรือ 3 เสา อยู่ทางซ้ายมือหน้าสุด
เมื่อวันที่
30/07/2007 19:17:40 คำที่ถูกนำมาใช้เรียก ชั้นเรือประจัญบาน ที่มีหมู่ปืนหลักขนาดเดียวทั้งลำและมีความเร็วสูง ได้ชื่อตามเรือหลวง Dreadnought ของอังกฤษ ซึ่งเป็นเรือลำแรกของเรือชั้นนี้ สร้างใน ค.ศ. 1906 โดยมีความ เร็วมากเป็นพิเศษและเก็บเป็นความลับมาก เพียงออกเรือครั้งเดียวเรือลำนี้ก็ทำให้เรือประจัญบานที่สร้างมาก่อนทั้งหมดล้าสมัย และลดชั้นเป็นชั้น 'predreadnought' (เรือชั้น ก่อนเรือเดรดนอต) และทำให้อังกฤษและ เยอรมันกลับไปสู่จุดเริ่มต้นของการแข่งขันสร้าง เรือรบใหม่ (เป็นความจริงซึ่งอังกฤษประทับใจเป็นที่สุด) เป็นการตัดสินใจอย่างถูกต้องของ พลเรือเอก Jackie Fisher แม่ทัพเรืออังกฤษ (First Sea Lord) ที่จะพัฒนาต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง และเป็นครั้งแรกที่เรือรบแบบใหม่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความมั่นคงของอังกฤษ
ภาพประกอบ 1: เรือ HMS Dreadnought แห่งราชนาวีอังกฤษ
เมื่อวันที่
30/07/2007 19:19:28 
เมื่อวันที่
30/07/2007 19:25:17 เป็นอุปกรณ์สำหรับดีดตัวนักบินออกจากเครื่องบินความเร็วสูงในกรณีฉุกเฉินอย่างปลอดภัย
ภาพประกอบ: ซ้าย - เก้าอี้ดีดตัวนักบิน หรือ ejection seat, ขวา - การทดลองดีดตัวออกจากเครื่องบิน Hawk รุนหนึ่งของ ราชนาวีอังกฤษ
เมื่อวันที่
30/07/2007 19:29:41 การลอยตัวฉุกเฉินของเรือดำน้ำ
ภาพประกอบ: เรือดำน้ำกำลังลอยตัวฉุกเฉินขึ้นเหนือผิวน้ำ
เมื่อวันที่
30/07/2007 19:34:08 ประตูนิรภัย (เรือดำน้ำ) (escape hatch (submarine)
โดยทั่วไปหมายถึงประตูซึ่งมีขนาดเล็ก ติดตั้งเพื่อให้เป็นทางหนีจากห้องในเรือเมื่อทางออกปกติถูกปิดกั้น พัฒนาขึ้นสูงสุดในเรือดำน้ำสมัยใหม่ ซึ่งมีห้องนิรภัยติดไว้เพื่อต่อเข้ากับห้องช่วยชีวิตหรือยานช่วยชีวิตจากการจมลึก มีประตูติดตั้งเพิ่มเติมสำหรับการหลบหนีโดยที่ไม่ได้รับการช่วยเหลือ และมีอุปกรณ์และกลไกซึ่งสามารถปฏิบัติงานพิเศษได้หลายอย่าง ประตูนิรภัยโดยมากจะทำเป็นทรงวงกลมหรือวงรี
เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน เช่น เรือดำน้ำจมอยู่ใต้น้ำ ไม่สามารถลอยขึ้นมาได้ จะมีการช่วยเหลือลูกเรือดำน้ำ 2 แบบ คือ ใช้ยานช่วยชีวิตจากการจมลึก (deep-submergence rescue vehicle (DSRV)) ดำลงค้นหาเรือดำน้ำที่จมอยู่นี้เจอ และต่อผนึกน้ำเรือดำน้ำด้วยท่อสำหรับหนี ให้ลูกเรือดำน้ำขึ้นบนยาน ผ่านช่องประตูนิรภัย หรือ ใช้ห้องxx้ภัยเรือดำน้ำ (submarine rescue chamber) รูปทรงเหมือนระฆังคว่ำ หย่อนลงมาจากเรือผิวน้ำ ให้ลูกเรือหนีออกจากเรือดำน้ำทางประตูนิรภัยนี้ ขึ้นไปยังห้องxx้ภัยเรือดำน้ำ ดู deep-submergence rescue vehicle (DSRV) และ submarine rescue chamber ประกอบ
ภาพประกอบ: จุดที่ตั้งของประตูนิรภัย หรือ escape hatch ของเรือดำน้ำ เป็นจุดวงกลมสีแดงด้านบนของลำเรือที่มีคน 3 คนเข้าแถวอยู่ด้านล่าง เมื่อเรือดำน้ำได้รับการช่วยเหลือจากเรือผิวน้ำ ลูกเรือออกจากเรือดำน้ำทางประตูนิรภัยนี้ ขึ้นไปยังห้องxx้ภัยเรือดำน้ำ (submarine rescue chamber) รูปทรงเหมือนระฆังคว่ำที่ถูกหย่อนลงมาจากเรือผิวน้ำ และห้องxx้ภัยเรือดำน้ำจะถูกยกขึ้นไปยังเรือผิวน้ำต่อไป
ภาพประกอบนี้เป็นภาษารัสเซีย อันเนื่องมาจากกรณีการจมของเรือดำน้ำ Kursk ของรัสเซีย และการกู้ภัยโดยคณะจากนอร์เวย์ หากยังจำกันได้คะ
เมื่อวันที่
30/07/2007 19:37:21 เอ เดี๋ยวนี้ไม่มีเรือ Cruiser ใหม่ๆ แล้วหรอครับ
ผมอยากรู้ว่า ด.เคิร์ส มันจมด้วยสาเหตุอะไรหรือครับ เห็นเขาว่ากันว่าพุ่งชนท้องทะเลจริงหรือครับ
เมื่อวันที่
30/07/2007 19:42:35 เรื่องเรือ Cruiser ลำใหม่ๆที่ประจำการตอนนี้ จะลองค้นให้นะคะ
เรือดำน้ำ Kursk ตามทีเคยอ่านมา คาดกันว่าเป็นเพราะตอร์ปิโดแบบใหม่ ซุปเปอร์คาวิเทชั่นที่ติดตั้งในเรือลำนี้เกิดระเบิด ขณะเรือออกเดินทางในทะเล (ซึ่งสันนิฐานกันว่าอาจจะมีการทดสอบสมรรถภาพอาวุธ และมีเจ้าหน้าที่ทางทหารชั้นสูงของจีนอยู่ในเรือดำน้ำขณะเกิดการระเบิดด้วย จึงอาจเป็นเหตุให้สันนิฐานกันต่อว่าทางการรัสเซียพยายามปกปิดการเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงของเรือลำนี้ เพราะรัสเซียตอบสนองรับความช่วยเหลือจากชาติอื่นๆที่ยื่นมือมาช่วยกู้ภัย เช่น นอร์เวย์ และอังกฤษ ช้ามาก ช้าชนิดที่ตอนเกิดระเบิดใหม่ๆ ยังมีลูกเรือส่วนหนึ่งรอดชีวิตหนีไปอยู่ห้องท้ายเรือ รอความช่วยเหลือ จนท้ายสุดเสียชีวิตทุกคนคะ)
ตอร์ปิโดซุปเปอร์คาวิเทชั่นของ Kursk ปรกติใช้เชื้อเพลิงแข็งเป็นส่วนประกอบ แต่ต่อมาได้ลดต้นทุนเปลี่ยนมาใช้เชื้อเพลิงเหลวแทน และน่าจะมีรอยรั่วบนอาวุธทำให้เชื้อเพลิงเหลวซึมออกมา เกิดประกายระเบิดอย่างแรงตรงส่วนหัวเรือ ความแรงของการระเบิดทำให้หัวเรือดำน้ำ Kursk และลำตัวเรือ ฉีกออกเหมือนกระดาษทิชชู่โดนขยำคะ
เมื่อวันที่
30/07/2007 20:00:20 รายละเอียดเรื่องเรือดำน้ำ kursk ดิฉันเคยนำมาลงเกริ่นไว้ในกระทู้นี้แล้วคะ หนังสือดีๆและการ์ดสวยๆ จากออสเตรเลีย http://www.thaifighterclub.com/?action=detailQuestion&questionid=3092&language=1
แต่ดิฉันยังไม่มีเวลาแปลเรื่องเรือดำน้ำนี้อย่างจริงจังและละเอียดๆมาให้อ่านกันเสียที ทั้งๆที่สนใจเรื่องนี้มากและซื้อหนังสือเกี่ยวกับการจมของ Kursk มาประมาณ 2-3 เล่มแล้วคะ
-----------------------------------------------------------
ขอคัดลอกข้อเขียนจากกระทู้ข้างต้น ในส่วนของเรือดำน้ำ Kursk มาให้คุณ Exocet อ่านดูคะ
|
หนังสือทางทหารเรือดีๆที่อยากแนะนำคะ เล่มแรก คือ Lost Subs เป็นหนังสือ import เข้าประเทศออสเตรเลีย จากฝั่งอังกฤษ เป็นผลงานการค้นคว้าของ ด.ร. โรเบิร์ต เกี่ยวกับสาเหตุกรณีการจมของเรือดำน้ำที่มีชื่อเสียงของโลกหลายลำ เช่น เรือดำน้ำฮัลเลย์ของฝ่ายใต้ที่จมลงหลังจากโจมตีเรือรบขนาดใหญ่ของฝ่ายเหนือในสงครามกลางเมือง สหรัฐอเมริกา เรือดำน้ำ Tank ของอเมริกา และเรือดำน้ำ Kursk ของรัสเซีย เป็นต้น รวมไปถึงการค้นหาซากเรือและหลักฐานอื่นๆ หนังสือเล่มนี้น่าสนใจมาก รู้สึกว่าจะเป็นหนึ่งในหนังสือใหม่ที่ นาวิกศาสตร์แนะนำไว้ด้วยคะ พิมพ์ภาพสีตลอดเล่มคะ |
 |
|
ตัวอย่างภายในเล่ม ภาพวาดซากเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ Kursk ของรัสเซีย ปริศนาการจมของเรือดำน้ำลำนี้เป็นที่สนใจของคนทั่วโลก มีการตั้งสมมุติฐานมากมาย รวมไปถึงข่าวลือ เช่นว่า เรือดำน้ำอเมริกาดอดมาโจมตี Kursk ด้วยขีปนาวุธนิวเคลียร์ หรือที่เพ้อฝันไปไกลถึงขั้นที่ว่า Kursk โดนจานบิน (UFO) ทำลายก็มี แต่สาเหตุที่น่าเชื่อถือที่สุดก็คือ ตอร์ปิโดซุปเปอร์คาวิเทชั่นซึ่งผลิตด้วยนวัตรกรรมใหม่ของเรือดำน้ำลำนี้เกิดระเบิดขึ้น .ขณะเรือดำอยุ่ใต้น้ำในเขตน่านน้ำประเทศนอร์เวย์ (เนื่องจากฝ่ายผลิตตอร์ปิโดเปลี่ยนมาใช้เชื้อเพลิงเหลวขับเคลื่อน แทนเชื่อเพลิงแข็งแต่เดิม ทำให้เกิดการรั่ว แล้วเกิดประกายไฟระเบิดขึ้น ภายในหัวตอร์ปิโดหัวเรือ Forward Torpedo Room) คะ ตามข่าวบอกว่า อำนาจการระเบิดรุนแรงกระทั่งผนังเรือดำน้ำ Kursk ที่สร้างอย่างแข็งแรงทนทานถึงสองชั้น ระเบิดกระจุยออกเหมือนเศษทิชชู่ถูกขยำ (ดูตามภาพคะ)
|
 |
เมื่อวันที่
30/07/2007 20:14:12 |
สิ่งที่ตามมาจากการจมของเรือดำน้ำ Kursk คือความสงสัยของผู้ทีติดตามข่าวว่า เหตุใดทางการรัสเซียจึงพยายามปกปิดการจมของเรือ และตอบสนองต่อการยื่นความช่วยเหลือของต่างชาติ เช่น อังกฤษ และนอร์เวย์ ช้ามาก เพราะเรือดำน้ำ Kursk ไม่ได้ถูกทำลายหมดทั้งลำ เมื่อส่วนหัวเรือเกิดการระเบิดอย่างรุนแรงมีลูกเรือบางส่วนรอดชีวิต และหนีไปอยู่ในห้องท้ายเรือ เพื่อรอความช่วยเหลือนานถึง 2 วัน จนต้องจบชีวิตลงอย่างทรมานภายในซากเรือที่เต็มไปด้วยควันจากการระเบิดและอากาศภายในตัวเรือที่หมดไป ตามข่าวระบุว่าทีมยานกู้ภัยของนอร์เวย์ เป็นชุดแรกที่เข้าไปถึง Kursk เร็วทีสุด และเปิดฝาประตูทางออกฉุกเฉินท้ายเรือ (aft escape hatch) เข้าไปพบศพลูกเรือดำน้ำหลายนายสิ้นชีวิตอยู่ในห้องท้ายเรือ หลักฐานที่แสดงว่าพวกเขาไม่ได้จบชีวิตในทันทีที่เกิดการระเบิดในเรือ แต่เสียชีวิตลงหลังจากนั้นอย่างทรมาน คือ จดหมายของลูกเรือบางนายที่พยายามเขียนเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายในเรือ คำร่ำลาบุคคลที่รัก โดยที่ลายมือตอนท้ายๆของจดหมายโย้เย้อ่านไม่ออก เพราะแสงไฟและอากาศภายในเรือที่ค่อยๆหมดไปคะ เรือดำน้ำ Kursk ตั้งชื่อตามชื่อของเมือง Kursk ในประเทศรัสเซีย จัดเป็นเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ที่ทันสมัยและทรงอานุภาพมากของรัสเซียในช่วงนั้น ชาวเมือง Kursk โดยกำเนิดหลายคน สมัครเป็นลูกเรือดำน้ำ Kursk ด้วยความสมัครใจและภูมิใจที่จะได้สร้างเกียรติประวัติให้กับเมืองเกิดของตนเอง แต่พวกเขาได้กลับไปเยี่ยมบ้านเป็นครั้งสุดท้ายในสภาพไร้ชีวิตอยู่ในโลงแคบๆเท่านั้น อีกตัวอย่างภาพจากหนังสือเล่มนี้ งานพิธีศพทหารเรือดำน้ำ Kursk คะ |
 |
เมื่อวันที่
30/07/2007 20:18:20 |
เล่มนี้เป็น พอคเก็ตบุ๊ค ราคาไม่แพงคะ มีภาพประกอบนิดหน่อย เป็นงานเขียนเกี่ยวกับการจมของเรือดำน้ำ Kursk ของรัสเซีย ซึ่งท่านผู้เขียนได้ทำการคว้นคว้าอย่างละเอียด ทั้งประวัติที่มา การสร้างเรือ วันเกิดเหตุการเรือระเบิด และการกู้ภัยเรือดำน้ำนี้ พร้อมทั้งรายงานวิเคราะห์สาเหตุการจมจากทางการรัสเซีย และความคิดจากนานาชาติคะ หนังสือเกี่ยวกับ Kursk ในลักษณะเป็นพอคเก็ตบุค นี้ ในโลกตะวันตก เช่น อังกฤษ อเมริกา หรือ ออสเตรเลีย มีตีพิมพ์วางขายหลายเล่ม ต่างผู้เขียนไป แต่เล่มที่คิดว่ามีความพิเศษและน่าสนใจมาก (ในความคิดส่วนตัว) ก็คือ หนังสือ Lost Sub ข้างต้นคะ หากท่านใดมีหนังสือใหม่ที่มีเนื้อหาในแนวนี้และอยากจะแชร์ความรู้ก็ยินดีคะ
|
 |
ตัวอย่างภาพประกอบ จากหนังสือ Kursk ของ Peter Truscott
เป็นภาพถ่ายห้องตอร์ปิโด หรือ Torpedo Compartment ของเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ชั้น ออสการ์ ชั้นเดียวกับเรือดำน้ำ Kursk (แต่ในภาพไม่ได้ถ่ายบนเรือดำน้ำ Kursk คะ ถ่ายจากเรือลำอื่นของชั้น) ห้องตอร์ปิโดที่เกิดการระเบิดขึ้น มีลักษณะเหมือนกันกับห้องในภาพนี้ เป็นห้องหน้าสุดของเรือดำน้ำ แรงระเบิดมหาศาลทำให้ 2 ห้องแรก ถูกทำลายในพริบตา ห้องที่สามเสียหายหนักจนใช้งานไม่ได้ นอกจากนี้ยังส่งผลให้ตัวเรือร้าวทั้งลำ จนเจ้าหน้าที่กู้ภัยเกรงว่าหากมีการขยับเขยื้อนซากเรือขึ้นจากน้ำ ตัวเรืออาจจะหักเป็นท่อนๆคะ
ห้องที่ลูกเรือส่วนหนึ่งหนีไปรวมตัวกัน เป็นห้องที่ 9 ห้องท้ายสุดของเรือคะ
เมื่อวันที่
30/07/2007 20:22:13 Thank You
เมื่อวันที่
30/07/2007 20:53:13 
เมื่อวันที่
30/07/2007 22:51:44 
เมื่อวันที่
30/07/2007 23:47:17 
เมื่อวันที่
31/07/2007 11:05:52 ขอบคุณทุกๆท่านที่ให้ความสนใจกระทู้นี้คะ ^_^ และขอบคุณ คุณ helldiver สำหรับข้อมูลใหม่คะ ดิฉันจะลองหารายละเอียดเกี่ยวกับตอร์ปิโดทั้ง 2 แบบนี้ดูคะ (คงต้องเข้าเว็บรัสเซียอีก เพราะ www.naval-technology.com มีข้อมูลเกี่ยวกับ เรือดำน้ำชั้น ออสการ์ ก็จริงแต่ไม่ได้ละเอียดมากนักคะ ^_^
น้องไอซี่ส์ ได้ข่าวว่าออกหนังสือเล่มใหม่ ไม่ทราบชื่อหนังสืออะไรคะ จะไปลองติดตามอ่านคะ
เมื่อวันที่
31/07/2007 20:22:01 เมื่อวันที่
31/07/2007 20:30:29 เมื่อวันที่
31/07/2007 20:34:51 ต่อค๊า ...
เรือใบเฮอร์มาโฟรไดท์ (Hermaphrodite Brig)
คือ เรือใบสองเสา เสาหน้า ขึงใบตามขวางเสาใหญ่ ขึงใบตามลำเรือ ดู brigantine
ภาพประกอบ: เรือใบเฮอร์มาโฟรไดท์ หรือ hermaphrodite brig ประเภทของเรือใบต่างๆในศตวรรษที่ 20 ในชุดนี้ ดูเพิ่มเติมที่ http://website.lineone.net/~dee.ord/19%20&%2020th%20Centurys.htm
เมื่อวันที่
31/07/2007 20:41:49 ยานไฮโดรฟอยล์ (hydrofoil)
คือ ยานผิวน้ำออกแบบเพื่อให้ 'บิน' ในน้ำได้ โดยการใช้แผ่นฟอยล์มุดน้ำ ตัวเรือจะถูกยกขึ้นจากน้ำมาก อย่างที่อากาศยานถูกยกขึ้นจากพื้นดิน การลดแรงต้านของตัวเรือทำให้ความเร็ว สูงขึ้น
ภาพประกอบ : เรือรบไฮโดฟรอยล์ ของกองทัพเรือแคนาดา ขนาด 200 ตัน ชื่อ
เมื่อวันที่
31/07/2007 20:53:39 ยานไฮโดรฟอยล์ HMCS Bras D'or คะ
เมื่อวันที่
31/07/2007 20:55:01 hydrophone(s) (n.)
ไฮโดรโฟน (Hydrophone)
คือ อุปกรณ์รับสัญญาณโซนาร์ในเรือดำน้ำสมัยสงคราม, ลำโพงหรือไมโครโฟนใต้น้ำ
ไฮโดรโฟน เป็นอุปกรณ์รับสัญญาณโซนาร์ในเรือดำน้ำสมัยสงคราม โดยในการทำงานของเครื่องโซนาร์ (sonar dome) จะใช้หัวส่งสัญญาณโซนาร์ (transducer) ส่งสัญญาณวิทยุกระจายผ่านหัวส่งแต่ละหัวออกไป เนื่องจากในสมัยนั้นยังไม่วิวัฒนาการที่จะสร้างตัวรับสัญญาณแบบ built-in ในหัวส่งสัญญาณโซนาร์ (transducer) แต่ละหัว จึงต้องมีชุดรับสัญญาณ ที่เรียกกันว่า ไฮโดรโพน (hydrophone) ติดตั้งบนดาดฟ้าเพื่อรับสัญญาณที่สะท้อนกลับมาและแปลงเป็นสัญญาณ audio ให้กับพนักงานโซนาร์ฟังว่ามีวัตถุใด อยู่ห่างเป็นระยะเท่าใดจากตัวเรือ ดูรายละเอียดและภาพ transducer ที่ sonar dome และ transducer
ปัจจุบันไฮโดรโฟน (hydrophone) ได้ถูกพัฒนานำมาใช้งานในการสื่อสารใต้น้ำ (ที่เรียกว่า ลำโพงกระจายเสียงใต้น้ำ) ใช้ในการสื่อสารระหว่างเรือ หรือเรือดำน้ำ กับมนุษย์กบที่ทำงานใต้น้ำ และใช้ในการสำรวจชีวิตสัตว์ใต้ท้องทะเล (เช่นแอบฟังปลาวาฬคุยกันเป็นต้น) และ มีทั้งเป็นแบบฟังอย่างเดียวหรือเป็นแบบไมโครโฟนใต้น้ำ รวมทั้งอาจจะออกแบบให้สามารถฟังและกระจายเสียงในตัวเดียวได้ด้วย แต่การกระจายเสียงของไฮโดรโฟน (hydrophone) ไม่ใช่การส่งแบบ radio signal แต่เป็น voice audio ใต้น้ำ
ภาพประกอบ: ไฮโดรโฟน หรือ ไมโครโฟนใต้น้ำ ของเรือดำน้ำ HMAS Ovens ประเทศ ออสเตรเลีย มีทั้งหมด 3 ตัว อยู่ด้านบนของดาดฟ้าเรือดำน้ำ ถูกออกแบบเป็นรูปทรงสามเหลี่ยม อุปกรณ์นี้จะใช้ตรวจจับสัญญาณที่ปล่อยออกมาจากเรือลำอื่น ทำให้สามารถกำหนดทิศทางเรือที่ตรวจจับนั้นได้ อ่านรายละเอียดเกี่ยวกับส่วนประกอบต่างๆของเรือดำน้ำนี้เพิ่มเติม ได้ที่เว็บไซด์ http://www.mm.wa.gov.au/Museum/mhist/sub/ondeck.html#anchor24249
เมื่อวันที่
31/07/2007 20:58:37
เรือใบเค็ทช์ (Ketch) - เรือใบสองเสา, เรือใบขนาดเล็ก
เป็นเรือใบขนาดเล็ก ขึงใบหน้าตามลำเรือ มีเสาใหญ่ สูง และเสาท้าย สั้นกว่ามาก ยื่นอยู่ข้างหน้าของทวนหางเสือ รูปร่างเหมือนเรือใบขนาดเล็ก (yawl) แต่เรือใบขนาดเล็กมีเสาหลังอยู่หลังหางเสือ
เมื่อวันที่
31/07/2007 21:02:32 ปืนเค (K-Gun) เครื่องยิงระเบิดลึก
เครื่องยิงระเบิดลึก รูปร่างเหมือนตัวอักษร K ใช้เพื่อปราบเรือดำน้ำ คู่กับปืน Y-Gun
ภาพประกอบ: ปืน K-gun บนเรือรบของสหรัฐอเมริกาในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
เมื่อวันที่
31/07/2007 21:07:46 ภาพประกอบ: ซ้าย - ปืน K-gun ยิงด้วยลูกระเบิด MK9, ขวา - ภาพวาดแสดงส่วนประกอบต่างๆของปืน K-gun รายละเอียดของปืนนี้ ดูที่เว็บไซด์ http://www.ussslater.org/weapons/k-gun.html
เมื่อวันที่
31/07/2007 21:10:41 อากาศยานประจำสนามบินบนฝั่ง (landbased aircraft)
เป็นอากาศยานของกองทัพเรือ (naval aircraft) ที่ประจำสนามบินบนฝั่ง เช่น อากาศยานโอไรออน (Orion) แตกต่างจากอากาศยานประจำเรือบรรทุกเครื่องบิน (organic aircraft) เช่น อากาศยานไวกิง (Viking) ดู organic aircraft ประกอบ
ภาพประกอบ เครื่องบินอไรออน (Orion) ซึ่งเป็นอากาศยานประจำสนามบินบนฝั่ง
เมื่อวันที่
31/07/2007 21:13:22 ยานระบายพล (landing craft)
เป็นพาหนะใช้ในการปฏิบัติการสะเทินน้ำสะเทินบก ออกแบบเป็นพิเศษเพื่อขนส่งทหารและอุปกรณ์ เพื่อเกยหาด ขนถ่ายอุปกรณ์และถอยจากหาด ยังใช้เพื่อปฏิบัติการขนสัมภาระสนับสนุนเพิ่ม เติมอีกด้วย เรือระบายพลแบ่งออกได้ 3 ประเภทใหญ่ๆ คือ เรือระบายพลขนาดใหญ่ (landing craft, utility), เรือระบายพลขนาดกลาง (landing craft, mechanical) และ เรือระบายพลขนาดเล็ก (landing craft, vehicle, personal)
จากภาพ เป็นการเทียบขนาดยานระบายพลแบบต่างๆ จากขนาดเล็กที่สุด (LCVP) ยานระบายพลบรรทุกรถถัง และ ยาน LST คะ
เมื่อวันที่
31/07/2007 21:20:32 
เมื่อวันที่
31/07/2007 21:29:19 
เมื่อวันที่
31/07/2007 21:40:28 ยานระบายพลเบาะอากาศ (landing craft, air cushioned (LCAC) )
เป็นยานระบายพลที่ออกแบบมาเป็นแบบโฮเวอร์คราฟท์ (hover craft)ทำให้มีความเร็วสูงและเกยหาดได้ดีกว่าเรือระบายพลสมัยก่อน เช่น LCU, LCM แต่มีขีดจำกัดตรงที่ขนของหนักๆ ไม่ได้มากเท่ากับเรือระบายพลทั่วไป ยานนี้มีอักษรย่อภาษาอังกฤษว่า LCAC
เมื่อวันที่
31/07/2007 21:43:50 
เมื่อวันที่
31/07/2007 21:45:15 เมื่อวันที่
01/08/2007 00:03:24 Thanks Sir;
ต่อคะ...
ดาบมาเมลุก - ดาบนาวิกโยธินสหรัฐอเมริกา (Mameluke sword)
เครื่องหมายดาบไขว้ประกอบเครื่องแบบนายทหารนาวิกโยธินสหรัฐอเมริกา
ภาพประกอบ: (บน) ดาบมาเมลุกในอดีตเป็นของนายทหารอังกฤษโบราณ, (ล่าง) ดาบมาเมลุกของนายทหาร
เมื่อวันที่
01/08/2007 21:58:13 แถวรายกราบ (manning the rail)
คือ การระดมลูกเรือทุกนาย เข้าแถวรายตามราวข้างเรือ เพื่อให้เกียรติบุคคลหรือโอกาสสำคัญ ถือเป็นประเพณี (custom) ของทหารเรืออย่างหนึ่ง ซึ่งกระทำตอนเรือออกจากท่าหรือกลับเข้าท่าหลังจากออกทะเลไปนานๆ และยังใช้ยืนเพื่อแสดงความเคารพด้วย ยกตัวอย่างเช่น เรือรบของสหรัฐอเมริกา เมื่อแล่นผ่านที่สุสานเรืออริโซนา ในเพิร์ล ฮาร์เบอร์ ก็จะเข้าแถวรายกราบเพื่อแสดงความเคารพต่อผู้เสียชีวิตเช่นกัน
ภาพประกอบ: ทหารเรือบนเรือบรรทุกเครื่องบิน USS Theodore Roosevelt (CVN 71) ของสหรัฐอเมริกายืนรายกราบ ในขณะเรือกำลังจะเข้าจอดที่ท่าเรือของสถานีทหารเรือนอร์ฟอล์ค รัฐเวอร์จีเนีย ภายหลังจากกลับจากภารกิจในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน สนับสนุน OEF และ OIF ในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2003
เมื่อวันที่
01/08/2007 22:00:38 man-of-war (เรือรบ) ศัพท์นี้หลายท่านอาจไม่คุ้นเคย เพราะจะคุ้นกับคำว่า warship มากกว่า ..
Man of War - ความหมายของคำนี้รวมไปถึง เรือใช้สู้รบ และ เรือทหารเรือติดอาวุธ ซึ่งเรือของกองทัพเรือที่ขึ้นระวางประจำการส่วนมากจะเป็นเรือรบ แต่ไม่ทุกลำ ตัวอย่างเช่น เรือโรงพยาบาล (hospital ship) ก็เรียก man-of-war ได้
ภาพประกอบที่นำมาให้ชมกัน น่าสนใจดีคะ เป็นรายละเอียดส่วนต่างๆของเรือรบอังกฤษในช่วง ศตวรรษที่ 18 ดูแถบสีทอง 3 แถบที่คาดข้างลำตัวเรือในภาพแล้ว ทำให้นึกถึง เรือรบอะกาเมนอน H.M.S. Agamemnon คะ ไม่รู้จะเป็นลำเดียวกันหรือปล่าว
เมื่อวันที่
01/08/2007 22:11:35 ทุ่นระเบิด
ความหมาย: วัตถุระเบิดที่วางอยู่ในน้ำและออกแบบให้ระเบิดทำความเสียหายแก่เรือหรือใต้ตัวเรือ ทุ่นระเบิดอัตโนมัติเป็นแบบที่ระเบิดได้ด้วยตัวเอง ทุ่นระเบิดแบบควบคุม สามารถควบคุมให้ระเบิดได้จากระยะไกล ทุ่นระเบิดสามารถปล่อยลงมาจากเครื่องบิน ผูกไว้กับทุ่นหรือปล่อยให้ลอยไปตามกระแสน้ำก็ได้ การระเบิดอาจเป็นผลมาจากการกระทบของตัวเรือ อิทธิพลทางเสียง แม่เหล็กหรือความดัน บางครั้งเรียกว่า ทุ่นระเบิดทะเล (sea mines) เพื่อแยกแยะจากทุ่นระเบิดบก (land mines) ซึ่งมักเป็นทุ่นระเบิดสังหารบุคคล
ภาพประกอบ: ตัวอย่างทุ่นระเบิดแบบ ต่างๆของกองเรือทุ่นระเบิด กองทัพเรือ
ทุ่นระเบิด MK. 6
คุณลักษณะ: 1. เป็นทุ่นระเบิดทอดประจำที่กระทบระเบิด
2. วางโดยเรือผิวน้ำ โดยปล่อยจากรางท้ายเรือ
3. ใช้วางดักได้ทั้งเรือผิวน้ำและเรือดำน้ำ
4. ใช้วางร่วมกับทุ่นระเบิดชนิดอื่นๆ
5. น้ำหนัก 1,400 -
เมื่อวันที่
01/08/2007 22:19:37 ทุ่นระเบิด ภาษาอังกฤษ คือ mine คะ
ทุ่นระเบิด MK. 18
คุณลักษณะ: 1. เป็นทุ่นระเบิดอิทธิพลแม่เหล็กชักนำชนิดวางกับพื้นท้องทะเล
2. เป็นทุ่นระเบิดขนาด ๒,๐๐๐ ปอนด์
3. วางโดยเรือผิวน้ำ โดยปล่อยจากรางท้ายเรือ
4. ใช้ดินระเบิด TNT/ HBX-1
เมื่อวันที่
01/08/2007 22:21:18 ทุ่นระเบิด 70-80
คุณลักษณะ: 1. เป็นทุ่นระเบิดทอดประจำที่กระทบระเบิดแบบเขาน้ำกรด
2. วางโดยเรือผิวน้ำและวางดักได้เฉพาะเรือผิวน้ำ
3.ใช้วางร่วมกับทุ่นระเบิดชนิดอื่นๆ
4. ตัวทุ่นระเบิดเป็นทรงกลม
5. น้ำหนัก ๕๐๙ กก.
เมื่อวันที่
01/08/2007 22:23:27 ทุ่นระเบิด SNAG LINE
คุณลักษณะ: 1. เป็นทุ่นระเบิดทอดประจำที่ชนิดกระทบแตก (ใบจักรหรือหางเสือของเรือเป้าพันเชือกไกและ กระตุกเชือกไกยิง)
2. น้ำหนัก ๕๐๐ ปอนด์
3. ขนส่งด้วยรถบรรทุกขนาดเล็ก (PICK UP) และแรงคน
4. วางได้ด้วยเรือผิวน้ำ
6. สพ.ทร.เป็นผู้ผลิต ราคาลูกละ ๒๕,๐๐๐ บาท (ปี ๒๕๔๑)
เมื่อวันที่
01/08/2007 22:26:16 ประมวลภาพทุ่นระเบิด (mine) แบบต่างๆคะ ข้อมูลในหัวข้อนี้ มาจาก เว็บไซด์กองเรือทุ่นระเบิด ของกองทัพเรือคะ
เมื่อวันที่
01/08/2007 22:38:36 
เมื่อวันที่
01/08/2007 22:40:04 
เมื่อวันที่
01/08/2007 22:48:32