พอมาเป็นรุ่น 054 ที่มี A ต่อท้ายอะไรหลายๆอย่างก็มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากมายจนน่าสน    ผมก็ขอเครดิตแก่เวป sinodefence ไว้นะครับ     เพราะไม่ได้เข้าไปนาน   เห็นว่ามีการเปลี่ยนแปลงเยอะ   ก็เลยเอามาฝากกัน

             รุ่น 054  เดิมใช้เรด้าร์ Type 363S ซึ่งก๊อปมาจากฝรั่งเศส  Thomson-CSF DRBV-15   ซึ่งเป็นเรด้าร์ 2D  ซึ่งสามารถตรวจจับเป้าอากาศยานได้ไกล 150 กม.(จรวดต่อตีเรือจะตรวจพบที่ระยะ 50 กม.)      พอมาเป็นรุ่น 054 A ปั๊บ  ก็ไปใช้เรด้าร์จากรัสเซียแทน  คือ  เรด้าร์ TOP  PLATE   ซึ่งเป็นเรด้าร์ 3D ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่ามาก   สามารถตรวจจับเครื่องบินได้ที่ระยะ 230 กม.(บอกทั้งระยะห่าง  ความสูง  ทิศทางพร้อมๆกัน)   ตรวจจับจรวดได้ 50 กม. เท่ากัน

           ส่วนเรด้าร์ที่เห็นเปลี่ยนแปลงมากอีกอันคือ  ได้ติดตั้งเรด้าร์ควบคุมการยิงแบบ  front dome   จำนวน 4 ตัว  ที่เห็นเป็นหัวกลมๆ 2 หัวเหนือสะพานเดินเรือ   และอีก 2 หัวเหนือโรงเก็บ ฮ.     เรด้าร์ตัวนี้สามารถควบคุมการยิง SA-N-12  ซึ่งเป็นจรวดต่อสู้อากาศยานระยะยิงปานกลางเทียบได้กับ ESSM ของอเมริกา (แต่ลูกจรวดและระบบหนักกว่าใหญ่กว่า ESSM มาก)       

         และส่วนที่มีการเปลี่ยนแปลงที่เห็นทันทีก็คือ มีโดมเรด้าร์ขนาดใหญ่เหนือสะพานเดินเรือ    เพื่อนท่านใดที่รู้จักช่วยอธิบายเพิ่มเติมด้วยนะครับ 

       จริงแล้วผมสังเกตุเห็นการเปลี่ยนแปลงของอุปกรณ์สายอากาศต่างๆบนเสาแต่ละจุดว่าเปลี่ยนไปมากเลย    มีอุปกรณืบางตัวเพิ่มเข้ามาด้วย   แต่มิทราบได้ว่ามันคืออะไร    การเปลี่ยนแปลงขนาดนี้หมายถึงระบบอำนวยการรบจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงตามไปด้วยหรือไม่ครับ .......  ใครรู้ช่วยตอบทีนึง

       แต่การเปลี่ยนแปลงที่ชอบใจที่สุด คือ  ระบบอาวุธครับ     

1.   จรวดต่อสู้อากาศยานเปลี่ยนจาก HQ-7 ที่ก๊อปจากฝรั่งเศสมาและมีระยะยิงสั้นมากแค่ 13 กม.     น่าจะกลายมาเป็น SA-N-12  ซึ่งน่าจะเป็นเวอร์ชั่นที่จีนก๊อปมาจากรัสเซีย    แต่จะใช้ระบบ VLS แบบอเมริกันสไตล์แทนระบบแบบรีวอลเวอร์ในแบบของรัสเซียแทน     ซึ่งจีนพัฒนาเอง   บรรจุ 32 ลูก   ดูจากรูปแล้วระบบนั้นน่าจะใหญ่โตกว่า MK-41 ของอเมริกันไม่น้อยเลย      ทำให้เรือชั้นนี้มีลูกจรวดพร้อมใช้งานเพิ่มขึ้น 4 เท่าตัว

2.  ระบบป้องกันระยะประชิดนั้นมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก    คือ  เปลี่ยนจาก AK-630  จำนวน 4 ตัว  มาเป็น Tpye 730 จำนวน 2 ตัวอยู่กราบเรือ ซ้าย-ขวาแทน   ซึ่งอำนาจการยิงน่าจะดีกว่า AK-630 มาก     เพราะขนาดลูกกระสุนก็ใหญ่กว่า    ความเร็วในการยิงก็เหนือกว่ามาก  

        ถ้าจีนมีการพัฒนาการเรื่องระบบต่อต้านเรือดำน้ำที่เทียบเท่าระบบ ASROC แล้ว   วันข้างหน้าเรือชั้นนี้อาจติดตั้งระบบดังกล่าวได้   โดดยติดตั้งในแท่นยิง VLS แบบใหม่นี้ได้ด้วย(เอาหัวเป็นประกันว่าเข็นออกมาในไม่ช้านี้)    

       และจากการที่ระบบอาวุธของเรือชั้นนี้มีการเพิ่มประสิทธิภาพอย่างก้าวกระโดด   เช่น  จรวดต่อสู้อากาศยานเปลี่ยนไปใช้ระยะยิงปานกลาง   มีจำนวนมากถึง 32 ลูก  และยิงจากแท่น VLS   ระบบเรด้าร์เอง   ก็บ่งบอกได้ว่าเรือ 054A นั้นต้องสามารถควบคุมลูกอาวุธนำวิถีได้พร้อมกันที่เดียวหลายๆลูกได้ ( อย่างน้อยก็ต้อง 4 ลูก พร้อมกัน   และอาจมากถึง 10 ลูกพร้อมกันเลยก็ได้)       แสดงว่าระบบอำนวยการรบต้องเป็นระบบรวมการที่ต้องดีกว่า  ZKJ-4B/6 ที่ให้ฝรั่งเศสพัฒนาขึ้นมาให้(Thomson-CSF TAVITAC combat data system)      เพราะต้องจัดการกับภัยคุกคามที่เข้ามาพร้อมกันทุกทิศทางและหลายๆเป้าหมายได้     

           นับว่าเป็นการพัฒนาการที่จัดว่าก้าวกระโดดของเรือชั้นนี้    จนจะเรียกได้ว่ามีอำนาจการยิงเทียบเท่าเรือพิฆาตชั้น Type 051C ตัวใหม่แล้ว    เพียงแต่จำนวนจรวดอาจแบกไปน้อยกว่ากันมาก     เพราะระบบเรด้าร์เองก็เป็นรุ่นเดียวกันกับ Type 051C 

      ในรูปจะเห็นแถวฝาท่อ VLS แบบตะวันตกเด๊ะเลย

      ผมว่าฝรั่งเศสอีกน่ะแหล่ะที่น่าจะเป็นผู้ถ่ายทอดเทคโนโลยีด้าน VLS ให้แก่จีน    เพราะเห็นว่าเรือชั้นนี้ฝรั่งเศสช่วยเหลือตั้งแต่คอนเซ็ปการออกแบบ   ระบบเรด้าร์   ระบบอำนวยการรบ   ระบบเครื่องยนต์   แม้แต่ปืนใหญ่เรือก็ก๊อปกันมาเลย   เพียงแต่จีนอาจจะยังยึดติดในระบบอาวุธของรัสเซียอยู่ก็เท่านั้น(หรือไม่ฝรั่งเศสก็หวงระบบ ASTER มาก)     

       ถ้าเป็นฝีมือการช่วยเหลือจากฝรั่งเศส   ระบบอำนวยการรบก็ต้องใหม่เช่นกัน    และน่าจะก๊อปมาจากระบบใดระบบหนึ่งที่ขายดีของฝรั่งเศส      ถ้าเป็นเช่นนี้   เรือชั้นนี้ก็จะถือได้ว่าเทียบเท่ากับเรือฟรีเกตชั้นเยี่ยมของฝั่งตะวันตกแล้ว        ติดตั้งขนาดนี้ถือว่าอำนาจการยิงสูงกว่าเรือชั้นลาฟาแย๊ปแล้วนะครับ 

   ดังนั้นเนื่องจากเรือชั้นนี้อิงการพัฒนาจากระบบของฝรั่งเศส      ผมจึงอยากเสนอว่า    ทำไมทร.เราไม่ลองสนใจบ้างหรือครับที่จะจัดหาเรือชั้นนี้      อาจจะเลือกระบบเรด้าร์ อาวุธและระบบอำนวยการรบ   ที่เป็นของตะวันตกล้วนๆลงบนเรือชั้นนี้     หรือไม่ก็ใช้ระบบของจีนตามสเปกเรือทั้งหมดเลยก็ได้    เพราะดูแล้วอำนาจการยิงนี่หนักหน่วงเอาการ    และด้วยราคาที่ต่ำกว่ามาก    เราอาจจะสามารถจัดหาได้ถึง 4 ลำแทนที่จะเป็น 2 ลำ    เพราะขณะนี้ทร.เราก็ใช้เรือจากจีนมาก็ปาไปครึ่งกองเรือแล้ว     และด้วยสเปกเรือขนาดนี้ไม่ได้ขี้แหล่แล้วนะครับ      เพื่อนบ้านทางใต้เราก็อาจจะกระอักกระอ่วนก็ได้     

        เพราะจริงๆ  ต้องบอกว่าเรือชั้นนี้ก็คือเรือฝรั่งเศสต่อในจีนแดงน่ะแหล่ะ

น่าสนใจมากครับ กับเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นมาก ของจีน ซึ่งโดยส่วนมาก ก็เป็นเทคโนโลยีที่ได้มาจากทั้ง ทางรัฐเซีย และฝรั่งเศสเป็นหลักครับ...

อีกอย่างครับ เรื่องเรือ OPV ที่ทาง ทร. มีโครงการณ์จะต่อขึ้นในประเทศนั้น ตอนนี้ก็เริ่ม เป

น่าสนใจมากครับ กับเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นมาก ของจีน ซึ่งโดยส่วนมาก ก็เป็นเทคโนโลยีที่ได้มาจากทั้ง ทางรัฐเซีย และฝรั่งเศสเป็นหลักครับ...

อีกอย่างครับ เรื่องเรือ OPV ที่ทาง ทร. มีโครงการณ์จะต่อขึ้นในประเทศนั้น ตอนนี้ก็เริ่ม เป็นรูป เป็นร่างแล้วครับ โดยคร่าวๆ น่าจะมีระวางขับน้ำประมาณ 2,000 ตัน โดยอาจจะเป็นการขยายแบบจาก ร.ล.ชั้น ปัตตานี ครับ

ส่วนเรือ LPD นั้น น่าจะต่อจากต่างประเทศครับ โดยน่าจะเป็นจาก สิงคโปร์ หรือไม่ก็ จีนครับ

แล้วก็เรื่องเรือดำน้ำ เพื่อนๆ คิดว่าไงครับ ถ้ามันดำมาจากจีน โดยใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ จากรัฐเซียครับ...

จากภาพนี้เห็นได้ว่าระบบ VLS ของจีนที่ติดในเรือชั้น Type 054A นี้มีความคล้ายคลึงกับระบบ SYLVER ของฝรั่งเศสที่ใช้กับขีปนาวุธ Aster ครับ

http://en.wikipedia.org/wiki/Image:FS_CDG_aster.jpg

จะเห็นว่ามีท่อยิงรวม 16ท่อ เพราะฉนั้นคงจะบรรจุจรวด HQ-16 ไปได้ 16นัดเท่านั้นครับ โดย HQ-16 ซึ่งเป็นขีปนาวุธ SA-N-12 รุ่นที่จีนพัฒนาขึ้นนั้นจะมีระยะยิงไกลประมาณ 38กิโลเมตรครับ สั้นกว่า RIM-162 ESSM ซึ่งมีระยะยิงที่ 27nm (ราว50กิโลเมตร) และESSM นั้นมีขนาดเล็กกว่า สามารถติดตั้งในท่อยิงแบบ Mk41 โดยใช่ชุดบรรจุแบบ Mk25 Quad Pack ได้ถึง4นัดต่อท่อ รวมแล้ว Mk41 1ระบบ8ท่อยิงจะติด ESSM ได้ถึง 32นัดเลยครับ

ตามความเห็นส่วนตัวนี้ถ้ามีการ ทร. มีการสั่งต่อเรือในรูปแบบเดียวกับ Type 054A จากจีนเพื่อใช้เป็นเรือป้องกันภัยทางอากาศนี้ ปัญหาสำคัญคงอยู่ที่เรื่องความเข้ากันได้กับระบบอำนวนการกับอาวุธครับ ถ้าเราเลือกรูปแบบการต่อแบบใช้อาวุธมาตฐานตะวันตกผสมกับระบบของจีน(หรือรัสเซีย)แบบเดียวกับ ชั้น ร.ล.นเรศวร เช่น

ปืนใหญ่หลักใช้ 5"/54cal หรือ 5"/62cal  หรือ OTO 76mm อาวุธปล่อยต่อต้านเรือผิวน้ำใช้ Harpoon แล้วเชื่อมกับ Type 730 CIWS (30มม. หน้าตัดเดียวกับ AK-630ครับ แต่ Type 730 อัตราการยิงและระยะยิงไกลกว่า) และ HQ-16(SA-N-12) นี้คงจะวุ่นวายน่าดูครับสำหรับการติดตั้งระบบอำนวยการและระบบควบคุมต่างมาเชื่อมต่อกันให้ทำงานกันได้ทั้งระบบสหรัฐ ยุโรป รัสเซีย จีน

แต่ถ้าเอาระบบจีน-รัสเซียล้วนๆนี้ ระบบหลายๆอย่าง ทร.ก็ยังไม่มีใช้ครับครับ เช่น ปืนใหญ่หลักของเรือชั้น Type 054A นั้นเป็นปืน AK-176 ขนาด 76มม.ของรัสเซียซึ่งใช้กระสุนคนละแบบกับปืน OTO 76มม. ซึ่งเป็นปืนมาตรฐานของ ทร.ครับซึ่งถ้าเอามานี้จะดูมีแบบปืนมากไปครับ C-803 นี้ก็ของใหม่สุดของจีนด้วยครับ(แต่เขาน่าจะขายให้นะ) Type 730 นี้เท่าที่ทราบก็แพงครับ แต่นอกนั้นอย่างจรวดปราบเรือดำน้ำ หรือ Torpedo ปราบเรือดำน้ำนี้เราก็มีติดในเรือชั้นก่อนๆที่ต่อจากจีนแล้วครับ

แต่เรือชั้นนี้ก็นับว่าเป็นเรือฟริเกตจีนยุคใหม่ที่ความทันสมัยสูงครับ (แต่จะเหมาะกับ ทร.หรือไม่นั้นคงต้องศึกษาดูให้ละเอียดครับว่าต้องปรับแบบระบบอาวุธหรืออะไรบ้าง)

ส่วนตัวยังคิดว่าจีนคงต้องใช้เวลาอีกสักพักครับ ที่จะมีTechnology สูงพอที่จะต่อเรือดำน้ำสำหรับการส่งออก เพราะเรือดำน้ำดีเซล-ไฟฟ้าจีนในปัจจุบันนั้นนอกจากที่สั่งต่อจากรัสเซียแล้วคือชั้น Kilo แล้วนี้เรือดำน้ำแบบใหม่ของจีนของชั้น Yuan ที่มีรูปทรงของตัวเรือรับรูปแบบมาจากเรือรัสเซียและTechnology จากฝั่งตะวันตก ซึ่งพัฒนามาตั้งแต่เรือชั้น Song แล้วนั้น ก็นับว่าการต่อเรือดำน้ำเองของจีนพัฒนาไปมาแล้วก็จริงครับ แต่คิดว่ายังไม่ถึงขั้นที่จะต่อเพื่อการส่งออกได้ในระดับเดียวกับรัสเซียในขณะนี้

          งานนี้ ท่าพูดง่ายๆ

 หนุ่ม ฝรั่งเศส แต่งงานกับสาว จีน ลูกครึ่ง รัสเซีย

ลูกออกมา เลย กลายเป็น พันธุ์ผสม 3 ชาติ

  แต่ เชื้อพ่อ กับ เชื้อแม่ จะแรงกว่า

พ่อ เป็นคน ออกความคิด : แม่ เป็นคนตั้ง ครรภ์

           ก็เป็นอย่างนี้ แหล่ะ

    ผมว่า น่าจะเป็นเรือ ที่ ประสิทธิภาพ ดี

 แต่ คุณภาพ ปานกลาง ทั้งเรื่อง วัสดุ และ ความคงทน

  แต่ เรือฟริเกต และ เรือ OPV ของ ทร.ไทย ก็ สั่งต่อ มาจาก ประเทศ จีน แทบจะเป็น หลักเลย

  ถ้าของ ที่เราใช้อยู่ มันมี คุณภาพดี

       TYPE 054A ก็ น่าสน น่ะ