หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


ข่าว ยึดหลักพอเพียงผลิตอาวุธแทนซื้อ

โดยคุณ : Server เมื่อวันที่ : 28/07/2007 20:05:03

10 กรกฎาคม 2550 23:43 น.

การที่งบประมาณทางทหารถูกกดไว้นานตั้งแต่สมัย รสช.หมดอำนาจ และสถานการณ์ทางการเมืองในภูมิภาคอาเซียนที่เป็นไปด้วยมิตรไมตรี จึงดูเหมือนความจำเป็นในการซื้ออาวุธใหม่ๆ มีค่อนข้างน้อย

 แต่ว่าหลังจากการรัฐประหารโดย คมช.งบทหารได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เช่น โครงการซื้อฝูงบินมูลค่า 3.4 หมื่นล้านบาท และรถยานเกราะล้อยางอีก 4,000 ล้านบาท ฯลฯ ทั้งๆ ที่สถานการณ์ทางการเมืองในภูมิภาคยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงในทางเลวร้ายลง

 จริงอยู่ปัญหาความรุนแรงในภาคใต้มีความรุนแรงขึ้น แต่ไม่ถึงขั้นเป็นสงครามเต็มรูปแบบ ที่ต้องใช้อาวุธยุทโธปกรณ์ทันสมัยอะไรมากมาย เช่น เฮลิคอปเตอร์อาจจะมีความจำเป็นกว่าเอฟ 16

 ไม่มีใครปฏิเสธว่า ศักยภาพของกองทัพเป็นเรื่องสำคัญและจำเป็นสำหรับทุกประเทศ แต่ถ้าเรายึดแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งหมายถึงเศรษฐกิจแบบพึ่งตนเอง ไม่ก่อหนี้สิน ลดการพึ่งพาปัจจัยภายนอก แนวคิดนี้จึงน่าจะนำมาใช้กับกองทัพไทยได้

 การพึ่งตนเองของกองทัพ คือการใช้งบประมาณซื้ออาวุธมาพัฒนาบุคลากร ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อวิจัยและผลิตอาวุธเอง โดยกรมสรรพาวุธของกระทรวงกลาโหม

 กองทัพควรจะมีแผนสร้างบุคลากรที่เป็นนักวิทยาศาสตร์ วิศวกร นักวิจัย โดยการให้ทุนไปเรียนเทคโนโลยีด้านการผลิตอาวุธในประเทศต่างๆ ทั่วโลก ซึ่งใช้เวลาอย่างมากก็เพียง 4-6 ปีต่อรุ่น ปีหนึ่งใช้เงินไม่เกิน 2 ล้านบาทต่อคน

 อาวุธนั้นล้าสมัยและสึกหรอเร็วมาก เช่น เครื่องบินรบ ดังนั้น การชะลอซื้อเครื่องบินสัก 2-3 ปี แล้วนำงบมาให้ทุนส่งนักเรียนนายร้อย จปร.หรือให้ทุนนักศึกษาทั่วไปให้ไปเรียน โดยมีข้อผูกมัดให้กลับมารับใช้ชาติสักปีละ 200-300 คน (ใช้งบ 600 ล้านบาทต่อปี) ภายในไม่กี่ปีประเทศไทยก็จะมีผู้เชี่ยวชาญเป็นจำนวนพันๆ คนกลับมาลงมือผลิตอาวุธได้เอง และอาจจะผลิตเพื่อส่งออกได้ทุนคืนอีกด้วย

 ประเทศจีนก็ใช้วิธีนี้ แต่เขาให้ทุนนักศึกษาปีละหลายพันคน จีนจึงสามารถผลิตอาวุธได้เกือบทุกประเภทในทุกวันนี้ และกลายเป็นผู้ส่งออกอาวุธรายสำคัญด้วย

 นโยบายของกองทัพที่ผ่านมาคิดแต่จะซื้ออาวุธจากประเทศอื่น ซึ่งมักจะมีข้อครหาตามมาว่า ผู้มีอำนาจตัดสินใจมักจะได้ค่าดีดกลับหรือคิกแบ็ค จนสามารถสร้างคฤหาสน์ใหญ่เหมือนราชวัง อยู่แถวๆ ดอนเมืองที่มีอยู่หลายหลัง

 กองทัพไทยจึงพึ่งตนเองไม่ได้ แม้แต่อาวุธโลเทค เช่น ปืนเอ็ม 16 หรืออาก้า ก็ยังผลิตเองไม่ได้ เสื้อเกราะก็ยังต้องให้นักศึกษาอาชีวะผลิต ถ้าส่งเสริมกันดีๆ นักศึกษาอาชีวะก็สามารถผลิตปืนเอ็ม 16 หรืออาก้าให้กองทัพได้ด้วยซ้ำ

 อยากเห็นกองทัพ เลิก ลด ละ ความโลภ และเห็นแก่ตัว แล้วหันมาสร้างความเข้มแข็งด้วยการพึ่งตัวเองอย่างเป็นไท และมีศักดิ์ศรีสักที

 

http://www.komchadluek.net/2007/07/column/m015_126565.php?news_id=126565




ความคิดเห็นที่ 1


เฮ้อ....ข่าวไทย อ่านแล้วปลงครับ

ข้อมูลไม่มีเขียนก็มั่ว

 HK-33 เราคงไม่ได้ผลิดหรอกมั้ง

ประเทศอื่นรอบๆซื้อเอาๆความจำเป็นที่จะซื้ออาวุธคงไม่มีมั้ง

ถ้ามันเกินสงครามจริง ฮ คงยิง ซู มิก เอฟฯลฯ ประเทศอื่นได้มั้ง

คิดว่าอาวุธผลิดง่ายเหมือนของเล่นมั้ง ศึกษาแค่ไม่กี่ปีก็ได้ส่งออกแล้วมั้ง

จีนเขาทำอยางนี้ได้เขาคงศึกษาลองผิดลองถูกแค่ปี-2ปีมั้ง

แค่อยากให้พึ่งตนเอง ก็เลยให้สร้างอาวุธใช้เอง  คิดง่ายไปมั้ง

สุดท้ายท่านนักข่าว...ตื่นได้แล้วมั้ง

โดยคุณ tow เมื่อวันที่ 14/07/2007 14:29:14


ความคิดเห็นที่ 2


 

เฮ้อ....ข่าวไทย อ่านแล้วปลงครับ

ข้อมูลไม่มีเขียนก็มั่ว

 HK-33 เราคงไม่ได้ผลิตหรอกมั้ง

ประเทศอื่นรอบๆซื้อเอาๆความจำเป็นที่จะซื้ออาวุธคงไม่มีมั้ง

ถ้ามันเกินสงครามจริง ฮ คงยิง ซู มิก เอฟฯลฯ ประเทศอื่นได้มั้ง

คิดว่าอาวุธผลิดง่ายเหมือนของเล่นมั้ง ศึกษาแค่ไม่กี่ปีก็ได้ส่งออกแล้วมั้ง

จีนเขาทำอยางนี้ได้เขาคงศึกษาลองผิดลองถูกแค่ปี-2ปีมั้ง

แค่อยากให้พึ่งตนเอง ก็เลยให้สร้างอาวุธใช้เอง  คิดง่ายไปมั้ง

สุดท้ายท่านนักข่าว...ตื่นได้แล้วมั้ง

โดยคุณ tow เมื่อวันที่ 14/07/2007 14:30:19


ความคิดเห็นที่ 3



บ้ากันไปใหญ่แล้ว คนเขียนมันมีข้อมูลอะไรบ้างมั้ยนะ
เอะอะก็เขียนเอะอะก็ค้านอย่างเดียว
โดยคุณ Tasurahings เมื่อวันที่ 14/07/2007 15:33:12


ความคิดเห็นที่ 4


คงไม่มีประเทศไหนเขาให้เทคโนโลยีอาวุธกันแบบฟรีหรอกครับ ถึงเราจะส่งคนไปเรียนมันก็ไม่ได้ง่ายขนาดนั้นหรอกครับ  การผลิตอาวุธต้องอาศัยวิชาความรู้ด้านวิศวกรรมชั้นสูงหลายแขนงซึ่งต้องใช้เวลาอีกยาวนานกว่าไทยจะพร้อม(ขออย่างต่ำสัก 10 ปี)

โดยคุณ sam เมื่อวันที่ 14/07/2007 16:26:05


ความคิดเห็นที่ 5



ผมหละเกลียดนักข่าวจำพวกนี้จริงๆ
ไม่มีความรู้ แล้วมานั่งเทียนเขียนชักนำคนอื่นแบบนี้
โดยคุณ Zepia เมื่อวันที่ 14/07/2007 23:20:21


ความคิดเห็นที่ 6


 

เอชเค-33 ยุติ สายการผลิต ไปแล้วไม่ใช่หรอครับ...

 

โดยคุณ ท.กองหนุน เมื่อวันที่ 15/07/2007 00:05:30


ความคิดเห็นที่ 7


อย่าไปว่าเขาเลย มันก็ถูกในตรรกะของเขานะครับ......ตรรกะของคนที่ไม่รู้เรื่องอาวุธแม้แต่วิธีในกระสุน
โดยคุณ Skyman เมื่อวันที่ 15/07/2007 02:23:09


ความคิดเห็นที่ 8


อ่านแล้วเศร้า...ไม่น่าเชื่อว่า เงิน สามารถทำให้คนเราแกล้งโง่ได้ขนาดนี้

แล้วที่เราต่อเรือใช้เอง ตั้งหลายรุ่น หลายลำ กระสุน ป. , ค. , กระสุนปืนเล็ก ที่เราผลิตขาย หรือแม้แต่อุปกรณ์ช่วยรบต่างๆ กรมวิทยาศาสตร์ทหาร (ทั้งสามเหล่า) เค้าทำออกมาประจำการตั้งหลายแบบ

ทำไมมันไม่เอ่ยถึงหว่า... หรือว่าเงินที่มันใช้ ไม่ได้มีพระฉายาลักษณ์ของพระเจ้าอยู่หัว มันถึงชอบสร้างความเข้าใจผิด และแตกแยกให้สังคมน้อ.... ไอ้พวกชิงเปรตเกิด

โดยคุณ น่าคิด เมื่อวันที่ 15/07/2007 09:06:28


ความคิดเห็นที่ 9


ครับ HK-33 ยุติการผลิตไปแล้วครับ

จริงๆผมก็ไม่ได้อยากจะด่านะ ok เขาเป็นนักข่าวอาจจะไม่รู้เรื่องทหารเท่าไร เลยไม่รู้ว่าเราผลิตอะไรใช้เองได้มั่ง แต่อยากรู้ว่า ที่ด่าเราพึ่งตนเองไม่ได้เนี่ย ตอนปล่อยเรือต.991 เนี่ยคนเขียนเขาไปอยู่ที่ไหนวุ้ย  -*-

 

โดยคุณ tow เมื่อวันที่ 15/07/2007 09:58:29


ความคิดเห็นที่ 10


อยากรู้จริงๆว่าบ้านคนเขียนมันอยู่ใหน
จะได้เอาหนังสือ สมรภูมิ ไปบริจาคให้อ่านกันหน่อย
โดยคุณ Victor Flanker เมื่อวันที่ 15/07/2007 11:07:59


ความคิดเห็นที่ 11


สงสัยนักข่าวคงจะคิดว่าอาวุธเป็นบทความมั้ง  นึกจะทำเมื่อไรก็ได้

โดยคุณ ขี้ม้าแก่ เมื่อวันที่ 16/07/2007 07:59:32


ความคิดเห็นที่ 12


การยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงมันก็ถูก แต่การที่จะผลิตอาวุธขึ้นใช้เองจะต้องคำนึงถึงปัจจัยด้านต่างๆ ทั้งเทคโนโลยี วัดถุดิบ เงินทุน การวิจัยและพัฒนา ฯลฯ ในขณะที่รอบบ้านเรามีการจัดหายุทโธปกรณ์ที่ทันสมัยอยู่ตลอดเวลา แล้วจะเอาอะไรไปคานอำนาจทางเศรษฐกิจล่ะ มัวแต่พอเพียงในสิ่งที่จำเป็น พม่า ลาว ก็แซงหน้ากันพอดี
โดยคุณ srinaranun เมื่อวันที่ 28/07/2007 20:05:03