หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


ฉลองภพจะให้โครงการเมกกะโปรเจคจ่ายเงินเป็นดอลล่าร์

โดยคุณ : neosiamese เมื่อวันที่ : 14/07/2007 23:37:11

 

      เห็นว่าขณะนี้ทางกระทรวงการคลังและธปท.กำลังกระอักเลือดเนื่องจากพิษค่าเงินบาท     ตอนนี้ก็อุดไปเกือบ 2 ล้านล้านบาทแล้ว( F-15E กี่ฝูงหวานี่)      ถ้าค่าเงินยังแข็งต่อเนื่องรับรองขาดทุนบักโกรก     และใช้ดอลล่าร์เป็นเงินทุนสำรองมากๆ (ตอนนี้กว้านซื้อดอลล่าร์ซะจนเงินทุนสำรองที่เป็นเงินดอลล่าร์พุ่งกระฉูดในประวัติศาสตร์ไทย)ก็จะเสียเด้งที่สองเพราะค่าเงินดอลล์กำลังเสื่อมค่า      สู้เก็บเป็นเงินยูโรหรือเงินเยนยังจะดีกว่า    เพราะกำลังแข็งค่าขึ้นเรื่อยๆ    เก็บแล้วมีกำไร

       ดังนั้น   ท่านรมต.กระทรวงการคลังท่านนี้จึงออกแนวคิดที่จะให้หน่วยงานรัฐและการลงทุนเมกกะโปรเจคของภาครัฐ    จ่ายเงินเป็นดอลล่าร์แทน............    ดังนั้นถ้าทอ.จัดหา F-16 60 หรือ F-15 E   ก็คงต้องจ่ายกันเป็นเงินดอลล่าร์ที่เอามาจากเงินทุนสำรองเงินตราต่างประเทศกันเลยโดยตรง     เพราะขณะนี้   เงินทุกบาทในคลังของประเทศจมไปกับการอุดค่าเงินบาทไม่ให้แข็งค่าจนภาคส่งออกพัง (แต่นำเข้าเฮ)          

        คงต้องมีการออกกฎกระทรวงหรือเปิดช่องทางกม.เพื่อนำเงินที่ไปถมอยู่ในรูปดอลล่าร์เต็มกระเป๋าเอามาใช้ในการซื้อทุกอย่างที่นำเข้าจากต่างประเทศ    แม้แต่จ่ายค่าทำรถไฟฟ้าก็เหอะ 

        ไอเดียนี้ใช้ได้นะผมว่า    ยังไง้ยังไงก็ดีกว่ามาตรการ30%  ที่แทบจะพาล่มจมของรมต.เดิม

        เงินดอลล์จมอยู่ในคลังมหาศาล   ...........   ถ้าใจปั้มอาจได้ F-16 block 60 พร้อมระบบอาวุธแบบฟูลออปชั่น   เพราะจะรีบๆระบายเงินดอลล์ออกไป    ........    ฝันจังวุ้ย

 

       

 





ความคิดเห็นที่ 1


วันนี้ตอนเย็นได้ดูข่าวช่อง 3 ที่คุณสรยุทธ์เป็นผู้ดำเนินรายการ ที่วันนี้กลายเป็นข่าวดังที่อยู่ๆ โรงงานส่งออกเสื้อผ้านักกีฬาที่ตั้งมาตั้งแต่ พ.ศ.2532 ได้ปิดตัวลงอย่างกะทันหันไม่บอกกล่าวทางคนงานให้ทราบล่วงหน้า ผมจำชื่อโรงงานไม่ได้แต่เป็นโรงงานขนาดใหญ่เปิดดำเนิน 2-3 สาขานี้แหละที่ฟัง(พอดีนั่งทำงานคอมฯอยู่เลยไม่ได้ตั้งใจฟังมากนักที่คนที่บ้านนั่งดูอยู่) เฉพาะสาขานี้สาขาเดียวตั้งอยู่ที่จังหวัดสมุทรปราการมีคนงานถึง 5,000 คน ถูกลอยแพเลิกจ้างทั้งหมดอย่างกะทันหันโดยไม่มีการบอกก่อนเลยล่วงหน้าซักวัน โดยบริษัทให้เหตุผลว่าเพราะค่าเงินบาทแข็งค่าเกินไปไม่สามารถส่งออกสินค้าได้จึงต้องปิดกิจการ ลามเข้ามาถึงโรงงานใกล้ๆ กรุงเทพแล้วแหะที่เคยได้ยินข่าวมาเห็นแถวต่างจังหวัดแถวอีสานเริ่มปิดกันบ้างแล้ว 

ขอเถอะอย่าต่ำกว่านี้เลยครับไม่งั้นเครื่องบินฝูงใหม่ก็อาจจะไม่ได้ครับเพราะต้องเอาเงินไปพยุงอย่างอื่นแทน

โดยคุณ ??? เมื่อวันที่ 11/07/2007 22:13:44


ความคิดเห็นที่ 2


มีเงินสำรองระหว่างประเทศเยอะๆ อ่ะดีแล้วครับ เอาออกมาใช้มากๆ นี่ดิน่าเป็นห่วง จำตอนที่เศรษฐกิจเราล่มครั้งก่อนได้ไหมครับอาการตอนเริ่มแรกที่บอกว่าเศรษฐกิจกำลังจะล่มมันเป็นยังไง เทสู้จนเงินแทบหมดคลังเลยต้องไปกู้เขามาพยุงตัวเอง ผมจำสถานะการณ์ตอนนั้นได้ไม่เคยลืมเลย.....ซี้ดดดดด

อนึ่งการซื้อเครื่องบินยังไงก็ต้องใช้เงินดอลล่าห์สหรัฐครับหรือไม่ก็ยูโรกับปอนด์ตามมาตราฐานการค้าจริงของสากลปัจจุบันนี้ครับ  

โดยคุณ ??? เมื่อวันที่ 11/07/2007 22:22:35


ความคิดเห็นที่ 3


 

  การที่มีเงินทุนสำรองเงินตราต่างประเทศแล้วดีนั้นต้องเป็นกรณีที่ประเทศเรามีบ/ชเกินดุล 3 บ/ช (จำม่ะได้แล้วเรียนมานานลืม)    ก็มีดุลการค้าที่เกินดุล    แน่นอนว่าเงินตราต่างประเทศก็จะไหลเข้ามามากและประเทศเราร่ำรวย      อีก 2ตัวจำม่ะได้ต้องกลับไปเปิดตำรา      

            แต่กรณีนี้ต่างกันมากนะครับ     เพราะเป็นกรณีที่รัฐบาลต้องนำเงินมหาศาลจากทุกส่วนของคลังหรือที่แย่สุดก็กู้มา(ตอนนี้ต้องออกพันธบัตรหือกู้มาสู้ค่าเงินบาทกันแล้ว)        คือพูดง่ายๆ  ก็คือ  นำเงินเก็บและกู้เงินมาเปลี่ยนเป็นเงินดอลล่าร์    เพียงเพื่อให้เงินบาทมันอ่อนค่าลงเพื่อรักษาภาคการผลิตซึ่งเป็นตัวขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจกว่าครึ่ง         ซึ่งมันไม่ได้มาจากการที่ประเทศค้าขายร่ำรวย  หรือ เงินไหลเข้ามาลงทุนในภาคการผลิตจริงๆ (ไหลเข้ามาเก็งกำไรช่วงสั้นๆแล้วขนออกไปเมื่อกำไรจนอิ่มแล้ว .......แม้ว่าในทางทฤษฎีจะถือว่าเป็นสิ่งดี   แต่ในทางปฎิบัติถือว่าแย่มาก)    

       ดังนั้นการที่กระทรวงการคลังเสนอให้รัฐบาลลงทุนภาครัฐเป็นเงินดอลล์      ก้เพราะว่าเราดันไปเก็บเงินตราต่างประเทศที่กำลังเสื่อมค่าลงอย่างรวดเร็วต่างหาก     ดังนั้นต้องรีบๆใช้มันไปให้หมดก่อนที่มันจะเสื่อมค่าลงไปกว่านี้อีก      ไม่ดีเลยนะครับ     เพราะว่ามันจะไปส่งผลที่ดุลการค้าระหว่างประเทศจังๆเลย      เพราะมันจะทำให้ประเทศขาดดุลการค้ามหาศาล .........  เท่ากับว่าค้าขายเจ๊งบ้ง......มีแต่เจ๊งกับเจ๊ง..........แล้วมันจะทำให้เงินทุนสำรองลดลงได้......ผลตามมาคือ   ฝรั่งจะหาเรื่องถอนเงินทุนที่เข้ามาเก็งกำไรออก .............. แล้วค่าเงินจะร่วงทันที               ก็ตรงตามจุดประสงค์ของกระทรวงการคลังและ ธปท.ล่ะครับ     แต่ประเทศคงจะย่ำแย่ไม่น้อยเลยทีเดียว         แต่อย่างน้อยก็น่าจะเป็นหนึ่งในมาตรการที่น่าจะดีกว่ากัน 30% ก็แล้วกัน     เพราะขณะนี้นโยบายดอกเบี้ยก็ถูกขวางอยู่     ทั้งๆที่มันสมควรที่จะทำ    เพราะเป็นการกระตุ่นเศรษฐกิจที่กำลังแย่    รับรองว่าไม่ส่งผลให้ภาวะเงินเฟ้อกระโดดหรอกครับ     เพราะกำลังซื้อขณะนี้มันหดตัวลง    นอกจากนี้ยังทำให้ส่วนต่างดอกเบี้ยระหว่างเรากับประเทศอื่นๆห่างกันมากขึ้น(ดอกเบี้ยเราจะต่ำกว่าเพื่อนบ้าน)จะทำให้เงินที่เข้ามาเก็งกำไรจากการฝากกินดอกเบี้ยนั้น    ไหลออกไปยังประเทศอื่นๆ   เพราะขณะนี้เพื่อนบ้านกำลังจะเริ่มการขึ้นดอกเบี้ยกันอีกรอบแล้ว   

          ค่าเงินแข็งคราวนี้    เงินทุนสำรองเงินตราต่างประเทศที่เพิ่มพรวดมหาศาลคราวนี้     ไม่ได้เป็นผลดีต่อประเทศเลยนะครับ     แต่มันกำลังจะทำให้พวกเราล้มละลายกันทั้งประเทศ

 

โดยคุณ neosiamese เมื่อวันที่ 11/07/2007 22:45:07


ความคิดเห็นที่ 4


 

    นอกจากนี้การที่นำเข้าแล้วดูถูกลง   ก็จะกระตุ้นให้หน่วยงานรัฐและเอกชนอยากนำเข้าเครื่องจักรและสินค้าบางประเภท(เช่นอาวุธ)เพราะมันถูกลงในสายตาเรา(ที่ค่าเงินกำลังแข็งค่าอย่างรวดเร็ว)          นอกจากดุลการค้าที่จะต้องพินาศแล้ว      หีบงบประมาณก็จะปิดหีบไม่ลง   สุดท้ายก็จะนำไปสู่ภาวะการล้มละลายของภาครัฐบาลเพราะเนื่องจากกู้ยืมมาตลอด       ดูรัฐบาลอเมริกาเป็นตัวอย่างสิครับ      ปิดหีบงบประมาณไม่ลงมากว่า 35 ปีแล้ว(น่าจะถึง 40 ปีแล้วต่างหากด้วยซ้ำ)     เป็นหนี้เป็นสินจนอยู่ในภาวะล้มละลายได้แล้วนะครับ      พันธบัตรรัฐบาลอเมริกาตอนนี้มันมีมากซะจนถ้าประเทศที่ถือพันธบัตรพร้อมใจกันไถ่ถอนหรือขายทิ้งพร้อมกัน     รัฐบาลอเมริกันและเศรษฐกิจอเมริกาต้องล้มทั้งยืนทันที     ตอนนี้รัฐบาลอเมริกาเป็นลูกหนี้รายใหญ่ที่สุดในโลกแล้ว        ที่มันยังไม่เจ้งเพราะมันเป็นอภิมหาอำนาจแล้วยังให้ธนาคารโลกมาตั้งในประเทศมัน     ซึ่งหมายถึงทองคำที่ทุกประเทศทั่วโลกนำมาฝากไว้ในการประกันให้ค่าเงินตนเองมีค่าเป็นที่ยอมรับทั่วโลกนั้น......อยู่กะมันเพียงประเทศเดียว  

      ก็เป็นจุดที่จีนนำมาใช้ในการคานอำนาจกับอเมริกาด้วยนะครับ     เพราะจีนถือพันธบัตรอเมริกันและเงินดอลล่าร์อเมริกันมากเป็นที่สองและที่หนึ่งตามลำดับ     ซึ่งถ้าอเมริกางี่เง่ากับจีนมากๆ     จีนก็จะสามารถโจมตีโครงสร้างทางเศรษฐกิจของอเมริกาโดยตรงให้อเมริกาล้มละลายได้ชั่วข้ามคืนเท่านั้น      ไม่จำเป็นต้องส่งกองทัพไปรบด้วยเลย (ตามตำราซุนวูเป๊ะ ...... ถ้าสามารถทำลายทัพศัตรูได้โดยเราไม่ต้องออกรบ   จะถือว่ายอดเยี่ยมยิ่งกว่ารบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง     ถือว่าสุดยอดของการทำสงครามแล้ว    ใครชอบตำราซุนวูจริงๆจะรู้ว่ารบร้อยครั้งชนะร้อยครั้งน่ะไม่เท่าไร่     ใครที่มักอ้างคำพูดว่ารบร้อยครั้งชนะร้อยครั้งถืดว่ายอดเยี่ยมของซุนวู     แสดวงว่าผู้นั้นไม่เคยอ่านซุนวูแบบจริงจัง)

       เฮอะๆๆๆๆๆ....สถานะการณ์ทางเศรษฐกิจขณะนี้หนาวมากนะครับ     ถ้าฉลองภพแพ้พ่าย..........งานนี้ยิ่งกว่าปี 40 หลายเท่า    เพราะคราวนั้นเอาเงินไปอุดค่าเงินบาทน้อยกว่านี้มากๆๆเลยครับ 

 

     

โดยคุณ neosiamese เมื่อวันที่ 11/07/2007 23:07:03


ความคิดเห็นที่ 5


 

....กักตุน มาม่า ต้มยำกุ้ง กันรึยังเอ่ยยยย ?...ผมเก็บเป็นลังไว้แต่เดือนก่อนนละ ...

...เฮ่ออออออออ....เมืองไทย ....

 

 

โดยคุณ ท.กองหนุน เมื่อวันที่ 11/07/2007 23:23:38


ความคิดเห็นที่ 6



อิอิ มาม่า ต้มยำกุ้ง อาหารหลักของนักศึกษามหาวิทยาลัย อยู่แล้วครับ
โดยคุณ Tasurahings เมื่อวันที่ 11/07/2007 23:37:17


ความคิดเห็นที่ 7


ปัญหาใหญ่บนปัจจัยใหม่พื้นฐานเศรษฐกิจคนละแบบกับวิกฤตคราวก่อน .............ไม่มีทางที่เราจะล้มแบบคราวที่แล้วแน่นอน   ............ (คราวที่แล้วตีลังกาหัวกระแทกพื้น คราวนี้อาจย่อเข่าลงแล้วค่อยฟุบๆ)

นั่งดูตลาดหุ้นแล้วสยองลึกๆ หุ้นขึ้นไป100กว่าจุด ในชั่วเวลาอาทิตย์สองอาทิตย์ ไม่ใช่เรื่องปกติเลยครับ

ยิ่งค่าเงินบาทอ่อนเกือบแตะ30 ที่ตลาดออฟชอว์แล้วหวั่นๆ  การส่งออกเราเป็นรายได้หลักที่ยังไม่แข็งแรงเพื่งมากระตุ้นกันไม่กี่ปีมานี้เอง น่ากลัวครับ

 

เพื่งลุกจากหลุมได้ไม่กี่ปี ทิ้งไม้เท้าเดินเองได้ไม่กี่ก้าวก็ขัดแข็งขัดขากันเองจนวันนี้ท่าทางจะลงไปกองอีกแล้วมั้ง ................ภาวนาขออย่าให้เกิดเหตุร้ายอะไรกับค่าเงินหยวนของจีนเลย 

 .................ได้แต่ภาวนา ..ไม่อยากกู้ชาติของจริง


โดยคุณ wap เมื่อวันที่ 11/07/2007 23:56:57


ความคิดเห็นที่ 8


เป็นผลมาจากปัจจัยพื้นฐานกับตลาดหุ้นไม่สมดุลกัน ภาคประชาชนยังขาดความเชื่อมั่นในการบริโภคอยู่ แถมผู้ส่งออกยังเทขายเงินดอลล์อีก อุตสาหกรรมสิ่งทอ กับอาหารจะตาย เป็นอันดับต้นๆครับ ตามมาด้วยอุตสาหกรรมอื่นๆ เช่นพลาสติก เหล็ก 

ความเห็นของผมรัฐควรรีบลดต้นทุน พลังงาน และการขนส่งให้มากว่านี้ครับ

 

โดยคุณ sam เมื่อวันที่ 12/07/2007 09:09:54


ความคิดเห็นที่ 9


มาเสริมว่า บัญชีอีก2 ตัว คือ บัญชีเดินสะพัด และ บัญชีทุน

ซึ่ง เมื่อรวม บัญชี ดุลการค้า    เดินสะพัน  และ ทุน จะตบผลรวมมาเป็น ทุนสำรอง ครับ

 

  การ ขาดดุลการค้า ไม่เป็นเรื่องที่จะต้องวิตกกังวล  เราสามารถ ขาดดุลการค้าได้เสมอ  แต่ตัวที่ควรห่วงคือ ดุล บัญชีเดินสะพัด  หากว่า ตัวนี้ ขาดดุลเมื่อไหร่ เศรษฐกิจ จะเกิดหายนะทันที แบบปี 40 ซึ่ง ส่งสัญญาณจากบัญชีเดินสะพัดที่ขาดดุลติดต่อกัน หลายเดือน

 

  การจะนำ เงินดอล์ดไปซื้อสินค้า ส่วนตัวเห็นว่าเป็นเรื่องดี    ยอมให้ประเทศขาดดุลการค้า สักหน่อยเผื่อจะช่วยทำให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงได้

 

  ส่วนพวก โรงงานต่างๆ ที่ปิดตัว โดยส่วนตัวเห็นใจแต่ว่า พวกนี้ ไม่ตายวันนี้ อีกไม่กี่ปีก็ต้องตาย เราต้องยอมรับว่า การเป็นพวกรับจ้างผลิต ยังไง จีน กับเวียดนาม เค้าได้เปรียบเรามาหลายปีแล้ว เราสู้ไม่ได้  และพวกเจ้าของโรงงานไม่ยอมปรับตัวเอง เอะอะก็ให้รัฐช่วยแทรกแซงค่าเงินซึ่งเป็นไปไม่ได้  แล้วครับ

 

    ผมกลับมองว่า ปัญหาเศรษฐกิจคราวนี้ ต่างจากปี40  อย่างมาก หนักเหมือนกัน  แต่ว่าคงน่าจะเอาตัวรอดได้

 

 

 

โดยคุณ ericson เมื่อวันที่ 12/07/2007 09:32:29


ความคิดเห็นที่ 10


น้องงงครับ โรงงานที่ว่าโรงงานเก่าพี่เองครับ เจ้าของเป็นคนฮ่องกงแต่งงานกับคนไทยเลยเปลี่ยนชื่อมาเป็นคนไทย ที่เจ๊งนั่นเพราะแกใช้เงินกับเรื่องไม่เป็นเรื่องครับที่ว่าค่าเงินทรุดก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เจ๊งครับ แต่ไม่ใช่สาเหตุหลัก

โดยคุณ piyabhut เมื่อวันที่ 12/07/2007 10:53:39


ความคิดเห็นที่ 11


โรงงานใหญ่ขนาดมีลูกจ้างร่วมห้าพันคน เจ๊งหยุดกิจการเพราะการพนัน.........!!!!!!!!..............มันไม่บ้องตื้นไปหน่อยหรือครับ....................................สินทรัพย์เปลี่ยนมือกันได้ เทคโอเว่อร์ คนเก่าไปคนใหม่มา ............................สาเหตุ ที่ต้องปิด หลายๆกรณี มันมีเหตุผลแบบคอมม่อนครับ คือ เจ๊งเพราะ "ขาดทุน"   สุดแต่ว่าแต่ขาดทุนเพราะอะไร ของห่วย ขายแข่งเขาไม่ได้ หรืออีกกรณีที่สำคัญคือ การบริหารความเสี่ยงผิดพลาด .................. นักบริหารการตลาด หลายคนๆ ร่ำรวย และยากจนเป็นยาจก ด้วยเทคนิคการบริหารความเสี่ยงครับ..................... ยกตัวอย่างการบริหารความเสี่ยงที่เห็นเป็นรูปธรรมเช่น ตลาดซื้อขายล่วงหน้า กองทุนบริหารการเงิน 9ล9......................ล็อกซเล่ย์เกือบตายเพราะบริหารความเสี่ยงผิดพลาด ก่อนปี39ไปออกบอนด์ 200 ล้านเหรียญในต่างประเทศ พอเจอต้มยำกุ้ง ลอยค่าเงินบาท ยักษ์ใหญ่หัวฟาด เมาอยู่ร่วมสิบปี เดี๋ยวนี้ยังซีดๆอยู่ ยิ่งมาเจอหวยออนไลน์ กะ ซีเคียวริตี้สุวรรณภมิ โดยพะนะท่านวีระบุหลุด ยิ่งออกอาการลมจะชัก นี่การเมืองก็เป็นอีกความเสี่ยง จึงขอบอก....................อย่างนี้เป็นต้น...................
โดยคุณ กบ เมื่อวันที่ 12/07/2007 12:12:31


ความคิดเห็นที่ 12


สมัยรัฐบาลทักษิณ กระตุ้นให้เกิดการบริโภค เพื่อก่อให้เกิดการจ้างงาน ก็ถูกด่าว่าทุนนิยมบริโภค สร้างหนี้ครัวเรือน  พอมาถึงรัฐบาลวีระบุรุษ เน้นพอเพียงเพิ่มงบการทหารเกือบเท่าตัว ครัวเรือนคงลดการเป็นหนี้ลงแต่........อย่างที่เห็นนะครับพี่น้อง
โดยคุณ Kfpz เมื่อวันที่ 12/07/2007 13:56:01


ความคิดเห็นที่ 13


ปรบมือให้พี่กบ แปะๆๆๆๆๆ พูดถูกใจ บ้องตื้น เอิ๊กส์ 
โดยคุณ icy_nominee เมื่อวันที่ 12/07/2007 14:16:02


ความคิดเห็นที่ 14


ชอบพี่กบมากเลย ...เห็นด้วย...อีกเรื่องที่สงสัยปีที่แล้วสิงคโปร์มาใช้ฐานทัพในไทยบอกว่ารัฐบาลขายชาติสิงคโปร์ครอบงำ..แต่ตอนนี้เซ็นให้ใช้อีกสามปี..ขาย.....หรือเปล่าค่าเช่าเท่าไรเงินอยู่ที่ไหนใครจะตรวจสอบ....
โดยคุณ u209 เมื่อวันที่ 12/07/2007 21:44:31


ความคิดเห็นที่ 15


คุณกบครับ ว่าใครบ้องตื้นครับ เรื่องภายในบางอย่างคนนอกก็ไม่รู้นะครับ อีกอย่างน้องไอซี่คุณยังโกรธผมไม่หายอีกหรือครับ ข้องใจเรื่องใดบอกมาได้ครับ ลูกผู้ชายพอ

โดยคุณ piyabhut เมื่อวันที่ 13/07/2007 15:31:55


ความคิดเห็นที่ 16


เนื้อหาจากผู้บอกเล่าเรื่องโรงงานครับ

...........................................................

tossaporn



Joined: 15 Oct 2004
Posts: 85

PostPosted: Wed Jul 11, 2007 8:50 pm    Post subject: Reply with quote

ผมมีความจริงจากข่าวนี้มาเล่าสู่กันฟัง....

ผมเป็นเซลล์ (ขายผ้าในส่วนของอาดิดาส) โรงงานทำผ้า ซึ่งเป็น Suppiler รายใหญ่ให้กับ อาดิดาส และไนกี้ ซึ่งไทยศิลป์ก็ซื้อผ้าจากบริษัทผมเช่นเดียวกัน ซึ่งในส่วนของไทยศิลป์นั้นเป็นลูกค้าเจ้าหนึ่งที่ผมดูแลอยู่..

ผมบอกได้เลยครับว่า พิษค่าเงินนั้นเป็นเรื่องที่มีผลกระทบการปิดกิจการครั้งนี้ไม่มากเท่าไหร่ แต่ปัจจัยหลักที่ทำให้ไทยศิลป์ต้องปิดกิจการลงเนื่องมาจากความผิดพลาดในการผลิต ทำให้มีคนตาย (ไฟดูด) ในระบบงานซึ่งอาดิดาสในตอนนั้นถือยอดอยู่กว่า 70% ของไทยศิลป์ รับไม่ได้และให้ไปปรับปรุงในจุดที่ก่อให้เกิดอัตราย แต่ไทยศิลป์ก็ไม่ได้ปรับปรุงจนทางอาดิดาสไปเจอเอง อาดิดาสเลย move ออร์เดอร์ทั้งหมดออกจากไทยศิลป์เพื่อเป็นการทำโทษ โดยทางผมเองมีการคุยกับทางอาดิดาส และอาดิดาสประเทศไทยนั้นก็บอกกับผมว่าอาจจะกลับมากจ้างไทยศิลป์ผลิตอีกภายใน 2 ปี แต่ผมก็ไม่คิดว่าจะเกิดอะไรแบบนี้ขึ้นเนื่องจากไทยศิลป์เป็นบริษัทที่มีประวัติการเงินดี ทำงานดีมาก ตอนที่อาดิดาสจ้างไทยศิลป์ทำงานอยู่นั้น คิดดูละกันครับ ว่าอาดิดาสจ้างไทยศิลป์ผิตมากที่สุดในประเทศ (ทำเสื้อลิเวอร์พูลเงี่ย) ตอนนี้ไทยศิลป์ค้างหนี้บริษัทผมอยู่หลาย 10 ล้านบาท เล่นเอาเจ้านายผมอึ้งและนั่งซึมทั้งวัน.

ผมบอกได้เลยครับ ว่าถ้าไทยศิลป์แค่ปรับปรุงในจุดที่อาดิดาสไปเจอ ก็จะไม่มีเรื่องนี้อย่างเด็ดขาย และเหตุการนี้ถือว่าทางอาดิดาส ได้ทำการเชืยดไก่ให้ลิงดูสำหรับ Supplier เจ้าอื่นๆไปแล้ว
_________________

จากความเห็นที่ 10>>>http://www.thaivi.com/webboard/viewtopic.php?t=26604&postdays=0&postorder=asc&start=0
โดยคุณ Ratty เมื่อวันที่ 13/07/2007 17:22:42


ความคิดเห็นที่ 17


ถ้าจากที่คุณ Ratty ได้มาเป็นเรื่องจริงล่ะก็ คงอาจจะเป็นสาเหตุเพราะกลัวว่าจะโดนคู่แข่งใช้เป็นข้ออ้างในการดิสเครดิตล่ะครับ มีหลายยี่ห้อของแบรนด์ดังๆโดนฟ้องว่าใช้แรงงานเด็กทำงานบ้าง มาตรฐานความปลอดภัยไม่ดีทำให้พนักงานต้องตายหรือบาดเจ็บบ้าง ฯลฯ แล้วพอมาถึงหูลูกค้า(ส่วนใหญ่จะเป็นยุโรปหรือคนอเมริกัน) เค้าก็เกิดการแอนตี้และจะไม่อยากใช้แล้วก็ไปใช้ยี่ห้ออื่นซึ่งก็จะเป็นโอกาสของคู่แข่งอีกที..แต่ในไทย มันน่าจะเป็นเรื่องปกติที่แรงงานไทยถูกเอาเปรียบจากนายจ้างแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ครับ(จากประสบการณ์ก็เจอมาเยอะ แต่คนไทยกลัวตกงาน) ได้แค่มองตาปริบๆแล้วก็ก้มหน้าก้มตาทำงานต่อไป..บางคนตายก่อนจะได้ใช้เงินซะด้วยซ้ำ
โดยคุณ TigerOod เมื่อวันที่ 13/07/2007 18:26:30


ความคิดเห็นที่ 18


โบรคเกอร์ ไม่จำเป็นต้องรู้ทุกเรื่องใช่ไหมครับคุณpiyabhut  ไอ้เรื่องนั้นน่ะ ผมลืมมันไปนานแล้ว ถ้าคุณยังฟื้นฝอยหาตะเข็บก็เรื่องของคุณครับ   

รง.ไทยศิลป์ ผมไม่รู้จักจนกระทั่งมีข่าว ตามตรรกะแบบผม ผมคิดเหมือนพี่กบครับ เจ๊งเพราะการพนันไม่บ้องตื้นไปหน่อยเหรอ  ไอ้เรื่องอัตราแลกเปลี่ยน จริงๆแล้วมันแข็งมาตั้งกะต้นปี ผู้ผลิตก็ควรปรับตัวได้แล้ว ในขณะที่คุณรวย คุณก็เลี่ยงภาษี พอล้ม ก็มาขอความช่วยเหลือ อย่างนี้คงไม่เข้าท่า

มีเรื่องเล่านิดๆ จากลูกค้า เค้าบอกว่า เค้ามาเมืองไทย ปีนี้4รอบ เห็นพัฒนาการที่แย่ลงในเมืองไทย เมื่อปลายปีที่แล้ว คนไทยหน้าตาแช่มชื่น เปี่ยมความหวัง กรุงเทพเต็มไปด้วยสีสัน แต่พอมาในช่วงหลังๆ สีสันหายไป คนไทยหน้าตาเคร่งเครียด   พอผมพูดเรื่องบาทแข็ง ทำให้โรงงานไล่คนออกมากมาย เค้าบอกว่า คุณ...บ้านผมน่ะ แข็งกว่าคุณอีก แต่เอ๊กซ์ปอร์ทยังไม่ทรุด  (ออสเตรเลีย) แต่ที่เค้ากลัว คือ ธุรกิจน้ำมัน ที่เจรจากับรัสเซียจะโดนคนไทย ไม่ก็ญี่ปุ่นงาบไปมากกว่า 

ปตท.ไทย ก้าวไกลเพราะหลุดพ้นจากการเป็นรัฐวิสาหกิจ 

ยังหวังลึกๆว่าการไฟฟ้าไทยจะแปรรูป ให้มีการบริการที่ดีขึ้น

 

พูดเรื่องไรเนี่ย งงตัวเอง ว่าแล้วไปดีกว่า

โดยคุณ icy_nominee เมื่อวันที่ 13/07/2007 19:55:56


ความคิดเห็นที่ 19


ครับผมทำงานโบรคเกอร์ไม่จำเป็นต้องรู้เรื่องทุกอย่าง แต่ไทยศิลป์ ผมทำงานมาอดเห็นไม่ได้ที่คนคาดเดาต่างๆนาๆถูกบ้างผิดบ้าง เอแต่ไม่เห็นข้อความไหนบอกว่าเจ๊งเพราะการพนันเลย เลยสงสัยว่าด่าใครบ๊องตื้น ผมคงเก่งสู้คุณไม่ได้หรอกครับ ไม่ได้รู้หมดทุกเรื่อง แต่ผมอนาถใจที่ประเทศจะมีแรงงานที่มีแต่ไอคิวไม่มีอีคิวแบบคุณ ตั้งใจเรียนให้จบนะครับ สังคมมีอะไรมากกว่าที่คิด ผมไม่ได้ฟื้นฝอยหาตะเข็บหรอกแต่สงสัยว่าทำไมหลายๆอย่างที่เด็กคนนึง มั่นใจในความยึดมั่นของตัวเองจนมีเรื่องกระทบกระทั่งกับคนในบอร์ด สร้างความลำบากใจให้ผู้อื่น จะอยู่ในสังคมหัวโขนนี้ยังไง เรื่องไทยศิลป์ผมไปหาเพื่อนๆผมที่ทำงาน ผมน้ำตาซึม เพื่อนที่เคยฟุ่มเฟือย ออกรถ ซื้อบ้าน เพิ่งแต่งงาน มานั่งรอความหวังจากใคร...........ผมออกมาทำงานเกี่ยวกับหุ้น โชคดีที่รอดตัวไป ส่วนที่นำข้อความจากเซลล์มาเรื่องจริงครับ ผมยืนยัน ในวงการการ์เม้น TSP เคยอยู่อันดับต้นๆของเมืองไทย ส่วนเรื่องอื่นๆผมไม่ขอพูด อยู่ที่จิตใต้สำนึกและการสั่งสอนของครอบครัวแต่ละคน

โดยคุณ piyabhut เมื่อวันที่ 13/07/2007 23:51:08


ความคิดเห็นที่ 20


อีกอย่างผมไม่ได้อวดรู้ให้ใครเลย เด็กๆแบบคุณตั้งใจเรียนให้จบซะก่อน เสียดายที่เกิดมาเป็นลูกข้าราชการไทย ผมไม่น่าเสียภาษีให้เลย สังคมจะดีขึ้นถ้าไม่มีเด็กนิสัยแบบคุณ

โดยคุณ piyabhut เมื่อวันที่ 13/07/2007 23:58:03


ความคิดเห็นที่ 21


 

เฮ่อออ...

โดยคุณ ท.กองหนุน เมื่อวันที่ 14/07/2007 02:12:31


ความคิดเห็นที่ 22


  คุณล้ำเส้นไปแล้วนะ  ไม่เป็นไรครับ ให้อภัย  พฤติกรรม มันส่อความคิดอยู่แล้วครับ คงยากจะเปลี่ยนได้ 

   ถ้าผมเคยว่าคุณไว้ในแต่ก่อน ก็ดูด้วยครับ คุณเคยเขียนอะไรไว้ในบอร์ดนั้นบ้าง  ปกติแล้ว ถ้ามันดีๆ ผมก็ไม่ไปกระแนะกระแหนคุณหรอกครับ  จะไปเจ้าคิดเจ้าแค้นทำไม ในเมื่อสังคมออนไลน์ มันกเป็นแค่สังคมตัวเลข 0 กับ 1  อย่าให้มันลามมาถึงชีวิตจริงข้างนอกเลยครับ

   จะจบได้หรือยังครับ

โดยคุณ icy_nominee เมื่อวันที่ 14/07/2007 10:17:22


ความคิดเห็นที่ 23


ทำไมต้องหาเรื่องกันได้ครับน้อง นิสัยน้องเขาก็รู้ๆอยู่ว่าเป็นแบบไหน กระทู้ที่น้องมาหาว่าพี่ไปป่วน พี่ไม่ได้ป่วนน้องอย่ามากล่าวหาลอยๆ สิ่งที่พี่ทำคือพี่ตามหาคนที่มาป่วนบอร์ด แต่ก็จบเท่านั้นเอง พี่ไม่เคยโทรหา ไม่ประจาน หรือว่าน้องต้องการให้พี่ไปคุยกับพ่อน้องตรงๆ อยากให้เป็นแบบนั้นใช่ไหมครับ พี่จบตั้งนานแล้วแต่มาเจอกระทู้นี้รู้สึกเหมือนโดนด่าเลยอยากถามว่าด่าใครว่าบ้องต้น ทั้งๆที่พี่ไม่โพสว่าเจ๊งเพราะการพนัน ไม่ได้ร้อนตัวนะครับ แต่กระทู้ที่ว่าตามหลังกระทู้พี่ติดๆ แล้วน้องมาจากรูไหนก็ไม่รู้มา เสียดสีต่อ ไม่เข้าใจน้องเลยว่ะ สงสัยต้องไปตบกระโหลกสักที 2 ทีแล้วมั๊ง
โดยคุณ piyabhut เมื่อวันที่ 14/07/2007 16:12:09


ความคิดเห็นที่ 24


ป.ล. อยากเคลียร์กับผมไหมครับ ไปหาได้นะ ไม่ค่อยชอบนิสัยแบบนี้เหมือนกัน ผมอยากให้รับผิดชอบไม่ใช่สักแต่ว่าโพสต์อย่างเดียว
โดยคุณ piyabhut เมื่อวันที่ 14/07/2007 16:13:45


ความคิดเห็นที่ 25


เลิกบ้ากันได้รึยังครับ บอร์ดแลกเปลี่ยนความรู้ทางทหารกันนะครับ ทำไม่ต้องด่ากันนะครับ แล้วท่านpiyabhutจะโพสต์อะไร ก็ให้เกียติคนอื่นเขามั่งครับ ไม่มีเหตุผลที่ต้องด่ากันเลยครับ ยิ่งพูดไปถึงผู้ปกครองยิ่งไม่ควรอย่างยิ่งครับ เป็นผู้ใหญ่กันแล้วนะครับ เลิกทะเลาะกันด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่องซักทีเหอะ

ปล.ลบเหอะครับกระทู้นี้

โดยคุณ tow เมื่อวันที่ 14/07/2007 16:28:46


ความคิดเห็นที่ 26


น้องครับช่วยแหกตาดูด้วยครับว่าใครเริ่มก่อน ตั้งสติก่อนโพสต์ครับ ถ้าไม่เดือดร้อนน้องก็อย่าดีกว่าครับ ผมแค่ถามเฉยๆว่าด่าใครบ้องตื้นเท่านั้นครับ ตั้งใจอ่านจากข้างบนมาข้างล่างอย่างละเอียด อย่าแขวะมากนะครับ การสืบค้นบางทีอาจจะทำให้เกิดเรื่องไม่คาดคิดได้นะครับ 

โดยคุณ piyabhut เมื่อวันที่ 14/07/2007 18:30:32


ความคิดเห็นที่ 27


 กติกาและมารยาท

ห้ามเสนอข้อความอันมีเจตนาใส่ความบุคคลอื่น ให้ได้รับการดูหมิ่นเกลียดชังจากบุคคลอื่น โดยไม่มีแหล่งที่มาของข้อมูลอ้างอิงที่ชัดเจน

ห้ามเสนอข้อความอันเป็นการท้าทาย ชักชวน โดยมีเจตนาก่อให้เกิดการทะเลาะวิวาท หรือก่อให้เกิดความวุ่นวายขึ้น โดยมูลแห่งความขัดแย้งดังกล่าว ไม่ใช่การแสดงความคิดเห็นโดยเสรีเช่นวิญญูชน พึงกระทำ

ห้ามเสนอข้อความอันอาจเป็นเหตุให้เกิดความขัดแย้งขึ้นในระหว่างสถาบันการศึกษา หรือระหว่างสังคมใดๆ

น้องๆครับอ่านดูเอา เว็บเทคโนโลยีทางทหารกำลังจะกลายเป็นสนามเด็กเล่นแล้วครับ อีกอย่างน้อง TOW เพิ่งเข้ามาคงรู้อะไรไม่มากนะครับ แต่พี่เริ่มรู้ในตัวน้องมากขึ้นแล้ววัยเรียนกันทั้งนั้นเลย  ไปล่ะอ่านต่อดีกว่า ไม่อยากโพสต์เดี๋ยวหมากัด เป็นกระทู้กลายพันธุ์ไปแล้ว

โดยคุณ piyabhut เมื่อวันที่ 14/07/2007 18:44:24


ความคิดเห็นที่ 28


ใครถูก ใครผิด ผมคิดว่าคนที่อ่านสามารถใช้วิจารญาณของตนเองได้นะครับ ดังนั้นขอให้จบดีกว่า ไม่ต้องต้องโพสข้อความตอบโต้กัน มันจะกลายเป็นกระทู้ขยะครับ ทุกท่านที่อยู่ในนี้ก็เป็นคนที่ชอบในเรื่องเดียวกัน คือ เทคโนโลยี่ทางทหาร อาวุธ ซึ่งก็เหมือนกับเป็นเพื่อนกันทั้งนั้น ดังนั้น จบ ๆ ไปเถอะครับ ไม่มีประโยชน์อะไร ที่จะมาทะเลาะกัน โต้เถียง โพสว่ากัน ไป มา  ผมคิดว่าไม่มีใครถูกเสมอ หรือผิดเสมอ ทุกคนสามารถผิดพลาดได้ ดังนั้น นิด ๆ หน่อย ๆ ก็ อภัยซึ่งกันและกันดีกว่าครับ

โกรธคือโง่ โมโหคือบ้า รักกันดีกว่าครับ

โต้งรักทุกคนเลย ...............เฮ้อ เฮ้อ เฮ้อ

โดยคุณ โต้ง เมื่อวันที่ 14/07/2007 19:41:36


ความคิดเห็นที่ 29


เฮ้อ ทราบครับ ว่าผมยังเด็ก ยังวัยเรียนอยู่(ปีหนึ่งมหิดลเอง)แต่ครับ ผมอยู่มานาน นานมากจนรู้ว่าเมื่อก่อนบอร์ดนี้ บอร์ดเก่าเราเป็นอย่างไร เราไม่เคยโกรธกันนะครับ  เราอย่าทะเลาะกัน อย่าผูกใจเจ็บ ดีกว่าครับ ผู้ใหญ่ทะเลาะกัน เด็กๆเขาเห็นก็เศร้าใจครับ เพราะเรารักสิ่งเดียวกันครับ เราถึงอยู่ตรงนี้ด้วยกัน เพราะฉะนั้นเลิกแล้วต่อกันเถอะครับ...นะ

ปล.โดนไป1ดอก แง้...

โดยคุณ tow เมื่อวันที่ 14/07/2007 20:01:22


ความคิดเห็นที่ 30


 

...เห็นด้วยกับท่านโต้งครับ ใครถูก ใครผิด ก็เห็น ๆ กัน อยู่...

 

(ผมอ่าน ซ้ำ 10 รอบ ความเข้าใจของผมอย่างที่เห็นก็ยังคงเดิม จบ)

 

โดยคุณ ท.กองหนุน เมื่อวันที่ 14/07/2007 23:37:11