จากสุมมติฐานงบประมาณของพวกเราคือ 17,000 ล้าน และทอ.บอกว่าจะจัดหาครึ่งฝูง คือ 6 ลำ เฉลี่ยลำละ 83 ล้าน....แน่นอน เราคงได้สุดยอด F-16 ของโลกแน่ ๆ ....... แต่มันมาแค่ 6 ลำ!!!!
ที่นี้ ผมอยากจะเชิญชวนทุกท่านมาวิเคราะห์กันครับว่า ถ้าเราไม่ซื้อของใหม่ล่ะ แต่ไปซื้อของจากทะเลทรายแทน.....โมเดลเป็นแบบนี้ครับ
สมมุติของที่อยู่ในทะเลทรายคือ Block 30/32 ราคาตัวเปล่า ๆ + refit เบื้องต้น ไม่น่าจะหนีไปจาก 15 ล้านเหรียญ มากที่สุดผมให้ 20 ล้านเหรียญเลย (เทียบกับราคาที่นิวซีแลนด์เคยเสนอซื้อ A/B เก่าจากทะเลทรายในราคาลำละ 15 ล้าน) ......ที่นี่ เรามาเอาเจ้าเครื่องนี้เข้าโปรแแกรม CCIP ของทอ.สหรัฐ เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพมันขึ้นมา รวมถึงทำ Falcon Star สำหรับโครงสร้างอายุ น่าจะใช้เงินอีกราว ๆ 15 ล้านเหรียญ รวมทั้งหมดต่อลำ 30 ล้านเหรียญ
ในการนี้ เราจะได้ F-16 ตัวเปล่า ๆ ในราคา 30 ล้านเหรียญ คิดอัตราหย่อนฝูง 12 ลำ คือ 360 ล้านเหรียญ ยังเหลืออีก 140 ล้านเหรียญสำหรับอาวุธ พอจ่ายตังค์ครบ 5 ปี ก็สามารถไปถอยมาเพิ่มได้อีกโดยใช้ model เดิม
ท่านคิดว่าอย่างไรครับ
อ้อ ราคา A/B ของนิวซีแลนด์นั่นคิดจากทั้งโครงการคือ 431 ล้าน หารด้วย 28 ครับ ซึ่งน่าจะรวมอาวุธไว้ด้วย เพราะไม่มีโครงการอื่นข้างเคียง
140 ล้าน คิดกันคร่าว ๆ แล้ว เราจะได้อาวุธอะไรบ้าง
AIM-120C-5 จำนวน 100 นัด = 40 ล้านเหรียญ
AIM-9M 200 นัด = 20 ล้านเหรียญ
GBU-10/12, Rockeyes, Mk. ต่าง ๆ 400 ลูก = 20 ล้านเหรียญ
AGM-65D 100 นัด = 20 ล้านเหรียญ
กระเปาะต่าง ๆ, หมวกติดศูนย์เล็ง, แว่นมองกลางคืน = 10 ล้านเหรียญ
ซื้ออะไหล่ = 30 ล้านเหรียญ
++ผมคิดว่าถ้า ทอ. ได้ของใหม่แกะกล่องมาจะเป็นการดีมากครับ ถ้าเราไม่คิดถึงเรื่องปริมาณ *ถ้าทอ. ตกลงที่จะซื้อของใหม่จริงๆ เราก็จะได้
-เทคโนโลยีใหม่ๆ
-ประสิทธิภาพในการปฎิบัติภาระกิจ
++(ถ้าเป็นจริง) ไม่ได้เห็นการจัดหายุทโธปกรณ์ของ ทอ. สุดยอดอย่างนี้นานแล้วนะครับ
++เอาใจช่วยครับ เรารักกองทัพอากาศไทย
ผมเลือก F-16 block 52+ กับ E-2C แค่นี้ก็แจ่มมากแล้วครับ ถ้าได้ฐานเรด้าทางภาคพื้นดินกับระบบป้องกันภัยทางอากาศก็ยิงดีครับ
ผมอยากทราบว่าเครื่อง บข.ใหม่เราจะมีระบบลิงค์-16 มาด้วยหรือเปลา
ถ้างบประมาณได้ 17,000 ล้านจริง ๆ ผมขอเลือก คุณภาพ ก่อนครับ...ส่วนเรื่องระบบอาวุธ น่าจะทะยอย ของบประมาณ เป็นแต่ละส่วน จะทำให้ดูไม่มาก หรือไม่ ก็ งบประมาณกลาโหม ที่เพิ่มตามข่าว จากหลักหมื่นล้าน เป็น หลักแสนล้าน น่าจะมีบางส่วน ที่รวมการจัดหา อาวุธอยู่แล้วก็ได้ครับ...
เพราะถ้าซื้อของใหม่ มันก็สามารถใช้ไปได้อีก ไม่ต่ำกว่า 30-40 ปี เลย แต่ถ้าซื้อของ มือ 2 อีกไม่เกิน 20 ปี ก็ต้องจัดหางบประมาณมาซื้อชดเชยอีก ซึ่ง งบประมาณมันก็อาจจะซ้ำซ้อน กับ บ.ฝูงใหม่ที่จะมา ทดแทน F-5 ไทกรีส ในอีก 10 ปีข้างหน้า กับ เอฟ-16 ฝูง 103 ในอีก 20 ปีข้างหน้า...แล้วคราวนี้ เอฟ-35 ที่ตั้งเป้าไว้ มันอาจจะขยายเวลาออกไปอีก...จนผมอายุ 60 ก็ไม่แน่ว่าจะได้เห็นประจำการ
แต่ถ้า งบประมาณออกมาไม่ถึง ออกมาประมาณ 8,000 - 9,000 ล้านบาท (โดนตัดลงอีก 50%) อันนี้ ผมคงต้องเลือก ปริมาณ แทน...ก็คงต้องยอม ไปตายกันดาบหน้า อีกครั้งหนึ่ง....เพราะระดับงบประมาณขนาดนี้ อาจจะได้ บ.ใหม่ แค่ 3-4 ลำ ก็ดูจะมีคุณค่าทางยุทธศาสตร์ไม่เพียงพอแหล่ะครับ...คงต้องยอม มือ 2 และให้ได้ 12 ลำ น่าจะคุ้มค่ากว่า...
ชอบไอเดียท่านกบมากๆเลยครับ ไม่จำเป็นต้องเป็น f-16 รุ่นใหม่เอี่ยมอ่องหรือ f-15 รุ่นนักเรียนนอกจบใหม่ไปทั้งฝูงบินในช่วงนี้ก็ได้นี่นา....ความคิดคล้ายๆผมเลยครับ แต่ไม่แน่ใจว่าในทางยุทธวิธีการจัดฝูงบินจะยอมแบบนี้ได้หรือไม่? (มันก็น่าจะได้อ่ะนะ ในความคิดที่ออกจะทื่อหน่อยๆอย่างคนที่เริ่มศึกษาเทคโนโลยีทางทหารอย่างผม)
f-15 ผู้ใหญ่วัยหนุ่มแน่น สามารถขนนม เอ๊ย ขนระเบิดระเบ้อ ได้เยอะกว่า เด็กวัยกำดัดอย่าง f-16 เยอะ พิสัยบินก็ไกลกว่า เจ๋งๆบินได้สูงกว่า เร็วจัดจ้าน (2.5 มัคตอนบินสูงๆนิ) ซื้อมาแค่ฝูงเดียว รับรองครอบส่วนเมืองไทยไปได้สบายๆ แถมเวลาอะไหล่ขาดแคลนก็สามารถไปเลียบค่ายแถวๆประเทศสิงห์พ่นน้ำอย่างเพื่อขอหยิบยืมได้ด้วย ไหนๆก็ต่อสัญญาให้เขาเช่าที่ฝึกทหารต่อไปแล้วนิ จะหยิบจะยืมของใช้หน่อย เค้าคงไม่(กล้า)เห็นแก่ตัวหรอกครับ
เราก็ซื้อตัวใหม่ๆอย่างที่คุณกบว่าซักหกตัว แล้วตัวเหลือๆก็ไปซื้อรุ่น เอบี หรือ ซีดี ก็ได้ อีกซะหกตัว มาถมๆกันไว้ก่อน ไม่แพงด้วย... หากอยากให้มันไฮเทคกว่าเดิมหน่อย มันก็ใช่ว่าจะอัพเกรดไม่ได้นี่ครับผม..
พอตังค์เหลือๆหน่อยเราก็หาหมัดยาวที่ยิงไกลๆหน่อยอย่าง เอไอเอ็ม-7 เอฟ สแปร์โรว์ มาตุนไว้ซะห้าลูกหกลูกหน่อย เท่านี้ก็สามารถถ่วงดุลประเทศเพื่อนบ้านได้แล้วอย่างแน่นอนครับ ซูก็ซูเหอะ เจอซูอาฮ่าหน่อยเป็นไร
เอ่อ ขออีกนิดนึงนะครับ แบบที่ออกความเห็นไป มันเป็นแนวทางนึงที่ได้ยินเค้าว่าเป็นการหาหนทางเพื่อได้มาในสิ่งที่เป็นที่สุด(Optimization)น่ะครับ มันคงเลือกเอาอย่างใดอย่างหนึ่ง คุณภาพหรือปริมาณเพียวๆ คงลำบากใจ อยากได้พี่... แต่เสียดายแม่ยาย อะไรประมาณนั้น...แนวความคิดของคุณกบผมถือว่าเข้าท่ามากๆเลยครับ
ตอนนี้หนักใจอยู่อย่างเดียว จะได้ บข.20 6 ลำจริงป่าวเท่านั้นแล่ะครับ? เดี๋ยวหุ้นตกอีกลดอีกสองลำซะงั้น..
ถ้า่ให้ผมเลือกผมขอเลือกคุณภาพสูงสุดที่เงินหาซื้อได้ไว้ก่อนครับ
การทำสงครามเป็นความเป็นความตายของประเทศชาติครับยิ่งถ้าเรามีอาวุธที่ทันสมัยได้เปรียบคู่ต่อสู้มากเท่าไหร่โอกาสชนะก็มีสูงครับ ยิ่งถ้านักบินเขาทราบว่าเขามีอาวุธที่ดีกว่าข้าศึก เขาก็ย่อมมีขวัญและกำลังใจมากขึ้นเท่านั้นเพราะโอกาสที่เขาจะกลับบ้านโดยปลอดภัยมีสูง อย่าง พวกสมาทร์บอมบ์ ที่นำวิถีด้วยจีพีเอส นี่นักบินก็ปลดระบิดได้ในระยะกว่า100 กิโลเมตร จากเป้าหมายโดยไม่ต้องห่วงกับการต่อต้านจากภาพพื้นดินเลย นี่คือตัวอย่างหนึ่งครับ
เรื่องจะเอาของเก่ามาปรับปรุงแล้วเอามาใช้งานยิ่งไม่เห็นด้วยครับเพราะเทคโนโลยี่ไปเร็วมาก เครื่องบินเก่ามันจะซับพอร์ต ระบบอาวุธใหม่ๆได้ เต็มระบบหรือไม่ นี่เป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึงนาครับ เครื่องบินสมัยนี้เป็นเหมือนคอมพิวเตอร์ (บินได้)เครื่องนึง นอกจาก ฮาร์ดแวร์ (ตัวเครื่องบิน)แล้ว ซอร์ฟแวร์ (ระบบโปรแกรมบังคับเรื่องบินและโปรแกรมระบบอาวุธ) ก็มีผล ครับ ยิ่งเครื่องรุ่นใหม่ๆ พัฒนาซอร์แวร์ไปไกลจนทำให้ราคาเครื่องบินสูงกว่าแต่ก่อนมาก หลายเปอร์เซนต์ทีเดียวที่คนขายเขาบวกราคาซอร์ฟแวร์ลงไปในราคาเครื่องด้วย ยกตัวอย่าง เอฟ-15 อี ของสิงคโปร์ กับ เอฟ-15อี ของเกาหลีใต้ นี่ก็มีซอฟร์แวร์ระบบอาวุธต่างกันครับแม้ว่าจะมี ฮาดร์แวร์ (ตัวเครื่องบิน) เหมือนกันก็ตาม (ทั้งนี้เพราะดีลในการซื้อเครื่องพร้อมอาวุธไม่เหมือนกัน) ซึ่งเราจะเห็นว่าบรรดาระบบอาวุธ สมัยใหม่ ไฮเทค ที่เพิ่งจะเอามาใช้กันใน อิรัค และ อาฟกัน นี่แหละครับ ที่ทำให้ เครื่องบิน สหรัฐที่ออกแบบมาตั้งแต่ ปี 70s ยังคงขายได้ดีในตลาดโลก (ทั้งเอฟ-15 และ เอฟ-16) อย่างที่เครื่องบิน ใหม่กว่ารุ่นน้องๆต้องแอบริษยาไปตามๆกันครับ
F-15TH(Thailand) ถ้ามีการจัดหามาจริงตัวเครื่องอาจจะใช้แบบที่ใกล้เคียงกับ F-15I ของอิสราเอลครับเช่น เครื่องยนตร์ใช้ F-100-PW-229 (ซึ่งใกล้เคียงกับ ย.P&W ที่ F-16 ใช้อยู่ ช่างจะได้ปรับแบบได้ง่าย) ในส่วนของระบบ Avionic อุปกรณ์เสริม และอาวุธ นั้นก็จะเลือกแบบจาก F-15K และ F-15SG ตามความเหมาะสมครับ
ปัจจุบันกองทัพอากาศสหรัฐฯและ ANG นั้นยังคงจะใช้ F-15C/D ไปจนถึงราวปี 2025 ครับ (เท่าที่ทราบมีเครื่องรุ่นนี้สำรองเก็บไว้อยู่ประมาณ 100กว่าเครื่อง) โดยทำการปรับปรุงระบบให้ทันสมัยขึ้นเช่น Radar AN/APG-63(V)2 เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม F-15A/B/C/D นั้นเป็น บ.ที่ออกแบบมาสำหรับภารกิจขับไล่ครองอากาศเป็นหลักและมีขีดความสามารถในการใช้อาวุธอากาศสู่พื้นค่อนข้างจำกัดครับถ้าเทียบกับ F-16 และตัวโครงสร้างเครื่องในรุ่น A/B/C/D นั้นก็มีหลายๆจุดที่ต่างจาก รุ่น E ซึ่งมีขีดความสามารถในการโจมตีเต็มรูปแบบอยู่ครับ การจัดหา F-15A/B/C/D มือสองนั้นอาจจะดูไม่คุ้มค่านักครับเพราะมีขีดความสามารถในการใช้อาวุธโจมตีภาคพื้นดินจำกัด ถึงจะมีการปรับปรุงเครื่องนี้ คิดว่าซื้อเครื่องใหม่น่าจะดีกว่าครับ
แต่อย่าลืมอย่างนึงนะครับ อาวุธที่เราใช้ในการโจมตีภาคพื้นดินเราไม่มีอาวุธไฮเทคมากเท่าไหร่ เรามีแต่พื้นๆๆ ขอซื้อก็ยังไม่ทราบว่าเขาจะขายให้เราหมดทุกอย่างที่เราต้องการหรือเปล่า
แล้วอีกอย่างโอกาศที่เราจะต้องทำสงครามเต็มรูปแบบน่าจะมีน้อยนะครับในอนาคต น่าจะเป็นสงครามที่กำจัดวงมากกว่า โอกาศใช้อาวุธไฮเทคคงจะน้อยลงไปด้วย
แต่ถ้าเราจะมีก็ดีเหมือนกันนะ
เอะเอางัยแน่เรา งง
ขอให้ก่อนเถอะนะครับ เรื่องใหม่เก่าแล้วแต่กำลังเงินเราเถอะ
ครับอย่างที่คุณ เอเอจี_ทีเอช ว่ามาก็ถูก........................แต่สิ่งที่ผมเสนอไปนั้น มันเป็นอาวเทอเนทีฟ....คือเป็นแนวทางเลือกเมื่อวิธีการหลักมันติดขัดครับ....................แน่นอนที่สุด ทุกท่านปารถนาได้เครื่องบินใหม่เอี่ยมถอยห้างในจำนวนครบฝูง.....................แต่ดังที่เราทราบ รัฐบาลเจอตัวเลขหนึ่งกะศูนย์กลมๆตามมาอีก3 ผมเดาออกว่าคงต้องช็อค............หนึ่งพันล้านนี่ มันจะเป็นโปรเจคที่ใหญ่ที่สุด(โปรเจคเดียวแบบไม่แบ่งเป็นเฟส)เท่าที่ กองทัพเคยมีการจัดหาเลยกระมัง........................................
เดิมทีนั้นการออกแบบเครื่องเอฟ-15 เพื่อเป็นเครื่องบินขับไล่สกัดกั้นครองความเป็นเจ้าอากาศ เริ่มตั้งแต่เวอร์ชั่นเอ/บีจนมาหยุดที่เวอร์ชั่นซี/ดี ตลอดระยะเวลาที่ประจำการยาวนาน มันคือสุดยอดพญาเหยี่ยวที่คอยจ้องฉีกเนื้อนกตัวอื่นในทุกสมรภูมิ กระทั่งต้นยุค90 เมื่อหลายชาติได้พยายามค้นคิดประดิษฐ์นกเหล็กของตนเอง มุ่งหมายเพื่อเพิ่มศักยภาพลดช่องว่างที่เคยเสียเปรียบการพันตูทางอากาศ จนเลยเถิดไปถึงครองความเป็นเจ้าอากาศได้อย่างเด็ดขาด พญาเหยี่ยววันนี้จึงตกอยู่ในฐานะคู่ต่อสู้ที่เข้าร่วมรบได้ หมดสิ้นความผยองอันหามีใครทาบรัศมีลงอย่างสิ้นเชิง...........................ข้อนี้ทุกคนทราบดีครับ
...................ทั้งหมดนี้ สมมติฐานเราวางไว้ที่ "ถ้าทอ.จัดหาใช้งานด้วยเอฟ-15 อี สไตร้ค์ไฟเท่อร์"...............อย่างว่าหล่ะครับ คนใช้อยากได้ของดี ขณะที่คนซื้อบอกว่าบ่จี๊..........................มีต่อ
ต่อครับ.......................ถ้าทอ.รีเควส เอฟ-15 อี รัฐเซย์เยส แต่มีคอนดิชั่น ขอหักแบ่งออกครึ่ง (เหมือนโครงการอัลฟ่าเจ็ท (เป้นธรรมดาของคนขอ ต้องขอเวอร์ และธรรมดาของคนให้ ซึ่งจะต้องตัด ข้อนี้ธรรมด๊าธรรมดา เพราะงั้นใครคำนวนออกมาได้เท่าไหร่ ขอไปเท่านั้น ต้องบอกว่าโคตรซื่อบื้อ อย่างอัลฟ่าเจ็ท ความจำเป็น(ตอนนั้น) มีแค่ 1 ฝูง ทอ.วางเผื่อ ขอไป 2 ฝูง ถ้าตอนนั้น รัฐบาลอนุมัติ ก็ต้องบอกว่าโคตรง่าว..........)) ........สไตร้ค์ไฟเท่อร์ฝูงใหม่ของเราเหมือนกัน จริงอยู่ความจำเป็นต้องมีครบฝูง แต่ด้วยจำนวนตัวเลขที่แบออกมา ใครเห็นใครก็ช็อค แต่มาคิดดูถ้าอยู่บนพื้นฐานความโปร่งใส หนึ่งพันล้านที่ขอไปถือว่าทำหน้าที่ของผู้ขอได้ถูกต้อง.................และก็ทันควัน ผู้ให้ก็ทำหน้าที่ตนเองไม่มีขาด ตัดฉับทันทีครึ่งหนึ่ง (พร้อมพึมพำในลำคอ "เนี่ยมันต้องครึ่งฝูงเหมือนเอฟ-18").........................เอาหล่ะ ออกนอกรันเวย์ไปไกลเลย.........................กลับมาเรื่อง เอฟ-15.................. มาที่เรื่องของเอฟ-15 อีบ้าง เจ้าสไตร้ค์ไฟเท่อร์ตัวนี้ แม้โครงสร้าภายนอกเผินๆ อาจดูเหมือนรุ่นพี่ แต่จริงๆแล้ว ตั้งแต่แนวความคิด ออกแบบนำไปใช้งาน จนถึงอุปกรณ์ต่างๆ ก็แตกต่างไปจากเดิมสิ้นเชิง................สไตร้ค์ อีเกิ้ล ถูกออกแบบมาสำหรับการทำโจมตีพิสัยไกล มีระบบเรดาร์ทันสมัย ระบบนำร่องเข้าหาเป้าหมาย และใช้อาวุธโจมตีได้ย่างแม่นยำ สามารถบรรทุกอาวุธได้มาก มีอาวุธยิง อ-อ ป้องกันตัวเองได้ตั้งแต่ระยะไกล สร.นำเข้าประจำการแทน เอฟ-111 บข.ทิ้งระเบิดรุ่นพี่ ซึ่งแตกต่างด้วยเทคโนโลยี่ ซึ่งมันไม่มีความสามารถทำได้เช่นสไตร้ค์อีเกิ้ล
ครับ 6 ลำ ที่(ถ้า)ทอ.จะนำเข้าประจำการ แม้จะเป็นจำนวนที่น้อย แต่ก็จะช่วยเพิ่มศักยภาพทางอากาศ โดยเฉพาะการโจมตีพิสัยไกล..........มีต่อ
เพื่อนๆครับ................ลองย้อนไปเมื่อราวปี 29 ทอ.ไทยสั่งซื้อเอฟ-16 ล้อตแรกจำนวน 12 ลำ ใช้งบประมาณ ราว 200 ล้านเหรียญ(เผลอๆไม่ถึงด้วยซ้ำ) อีก3ปีต่อมาก็เป็นฝูงที่ 1.5 และเรื่อยมาจนฝูงที่สอง สนนราคาจัดหารวมกันก็ยังไม่ถึง 300 ล้านเหรียญ .....ปี่ 43 รัฐบาลไทยภายใต้อารมณ์คนถังแตก อนุมัติทอ.จัดหา เอดีเอฟ จำนวน 16 ลำ เป็นเครื่องบินเก่าจาก สร. ราคาโครงการอยุ่ที่ 150 ล้านเหรียญ..............................และนี่ล่วงเลยมา 5 ปี หลังจากฝ่าปัญหาลุ่มๆดอนๆ ในที่สุด ทอ.มีแผนการจัดหา บข. (ครึ่ง)ฝูงใหม่ ในราคา 500 ล้าน ถ้าดูตัวเลขแล้ว บอกตามตรง มันค่อนข้างมาก มากจนเกือบเท่ากับมูลค่า เอฟ-16 ทั้งสี่โครงการที่ผ่านมาเสียอีก................................ถึงตรงนี้เลยมีข้อสงสัยว่า จะเป็นไปได้กี่มากน้อย ถ้าภายในระยะเวลาอีก 5 ปี รัฐบาลจะต้องควักเงินอีก 500 ล้าน เพื่อเติมเครื่องบินขับไล่ให้เต็มฝูง และที่สำคัญ อีกภายใน 6 ปีข้างหน้า ทอ.ยังต้องมีภารกิจจัดหาเครื่องบินรบใหม่เข้าประจำการแทน เอฟ-5 อี อีก 1 ฝูง ที่จะต้องหมดวาระลง ถึงตรงนี้ บอกได้คำเดียวว่า ยาก.ส์.............................
ครับ............แน่นอนที่สุด ของใหม่ใครก็ปารถนาครับ.................... อะไรจะดีอะไรจะคุ้มไปกว่าของใหม่ ผมเองก็อยากให้เป็นของใหม่ทั้งฝูง .........แต่เมื่อข้อเท็จจริง อยู่ที่ว่า รัฐบาลไม่สามารถจัดหางบประมาณมาซัปพอร์ทได้ ทั้งในเวลานี้และในอนาคต ทางเลือกแบบ อัลเทอเนทีฟจึงเกิดขึ้น มันเป็นแบบผสม คือจัดหาของเก่าและของใหม่คละกันอย่างละครึ่ง ไม่ว่าท่านจะมีข้อคิดเห็นไปในทางใด แต่จุดประสงค์หลักของแนวคิดนี้ คือพยายามจัดหาเครื่องบินที่ดีที่สุดให้เต็มฝูง (อาจจะคิดหยาบๆว่า ครึ่งหนึ่งดีมาก แต่ อีกครึ่งหนึ่งดีไม่มากก็ได้)........................ ผมเชื่อว่า เอฟ-15 อี ใหม่เอี่ยม จำนวน 6 ลำ แม้จะเป็นจำนวนเพียงน้อย แต่ถ้าเข้าประจำการในทอ.ไทย ก็จะเสริมสร้างศักยภาพการโจมตีทางอากาศขึ้นเป็นอย่างมาก .....................แต่เนื่องจากจำนวดังกล่าว อาจไม่เพียงพอ เมื่อต้องรับบทบาทในภารกิจฝึกรบและฝึกเปลี่ยนแบบ เครื่องบินอาจถูกใช้งานมากเกินไป.................... การนำเครื่องบินเก่าเข้าเพิ่มเติม จึงเป็นการอุดช่องว่าง ในขอบเขตทางเศรษฐศาสตร์ที่ยอมรับได้ .......................แม้ว่าแผนแบบเอฟ-15 ทั้งสองรุ่นจะต่างกันทางด้านภารกิจ แต่ด้วยการพัฒนาที่มีพื้นฐานเดียวกัน การฝึกบิน และรวมถึงการปรนนิบัติบำรุงย่อมอยู่ในวิสัยที่จะใช้งานร่วมกันได้................................. ที่สำคัญ เราจะมีฝูงบินขับไล่ขนาดใหญ่ พร้อมปฏิบัติภารกิจโจมตีทางลึก และครองความเป็นเจ้าอากาศ ทัดเทียมกับกองทัพอากาศรอบบ้าน ที่จัดหาเครื่องบินขนาดใหญ่ไว้ใช้งาน..............................
แหม ท่าน กบ
มองข้าม DASSAULT RAFALE ไปได้ไง
อย่าลืม น่ะ ว่า นโยบาย ของเรา เอาแค่ ตีหัวเข้าบ้าน ไม่ ต้อง ไปไกลมากหรอก แต่ถ้า จะออกไปตี กับเขา ก็ไปได้
แล้วอย้า ลืม F-15 มัน DOGFIGHT แพ้ SU-30 ของ อินเดีย มาแล้ว
งานนี้ เชียร์ RAFALE เต็มที่
ฝรั่งเศส ไม่หวง อาวุธ เหมือน อเมริกา ด้วย
ปล.โปรด ดู ไต้หวัน เป็นตัวอย่าง เขามี AMRAAM เก็บไว้กี่นัด และ มี MICA เก็บไว้กี่นัด
ถ้า จีน เกิดอยาก ตบลูกน้อง ไอ้กัน ขึ้นมา ดูสิ มาจะ ส่งมาทันไหม
เน้นที่ QUALITY คุณภาพ เป็นหลักใหญ่ๆ
จะ ซื้ออะไร ทั้งที ก็ให้ มัน คุ้มกับ เงินที่ ลงทุนไป
ยอมซื้อ ของแพง หน่อย แต่ใช้ได้นานกว่า