หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


ผบ.ทอ.แจงโครงการซื้อเครื่องบินขับไล่ อยู่ระหว่างพิจารณา

โดยคุณ : Server เมื่อวันที่ : 07/07/2007 02:44:25

ผบ.ทอ.แจงโครงการซื้อเครื่องบินขับไล่ อยู่ระหว่างพิจารณา
6 กรกฎาคม พ.ศ. 2550 14:01:00

ผบ.ทอ. ระบุ โครงการซื้อเครื่องบินขับไล่ทดแทนของเก่าอยู่ระหวางการ พิจารณา "ชี้" หากไม่จัดซื้อ ?เขี้ยวเล็บ? จะส่งผลกระทบต่อศักยภาพของกองทัพ

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผบ.ทอ. รองประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าในการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่ฝูงใหม่ว่า ยังอยู่ในขั้นตอนที่จะต้องพิจารณากันอีกยาว เมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรีจะให้กองทัพอากาศซื้อเครื่องบินขับไล่ครึ่งฝูงบิน หรือ 6 ลำ พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า ขณะนี้ติดปัญหาเรื่องงบประมาณ ซึ่งกองทัพอากาศอยากได้ของใหม่เพื่อเตรียมการเครื่องบินขับไล่ฝูงเก่าที่จะปลดประจำการ ซึ่งไม่ใช่ว่าจะสั่งปีนี้แล้วจะได้ อีก 3-4 ปี ถึงจะได้ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องบินแบบไหน

ต่อข้อถามที่ว่า เครื่องบินขับไล่ เอฟ - 5 ใกล้จะปลดประจำการแล้ว หากไม่เร่งรัดจัดซื้อจะส่งผลกระทบต่อศักยภาพของกองทัพหรือไม่ พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า ใช่ครับ แน่นอน อดีตนายกรัฐมนตรีทุกท่านก็เข้าใจ แต่ขึ้นอยู่กับงบประมาณ เศรษฐกิจของไทย แต่ขณะนี้คงจะพอที่จะบริหารได้บ้าง คงจะไม่นานก็คงจะพอมีทางออก แต่เราจะเตรียมการเรื่องนี้อย่างไรเท่านั้น

เมื่อถามถึงกรณีที่ ครม.มีมติให้มีการต่อสัญญาเอ็มโอยู ให้กองทัพสิงคโปร์ใช้พื้นที่กองทัพบกในพื้นที่ จ.กาญจนบุรีต่ออีก 3 ปี พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า เป็นความร่วมมือระหว่างมิตรประเทศ ซึ่งมิตรประเทศเป็นประเทศที่ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน บางครั้งเหมือนกับเราไปทำสัญญากับใครแล้ว ก็ต้องมีสัจจะธรรม ต้องยึดถือสัจจะด้วย การฝึกร่วมกัน หรือมาทำอะไรร่วมกันเหมือนเป็นการแชร์แลกเปลี่ยนข้อมูล และความรู้ซึ่งกันและกัน ถือเป็นประโยชน์ทั้งสองฝ่าย

?กองทัพอากาศเรามีการฝึกอยู่เรื่อย ๆ กับมิตรประเทศ เมื่อปลายเดือนที่แล้วประเทศมาเลเซียก็มาฝึกกับเรา และได้ประโยชน์มาก เขาส่งเครื่องบิน เอฟ-18 ฮอร์ก มาร่วมฝึกกับเรา นักบินก็มีโอกาสได้แลกเปลี่ยนการบินกับนักบินเอฟ 16 ของเรา  ทั้งนี้สิงคโปร์สนับสนุนประเทศไทยกรณีเกิดปัญหาในประเทศมากกว่าประเทศอื่นด้วยซ้ำไป เป็นมิตรประเทศที่มีความจริงใจ ถือเป็นความผูกพันทางความสัมพันธ์ต่อกองทัพ? พล.อ.อ.ชลิต กล่าว

http://www.bangkokbiznews.com/2007/07/06/WW10_WW10_news.php?newsid=82673




ความคิดเห็นที่ 1


นายกฯไม่กลัวลอดช่องล้วงตับ ยันต่อสัญญาไทยได้ประโยชน์ [6 ก.ค. 50 - 14:24]

พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี กล่าววันนี้ (6 ก.ค.) ถึงกรณีที่คณะรัฐมนตรีเซ็นต่ออายุสัญญาให้ประเทศสิงคโปร์ใช้ประเทศไทยเป็นสถานที่ฝึกทหารต่ออีก 3 ปี ว่า เป็นเรื่องของการยืดเวลาอีก 3 ปี ซึ่งกระทรวงกลาโหมชี้แจงเหตุผลว่า การที่ได้ทำงานร่วมกันมานาน ถือเป็นเรื่องของความร่วมมือระหว่างประเทศที่เกิดขึ้นมาเป็นเวลานาน สิ่งเหล่านี้ทำให้เกิดความมั่นคงในภูมิภาค โดยยกตัวอย่างง่าย ๆ ในกรณีเพลิงไหม้ที่โรงงานน้ำมันที่ จ.ชลบุรี สมัยที่ตนเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุด เราขอโฟมจากสิงคโปร์ ซึ่งเขาได้นำเครื่องบินบรรทุกมาให้ภายในวันเดียว ซึ่งเป็นสิ่งที่คิดว่า เราต้องมองข้ามในเรื่องที่เกิดปัญหาขึ้นมา ที่เป็นการดำเนินการทางธุรกิจ

 

?ด้านความมั่นคง เรามีความร่วมมือกันอยู่แล้ว ง่าย ๆ คือเราไม่ต้องจัดหากระสุนอะไรต่าง ๆ มากมายนัก ทางสิงคโปร์ได้จัดหาตามข้อตกลงที่มีอยู่มาให้เป็นกระสุนสำรองให้กับเรา ซึ่งการให้ต่ออายุนั้น เป็นมติของคณะรัฐมนตรีที่ประชุมร่วมกัน และเป็นเรื่องที่เข้า ครม.อย่างถูกต้อง? พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าว

 

ส่วนข้อห่วงใยที่เกรงว่า สิงคโปร์อาจจะมาล้วงข้อมูล หรือล้วงตับจากกองทัพไทยนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คงไม่ได้มาล้วงตับเราหรอก ถ้าเราไม่เปิดตับให้ล้วง

 

ด้านพล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผู้บัญชาการทหารอากาศ กล่าวถึงเรื่องเดียวกันว่า  เป็นความร่วมมือระหว่างมิตรประเทศ คำว่ามิตรประเทศ คือ ประเทศที่ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เหมือนเราทำสัญญาอะไรกับใครแล้ว ต้องยึดถือสัจจะ ซึ่งการทำความตกลงดังกล่าวเป็นการฝึกร่วมกัน เป็นการแลกเปลี่ยนข้อมูลความรู้ซึ่งกันและกัน เป็นประโยชน์กับทั้ง 2 ฝ่าย

 

พล.อ.อ.ชลิต กล่าวด้วยว่า ในส่วนของกองทัพอากาศ มีการฝึกร่วมกับมิตรประเทศ ทั้งสิงคโปร์ และประเทศอื่น ๆ อีกหลายประเทศ แต่ไม่ได้มีการให้ใช้พื้นที่ในลักษณะการเช่ากองบิน เป็นการใช้พื้นที่ทางอากาศเท่านั้น สำหรับสิงคโปร์ในอดีตที่ผ่านมา เป็นมิตรประเทศที่ให้ความช่วยเหลือประเทศไทยในเรื่องต่าง ๆ มากกว่าประเทศอื่น ๆ เป็นมิตรประเทศที่มีความจริงใจ เรื่องนี้จึงเป็นความผูกพันทางความสัมพันธ์ระหว่างกองทัพ

โดยคุณ ท.กองหนุน เมื่อวันที่ 06/07/2007 16:13:55


ความคิดเห็นที่ 2


555  คราวนี้แป๊ะลิ้มจะว่าไงหว่า เห็นไปเหยงๆไล่กะโปร์เค้าถึงสถานทูต ท่านนายกฤาษียายเที่ยง มาตอบอย่างนี้มิหน้าหงายไปเลยเหรอ
โดยคุณ icy_nominee เมื่อวันที่ 06/07/2007 16:29:29


ความคิดเห็นที่ 3


จบเรื่องบ.ข.เมื่อไหร่ ผมจะเอาโครงเรื่องไปแต่งนิยายขาย เพราะมีครบทุกรส ทั้งชิงรักหักสวาท พ่อแง่แม่งอน รักสามเส้า เคล้าน้ำตา ฯลฯ...............เอาชื่อเรื่องว่า แรมพยาบาท
โดยคุณ Skyman เมื่อวันที่ 06/07/2007 16:41:17


ความคิดเห็นที่ 4


หงอก กะทิ ดูก่อนว่าผลประโยชน์มันเข้าพวกหงอก หรือเปล่าโดยเฉพาะ MR.P แต่ถ้าไม่เข้าหงอก ค้านแหลก ครับ คงรู้นิสัยหงอกดีแล้วนะว่าอย่างไร อิอิ น้องไอซ์ซี่
โดยคุณ nok เมื่อวันที่ 06/07/2007 16:47:20


ความคิดเห็นที่ 5


กองทัพอากาศเรามีการฝึกอยู่เรื่อย ๆ กับมิตรประเทศ เมื่อปลายเดือนที่แล้วประเทศมาเลเซียก็มาฝึกกับเรา และได้ประโยชน์มาก เขาส่งเครื่องบิน เอฟ-18 ฮอร์ก มาร่วมฝึกกับเรา นักบินก็มีโอกาสได้แลกเปลี่ยนการบินกับนักบินเอฟ 16 ของเรา

มาเลมี เอฟ-18 ฮอร์ก ด้วยเหรอครับ?

โดยคุณ OS เมื่อวันที่ 06/07/2007 17:34:57


ความคิดเห็นที่ 6


เข้าใจว่าเป็น เอฟ 18 กับ ฮอร์ก ของมาเลเซียน่ะครับ
โดยคุณ MaDee เมื่อวันที่ 06/07/2007 17:49:25


ความคิดเห็นที่ 7


อยู่ระหว่างพิจารณาแสดงว่าซู30 ยังมีความหวัง  แม้ว่าจะเพียงน้อยนิด  ใช่ไหมครับ(ขออย่าให้เป็นf-16ฝูงสุดท้ายท้ายในโลกเลย  สาธุ)

โดยคุณ petch_a เมื่อวันที่ 06/07/2007 20:39:35


ความคิดเห็นที่ 8


JAS-39 C/D, F-16 C/D, F-18 E/F, SU-30 MKT, RAFALE....แหมมม...ทอ. นี่ คล้าย ๆ อบต. เลยนะครับ...

อบต. มีงบพัฒนาตำบล จำวนวน xx ล้านบาท...จึงเรียก ผู้รับเหมา มาประกวดราคา (และเรียกเจรจาเป็นการส่วนตัว ว่า ตรู มีงบเนี๊ยยยยย...จะช่วยเหลือ ผู้ปฏิบัติงาน ได้เท่าไหร่ ว่ามา...ถ้าพอใจ ลื้ออาวววว ปายยยยย)

ตราบใด ที่ล้อเครื่องบินไม่แตะพื้น...อะไรก็เป็นไปได้ทั้งนั้น...แหมมมมมม...ขลังจริง ๆ

โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 07/07/2007 02:44:25