เรียน.....เพื่อนสมาชิกบอร์ด? เพื่อนสื่อมวลชน? นายทหาร และเพื่อนสมาชิกของทางราชการที่เข้ามาตรวจเยี่ยมบอร์ดเป็นประจำทุกท่าน
เป็นที่ทราบกันดีแล้วว่า ขณะนี้กองทัพอากาศเตรียมจะปลดประจำการเครื่องบินขับไล่แบบ F-5 B/E/F ฝูง 701 กองบิน 7 สุราษฎร์ธานี ที่บรรจุประจำการมาตั้งแต่ปี 2509 , 2521 ซึ่งมีอายุประจำการมากว่า 40 ปี และ 30 ปี ตามลำดับ? ที่สำคัญเพื่อนสมาชิกหลายท่านทราบดีว่า เครื่องบินฝูงนี้ได้กลืนกินชีวิตนักบินที่เป็นเพื่อน น้อง พี่ พ่อ? อา? ลุง และลูกหลายของพวกเราไปหลายคนแล้ว? จนหลายคนเรียกร้องให้กองทัพอากาศจัดหาหรือมีการดำเนินการใดๆในเรื่องนี้? ไม่ใช่เพียงเห็นแก่ชีวิตนักบิน? แต่ให้เห็นแก่ความพร้อมรบในการป้องกันภัยคุกคามที่เครื่องบินฝูงนี้ประจำการอยู่ในภาคใต้ดูแลภัยคุกคามที่จะเกิดขึ้นที่มาจากประเทศทางภาคใต้ของเรา? (ซึ่งคงไม่ต้องไปกล่าวย้ำกันมากว่าใคร)?
ขณะนี้กองทัพอากาศเองก็ได้เสนอโครงการเพื่อของบประมาณในการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่แบบใหม่ในเบื้องต้นอย่างน้อย 1 ฝูงบินจำนวน 12 - 16 เครื่อง โดยยังไม่ระบุว่าเป็นเครื่องบินขับไล่แบบไหนในการของบนี้เพราะกองทัพอากาศจะต้องดูก่อนว่าจะได้เงินสักกี่บาท? มากพอที่จะซื้อรุ่นนี้ได้กี่เครื่อง? รุ่นนั้นได้กี่เครื่อง และรุ่นนู๊นได้กี่เครื่อง? อยุ่ที่วงเงินที่ คณะรัฐมนตรี อนุมัติ? ปัญหาตอนนี้คือกองทัพอากาศเองต้องการเงินจำนวนมหาศาลในการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่ 1 ฝูง จำนวน 12 เครื่องก่อน? แต่เป็นที่ทราบดีว่าจะมีการอนุมัติวงเงินเพียงเล็กน้อย เพื่อให้จัดหาแค่ 6 เครื่อง นั้นหมายถึงหากกองทัพอากาศต้องการจำนวน 12 เครื่อง แบบเครื่องบินที่เราฝันแต่มีราคาแพงอาจจะเปลี่ยนแบบไปเพื่อให้คงจำนวนที่ต้องการ หรือไม่มีการจัดซื้อเลยในอีก 3 ปีจากนี้ไป
อยากให้ทุกท่านแสดงความคิดเห็นถัดจากตรงนี้ลงไปว่า? "ถึงเวลาหรือยังที่กองทัพอากาศควรได้รับงบประมาณหลายหมื่นล้านบาทในการจัดซื้อฝูงบินขับไล่ใหม่ทดแทนเครื่องบินขับไล่เก่าเพื่อรักษาแนวป้องกันและดินแดนในภาคใต้เอาไว้"
(เอาเป็นว่าแค่สมควรหรือยัง และเพราะอะไร แต่อย่าพึ่งไปวิเคราะห์ว่าควรเป็นเครื่องบินอะไรนะครับ?? และข้อความแสดงความคิดเห็นทั้งหมดจะถูกนำไปเผยแพร่ในสื่อต่างๆอีกครั้งในโอกาสที่เหมาะสมครับ)
ปล.รบกวนเพื่อนสมาชิกทำลิ้งค์กระทู้นี้ไปยังบอร์ดต่างๆเพื่อรับฟังความคิดเห็น และเพื่อให้คนวงในได้ทราบและเข้าใจปัญหาของประเทศชาติ ครับ
กองทัพอากาศ? ขอขอบคุณครับความคิดเห็นของทุกท่านครับ........
เรียนท่านท้าวฯที่เคารพ
กองทัพจะซื้ออะไรนั้น มันมาจากเงินภาษีของประชาชน ก็สมควรที่จะต้องให้เจ้าของเงินได้รู้ว่าจะเอาเงินเค้าไปทำอะไร ยกตย.เช่น จะซื้อบข. ทอ.ต้องออกมาแจกแจงว่า ความจำเป็นคืออะไร ทำไมต้องซื้อ ตัวเลือกที่มองไว้คืออะไร แล้วประสิทธิภาพเ็นอย่างไร แล้วอะไรน่าจะเหมาะที่สุด เมื่อตัดสินใจแล้ว ก็ประกาศให้รู้ แล้วแจกแจงให้หมดว่าเงินจำนวนนี้ นอกจากบข.แล้วจะได้อะไรบ้าง ไม่ใช่เอาคำว่าลับ มาอ้าง บางส่วนที่เปิดเผยได้ควรเปิดเผยเช่นซื้อจรวดนี้จำนวนเท่าไหร่ มีเครื่องช่วยฝึกไหม ดูเพื่อนบ้านอย่างสิงคโปร์ครับ เค้าเผยหมดว่าซื้ออะไร ในส่วนการปชส. แนะนำว่าใช้ช่องทหารที่มีให้เกิดประโยชน์ เช่นช่วงข่าว ก็ปชส.เรื่องบข.แต่ละแบบว่ามีความสามารถอย่างไร เพื่อนบ้านมีแบบไหน ไม่ใช่พูดลอยๆว่า เรามีไม่ทัน ชาวบ้านที่ไม่ได้ศึกษาด้านอาวุธเค้าจะรู้ได้ไงว่าใครมีอะไรบ้าง
หมดยุคเล่นบทพจมานโดนตัดงบได้แล้วครับ กองทัพต้องประชาสัมพันธ์บทบาทตนเองกับประชาชน และชี้แจงถึงความจำเป็นอย่างละเอียด รวมถึงเงินแต่ละส่วนเอาไปใช้อะไรบ้าง เช่นงบบข.3หมื่นล้าน ก็แจกแจงว่า ค่าอะไรบ้างใน3หมื่นล้านนี้ เอาแบบคร่าวๆก็ได้แค่ให้รู้ว่าไม่เข้ากระเป๋าใครก็เป็นพอ
ถ้าถามว่า "ถึงเวลาหรือยัง" ล่ะก็ มันแล้วแต่ว่าเราจะเอาดรรชีไหนเข้ามาชี้วัดครับ
ถ้ามองด้านยุทธศาสตร์และความมั่นคง ตอบได้เลยว่า "มันเลยเวลามาแล้ว"
แต่ความมั่นคงของชาติ หาได้มีแต่ความมั่นคงทางการทหารไม่ แต่มันยังรวมถึงความมั่นคงทางด้านเศรษฐกิจ การเมือง และสังคม
คำถามที่ว่ามันถึงเวลาหรือยังนั้น ถ้าเอาปัจจัยอื่นเข้ามาเกี่ยวข้อง ก็ต้องขอบอกว่า "ยัง"
....
ประเด็นที่ 1 ขณะนี้ประเทศยังไม่ใช่ประชาธิปไตย ซึ่งพูดกันตรง ๆ ก็คือรัฐบาลไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง แต่มาจากการแต่งตั้งโดยคณะบุคคลจากกองทัพ ฉะนั้น การที่กองทัพจะทำอะไรในตอนนี้ ถือเป็นการสุ่มเสี่ยงอย่างมากในการที่จะตกเป็นเหยื่อทางการเมือง จนทำให้โครงการทั้งหมดล้มได้
ประเด็นที่ 2 แม้ภาคการส่งออกจะขยายตัวถึงร้อยละ 10 แต่ภาคการลงทุนกลับซบเซา ดรรชีความเชื่อมั่นผู้บริโภคต่ำที่สุดเท่าที่เคยมีการวัดกันมา เมื่อไม่มีผู้บริโภค ผู้ผลติก็ขายสินค้าไม่ได้ และทำให้รัฐบาลไม่สามารถเก็บภาษีได้
ประเด็นที่ 3 การสร้างภาระทางการคลังของประเทศ นอกจากพิจารณาจากรายได้แล้ว ยังควรจะต้องพิจารณาถึงความสามารถในการจ่ายเงินและการหารายได้ในอนาคตอีกด้วย
ซึ่งทั้งสามประเด็น ต่างชี้ว่า ตอนนี้ ยังไม่ควรที่กองทัพจะใช้งบประมาณ 34 พันล้านบาทในการซื้อเครื่องบินรบ
....
แต่เรื่องนี้จำเป็นต้องมีทางออก เพราะกองทัพก็ไม่สามารถปฏิบัติงานได้ถ้าขาดเครื่องมือ และเราก็ไม่ยอมทนที่จะให้เครื่องบินที่จำเป็นต้องปลดระวางไปแล้วเอาชีวิตนักบินไปกับเขาด้วย
ทางออกที่ผมอยากจะเสนอก็คือ รัฐบาลต้องอนุมัติการจัดหาเครื่องบินรบแบบใหม่ทั้งฝูง คือ 18 ลำ แต่การจัดซื้อ ควรสั่งซื้อเป็นชุด อาจจะชุดละ 6 ลำ รวม 3 ชุด โดยใช้โมเดลคล้ายกับโครงการ Peace Naresuan ทั้ง 4 โครงการ การอนุมัติ ควรกำหนดเงื่อนเวลาให้ชัดเจน และเพียงพอ รวมถึงเจรจากับประเทศผู้ผลิตเพื่อให้ได้รับเงื่อนไขในการผ่อนชำระที่ดีที่สุด ทั้งนี้ ควรหาข้อสรุปให้ได้ภายในปีนี้ และการเซ็นสัญญาซื้ออย่างเป็นทางการ ควรกระทำหลังเลือกตั้ง และต้องทำให้แน่ใจว่าประเทศจะไม่สูญเสียพลังอำนาจในการป้องกันประเทศและพลังอำนาจทางเศรษฐกิจไปพร้อมกัน หรือสูญเสียทางใดทางหนึ่งไป
ทั้งนี้ เวลาที่เหมาะสมสำหรับการได้รับเงิน คงจะรอได้มากที่สุดจนถึงปีงบประมาณ 2552 ครับ
นอกจากนั้น เห็นด้วยกับคุณ icy ครับว่า กองทัพต้องเปลี่ยนตัวเองใหม่ คือ การทัพต้องแจกแจงรายละเอียดของอาวุธว่า ในรายการจัดซื้อ มีอะไรบ้าง อย่างเช่นที่สิงคโปร์ทำตอนจัดซื้อ F-15SG ที่แจกแจงรายละเอียดทุกอย่างว่าเงินภาษาของประชาชนถูกนำไปทำอะไรบ้าง ถ้ากองทัพไม่ชี้แจง คิดแต่เพียงว่ามันคือความลับ (ซึ่งมันไม่ลับหรอกครับ เพราะต่างประเทศทราบหมด) ชาวบ้านร้านตลาด ไล่ไปจนถึงผู้บริหารบริษัท ก็ไม่มีทางเข้าใจถึงความจำเป็นเหมือนคนที่ศึกษาเรื่องการทหารมาแน่นอน
การประชาสัมพันธ์เป็นสิ่งที่จำเป็นมากในปัจจุบันครับ
การชี้แจงที่หลายท่านแนะนำ และยกตัวอย่างกองทัพเรือได้ประชาสัมพันธ์นั้น ผมเห็นด้วยครับ เราจนแต่ต้องซื้อครับ
ประชาชนเข้าใจ ก็อาจจะร่วมกันบริจาคทรัพย์ช่วยก็ได้ กรณีชี้แจงจนประชาชนน้ำตาไหล ส่งสารประเทศไทยที่ขาดเครื่องบินเพื่อ เป็น POWER หยั่งเสียงความเกรงใจจากเพื่อนบ้านที่ชอบหักหลัง
การชี้แจงเรื่องงบลับไม่ลับนั้น ยังไงราคาซื้อเทียบกับ ตปทซื้อ แล้วก็ไม่สามรถแหกตาใครได้นานดอกครับมันเป็นยุกต์ของอินเตอร์เน็ตครับ
การที่ทำอะไรให้ทุกอย่างตรงไปตรงมาโปร่งใส ผมว่าอันนี้คือเกียรติของทหารโดยตรงครับ เพราะถ้าทหารไม่โปร่งใสแล้วใครจะโปร่งใสครับ เพราะเขามีหน้าที่ป้องกันประเทศและประชาชนอันเป็นที่รักโดยตรง และแน่นอนเขาต้องประหยัดเงินให้ประเทศอย่างแน่นอน เพราะจะได้แบ่งไปให้กระทรวงทบวงอื่นที่เขาขาดแคลนงบประมาณด้วย อย่างน้อยถ้าเขาประหยัดได้ นี่สร้างโรงเรียนชายแดนได้อีกหลายโรงครับ
สุดท้าย การที่จะได้อะไรเพื่อประเทศ ผู้ร้องขอต้องชี้แจงแบบชัดเจน (มันเป็นงานPUBLIC PRESENTATION) เชื่อว่าไม่มีใครค้านได้ครับ และเรา ได้เครื่องแน่นอน 18 ลำ โดยที่ประชาชนยกมือสนับสนุน 2 แขนสุดๆครับ
ท้ายสุด ประชาชนไม่โง่ครับ........
ส่วนตัว..ในใจผมคิดเหมือนกัน..และเห็นด้วย..กับทุกท่านที่ว่ามา...
ถึงเวลาแล้ว..ที่เราจะต้องมีครับ..
ขอชูสองมือ..สองแขน..ถ้าชูแบบสามเสียง..เหมือนท่านกบ..นี่ไม่ไหว.ครับ..5 5 5
ผมก็รู้จัก การทหาร จากโทรทัศน์และหนังเนี่ยแหละคับ
โดยความเห็นอยากได้พวกSU-30 มากกว่า2เครื่องยนต์มีตำบลติดอาวุธดี ต่อตีเรือก็ทำได้ดี เหมาะสมมากๆแต่ มาเลเค้าก็มี ทอ.เลยไม่อยากได้มันซ้ำกัน ของซ้ำๆกันใครก็ไม่อยากได้ เด๋วจารู้เขารู้เรา ตอนนี้ บินลำไหนมาก็เอาหมด จะได้เทียบชั้นมาเลได้ซักที
1.?????? กรณีโครงการ บ.ข. ใหม่นี้ ท.อ. ไม่ได้คิดจะจัดหามาเพิ่มเติม หากแต่เป็นการทดแทนของเก่าที่หมดอายุการใช้งาน จึงไม่ใช่การแข่งขันกันสะสมอาวุธกับประเทศในภูมิภาคนี้แน่นอน
2.?????? ปัจจุบัน ท.อ. ก็ลดขนาดในส่วนของกำลังรบ (เครื่องบิน) ลงมาในระดับต่ำสุดแล้ว คือ 5 ฝูง บ.ข. (3 ฝูง เอฟ-16 และ 2 ฝูง เอฟ-5) และ 2 ฝูง บ.จ. (1 ฝูง แอล-39 และ 1 ฝูง อัลฟ่าเจ็ต) เมื่อถึงเวลาต้องปลด เอฟ-5 ฝูงสุราษฏร์ฯ ไปแต่ไม่ได้ตั้งโครงการจัดหา บ. ใหม่ไว้ทดแทนซะตั้งแต่ตอนนี้ ยุทธศาสตร์การป้องกันภัยทางอากาศด้านใต้ของเราจะเกิดช่องโหว่รูเบอะเริ่ม
3.?????? นับวันแหล่งพลังงานใหม่ ๆ ต่างทยอยถูกสำรวจพบเรื่อย ๆ ทั้งฝั่งอ่าวไทยและฝั่งอันดามัน หลายแห่งมีปัญหาเรื่องเขตแดนทับซ้อนกับประเทศเพื่อนบ้าน การทูตเราก็วิ่งไล่ตามชาวบ้านเค้ามาตลอด หากการทหารมีแต่มือเปล่าหรือ .22 แต่ของเพื่อนบ้านเค้าลากเอาวัลแคน 7 ลำกล้องออกมา เราจะปกป้องผลประโยชน์ของชาติได้อย่างไร เจรจาต่อรองอะไรก็มีแต่เสียเปรียบเค้าอยู่ร่ำไป
4.?????? ความพร้อมรบโดยเฉพาะกับระบบอาวุธอย่างเครื่องบินรบที่มีความสลับซับซ้อน และต้องใช้ความรู้ความชำนาญเฉพาะด้านในการใช้งานและการบำรุงรักษา จำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนด้านงบประมาณและระยะเวลาในการฝึกศึกษาที่เพียงพอ หากต้องการความพร้อมรบในอีก 5 ปีข้างหน้า ต้องเริ่มจัดซื้อและเริ่มฝึกนักบินและช่างในแขนงต่าง ๆ ตั้งแต่บัดนี้แล้ว ขนาดรถยนต์ทุกวันนี้ บางรุ่นยังต้องให้คนขับรถไปเรียนรู้วิธีการขับ การเข้าเกียร์ การใช้ปุ่มบังคับอุปกรณ์ต่าง ๆ และการดูแลบำรุงรักษาเลย ไม่ใช่ซื้อวันนี้แล้วจะใช้งานได้ทันที
5.?????? โครงการนี้ ที่มาที่ไปดูแล้วไม่น่ามีอะไรซับซ้อนซ่อนเงื่อน เป็นเรื่องของของเก่าที่ใช้งานมาแล้วอย่างคุ้มค่าที่สุด เมื่อถึงคราต้องปลดประจำการจากลาไปก็ต้องหาของใหม่มาทดแทน เพียงแต่เมื่อถึงเวลาของบ รัฐดันมาถังแตกซะงั้น จึงเกิดคำถามมากมายว่าจะซื้อไปทำไมตอนนี้ เงินทองยิ่งไม่ค่อยมีอยู่? หรือกระทั่งค่าคอมเพรสเซอร์เยอะไปรึเปล่า (มันก็มีมาทุกยุคทุกโครงการแหละครับ)
ตั้งโจทย์กันให้ดี เราต้องการเครื่องบินขับไล่เอนกประสงค์ฝูงใหม่ 1 ฝูงเต็ม 12-18 ตัว อาวุธครบมือพร้อมอุปกรณ์สนับสนุน สมรรถนะทัดเทียมหรือต่อตีกับ ซู-30 เอ็มเคเอ็ม ได้อย่างสูสี กำหนดเข้าประจำการภายในไม่เกิน 4-5 ปีข้างหน้าให้ทันตอนปลด เอฟ-5 วางกำลังไว้ที่กองบิน 7 สุราษฏร์ฯ เพื่อให้ดุลอำนาจทางอากาศกลับมาเท่าเทียมกัน อันนี้ไม่มีปัญหา เราคิดเราวางแผนได้
งบประมาณ ถ้าไม่เพียงพอที่จะตอบโจทย์ข้างบน ก็ต้องหาทางออกให้ได้ งบประมาณ 1000 ล้านยูเอสดอลล่าร์ ผูกพัน 5 ปี ทำได้นะครับ
50% เป็นงบประมาณของ ท.อ. หรือ บก. สส. ก็ได้ ผูกพัน 5 ปี อันนี้หลวงท่านว่าไม่น่ามีปัญหา น่าจะจัดสรรให้ได้
อีก 50% ชำระเป็นผลิตภัณฑ์เกษตรอย่าง น้ำมันปาล์ม ยางพารา ข้าว แป้งมัน ไก่ กุ้ง ฯลฯ ส่วนนี้รัฐมีกองทุนพยุงราคาอยู่แล้ว เมื่อไหร่ราคาตกก็กว้านซื้อมาเก็บไว้ ราคาขึ้นก็ปล่อยออกมา หลักการดูดีแต่เห็นขาดทุนทุกที (และทุกปี ทุกรัฐบาล) เงินที่เอาไปรับซื้อก็มลายหายไปเป็นธาตุอากาศ เป็นอย่างนี้ซะแล้วแทนที่จะรับซื้อสินค้าเกษตรพวกนี้เอามาเก็บไว้เฉย ๆ ก็เอาไปส่งมอบให้ประเทศที่ขายเครื่องบินให้เราซะ มาเลย์ฯ ยังทำได้เลย แล้วทำไมเราจะทำบ้างไม่ได้ ! ?
วิธีนี้ถ้าไม่เอาไม่ถูกใจ แต่ยังอยากได้เครื่องบินแบบครบ ๆ ฝูงอยู่ละก็ แนะนำวิธี เช่า หรือ เช่าซื้อ (leasing) ครับ ทยอยจ่ายได้หลายงวดมาก หมดสัญญายังมีออฟชั่นให้ซื้อขาดอีกด้วย
หรือจะเอาแบบลูกผสมก็ได้นะครับ ซื้อ 6 ตัว เช่าอีก 6-12 ตัว รับรอง ด้วยวิธีนี้ ท.อ. เรามีของเล่นใช้ครบตามความต้องการแน่
ท.ร. ทำให้เห็นเป็นตัวอย่างแล้วไงครับเมื่อครั้งเรือพุทธฯ 2 ลำ ตอนแรกเราก็เช่าเค้าเอานี่ครับ ตอนหลังถึงได้ซื้อขาด (ผิดถูกอย่างไรท้วงติงได้ครับ)
สรุปว่า สนับสนุนเต็มที่และเห็นด้วยอย่างยิ่งที่ ท.อ. จะตั้งโครงการซื้อ บ.ข. ใหม่ ทดแทน เอฟ-5 ฝูงสุราษฏร์ฯ ตั้งแต่บัดนี้ ท.อ. จะเลือกแบบเครื่อง+ระบบอาวุธ อย่างไรก็ว่ากันไป หากแต่ถ้าติดขัดเรื่องงบประมาณ ก็ลองพิจารณาแนวทางข้างบนบ้าง เผื่อบางอย่างอาจจะเวิร์คก็ได้นะครับ
สุดท้าย ขอให้ ท.อ. ให้ความสำคัญกับการประชาสัมพันธ์เยอะ ๆ นะครับ โครงการใช้สตางค์เป็นพันเป็นหมื่นล้านยิ่งต้องสร้างความเข้าใจให้กับประชาชนทั่วไปทราบและยอมรับถึงความจำเป็นในการจัดหาในครั้งนี้ คนเดียวพูดก็ดีครับ? หรือหลายคนพูดก็ได้แต่ขอให้พูดตรงกัน ไม่งั้นคำพูดกองทัพมันจะไม่มีน้ำหนักและสร้างความสับสนให้กับประชาชน เปิดโอกาสให้กลุ่มคนที่เค้าไม่เห็นด้วยออกมาโจมตีได้
เห็นด้วยเรื่องประชาสัมพันธ์นะครับ เพราะที่ผ่านมากองทัพเอาเงินไปทำอะไรบ้างไม่เห็นจะมีใครรู้เรื่อง ถามชาวบ้านร้านตลาดก็ไม่มีใครทราบ แล้วแบบนี้ใครจะยอมเสียภาษีให้กับสิ่งที่ตัวเองไม่รู้ว่าจะเป็นประโยชน์ยังไง พวกเขาคงไม่แฮปปี้เท่าเราหรอกครับ การแจกแจงรายจ่ายให้ชัดเจนอย่างน้อยก็เป็นการกันไม่ให้เงินส่วนนี้ไหลออกไปเข้ากระเป๋าใครบางคนด้วย (ปัญหาเรื้อรัง แก้ไม่ยอมหายสักที ผมชักรำคาญแล้วครับ) และถ้ากองทัพสามารถชนะใจประชาชนได้เชื่อเถอะครับว่าต้องมีคนบริจาคเงินเพิ่มให้ คนไทยมี 65 ล้านให้แค่คนละบาทก็พอซื้อข้าวของจำเป็นได้แล้ว
และสิ่งที่ผมอยากเน้นคือ 'ได้เวลาให้ F-5 พักผ่อนได้แล้ว' หลังจากกรำศึกสงครามเวียดนามมานานก็ควรจะปลดไปอยู่ที่พิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศให้เป็นที่เชิดหน้าชูตาว่า F-5 นี้อยู่กับเรามานานตั้ง 40 กว่าปี มากกว่าจะเอาไปบินต่อแล้วร่วงลงมาให้ได้ยินอยู่เป็นครั้งคราวนะครับ ผมไม่ใช่นักบิน ทอ. ก็จริง (เคยฝันตอนเด็กแต่สายตาสั้น จึงอด) แต่อดเสียดายคนของเราไปไม่ได้ครับ ทอ. จะเอา บ. อะไรมาก็ได้ยกเว้นเครื่องเก่าบุโรทั่ง เพราะไม่ได้ช่วยอะไรเลยทั้งที่เสียเงินไปมากโข
ทอ.ซื้อวันนี้I see uสนับสนุน20บาท ครับท่าน
นี่ตา แชมป์ ทำไม ชอบแต่ ของ เล็กๆ
เอาแบบ ที่ท่าน กบ ว่าไว้ดิ อยากได้ของ ใหญ่ๆ
F16 ทั้ง 3 ฝูง นำมาปรับปรุงใหม่ ให้เทียบเท่า Block60 ทั้งระบบเอวิโอนิค ระบบเรดาร์ ซอฟท์แวร์การใช้อาวุธที่ทันสมัย ใช้ระบบอาวุธจากฝรั่งเศส สวีเดน อังกฤษ อิสราเอล ฯลฯ อาวุธที่เราอยากมีไว้ใช้งาน 17,000 ล้านบาท จะพอมั้ยครับ เครื่องบินเกือบ 60 ลำ คิดว่ากองทัพอากาศเพื่อนบ้านคงจะเกรงใจเราบ้าง
ท่านchampขอท้วงครับ ครับ F-16 บางแบบก็มีระบบดาต้าลิงค์ครับ ถ้าพูดกันตามตรง ตอนนี้ถ้าถามว่าซื้ออะไรคุ้มกว่ากันตอนนี้ F-16คุ้มกว่าJas ครับผมว่าซื้อJasไม่คุ้มอย่างรุนแรง คุณภาพ พูดจริงๆ ระหว่างF-16 ในตอนนี้กับ Jas Jas เหนือกว่าหรือครับ ตรงไหน ??? ดาต้าลิงค์ ??? ก็มีเหมือนกัน สกัดกั้น ??? ดีกว่าหรือ โจมตี ??? F กินขาด เมทิเออร์ ไออาไอเอส ที มันก็ไม่ได้ห่าง แอนราม กับงูหลาม4 หรอกครับ แค่ F-16 โบร์ ถ้าเทียบกับ Jas ผมว่า Fโบร์กินขาดแล้วครับ แล้ว Jas ถ้าเราซื้อจริงๆแล้วมีแค่6ลำ ถอยหลังลงครองชัดๆผมว่านะ แล้วรู้สึกว่าอิรีอายเขาก็ไม่ได้แถมนะครับ แค่ขายเป็นแพ๊กเกจ ถามว่าซื้อ Jas มาจริงๆแค่ 6 ตัวจะซื้อมาทำเพื่อ???โจมตีหรือ...ไม่มีทาง สกัดกั้น....แค่6 ลำเนี่ยนะ ค่าซ่อมบำรุงเอย อาวุธใหม่เอย คุ้มหรือครับ
สุดท้าย ไม่มีนักบินคนไหนในโลกหรอกครับ ที่ขับเครื่องบินเป็นทุกแบบ มีแต่ในหนังครับ
ปล.1ทอ. ยังไม่ได้เลือกแบบครับยังไม่ต้องกังวลอะไรเกินเหตุ
อย่า ไป จริงจัง กับท่าน Champ มากเลย
เอาหูไปนา เอาตาไปไร่ ซะหมดเรื่อง
เมื่อเทียบ Meteor กับ AIM-120C-7 นี้เทียบกันไม่ได้ครับ ส่วน IRIS-T กับ Python-4/5 นี้ได้ครับ
ทอ. ยังไม่เคยพูดถึงนะครับว่าถ้าซื้อ JAS-39 จะไม่ได้ Erieye น่ะครับ ดังนั้นต้องคิดไว้ก่อนว่ายังได้อยู่ (หุหุ ของแถมหรือไม่ยังไม่รู้ ความจริงอาจจะไม่ใช่ก็ได้นะ)
เมื่อไรกองทัพอากาศจะตัดสินใจเอา แต่ทั้งนี้มันก็ขึ้นอยู่กับกองทัพ แต่ผมอยากให้เอา JAS 39 หรือ SU 30 มากกว่าเพราะว่าประเทศไยจะได้เปิดโลก รับเทคโนของชาติพวกนี้มา เหมือนเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่ของ ทอ.ไทยไม่ลองไม่รู้ แต่ต้องใช้ให้คุ้ม เดี๋ยวรู้เองว่าทอ.จะถอยอะไร
ไม่ไหวแย้ว ขี้เกียจลุ้นแย้ว อะไรก็ได้ขออย่าให้มันมาจากทะเลทรายเลย
โอ้ แต่ไม่เอาน่ะ J-10
ไม่มีเงินซื้อ ก็สมัครบัตร FIRST CHOICE ซิ