พาดหัวหลักจากกรุงเทพธุรกิจ แถมยังมีสกูปพิเศษหน้า 2 อีกต่างหาก เชิญชมครับ
ภาพนี้หน้า 1
ภาพนี้หน้า 4 เป็นรายละเอียดต่อจากหน้า 1
ภาพไม่ขึ้นเอาใหม่ เล็กกว่าเดิม
ภาพนี้หน้า 4 เป็นรายละเอียดต่อจากหน้า 1
อีกหน่อย ทบ.อย่าลืมคุณปู่M-41ด้วยล่ะครับ
ผมสงสารคนเฒ่าคนแก่ ใช้แรงงานคนแก่มากๆไม่ดีหรอก
ภาพสุดท้ายครับ พยายามอ่านกันหน่อยนะครับ ภาพใหญ่กว่านี้โพสไม่ได้ครับ ผมใช้วิธีง่าย ๆ คือ ถ่ายเอกสาร สแกน แล้วก็โพสครับ
อ่านแล้วก็รบกวนแสดงความคิดเห็นด้วย แต่ขอแบบสุภาพ ๆ นะครับ ไปแล้ว ขอไปทำงานก่อนครับ
Thailand selects multirole fighter
The Royal Thai Air Force (RTAF) has decided which aircraft to purchase to meet its requirement for 12 multirole fighters; it is awaiting approval for...
29-Jun-2007
From Jane's Defence Industry
http://jdin.janes.com/public/jdin/index.shtml
Jane's รายงานว่า ทอ ตัดสินใจเลือกแบบแล้ว
3.44 หมื่นล้านบาท = 1000ล้านดอลล่าร์
คิดดอกเบี้ยอีซี่บายผ่อน10ปี คิดค่าโสหุ้ย ค่าคอมพิวเตอร์ ค่าฝึกนักบิน ค่าอาวุธ ค่าฝึกช่าง
บข.20 น่าจะมีราคาไม่เกินลำละ 50ล้านดอลล่าร์
มาตรฐานของไทยที่มักซื้อแพงกว่าชาวบ้าน
50ล้านดอลล่าร์ อาจได้ราคาตลาดโลกราวๆ 45ล้านดอลล่าร์
สรุป .............คงพอเดาๆกันได้ ว่าหวยจะออกอะไร แถมเลข12ลำ ก็ตรงกับข่าวที่ลือๆออกมาพอควร หุหุหุหุ
เอาละครับคราวนี้ นี่เค้าคงคิดว่าข่าวการเมืองยังร้อนกันไม่พอ
หวังว่าจะแคล้วคลาดมาแลนดิ้งได้เร็วๆนะ..
งบ 1,000 พันยูเอสดอลลาร์ สำหรับเครื่องบิน 12 ลำ ยังบอกไม่ได้หรอกครับว่ามันถูกหรือแพง หรือเหลือค่าคอมเพรสเซอร์เท่าไหร่
ถ้าแบบเครื่องที่เลือกมันออกมาเป็น เอฟ-18 เอฟ หรือกระทั่ง ราฟาล ฟูลออฟชั่น บวกกับระบบเครื่องช่วยฝึก และ อาวุธครบมือ เราจะว่าแพงไหมครับ ?
เค้าจะซื้อก็ดีแล้วครับ ภาวนาให้มันผ่านตลอดแล้วกัน
เอาใจช่วยให้ทอ.ซื้อได้ครับ แต่ห่วงเรื่องคอ.........นิหน่อย
มาเล ซื้อ SU30 MKM 12 ลำ พร้อมอาวุธ ราคารวม
900 ล้าน US $
ไทย ซื้อ ................ 12 ลำ พร้อม เครื่องยนต์ ? และ อาวุธ ???? 1000 ล้าน US $
มาเลซื้อด้วย บาเทอร์เทรด เอาน้ำมันปาลม์ไปแลก เมืองไทย ??????
หวังว่า deal นี้จะเป็น deal ที่มีความโปร่งใส และ ให้ผลประโยชน์สูงสุดต่อชาติบ้านเมืองนะครับ เจ้านาย
คือ ผมเดาว่าตัวเครื่องล้วนๆ ไม่นับอาวุธที่จะซื้อมา +ค่าโสหุ้ย +ค่าคอมพิวเตอร์+ค่าฝึกช่างกับนักบิน+ค่าสารพัดสารเพรวมถึงดอกเบี้ยผ่อนสบายๆกับอีซี่บายอีก
ผมเลยเดาว่า ตัวเครื่องเปล่าๆ ไม่น่าจะถูกกว่า 50ล้านเหรียญ
ผมว่า ไม่น่าจะถึงขั้นราฟาล หรือ ซูเปอร์ฮอร์เน็ท น่าจะเป็นอย่างที่เราๆก็รู้กันอยู่
แต่ที่อยากรู้คือ ของแถมได้ตะเกียบ หรือจานข้าวมาด้วยหรือเปล่า ถ้าได้ ดีลนี้ ชูสองแขนสนับสนุนเต็มที่
ว่าแต่ ไม่สนใจน้องซูแล้วเหรอ อวบๆ ใหญ่ๆ ขน(อาวุธ)เยอะๆ อย่างนี้ น่าถอยมาสักฝูงนะท่าน แต่ถ้าไม่ได้ไม่เป็นไร ผมไปหาน้องซูแถวๆซอยนานาเอาก็ได้
เอา ช่วยกันฮาหน่อย ฮาาาาาา
ราคานี้คงได้ F/A18E/F สบายๆ
แต่คงได้เครื่องเปล่าๆ
- -
ถ้าเอาแจส คงได้เมทิเออร์ อัมราม เต็มคลังฟลูออฟชั่น
เผลอๆ อาจได้เอามาแต่งซิ่ง เปลี่ยนเครื่องวีเทค
โหลดเตี้ย แมคขาว - - (รถหรือเครื่องบินละเนี่ย55)
แต่ส่วนตัวผมเชียร์ราฟาล / F/A18F นะ
หุ่นมันเท่ดี *-*
จากข่าวใน นสพ. เฉพาะส่วนที่ ผบ.ทอ ทำถึง บก.สส ผมมีข้อสังเกตุดังนี้ครับ
1. กองทัพอากาศยังขาดระบบการบัญชาการ และควบคุม/การเชื่อมโยงเครือข่ายทางยุทธวิธี (Data Link) เป็นพื้นฐานการพัฒนาต่อยอดสู่การปฏิบัติการที่มีเครือข่ายเป็นศูนย์กลาง
อันนี้หมายถึง Jas 39 หรือเปล่าครับ และคงไม่ไช่ F-16 แน่นอน ถ้าเป็น Jas 39 จริง งานนี้คงมาเป็น Package และมีของแถมด้วย อีริคอาย 2 ลำ ถ้าหากติดอาวุธ อากาศสู่พื้น ต่อตีเรือรบ ก็สามารถ อุดช่องว่างเรื่องการคุ้มครองกองเรือของเราได้ ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงว่าฝูงใหม่นี้น่าจะลงที่ 701 ทำให้กองทัพอากาศสามารถปกป้องคุ้มครอง กองทัพเรือได้ทั้งฝั่งอันดามัน และอ่าวไทย
2. โครงการนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อจัดหาเครื่องบินขับไล่ เอนกประสงค์จำนวน 1 ฝูงบิน พร้อมอุปกรณ์เครื่องช่วยฝึก อะไหล่ ระบบอาวุธ อุปกรณ์สนับสนุนการบิน รวมทั้งการสร้าง ปรับปรุงอาคาร สถานที่ และการฝึกอบรม จนท. ที่เกี่ยวข้อง
อุปกรณ์สนับสนุนการบิน หมายถึงระบบ Data link ภายพื้นดินช่ายป่าวค๊าบ ถ้าเป็น F-16 คงไม่ต้องซื้อเครื่องช่วยฝึก จริงหรือไม่
ข่าวนี้ละเอียดมากนะครับ บอกว่า
- 103 มี F16 A,B 24 ลำ จริงๆ แล้วควรเป็น 25 ลำ (18+7=25) หรือว่า จำหน่ายไป 1 ลำ เนื่องจาก Hard Landing
- 211 มี F-5 E,F 14 ลำ
- 701 มี F-5 B,E 13 ลำ
สงสัยมานานแล้วครับ ว่า F5 ของเราถ้าไม่นับรวมกับ 904 มีเหลืออยู่เท่าใด เพิ่งจะทราบตอนนี้หละครับ
ตอนเที่ยงวันนี้ กินข้าวเสร็จแอบงีบหลับ ฝันไปว่ามีคนโทรมาบอก ว่าวันศุกร์ที่ผ่านมา ท่านต๋อยแอบไปสรุปรายงาน ให้ท่านแอ้ด ทราบเรียบร้อยแล้ว และที่สำคัญคือ สรุปแบบแล้ว เป็นสาวสวีเดน บริสุทธิ์ผุดผ่อง ไม่เคยผ่านมือหนุ่มสวีเดนมาก่อน อิ อิ อิ คอยดูแล้วกันครับ ว่างานนี้ ล๊อกฮีด มาร์ติน คงวิ่งขาขวิด ฝุ่นตลบแน่ ๆ โดยส่วนตัวผมแล้ว Jas 39 หรือ Su 30 ก็ได้ ขออย่างเป็น F-16 ก็แล้วกัน (เกลียดไอ้กันเป็นการส่วนตัวครับ) แต่อย่างไรก็ตาม เผื่อใจไว้หน่อยก็ดี มีเพื่อน ๆ หลายคนบอกว่า ถ้าเครื่องบินยังไม่ได้บินมาลงสนามบินในเมืองไทย อะไร อะไร ก็เกิดขึ้นได้ครับ ดังนั้น เราก็ต้อง รอ รอ รอ รอ แล้ว ก็รอครับ
เราอาจได้ สาวสวีเดนมากอดจริงๆ แต่ต้องคุยกับมหามิตรซะก่อน ว่าจะว่าอย่างไร แต่ถ้าผลประโยชน์ลงตัว อาจจะชิวๆๆๆๆๆ เช่น12+36(อาราม) เครื่องสวีเดนอาวุธมะกัน
ความคิดเห็นส่วนตัว ไม่ได้เอาข้อมูลจากใครทั้งสิ้น นั่งพิมพ์ไปคิดไปครับ
ใครพอรู้บ้างครับว่า กริเป้น 1/48 ยี่ห้อไหนคุณภาพดีที่สุด ?
แล้วสติ๊กเกอร์น้ำ SRT กับ โลโก้น้องหลามหาซื้อได้ที่ไหนครับ
แบบว่าจะเอามาตุนไว้นะครับ เพื่อความไม่ประมาท เดียวราคามันจะขึ้นจนจับไม่ลงอ่ะครับ...อิอิ?
?
ผมว่าคำนวณตัวเล๘อาจจะผิดนะครับฮ้อยทมิฬ มาเลย์ซื้อ SU-30 MKM 18 ตัวครับ ราคาประมาณ 36,000 ล้านบาท มาพร้อมอาวุธในระดับหนึ่ง โดยตอนนั้นค่าเงินบาทอยู่แถวๆ 38-40 บาทต่อดอลล่าร์ ราคาเฉลี่ยเครื่องละประมาณกว่า 2200 ล้านบาท หรือ ตกเครื่องละประมาณ 55-60 ล้านเหรียญ
คราวนี้เราจัดหา 33,400 ล้านบาท ประมาณ 1000 ล้านเหรียญ เอา 12 หาร ได้ประมาณ 83 ล้านเหรียญนะครับ ราคานี้เป็น F-18 E/F หรือ F-16 Block 60 พร้อมอาวุธเต็มอัตรา หรือไม่ก็ F-15 sg ตัวเปล่าๆได้ แต่ถ้าเป็น JAS-39 รับรองได้ว่ามีเครื่อง AEW&C ได้มาด้วย 2-3 เครื่อง
งานนี้มีเฮล่ะครับ ยิ่งทหารกะลังใหญ่คับฟ้าแบบนี้
....อยากได้ของแถมเป็น เจ็ต อ่ะครับ....
...แต่ผมว่าคงได้เป็น เทอร์โบ พร็อบ มากกว่า...
ทราบมาว่าตอนนี้ทางทหารเขามองภัยไปทางฝั่งตะวันตกมากกว่าทางใต้ครับ ยิ่งมีข่าวพี่หม่องกำลังจะเอามิก-29อีกฝูง (ทั้งๆที่ฝูงเก่ายังผ่อนไม่หมด)พร้อมยานเกราะ+รถถังใหม่จำนวนนึง ระดับหลายร้อยคัน (ไม่รู้ว่าพี่หม่องแกไปรวยอะไรมา) ดังนั้นคาดว่าโอกาสที่เราอาจจะได้เห็น บข.19ข/ค จึงสูงมากกว่าตัวอื่นครับ เพราะพอฟัดกับ มิก ได้สบายแถมขนระเบิดไปได้แยะด้วย ยิ่งไทยเรางบน้อยๆแค่ พันล้านยูเอส อย่างนี้ด้วย ยิ่งมองตัวอื่นๆไม่เห็นครับ
ข่าวจากกรุงเทพธุรกิจเหมือนเดิม ฉบับวันนี้ 4 กรกฏาคม 2550 ลงหน้า 1 เหมือนเดิม แต่ไม่ไช่พาดหัวหลัก เป็นพาดหัวรองครับ เชิญอ่านครับ
อยกาให้เป็นตัวนี้จัง |
พี่กบครับ ใจเย็นๆ โดยส่วนตัวผมเชื่อว่ายังเป็นยาสครับ ที่มาอันดับ1 (ถ้าหากเอฟ-16ราคาแพงหูฉีกปานนั้น) 12ลำ เอแวคส์ ของแถมจำพวก RBS-15 อาจจะมีเมทีเออร์แซมๆมานิด แพ็คเกจนี้ได้ข่าวว่า รวมพวกเครื่องซิมูเลเตอร์ สถานีทวนสัญญาณภาคพื้น แล้วก็ค่าถ่ายทอดเทคโนโลยีอีกผมว่าคุ้มนะครับ
แต่โดยส่วนตัว ผมยังเชื่อว่าทอ.ยังจำเป็นที่จะต้องจัดหาบ.โจมตีทางลึกครับ
แล้วตัวเลือกที่เหมาะสม? ไม่อาจทราบได้ รอดูอะไรที่จะมาแทนเอฟ-5ของฝูง211 ดีกว่าครับ ผมว่าฝูงที่จะมาแทนเอฟ-5ของฝูง701 มันหวยล็อคไปแล้ว
ฝูงหน้าถ้ายังไม่ได้บ.โจมตีทางลึก มีเคือง เอิ๊กๆๆ
ว่าแต่ ถ้ารัฐบาลนี้ยุบสภา รัฐบาลหน้าเงินขาดมือ มันจะเข้าอีหรอบเดิมแบบเอฟ-18หรือเปล่าหนอ ถ้าเป็นอย่างนั้นได้เห็นทอ.ควบเอดีเอฟฝูง2 แน่ๆ 555
"ยานเกราะล้อยาง 48 คัน ราคารวม สี่พันล้านบาท ตกคันละ แปดสิบสามล้านบาท หรือ คันละ สองจุดสามล้านเหรียญ มันแพงกว่ารถถังเบาอีกนะ"
ถ้าแพงกว่านี้อีกหน่อยราคาเท่าเจ้า M-1 เลยครับ ค่าตัว M-1 คือ 2.7 ล้านเหรียญ ผมว่าราคายานเกราะล้อยางที่จะซื้อนี่แพงเวอร์ไปครับถ้าได้จำนวนแค่นี้จริง
มีตังค์ก็เอาไว้ก่อนได้ปะ อยากให้เรามี DATALINK ถ้าทางพื้นดินด้วยก็ดี ส่วนบินทางลึกนะดีครับ ถ้ามองแนวด้านตะวันตก มันจะเป็นแจ๊ส ก็ขอให้ได้เถอะครับ ขนาดไม่ใช่กองทัพอากาศ ยังอึดอัดแทนเรื่อง ความเกรงใจของเพื่อนบ้านเรา มันไม่ค่อยเกรงใจแล้ว ขนาดรู้เรื่องสะแปอิงทำงานให้ปิโตรนาส เรายังทำอะไรไม่ได้เลย แถมจะคุยกับแกนนำอีก เออยิงทหารกรูตายไปตั้งเยอะ แล้วเอ็งมาเปิดโต๊ะเจรจา มันจะยอมกันตั้งแต่ในมู้งเลยหรือ (ขอนอกเรื่องหน่อยนะ) เอามาเถอะถ้าเอามาแล้วเพื่อนบ้านเกรงใจเราบ้าง สมัยนี้ไม่ทุบโต๊ะนะ.....เด็กลามขึ้นหัวหมดแล้ว เครื่องแบบมีไว้ซึ่งศรัทธา.......คนต้องศรัทธาในเครื่องแบบ ถ้าไม่ทำต่อไปจะไม่มีใครให้เกียรติเครื่องแบบทุกชนิด...............................
รอเป็นทางการก่อนดีกว่าครับ
ตอนนี้ ก็วิจาร์ณตามข่าวที่จริงๆมั่วๆ ใส่สีตีไข่ไปเรื่อย
อ๋อ ผมพูดเรื่อง รถเกราะนะครับ พูดตามตรงว่าข่าวโคตรใส่ร้ายเลย
มีข้อสังเกตว่าล้อยางของยานเกราะรุ่น BTR 3E1 ไม่สามารถทนทานต่อตะปูเรือใบ กระสุนปืนเอ็ม 16 หรือกระสุนปืนขนาด 7.62 มม.ได้ เนื่องจากประเทศยูเครนไม่มีเทคโนโลยีสำหรับยางป้องกันกระสุนขนาดดังกล่าว
ประเทศที่มีความสามารถพอที่จะผลิตรถถังได้แต่ไม่มีเทคโนโลยีกันตะปูเรือใบอยากรู้ว่าไอคนเขียนข่าวมันคิดได้ไง ข่าวไทยผมว่าไม่มีความหน้าเชื่อถือ ด่าเอามันไว้ก่อนจะได้ขายข่าวได้มากๆ
ผมคิดว่าความจริงอาจจะไม่ใช่ 48 ก็ได้ อาจมากกว่านั้นนะรอๆดูไปก่อน
ว่าเฉพาะเรื่องเครื่องบินรบนะครับ
ถ้าปรากฏว่าหวยออกที่ Jas39 ก็คงเป็นเพราะทาง ทอ. มองไปที่ EriEye เป็นหลักครับ เพราะว่าถ้า งป. ขนาดนี้ได้มาแค่ 12 ตัวแต่ไม่แถบ(ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าแถมได้ป่าวเนี้ย) EriEye มาเนี้ย ก็อย่างที่พี่ กบ ว่าแหละครับ...อายชาวบ้านเขาครับ...พี่น้อง ลำกระติ๊ดนึงราคาแปดสิบกว่าล้านดอลล่า
แต่ถ้าหวยมาออกที่ Su30 ก็คงเพราะว่าทาง ทอ. เลือกที่ประสิทธิภาพ(ไม่ใช่คุณภาพนะ)และขีดความสามารถของเครื่องบินเป็นหลักครับ...แต่ผมก็สงสัยอยู่นะครับทางด้านมาเลเซียเขาซื้อ Su 30 MKM 18 เครื่องใช้ งป. ประมาณ 900 ล้านดอลล่า แต่เรา 34,000 ล้านบาท ก็ประมาณ 1000 ล้านดอลล่า ได้เครื่องบินแค่ 12 เครื่อง ใช่ งป. มากกว่าแต่ได้เครื่องบินน้อยกว่าแสดงว่าต้องเป็นรุ่นที่ทันสมัยกว่าของมาเลอีกใช่ป่ะครับ(หรออออออ)
แต่ถ้าหวยมาออกที่ F/A18E/F หรือ Rafale ทาง ทอ.ก็จะได้เครื่องบินที่สมดุลคือมีทั้งประสิทธิภาพและคุณภาพไว้ใช้งานครับ แต่อาจจะได้แค่ตัวเคื่องมาอย่างเดียวไม่พ่วงอาวุธมาด้วย ซึ่ง งป. 1000 ล้านดอลล่า กับ F/A18E/F จำนวน 12 เครื่องเนี้ยผมว่าสามารถที่จะซื้อได้นะครับ
ส่วนแบบไหนจะมานั้นตอนนี้ก็มิอาจจะยั่งรู้ได้ครับ จะได้จริงหรือป่าวก็ไม่รู้เลย
*ผมมีข้อสงสัยอยู่อย่างนึงว่าการซื้อขายครั้งนี้จะจ่ายเป็นเงินสดหรือว่าทำการค้าแบบบราเตอร์เทรดครับ สงสัยมั่กๆ เพราะว่าถ้าเราไม่มีเงินมาก ขนาดนั้นก็น่าจะทำการค้าแบบบราเตอร์เทรดไปนะครับ จะได้ไม่ต้องก่อ งป.ผูกพันถึง 10 ปี *
เรื่อง airframe ครับ
Originally Posted by Skyman
Yes, This is exactly what I wondering. (I don't have knowledge about this) The avionic is fine because it will be a new one, But do the service hours will be lower than the new one if we use the surplus airframe since it was used before? Do they need to reconstruct the existing airframe to meet 6000 - 8000 service hours? Because we will use this jet for almost 30 years. |
จากข้อมูลคุณ skyman
jas39c/d นีจะแตกต่างจาก jas a/b ขนาดไหน นอกจากที่บอกว่า เรื่อง load ได้มากขึ้น จะใช่แบบเดียวกับ jasที่กำลังทำให้กับ เดนมาร์ก กับนอร์เวยหรือเปล่า
JAS A/B และ JAS C/D
34,000 พันล้านบาท อัตราแลกเปลี่ยน 32 บาท / ดอล = 1,062 ล้านดอลฯ
jas-39 ลำละ 45 ล้านเหรียญ x 12 = 540 ล้านดอล ผลต่าง 522 ล้าน $
F-16 C/D ลำละ 45 ล้านเหรียญ x 12 = 540 ล้าน $ ผลต่าง 522 ล้าน $
F-16 E/F ลำละ 80 ล้านเหรียญ x 12 = 960 ล้าน $ ผลต่าง 102 ล้าน $
F-18 E/F ลำละ 54 ล้านเหรียญ x 12 = 648 ล้าน $ ผลต่าง 414 ล้าน $
rafael ลำละ 60 (ป่าว ?) ล้านเหรียญ x 12 = 720 ล้าน$ ผลต่าง 342 ล้าน$
SU-30 ลำละ 50 ล้านเหรียญ x 12 = 600 ล้าน $ ผลต่าง 462 ล้าน $
ทอ. น่าจะชี้แจงให้ชัดเจน ว่าตกลง ซื้ออะไรมั่ง...
เครื่อง Jas39, F-16C/D และ SU-30 นี่ถือว่าเป็นเครื่องบินยุค4.5เหมือนกันหมดเลยรึเปล่าครับ คิดว่าเคยอ่านเจอว่า Jas39, Su-30 เป็นเครื่อง 4.5th Generation แต่เครื่องF-16 เป็น 4th Gen. อะครับ แต่ว่าผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่า F-16 ที่เป็น 4th Gen นี่มันเฉพาะรุ่น A/B รึเปล่า
ความแตกต่างระหว่าง JAS A/B และ JAS C/D
ใช่ครับมันก็ไม่น่าเกลียดถ้าได้อย่างที่ว่าจริง แต่......
ถ้าจะซื้อ Jas39 จริงทาง ทอ.ก็ควรแจงราคาค่างวดต่างๆ อย่างโปร่งใสไปเลยครับ เพราะว่าถ้าออกมาประกาศแค่ว่า ซื้อเครื่องบินขับไล่จำนวน 1 ฝูงบินและอุปกรณ์สนับสนุนต่างๆ อันอาจจะเกิดความคลุมเคลืออันนำไปสู่ความสงสัยในความไม่โปร่งใสได้ครับ
คืองงี้ครับ deal นี้มันเป็นอย่างงี้
มันแยกเป็น 2 ชุดครับ ชุดแรก Gripen 12 ลำ ชุดสอง ERIEYES 2 ลำ + Saab 340.....ย้ำ ERIEYES ไม่ได้แถมนะครับ แต่งานนี้ ทอ.ซื้อเป็น Package ครับ ราคามันเลยไปที่ 1000 ล้านเหรียญ ฉะนั้น ต้องเอาราคา ERIEYES มาหักก่อนคำนวณราคาต่อเครื่องของ Gripen ครับ
มันเหมือนกับว่าเราซื้อทั้ง Gripen ทั้ง ERIEYES ในคราวเดียวกันครับ
ขอทำความเข้าใจเรื่องเครื่องบิน1เครื่องยนต์ ไม่สามารถทำการลาดตระเวณทางทะเลได้
คือ การที่ระบุว่า2เครื่องยนต์ คือหลักนิยมของสมัยก่อน ที่เครื่องยนต์ยังไม่น่าเชื่อถือเพียงพอ พังไป1 ยังเหลืออีก1 ทำให้บินต่อได้
แต่ ไม่มีใครเอาบ.เจ๊ท 2เครื่องยนต์ ไปบินลาดตระเวณ เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการตรวจการณ์มันสูงมาก (จะมีก็แต่ประเทศที่รวยๆอย่างอเมริกา หรืออังกฤษ ยกตย.บ.ที่ใช้ตรวจการณ์ทางทะเล เช่น นิมรอด หรือ พี-8 ที่กำลังจะประจำการเร็วๆนี้) จึงสังเกตได้ว่า เครื่องบินลาดตระเวณทางทะเลส่วนใหญ่เป็นเทอร์โบพร็อพ
ถ้าจะพูดว่าเครื่องบินที่ใช้งานทางทะเลมีแต่แบบ2ย.ก็ไม่ถูก เอ-7 เอฟ-8 เอ-4 ซูแปร์เออตองดาร์ด ก็บ.เครื่องยนต์เดี่ยวทั้งสิ้น และได้สร้างเกียรติยศในการรบมากมาย
มาพูดถึงยาส-39 ภารกิจหลักของยาสที่มันถูกออกแบบมาคือ สกัดกั้น โดยสวีเดนได้ออกแบบมาเพื่อสกัดกั้นการโจมตีจากรัสเซียซึ่งประจำการด้วย มิก-21/29จำนวนมาก หลักการออกแบบจึงออกไปในทางการรับมือกับบ.จำนวนมาก เช่นระยะเวลาการบำรุงรักษาคือ7.2ชม.บิน/ครั้ง ใช้ช่างเพียง5คนในการดูแล ในกรณีที่สนามบินโดนถล่มโดยบ.ทิ้งระเบิดจากรัสเซีย ก็สามารถปฎิบัติการได้บนท้องถนน ส่วนภารกิจอากาศ-พื้น เป็นภารกิจรอง ดังเช่นเครื่องบินจากสวีเดนอื่นๆเช่นวิกเก้น หรือดราเก้น แต่เมื่อสถานการณ์โลกเปลี่ยน สหภาพโซเวียตล่มสลาย เครื่องบินขับไล่เอนกประสงค์ได้รับความนิยม จึงทำให้การออกแบบยาส-39 เปลี่ยนให้มีความสามารถการโจมตีที่ดีขึ้น (แต่โดยส่วนตัวคิดว่ายังสู้เอฟ-16ไม่ได้) แต่ความสามารถหลักๆก็ยังเป็นอากาศ-อากาศอยู่ เช่นเป็นเครื่องบินที่คล่องตัวสูง มีหน้าตัดเรดาร์เล็ก เรดาร์ตรวจจับได้ไกล120กม. ยิงอามรามพร้อมกันได้4ลูก
เพราะฉะนั้น สำหรับข่าวที่ว่าจะไปประจำการกองบิน7 ผมเชื่อว่า ทอ.คงหวังให้เจ้ากริพเพน ดูแลน่านฟ้ามากกว่าน่านน้ำ ครับ
นิยายมั่วซั่ว
ลองหลับตานึกภาพดู.........(เลียนแบบรายการอาหารช่องยูบีซี-18)
ณ ถนนกว้าง8เลน (8เมตร) หน้าบ้านกำนันแจ๋น ถนนนี้ได้รับการเตรียมโดยกำนันแจ๋นสั่งรื้อเสาไฟฟ้าหน้าบ้านแกหมดตลอดความยาว1กม. กำนันแจ๋นใจดี เปิดบ้านให้ช่างและนักบินรวม30ชีวิตได้อยู่อาศัย หลังจากสนามบินของพวกเค้าถูกโจมตี บ้านกำนันแจ๋นเป็นสวนทุเรียน จึงสามารถซ่อนพรางสายตาจากบนฟ้าได้อย่างง่ายดาย โดยศัตรูหารู้ไม่ หลังม่านสวนเงาะและทุเรียน มีเครื่องบินรบพร้อมอาวุธเต็มลำ 4ลำ
ปี๊บๆๆๆ เสียงเตือนการบุกรุกน่านฟ้าบนเครื่องหมายเลข05โดยข้อมูลนี้รับมาจากหอเรดาร์ลอยฟ้าอีรี่อายส์ จ่าหมายวิ่งไปหาผู้บังคับบัญชา นักบินทั้ง4ขึ้นเครื่องบินของตัวเอง อัพเดทข้อมูลของอริราชศัตรูผ่านดาต้าลิงค์ ทุกเครื่องปิดเรดาร์ เพื่อไม่ให้พวกมันรู้ตัว กำนันแจ๋นสั่งลูกน้องเอาแทรคเตอร์มาช่วยลากบ.ออกจากที่ซ่อนพราง
วี้ๆๆๆๆๆ เสียงเครื่องยนต์อาร์เอ็ม-12 แผดเสียง พาเครื่องบินทั้ง4ลำ เหินฟ้าโดยใช้ความยาวเพียง650เมตรทั้งๆที่ทั้ง4ลำ ติดอาวุธเต็มที่ พร้อมน้ำมันเต็มถัง
แล้วเขาจะแถมฐานเรด้าภาคพื้นดินให้เราสักสามฐานไหมครับ
จากแผนการณ์ที่ส่งมาจากศูนย์บัญชาการ ทั้ง4ลำจะเข้าสกัดกั้นโดยการโจมตีจากด้านหลัง โดยอาศัยการอัพเดทข้อมูลเป้าหมายแบบเรียลไทม์ผ่านดาต้าลิ้งค์ และทั้ง4เครื่องทำการเงียบทางอิเล็คโทรนิคส์ทั้งหมด โดยมีเฉพาะการสื่อสารผ่านดาต้าลิงค์ โดยจะโชว์ที่จอภาพสีทำงานหลายหน้าที่ด้านซ้าย
หลังจากบินไปถึงจุดที่จะทำการใช้อาวุธ เป้าหมายคือเครื่องบินซู-30 จำนวน6ลำ ที่ยังไม่รู้ตัวว่าโดนสะกดรอยโดยบ.ขับไล่ข้าศึกอยู่
เครื่องของผู้บังคับหมู่บิน เปิดเรดาร์ทำการล็อคเป้าหมาย โดยส่งข้อมูลไปให้ทั้ง3เครื่องที่เหลือ และทำการยิงอวป.เมทีเออร์ 6ลูก หลังจากนั้นปิดเรดาร์อีกครั้ง รวมระยะเวลาทำการ3วินาที
กว่าที่ซู-30ทั้ง6ลำจะรู้ตัว ก็รู้เมื่ออวป.เมทีเออร์ทำการเปิดเรดาร์ของลูกจรวดเพื่ออัพเดทข้อมูลเป้าหมายและติดตามเป้า RWRของทั้ง6เครื่องส่งเสียงดังลั่น เมื่อECMจากแอฟริกาใต้ใช้ไม่ได้ผล ทั้ง6เครื่องจึงผละออกจากกัน ทำการปลดอาวุธที่จะทำการโจมตีเป้าหมายทิ้งเพื่อทำการหลบหลีกลูกจรวด นั่นหมายถึงภารกิจนี้ล้มเหลว
อวป.ได้ทำลายเครื่องบินข้าศึกไป3ลำ และช่วยชีวิตพลเรือนนับหมื่นในเมืองที่กำลังถูกถล่ม
"เฮ้ย อีนังหนูไปทำแกงเหลืองสูตรเด็ดของเอ็งมาให้พี่นักบินเค้าหน่อยเร็ว ฉลองชัยชนะเค้าหน่อย " หลังภารกิจนักบินทัั้ง4ก็กลับมาซดแกงเหลืองฝีมือลูกสาวพ่อกำนันอย่างอร่อย
เห่อๆๆ จินตนาการสุดกู่วุ้ย
O_o "
นิยายบั่นทอนปัญญายิ่งกวาคุโรมาตี้ ขออภัยหากไม่ถูกใจ
ราคาอิริคอายเท่าที่จำได้ 2 ลำตกประมาณ 15,000 - 16,000 ล้านบาท ดังนั้น 33,400 ล้านบาท - 15,000 ล้านบาท เหลือ 18,600 ล้านบาท เอา 12 หาร 18,600 ล้านบาท ตกเครื่องละ 1,500 บาท หรือราวๆ 40 ล้านเหรียญต่อลำ ราคานี้รวมอาวุธนำวิถีบางอย่างมาแล้ว(เท่าที่จะได้ เพราะราคาตัวเปล่าอยู่แค่ 30 กว่าล้านเหรียญเท่านั้น ถ้าตกลงเป็น JAS-39 แสดงว่า ทอ. ต้องการเครื่อง AEW&C เป็นหลัก ก็ถือว่าคุ้มค่าในการจัดหา
แต่พลอากาศเอก ชลิต พูดชัดเจนว่าต้องการ F-16 แต่ราคาขนาดนี้มันแพงมากเลยนะครับสำหรับ F-16 50/52 จำนวน 12 ลำ เพราะราคาขนาดนี้เติมอีกนิดก็ได้ F-15 sg แล้ว ยกเว้นจัดหาระบบอาวุธและออปชั่นมาเต็มอัตราจนมันอยู่ในระดับเดียวกับ F-16 E/F หรือไม่ก็.........จนน้ำลายไหล
เท่าที่อ่านจากหลายท่าน ทั้งท่าน Skyman และ ท่าน neosiamese บวกกับ ข่าวจาก ทอ. ที่ยังไม่ตัดสินใจเลือกแบบใด...ตอนนี้ สำนักงบฯ เขาก็ต้องมองว่า ทอ. ขอ งบลอย ไว้เฉย ๆ เท่านั้น...เผื่อ งบ ไว้ ถ้าจะต้องเลือก jas กับ อีรี่อาย ก็พอดีกับ งบประมาณ หรือ ถ้าไม่ได้เลือก jas แล้ว ไปซื้อ แบบอื่น ก็จะมีเงินเหลือซื้ออย่างอื่น ที่ไม่ใช่ อีรี่อาย หรือระบบเตือนภัยทางอากาศ...แล้วอย่างนี้ งบมันจะผ่านหรือครับ...คือ ของบ แต่ยังไม่รู้จะซื้ออะไร...เหนื่อยยยยยยยยย ฟรี ล่ะมั๊งครับ...
ในความคิดผม ฝูงบินใหม่ ไม่น่าจะจำเป็นต้องประจำการที่ กองบิน 7 นี่ครับ...ถ้ากองบิน 7 มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ ขนาดนั้น ปัจจุบัน กองบิน 7 ไม่น่าจะมี เอฟ-5 เก่า ประจำการ....ผมว่า น่าจะนำ เอฟ-16 มาประจำการแทนมากกว่า ส่วนฝูงบินใหม่ ก็เข้าประจำการแทน เอฟ-16 ฝูงที่ย้ายมา กองบิน 7...ฝูงบินใหม่ นี้คือ ซื้อมาเพื่อทดแทน จำนวนเครื่องที่ต้องปลดประจำการไป ผมเข้าใจความหมายอย่างนั้นครับ...
เห็นด้วยกับคุณ Juldas ครับ หลังจากนี้เรามาคุยกันเรื่องเทคนิคของบ.กันดีกว่า เพราะการลุ้นยกแรกผ่านไปแล้ว เหลือลุ้นยกสอง ว่าจะมีตงค์หรือเปล่า
เกิดเป็นคนไทย ใจรักบ.ข. มันก็ต้องลุ้นเหนื่อยเป็นธรรมดา
เรียนท่าน neosiamese ครับ ผมว่าราคาต่อสองลำไม่น่าสูงถึง 15,000 ล้านนะครับ เพราะเท่าที่ฟังมา คล้าย ๆ กับว่า ERIEYES 2 ตัวนี้จะเป็น Surplus ที่นำมาปรับปรุงเช่นกัน ราคารวม Saab 340 ตัวเปล่า เดาเล่น ๆ ว่าน่าจะราว ๆ 10,000 ล้านครับ
Also this info on F-16C and Gripen C fuel consumption might be interesting:
cu
F-16C B50 (GE F110-129) Internal fuel: 7000 lbs
28,984 lbs A/B Thrust @ 1,9 lb/lb.hr = 7,63 min ~ 8 min
17,155 lbs Mil Thrust @ 0,76 lb/lb.hr = 32,21 min ~ 32 min
Gripen 39C (1xRM12) Internal fuel: 5005 lbs
18100 lbs A/B Thrust @ 1,7 lb/lb.hr = 9,76 min ~ 10 min
12150 lbs Mil Thrust @ 0,7 lb/lb.hr = 35,31 min ~ 35 min
Also, F-16C is almost 3000 kg heavier than Gripen C before adding a payload so while internal fueltank is larger, it also burn more fuel to travel the same distance. So you see range is not really the issue with Gripen, the issue would be payload capability.
สุดท้าย จากภาพนี้ จะเห็นว่า JAS ปกป้องน่านน้ำได้ แต่ทำภารกิจทางลึกไม่ได้......OK ครับ มันบินไปทิ้งระเบิดใส่กัวลาลัมเปอร์หรือเปงนามาได้สบาย ๆ แต่ทั้งนี้ ก็ต้องไป deploy ที่บน.7 หรือ บน.41 ด้วย จึงจะได้ประสิทธิภาพสูงสุดครับ
กรุงเทพธุรกิจ เกาะติดข่าวนี้ตลอดเป็นวันที่ 3 แล้วครับ ยังคงอยู่หน้า 1 แต่เป็นพาดหัวรองเหมือนเดิม เหลือ 6 ลำแล้วครับ
คราวนี้ไม่ได้อ้างแหล่งข่าว และระบุคนให้สัมภาษณ์เลยครับ เป็นโฆษกกระทรวงกลาโหม
ข่าวเมื่อวานที่ระบุว่า ผบ ทอ อยากได้ F-16 เป็นแหล่งข่าวนะครับ ท่าน ผบ ทอ ไม่ได้ให้สัมภาษณ์เอง
ขอเสนอเอาใจท่าน กบ และอีกหลาย ๆ ท่าน ที่เชียร์ กริเพ้น
งบ 34,000 กว่าล้าน...ผูกพัน 10 ปี
แบ่งเป็น 2 ระยะ (ก็ของเดิมของ ทอ. นั่นแหล่ะ) ระยะละ 17,000 ล้าน ตกปีละ 3,400 ล้าน
ขอข้อกำหนดพิเศษในระยะที่ 2 ในหัวข้อการเปลี่ยนแปลงอัตราแลกเปลี่ยนของค่าเงินบาท ไม่เกินกี่.....% เพราะถ้าในอนาคต ค่าเงินบาทลดลงจากเดิม เกิดทะลุ ต่ำกว่า 30 บาทต่อเหรียญ ก็เท่ากับ ทอ. มีงบประมาณ ดอลลาร์ ในการซื้ออาวุธเพิ่มขึ้น (หาเหตุตรงนี้ เป็นค่าคอมเพรสเซอร์ คงไม่น่าเกลียด หรือยากที่มีใครจะจับได้ซักเท่าไหร่ ก็มีไปเถอะ เพราะสงสัยมันคงต้องมี)
ได้ กริเพ้น สัก 2 ฝูงเบา ๆ (24 ลำ) (อ่านกระทู้ของท่าน Skyman ถ้าจำไม่ผิด ตอนเสนอคราวแรกตกลำละ 25-28 ล้านเหรียญ) = 672 ล้านเหรียญ
ได้ อีรีอาย สัก 2 ลำ ประมาณ = 300 ล้านเหรียญ
เหลืองบอีก 90 ล้านเหรียญ ให้หักค่าคอมเพรสเซอร์ จากวงเงินนี้ 10% = 9 ล้านเหรียญ (ประเทศเรามันจน) แล้วไปลุ้นค่าคอมเพรสเซอร์ที่เหลือจาก อัตราการแลกเปลี่ยนเงินตราเอา.....ก็จะเหลือตังค์สุทธิ 81 ล้านเหรียญ
ก็ขอ สถานีเชื่อมเครือข่าย สัก 2 แห่ง
ขอของแถม เป็น จรวด อาร์บีเอส - 15 = 48 ลูก (ลำละ 2 ลูก)
ถ่ายทอดเทคโนโลยี่ jas-39 พร้อมเปิดข้อความร่วมพัฒนา ในเชิงพาณิชย์
แล้วผมจะอนุมัติครับ...5 5 5 5
โพสช้ากว่าท่านโต้ง....พออ่านข่าวแล้ว....
บข.19 ค. มาแน่ ๆ = 6 ลำ
กองบิน 7 ก็จะมี เอฟ-16 A/B (สิงค์โปร์) = 6 ลำ
เอฟ-16 A/B ฝูง 103 = 6 ลำ
รวมกันเท่ากับ 12 ลำ ตามจำนวนเดิมของ F-5 E
บข.19 ค. ใหม่ จำนวน 6 ลำ ก็จะประจำการทดแทน 12 ลำ ที่โอนมายัง กองบิน 7
ขอเดา ด้วยประการ..ฉะนี้...
ถึงเธอจะผ่านมือชายมาแล้ว แต่ด้วยใจรัก เธอก็มีค่าสำหรับผมเสมอ เอิ้กๆ
ถ้าเป็นรถยนต์ป้ายแดงแต่เซลล์ล่อไปขับโชว์สาวตจว.สักพันกิโลผมยังพอทำใจ
ซื้อของมาใช้งาน คงไม่เหมือนซื้อมาสนองตัณหา แต่อย่างว่า ถ้าได้รู้แล้วมันเจ็บแปล้บที่ใจจริงๆ
คนแถวนี้คงพอทราบว่า ถึงจะใช้งานมาแล้วนิดหน่อย แต่หลังการปรับเปลี่ยนให้เป็นรุ่นC/Dแล้ว
ทุกอย่างมันกระชับขึ้น ยิ่งกว่าวันแรกที่อยู่ในแวเรี้ยนA/Bซะอีก
แต่ชาวบ้านเค้าจะคิดยังไงครับ โดนใครจูงไปหน่อยก็ได้เรื่องแล้ว
งบไม่ใช่น้อย3.44หมื่นล้าน แต่บอกเค้าว่าซื้อ12เครื่อง เค้าก็เอาตัวเลขใหญ่ๆมาหารกันเล่นข่าวใหญ่โตง่ายๆดิ่
เซ็ง.. ปล่อยช่องตลอด ถ้าไม่ใช่บริหารบ้านเมือง-แจกแจง-ประชาสัมพันธ์ไม่เป็น
ก็คงต้องบอกว่ามีนอกมีในแล้ว
ทีจะเซ็นต์สัญญาซื้ออะไร บ.ต่างชาติเค้าก็โฆษณา รู้ทั่วกันไปหมด ว่ากองทัพไทยซื้ออะไร ติดอุปกรณ์อะไร ราคาเท่าไหร่
แต่กลับประชาชนในประเทศบอกมันแค่ของเก่ามันเก่า แล้วต้องจัดหามาทดแทนด่วน ใช้งบเท่านี้ เอาตังค์มา ห้วย..
แต่ยินดีครับ Wing of my nation
วันเด็กปีหน้า มาบินผาดแผลงโชว์ตัวจะโดนใจมากเลย
อย่าให้ต้องผิดหวัง!
...
อ้าว พิมพ์ใส่โน๊ตแพดอยู่ดีๆ
ล่าสุดเหลือหกลำซะล้ะ
เอามาทำซากอะไรล่ะครับทั่น !
( ถ้า เป็น 6Gripens+2Erieyes+... ก็จงบอกมาให้ไว)
555
ว่าแล้ว เมื่อคืนฝันเห็นเอฟ-16ซีเจ/ดีเจ มือสองติดตราฉลาม 17000ล้านคงได้แค่นั้นล่ะมั๊ง
บรีสขอมอบรางวัลเป็นรถเข็น1คันพร้อมบรีส20กก. (ฝันที่เป็นจริง) 5555
เคยบอกในกระทู้อื่นไปแล้วว่า กองทัพถ้าโปร่งใสทุกอณู ต้องบอกทุกอย่างเช่นตอนนี้นะชั้นมองอะไร อะไรมาให้ชั้นเลือก ประสิทธิภาพเป็นอย่างไร แล้วความต้องการคืออะไร งบฯที่ต้องใช้เท่าไหร่ มีแล้วทำอะไรได้
ไม่ใช่เล่นบทพจมาน(บ้านทรายทองนะครับ ไม่ใช่บ้านจรัญฯ65)โดนกลั่นแกล้ง บอกว่าตามชาวบ้านไม่ทันถึงต้องซื้อ โครงการณ์ไม่ล้มก็บุญแล้วครับ
ทำความเข้าใจอย่างนี้นะครับว่า การที่บอกว่านำ surplus มานั้น เป็นการนำมาเฉพาะส่วนของลำตัวเท่านั้นครับ ปีก เครื่องยนต์ รวมถึง Avionic ทั้งหมดจะเป็นของใหม่ ไม่ใช่แม้แต่การนำของเก่ามา upgrade ครับ
โครงสร้างของ A/B มันยังใช้ไปไม่เท่าไหร่ ตามที่เขาบอกมาคือร้อยต้น ๆ และการ reconstruct นั้นก็ต้องมีการตรวจสอบ รวมถึงการเสริมความแข็งแรงอยู่แล้ว ผมว่าแนวทางนี้ดีกว่าเอาลำตัวใหม่ด้วยซ้ำ เพราะอย่างน้อยเราก็ประหยัดเงินได้บ้าง ในขณะที่แทบไม่ส่งผลต่อประสิทธิภาพและความปลอดภัยครับ
(ลืมโพส ขอต่อ) ทั้งนี้ กองทัพต้องทำความเข้าใจกับประชาชน โดยเฉพาะสื่อบางรายด้วยครับ ไม่งั้นเดี๋ยวจะถูกหาว่าย้อมแมวอีก
ส่วนตัวเห็นว่า ตอนนี้ลุ้นหนักกว่าตอนเลือกแบบอีก เพราะโครงการส่อแววล่มจริง ๆ
อย่างงี้แหละครับ ชอบทำตัวอ๊อมแอ้มมีเรศนัย....ถ้าบริสุทธิ์ใจจริงๆ ก็เลือกแบบเครื่องแจกแจงค่าใช้จ่ายอย่างโปร่งใส่ว่าใช้งบเท่าไหร่ซื้ออะไรบ้าง ให้ประชาชนรับทราบโดยทั่วกันอีกทั้งยังเป็นการสร้างความเข้าใจให้แก่ประชาชนผู้เสียภาษีด้วย
แต่นี่ยังไม่ได้เลือกแบบแต่ขอ งป. 3.44 หมื่นล้านบาท เป็นผมก็ไม่อนุมัติหรอกครับแบบนี้อ่ะนะ...อย่างที่คุณ Skyman ว่าแระครับมัน..."ส่อแวว"...ว่าจะล่มครับ
อ่ออยากถามอีกนิดครับ เป็นเรื่องเกี่ยวกับทางเทคนิกของตัว บ. นะครับ
....ไอ้ที่เขาว่ากันว่าไอ่ระบบดาต้าลิงค์ ของ แจส39 มันสุดยอดที่สุดในตอนนี้ ผมอยากรู้ว่ามานสุดยอดแค่ไหนและสุดยอดยังไงครับวานผู้รู้ช่วยให้รายละเอียดด้วยครับ
....เท่าที่ผมรู้มันสามารถสื่อสารระหว่างเครื่องในหมู่บินด้วยกันแบบ สองทางในขณะที่เครื่องมันอยู่ห่างกัน 500 กิโลเมตร และก็สามารถรับข้อมูลทั้งจาก เอแวคและก็ศูนย์บัญชาการภาคพื้นดิน นอกจากนี้ยังมีไรดีอีกมั้ยครับขอแบบละเอียดๆ
....ขอขอบคุณล่วงหน้าครับ
เรื่องนี้จะกลายเป็นนิยายแปลงร่างไปซะแล้ว จะซื้ออะไรก็ขอให้มันชัดเจนหน่อยครับ หรือจะมีค่าคอม....อีก มาแบบครึ่งลำตัวหาร 2
งานนี้ต้องใช้เวลาแจ้งแถลงนานแหล่ะครับ.................และดีรูปมวยแล้ว ยิ่งพูดมาก ยิ่งชี้แจงมาก มีแต่จะเข้าเนื้อพันตัว......................... ผมตั้งคำถามง่ายๆ
1. ถ้างบประมาณที่ตั้งไว้มากมายขนาดนี้ (1000 ล้านเหรียญ ให้เป็นราคาเอแวคซะ 350 ล้านเหรียญ เหลือ 650 เอามาหารด้วย 12 หยาบๆตกลำละ 54 ล้านเหรียญ) ทำไมเราต้องเอา พาร์ท ที่เป็นเซอร์พลัสมารีบิ้วท์..............
2.เหตุผลที่ต้องการเร่งการเข้าประจำการดูจะไม่มีน้ำหนัก เพราะ กว่า 701 จะปลดก็ราว ปี 54 มีเวลาอีก 3 ปี จะค่อยๆเลือกแล้วรอของใหญ่ถอดด้ามก็มีเวลาเหลือเฟือ...............
.............."ทำใมต้องใช้พาร์ทเซอร์พลัส ในราคาแพงบรรลัย"....???????
...............เอาหล่ะ ทีนี้มาเรืองเทคนิคส์บ้าง...............จริงอยู่ การทำรีบิ้วท์ ที่ถูกต้อง สามารถเซ้ทชั่วโมงใหม่ให้เป็นศูนย์ แต่ในความเป็นจริง ในเงื่อนไขที่ใช้ค่าใช้จ่ายเท่ากัน(ซึ่งตามตัวเลขงบที่ตั้งมานี่ มันจะแพงกว่าของใหม่ด้วยซ้ำ) อะไรมันจะสู้ของใหม่แกะกล่องได้ครับ........................... ในส่วนเอวิโอนิคสืต่างๆ ติดตั้งของใหม่ อันนี้ไม่มีผลนัยสำคัญ โอเคผ่าน.......................แต่เรื่องโครงสร้าง ถ้าได้ศึกษาให้ดี จะทราบว่าโครงสร้างสำคัญของอากาศยานปีกตรึงนั้นมี 2 ส่วนหลัก คือ โครงลำตัวและ โครงปีก..............ในการใช้งานที่หนักหน่วง โครงสร้างของปีกมีโอกาสล้าได้มากกว่า แต่ก็ไม่ใช่ว่าโครงสร้างลำตัวจะไม่ล้านะครับ.............ดังนี้จะเห็นว่า การนำลำตัวเก่ามารีบิ้วท์ใหม่ ไม่ใช่เรื่องเล้กครับ แต่นั่นมันคิดเป็น 50% ของโครงสร้างเลยทีเดียว.........................................การรีบิ้วท์ไม่ใช่เรื่องแปลก บีที 76 (ดาโกต้า) นั่นก็รีบิ้วท์ แต่สิ่งที่ติดในใจคือ เงินที่ต้องจ่ายครับ.........................จ่ายแพงกว่า แต่ได้ของเคยใช้ สงสัยจะมีในยุคของ กลุ่มบุคลดี(ชูโล่ห์คุณธรรม) ในยุค สมานฉันท์นี้กระมัง
Multi-role Gripen favoured over SU-30
WASSANA NANUAM
|
The cabinet is willing to allow the force to buy six of the 12 jets it has requested over the next five years, the source said. Only after five years will the air force be able to consider buying the rest of the squadron.
The deal would be financed with tied-over fund spreading over five years.
The air force had earlier been upset that its 34-billion baht plan to buy 12 new fighters to replace its ageing fleet had not been considered by the cabinet.
The cabinet cited recommendations by a screening committee that purchasing all 12 jets in one batch would be too big a burden over five years.
The screening panel, chaired by Deputy Prime Minister Paiboon Wattanasiritham, had returned the procurement proposal to the air force and attached a suggestion that the tied-over procurement be extended to 10 years.
The panel, however, did not say anything about halving the squadron.
The source said the cabinet yesterday agreed the air force should buy six jets first, using a five-year tied-over budget starting next year.
The source said the air force selection panel favoured the JAS-39 Gripen to replace its old F-16 and F-5 fighters as the Swedish jets fit its requirements.
Last week, air force chief ACM Chalit Phukphasuk said the air force had not yet decided on the type of aircraft.
The force is reportedly hoping for a fast replacement of its present squadron of fighters, which have been in use for over 30 years and are due to be decommissioned next year.
ACM Chalit, also deputy chief of the Council for National Security, said the air force was considering several options, including F-16s and F-18s from the US, the SU-30 from Russia, the Dassault Rafale from France and the JAS-39 Gripen from Sweden.
The air force was under great pressure from the Thaksin government to purchase the Russian SU-30, even though the air chiefs felt it was too big.
The Thaksin government had been keen to barter farm produce, mainly chickens, for the fighters.
In the region, the SU-30 has been bought by China, Malaysia, India and Indonesia.
"Don't believe anythings unless the aircraft touchs the runway in Thailand"
เรื่องมันกำลังร้อนครับ เมื่อสัก 2 ชม. ที่ผ่านมานสพ.สวีเดนเพิ่งแปลข่าวข้างบนนี้ไปลง ส่วน Saab กล่าวว่ากำลังรอคำยืนยันจากทางการไทย ในขณะที่ฝ่ายต้านของเขาเตรียมเล่นงานรัฐบาล
Originally Posted by Skyman
Quote:
RTAF announcement is probably in the wrong time |
signatory said
I can tell you this news broke this morning about 1 hour ago... and it's growing and growing.. but anyway it's nothing we can do about it now.. Saab said in interviews that didn't really know much about this and want confirmation from thailand..
I read the Bangkok P article..it sounded like they might approve 12 jets if the payment plan is 10 years?
(We did this with both Czech and hungary)
Skyman Said
If it like that, it's ok.
It's become hoter and hoter. As far as I heard from Bangkok Biz News (in Thai language), they said the budget constrain is the most important factor. In fact, No official selection was announced. They only said we have to see how much money the gov can give to us and we will decide later. The news in Bangkok post is from the insider, which I also can garantee that RTAF will go for Gripen for sure. (I also talk with the insider woot )
But no official declearation have been made but the press go the news. Both of us are in trouble right now, facing the growing possibility that the entrie program will collape if no one on both side do anything.
เรื่องมันกำลังร้อนครับ เมื่อสัก 2 ชม. ที่ผ่านมานสพ.สวีเดนเพิ่งแปลข่าวข้างบนนี้ไปลง ส่วน Saab กล่าวว่ากำลังรอคำยืนยันจากทางการไทย ในขณะที่ฝ่ายต้านของเขาเตรียมเล่นงานรัฐบาล
Originally Posted by Skyman
Quote:
RTAF announcement is probably in the wrong time |
ด้วยความพยายามที่จำทำให้เรื่องมันเงียบ โฆษกกระทรวงกลาโหมสวีเดนออกมาบอกแล้วครับว่า ยังไม่ได้รับข้อเสนอซื้อ "อย่างเป็นทางการ" ใด ๆ จากรัฐบาลไทย
เท่าที่พูดคุยดู ทางรัฐบาลของสวีเดนเขาค่อนข้างกังวลครับ เพราะตอนนี้ประเทศไทยไม่ใช่ประชาธิปไตย ตอนนี้ทุกคนเลยพยายามเงียบเอาไว้ ซึ่งคาดว่าคงต้องรอให้เราเลือกตั้งเสร็จก่อนถึงจะพูดอะไรอย่างเป็นทางการครับ
ตอนนี้มีแต่รู้กันหลังฉากครับ
Here the spokesman for the defence minister replied to media
"It's nothing new that we have had talks with Thailand for a long time but so far we have not received any offical request [to buy] "
The reporter tried to ask "Has these been discussions recently?"
The spokesperson didn't answer directly and repeated... "We have not received a offical request and that is the message we have for you today."
Since the spokesman said "official" twice it means they know all about it but won't comment further until Thailand send in the papers..
FMV, the Defence procurement agency who sold surplus jets to Czech and Hungary had this to say:
"At this moment we don't know if they have actually decided or if it's just newspaper speculation"
"There's still some questions to be resolved, such as if the Thais want to buy from the industry (Saab) or the State (FMV)"
That's it for now...
ที่ผมสงสัยก็เหมือนกับหลายๆท่านข้างบนแหละครับ เงินตั้ง 1000 mUSD นี่ ได้แค่ 6 ลำ 12 ลำเองหรอ ถึงจะมี AEWS มาด้วยก็เหอะ ราคาขนาดนี้มันน่าจะได้ครบฝูงเต็ม 16 ลำ, 18 ลำมากกว่าถ้าเป็น Jas39 อะนะ หรือถ้าเป็นอะไรที่แพงกว่านั้น เป็นรุ่นใหญ่อย่างซู ถึงน่าจะเหลือ 12 ลำ
เห็นมีแพลมๆมาด้วยว่าเป็นของ surplus A/B series มา modify ใหม่ มันยิ่งไม่น่าจะแพงได้ขนาดนั้นเข้าไปใหญ่
ผมก็อยากให้ทัพฟ้ามีเครื่องบินใหม่เหมือนกันนะ ไม่ใช่ไม่อยาก แต่ถ้าจะเอาเงินภาษีประชาชนไปใช้แล้วมันทะแม่งๆ ไม่ชี้แจง ไม่โปร่งใส แบบนี้ ผมว่า ก็อย่าเอามันเลยละกัน กับปีงบประมาณนี้อะนะ ไปทำโครงการมาให้มันดีๆ ละเอียดๆ สมเหตุสมผลกว่านี้แล้วค่อยมาขอใหม่เหอะ เป็นบทเรียน กห. ไปละกันว่าทำโครงการลับๆล่อๆ ไม่เคลียร์แบบนี้มันก็ต้องเสียเวลา เสียโอกาสไปละกัน
เหมือนชิงรักหักสวาทเลย ท่านกบ พรุ่งนี้อาจจะมีข่าวน้องซูซี่ก็ได้
คนที่ได้ผลประโยชน์น่าจะกองทัพอากาศน่ะ ช่วงลดแหลกแจก แถม แถม จริงๆ
ถ้ายังจำกันได้แหล่งข่าวในไทยบอกว่า (5/มิ.ย.) ยังไม่ได้เลือกแบบเครื่องบิน กำลังพิจารณาอยู่
http://www.thaifighterclub.com/?action=detailQuestion&questionid=4687&language=1
ถ้าเป็นครึ่งฝูง หวยล็อคชุดนี้น่าจะเป็น F-16 แล้วครับ
ยังไงก็ขอเป็นบล็อค 60 ละกัน
แต่ก็ยังเสียดายน้องซูอยู่ดีครับ
อ้าววว....ยังไม่ได้ บข.20 อีก..รึ..?