กระทู้นี้เริ่มมาจากนิตยสาร "แทงโก้" ครับ เห็นรูปร่างครั้งแรกแล้วปิ้งทันที
" อะไรมันจะสวยน่ารักปานนี้"
เลยไปขุดมาให้อ่านในภาค 2 นี้นะครับ
อ้าวภาพทำไมไม่ขึ้น ก็ แค่ 388 KB เองนี่นา ลองอีกที
ลองอีกครั้ง ถ้าไม่ได้เลิก
อึ่ม! .............ลดขนาดภาพลงแล้วถ้าไม่ได้โกรธจริงๆด้วย (มะรู้โกรธใครดี ...... นอกจากตัวเอง)
ทำไม preview มะขึ้นหวา
รูปก็ยังใหญ่อยู่ดี................
อ่านดูในแทงโก้แล้วประทับใจ ดูน่าจะเป็นเครื่องบินฝึกขั้นประถมที่ดูจะจ๊าบกว่า PC-9 เอาการ เลยเข้าไปเวปไซต์ของผู้ผลิตดู คือ www.stavatti.com ได้ข้อมูลมาจมเลย ผมเคยคิดว่าทำไมเครื่องบินฝึกขั้นประถมของกองทัพอากาศทั่วโลกจึงยังใช้ชุดใบพัดวางอยู่ด้ายหน้า ทำไมไม่เอาชุดใบพัดไปวางข้างหลังบ้างละ เพราะเราจะสามารถออกแบบค๊อกพิทนักบินให้เป็นแบบเครื่องเจ๊ตได้ จะทำให้นักบินคุ้นเคยเร็วขึ้น และอาจจะง่ายในการออกแบบให้มีคุณลักษณะแบบเครื่องเจ๊ตในหลายๆด้านได้ ดังนั้นด้วยเหตุนี้ พอเห็น SM-27 ปั๊บ ปิ้งปุ๊บ..............เพราะผมชอบไอเดียนี้มานาน
เขาพูดเองว่าจะออกแบบมาเพื่อทดแทน บ.ฝึกขั้นประถมแบบ PC-9 และดูจากผลงานการออกแบบของเขาในเครื่องบิน SPORT ในด้านกีฬาแล้ว ไม่น่าจะจบแบบเครื่องแฟนเทรนเน่อร์ในอดีตที่คุยว่ามาจากเยอรมัน
เครื่องมีขนาดยาวแค่ประมาณ 10 เมตร ปีกกางราวๆ 11 เมตร น้ำหนักแค่ 3.5 ตันเท่านั้น จากสเปกที่บริษัทผู้ผลิตวาดฝันเอาไว้นั้น ผมว่าราคาคงจะโหดแน่ๆ เพราะสามารถติดกระเปาะชี้เป้าด้วยเลเซอร์ แถมด้วยเรด้าร์ AGP-66/67 ว่าเข้านั่น แถมยังอัดด้วยอุปกรณ์อิเลคทรอนิคการบินชั้นเยี่ยมเข้าไป ดูแล้วยังกะเครื่องบินขับไล่เบา
แต่เป้าหมายทางการตลาดกลับต้องการเข้าไปแทนที่เครื่องบินปราบผู้ก่อการร้าย เช่น A-37 ที่เราใช้เป็นมาใช้งานมานาน ซึ่งเครื่องระดับนี้ ไม่จำเป็นต้องมีเรด้าร์ ไม่จำเป็นต้องเป็นเครื่องเจ๊ต แค่ ซูเปอร์ทูคาโน่ก็เหลือเฟือแล้ว
แต่คอนเซ็ปการออกแบบนั้นน่าสนใจครับ รูปร่างทางอากาศพลศาสตร์นั้น กระเดียดไปทางเครื่องเจ๊ตเต็มตัว และจากการที่บริษัทนี้ทำตลาดเครื่องบินทางการกีฬามาก่อน SM-26 ดังนั้นผมว่าคุณลักษณะการบินของเครื่องน่าจะไม่เบาทีเดียว
สถาปัตยกรรมในห้องนักบินนั้น เห็นบอกว่าใช้จอคริสตัลขนาดใหญ่ 2 ตัว และ ระบบเข็มก็รักษาเอาไว้ครบ ดูแล้วมันหรูยังกะเครื่องบินฝึกมัธยม
ส่วนรุ่นเครื่องยนต์เจ๊ตนั้นก็มีทั้ง 1 ที่นั่ง 2 ที่ยั่ง ตั้งเป้าว่าจะทำหน้าที่แบบเครื่อง A-10 เลย แต่ในใจผมว่า มันเหมาะเหลือเกินถ้าตัดเรด้าร์ออก แต่อาจจะคงความสามารถที่จะติดตั้งกระเปาะชี้เป้าด้วยเลเซอร์เอาไว้ ผมว่ามันทำหน้าที่เป็นบ.โจมตีเบาสำหรับปราบผู้ก่อการร้ายและสามารถทำหน้าที่ CAS ได้ดี แต่ถึงขนาดจะเอาไปเจาะระบบป้องกันภัยทางอากาศ ดูจะไม่เหมาะ ถ้าระดับนั้นคงต้องเป็น A-50 ของเกาหลีใต้ล่ะคงไหว
สุดยอดการออกแบบว่าไหม เครื่องใบพัดใช่เป่าคับผม
แต่จามีปัญหาเครื่องกำลังขับของเครื่องหรือเป่าเนียะ ฝากถามผู้รู้ด้วยแล้วกาน เพราะใบพัดวางหน้ากะวางหลังน่าจาให้กำลังขับต่างกันมาก ตามหลักอากาศพลศาสตร์ จึงอาจทำให้รูปร่างสวยแต่ต้องใช้เครืองยนต์กำลังสูงขึ้น กินเชื้อมากขึ้น ค่าใช้จ่ายในการฝึกมากขึ้น ซึ่งเครื่องฝึกต้องการชั่วโมงบินเยอะๆ อาจทำให้ค่าใช้จ่ายสูงกว่าเดิมได้
อันนี้ก็วิเคราะห์ตามความรู้ที่มีอันน้อยนิด แต่ชอบเจงๆสวยดี
ดูจากเป้าหมายทางการตลาด(ลูกค้าเป้าหมายไม่ค่อยมีตังค์) และเผือเหลือเผื่อขาดในด้านระดับเทคโนโลยี่แล้ว ผมว่า เครื่องรุ่นนี้น่าจะเหมาะสมสำหรับจุดเริ่มต้นในอุตสาหกรรมอากาศยานบ้านเรานะครับ
ราคาที่ทางผู้ผลิตเสนอแก่ลูกค้าในต่างประเทศสำหรับรุ่นฝึกที่ใช้ใบพัดคู่หมุนสวนทางกัน 6-10 ล้านเหรียญ ขึ้นกับออปชั่นที่จะใส่ลงไป หรือราว 200 ล้านบาท ดูมันจะแพงมากเมื่อเทียบกับจ้าวตลาดอย่าง PC-9 และ ซูเปอร์ทูคาโน่ ผมว่าถ้าเราตกลงซื้อแบบและขอลิขสิทธิจากบริษัทผู้ผลิตนำมาผลิตใช้งานเองในการเป็นเครื่องฝึกขั้นประถมและสำหรับ CAS ก็ไปใช้เครื่องยนต์เจ๊ตแล้วเริ่มโครงการผลิตเกินกว่า 100 เครื่องในประเทศแล้ว ผมว่า ราคาที่เราจะผลิดออกมาน่าจะถูกกว่านี้เป็นเท่าๆตัว
แหม...........แฟนเทรนเนอร์ยอมเสียกะตังค์สร้างตั้ง 40 เครื่อง แสดงว่าทอ. คงจำเป็นต้องมีเครื่องบินฝึกขั้นประถมราวๆ 40 ตัว และการที่จัดหา L-39 จำนวนพอๆกัน ก็แสดงว่าทอ.ต้องการเครื่องฝึกขั้นมัธยมจำนวนเท่าๆกันคือ ประมาณ 40 ตัว ส่วนเครื่องบินโจมตีเบาแบบอัลฟ่าเจ็ตนั้น ทอ.เคบขอซื้อถึง 50 เครื่อง(ใช้งานจริง 40 เครื่อง ที่เหลือคืออะไหล่) แสดงว่า ยอดจำนวนเครื่องบินฝึกขั้นประถม มัธยม และเครื่องโจมตีเบา เครื่องCAS อยู่ราวๆ 120 เครื่อง
เราก็เอารุ่นใบพัดมาใช้ในภาระกิจบ.ฝึกขั้นประถม
รุ่นเครื่องยนต์เจ๊ตและสถาปัตยกรรมห้องนักบินหรูๆตามที่บริษัทผู้ผลิตเสนอมา ก็เอามาใช้เป็นเครื่องฝึกมัธยม
รุ่นเครื่องยนต์เจ๊ต ที่มีออปชั่นในเรื่องการติดตั้งกระเปาะเลเซอร์ อุปกรณ์สงครามอิเลคทรอนิค ดาต้าลิงค์ ก้เอามาใช้เป็นเครื่องโจมตีเบาและ CAS ไปซะ
เท่านี้ก็จะเปิดสายการผลิตได้โดยมีเสกลในการผลิตแล้ว และอาจลงนามร่วมกับบริษัทผู้ผลิตในการทำธุรกิจร่วมทุนกัน คือ ตั้งโรงงานผลิตที่นี่โดยให้เป็นบรืษัทร่วมทุนและจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ทำเหมือน KAI ของเกาหลีใต้ที่ร่วมมือกับล็อคฮีท เพราะต้นทุนการผลิตที่นี่น่าจะต่ำกว่าในอเมริกามากๆ น่าจะทำตลาดระหว่างประเทศด้วยราคาได้ง่ายนะครับ
เครื่องระดับนี้ เทคโนโลยี่ระดับนี้ ผมว่าทางอเมริกาน่าจะปล่อยให้เราได้ไม่ยาก เพราะมันไม่ได้ซับซ้อนจนน่าจะต้องหวง ถ้าคิดว่ามันเล็กไปสำหรับ CAS และเครื่องฝึกมัธยม ก็ขยายให้มันใหญ่ขั้นอีกก็ได้ ไม่น่าจะยากนี่ครับ ผมว่าเทคโนโลยี่ระดับขนาดนี้กำลังพอเหมาะกับประเทศเราที่อยู่ในระดับนี้
และนอกจากนี้ จากการที่ผู้ผลิตทำการผลิตป้อนให้แก่ตลาดเครื่องบินกีฬา ซึ่งเขามีส่วนแบ่งทางการตลาดที่แน่นอนอยู่แล้วว่าสามารถเลี้ยงตัวเองได้ ก็ขอเขาร่วมทุนมันไปเลย แล้วเสนอย้ายฐานการผลิตมาที่ประเทศเรา เพื่อลดต้นทุน จะทำให้ราคาเครื่องถูกลงและสามารถเจาะตลาดด้านกีฬาได้อย่างเต็มที่ เท่ากับว่าแม้รัฐบาลไม่ให้การสนับสนุน แต่ภาคเอกชนก็อยู่ด้วยตนเองได้ ........... ดีรึเปล่าล่ะครับ บุชมาสเตอร์ ม่ะเห็นรัฐบาลเราสั่งซื้อสักกะตัว แต่บริษัทผู้ร่วมทุนก็อยู่ได้สบายๆ ฝรั่งทำตลาด เราผลิต........ เฮฮาทั้งคู่
ดูจากคุณลักษณะแล้ว.........ถือว่ามีการออกแบบทางอากาศพลศาสตร์ที่ดีนะครับ ก็อย่างว่าเขาเป็นผู้ผลิตเครื่องบินสำหรับการแข่งขันในทางการกีฬา ดังนั้นผมว่าเรื่องประสิทธิภาพทางการบินน่าจะยอดเยี่ยมเช่นกัน ............. และที่สำคัญ มันสวยจริงๆ
เอารูปลายเส้นไปดูด้วยนะครับ เพื่อนๆที่มีความรู้ทางอากาศยานเพื่อการทหารดีๆช่วยๆกันออกความคิดเห็นด้วยนะครับว่า เหมาะสมหรือไม่อย่างไรที่จะเอาแผนแบบเครื่องบินทางด้านกีฬา(ซึ่งประสิทธิภาพทางการบินน่าจะดี) มาปรับเป็นเครื่องบินทางการทหาร โดยเฉพาะในภาระกิจฝึกและโจมตีเบา
ผมลงรูปสวยๆให้ดูกันไปเรื่อยๆนะครับ
บางรูปอาจจะซ้ำแต่ก็มีขนาดเล็กลงบ้างแล้วนะครับ
ซ้ำไปแล้ว 2 รูป ..... ภาพนี้คงไม่ซ้ำนะ
เรื่อยๆ..........
และเรื่อยๆ
อย่าเพิ่งเบื่อหรือรำคาญนะครับ
สนุกกับการโพสตืแฮะ....
เอ้ารูปสุดท้ายแล้วครับ ขอโทษสำหรับบางรูปที่ใหญ่ไปนะครับ พยายามลดขนาดลงแล้วจริงๆ.........ผมมีปัญญาทำได้เท่านี้ครับ
ในยุคที่สมรภูมิลงเนื้อหาเกี่ยวกับบจ.AMXจากอิตาลี่ จำได้เลาๆว่ามีเครื่องบินโจมตีเบาแบบใบพัดอยู่แบบนึง ชื่อ SABA อะไรนี่แหละครับ
รูปแบบคล้ายๆเจ้าตัวนี้เลย พยายามจะค้นหาข้อมูลในเน็ตตอนนี้ หาไม่เจอ ไม่ทราบว่าจำชื่อผิด หรือมันเป็นโครงการที่หายไปกับสายลมแบบไร้ร่องรอยไปแล้ว ผมยังจำภาพแสดงรัศมีวงเลี้ยวที่แคบกว่าเอฟ-16ได้เลย ^ ^'
การตลาดเก่งกันทุกคนครับ ชอบมากๆครับ