สวัสดีครับ เพื่อนๆ มาขยับบอร์ดกันหน่อยดีไหมครับ
เนื่องในปีนี้เป็นปีครบรอบ ๒๕ ปี ของสงครามชิงหมู่เกาะฟอล์คแลนด์ ผมว่าเพื่อนๆ หลายๆ ท่านในบอร์ด คงจะศึกษาการรบครั้งนั้นมาพอสมควร เรามาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันหน่อยว่าอาร์เจนติน่าผิดพลาดตรงไหนในสงครามครั้งนั้น ถ้าเปลี่ยนยุทธวิธีแบบไหน ผลของสงครามจะเป็นยังไง และอังกฤษมีจุดอ่อนอะไร ถึงได้เสียเรือรบไปหลายลำ
ลองดูนะครับ เพราะระยะหลังๆ บอร์ดของพวกเราไม่มีการแลกเปลี่ยนความคิดแนวนี้มานานแล้ว
การรบที่หมู่เกาะฟอล์คแลนด์ในครั้งนั้น นักบินของอาร์เจนติน่า ต้องใช้ความพยายามและความกล้าหาญเป็นอย่างมากในการบินเข้าโจมตีกองเรือเฉพาะกิจของอังกฤษ เนื่องจากระยะทางจากฐานบินบนแผ่นดินใหญ่มาที่เกาะฟอล์คแลนด์นั้นไกลจนเกินระยะทำการของเครื่องบิน ต้องมีการเติมน้ำมันกลางอากาศให้กับหน่วยบินโจมตี ซึ่งเครื่องบินเติมน้ำมันก็มีแค่ KC-130 แค่ 2 เครื่องเท่านั้น ส่วนระเบิดที่ใช้ส่วนใหญ่ก็เป็นระเบิดขนาด 500 และ 1,000 ปอน์ด ธรรมดาไม่ใช่ระเบิดนำวิถีด้วยเลเซอร์ และที่สำคัญเป็นระเบิดที่เก่า มาหลายครั้งที่ทิ้งโดนเป้าแต่ไม่ระเบิด ถ้าระเบิดที่นำมาทิ้งในครั้งนั้นทำงานได้ 100 % กองทัพเรืออังกฤษคงจะเสียหายมากกว่านี้แน่นอน
ถ้าลองย้อนดูแล้ว หลังจากสงครามโลกครั้งที่สองสงบลง ก็มีสงครามที่ฟอล์คแลนด์นี่แหละครับ ที่มีการเอาเครื่องบินรบจำนวนมากเข้าโจมตีกองเรือในทะเล เหมือนในภาพวาดที่ผมโพสไว้ข้างบน ภาพนั้นเป็นภาพวาดเหตุการณ์ที่ เครื่องบินโจมตีแบบ เอ-4 คิว สกายฮอว์ค ของกองบินทหารนาวีอาร์เจนติน่า เข้าโจมตี รล.อาร์เดน ผลปรากฎว่า รล. อาร์เดน จมในเวลาต่อมา ภาพข้างล่างนี้เป็นภาพของนักบินของกองบินทหารเรืออาร์เจนติน่าที่เข้าร่วมในการรบครั้งนั้น
เอ....ผมคลับคล้ายคลับคลาว่าผมมีไฟล์วิดีโอเกี่ยวกับสงครามฟอล์คแลนด์ เดี๋ยวผมขอค้นหาดูก่อนนะครับ ไม่แน่ใจว่าลบทิ้งไปหรือยัง ถ้าโชคดียังอยู่จะอัพมาให้ชมกันครับ
สองคนนั้น ใช่คนที่จมเรือหลวงเชฟฟิลด์ด้วยหรือเปล่าครับหน้าตาคุ้นๆ
ไม่ใช่ครับ รูปนักบินทั้งสองท่านเป็นนักบินสกายฮอว์คของกองบินทหารเรืออาร์เจนติน่าครับ
กองทัพอากาศอาร์เจนติน่า มีสกายฮอว์คอยู่ 2 แบบ คือ A-4 P สกายฮอว์ค จัดหามา 50 เครื่อง และ A-4 C สกายฮอว์ค จัดหามา 25 เครื่อง กองบินทหารเรืออาร์เจนติน่า มี A-4 Q Skyhawk อยู่ 14 เครื่อง
สกายฮอว์ค เป็นเครื่องบินที่สร้างความสูญเสียให้กับกองเรือเฉพาะกิจของอังกฤษมากที่สุด แต่ก็สูญเสียไปเป็นจำนวนมากเช่นกัน ตามรายงาน กองทัพอากาศอาร์เจนติน่าสูญเสียสกายฮอว์คไปทั้งสิ้น 19 เครื่อง แบบเป็น รุ่น P 10 เครื่อง เป็นรุ่น C 9 เครื่อง และกองทัพเรืออาร์เจนติน่าสูญเสียสกายฮอว์คไป 4 เครื่อง ทั้งหมดเป็นรุ่น Q รวมแล้วมีอาร์เจนติน่าสูญเสียสกายฮอว์คไปทั้งสิ้น 23 เครื่อง
พี่วศินพอมีรูปนักบินมิราจ ของทอ.อาร์เจนตินาที่จมเรือเชฟฟิลด์ไหมครับ
เท่าที่ทราบ นักบินสกายฮอว์คของทร.อาร์เจนตินา เคยบอกว่าสามารถทำความเสียหายให้เรืออินวินซิเบิลได้ แต่ทร.อังกฤษได้ปฏิเสธไป แล้วเรือที่สกายฮอว์คทำความเสียหายได้ คือเรืออะไรครับ
ขออภัยฮะ นักบินซูแปร์เออตองดาร์ดต่างหาก -*- ชักมึน
โอ้มันนานมากแล้วนะนั้น จำได้ว่ายังนุ่งกางเกงนักเรียนขาสั้นอยู่เลย เท่าที่ทราบ และพอจะจำได้ก็คือว่าการสูญเสีย A-4 Skyhawk ส่วนหนึ่งมาจากว่าน้ำมันหมด บินกลับไม่ถึงสนามบิน
(ซึ่งบางเที่ยวบิน ก็เป็นการไปแบบ One way ticket หมายความว่า นักบินอาร์เจนตินารู้อยู่แล้วว่ากองเรือของอังกฤษอยู่ไกลเกินกว่ารัศมีทำการบินไป-กลับ แต่ก็ไปครับ ข้อมูลนี้จากได้เพื่อนนักบิน Seahawk ของ กบร.ครับ)
โดยส่วนตัวผมคิดว่า ถ้าอาร์เจนตินามี Exocet มากว่า 6 ลูก สงครามคงมีความเปลี่ยนแปลงยืดเยื้อกว่าเดิมแน่นอนครับ
จริงๆแล้ว ถ้าอาร์เจนติน่ามี KC-130 มากกว่านี้ คงทำการบินได้มากและ ไม่ต้องสูญเสียมากขนาดนี้ด้วยครับ แต่เท่าทีทราบจากความรู้อันน้อยนิดเนื่องจากเกิดไม่ทัน กองทัพอากาศและกองบินนาวีของอาร์เจนติน่า สูญเสียเนื่องจากกำลังทางอากาศของอังกฤษด้วย แต่น่าแปลกทีเรือของอังกฤษเองกลับสอยเครื่องบินได้ไม่เท่าไหร่ ทั้งๆที่มีระบบป้องกันภัยทางอากาศ(ตามมาตรฐานสมัยนั้น)ถือว่าดีมากๆ นักบินอาร์เจนติน่าเองก็กินดีหมีหัวใจเสือด้วยถึงได้กล้าบินต่ำเรี่ยน้ำหลบเรดาร์ งานนี้ ต้องยกเครดิตให้ฝ่ายนักบินอาร์เจนติน่าล่ะครับ เก่งจริงๆ
พี่กบ จำได้ว่าพี่เคยเอาเรื่องนี้ลงบอร์ดวิง21เก่านี่ครับ ช่วยนำมาลงอีกทีได้ไหมฮะ เรื่องรล.เชฟฟิลด์ กับ เอ็มวี แอตเเลนติคคอนเวเยอร์อ่ะ
เท่าที่ทราบศึกครั้งนี้เป็นศึกที่ทั้งสองฝ่ายไม่พร้อมและไม่คาดคิดว่าจะเกิดแต่ก็เกิดขึ้นมาๆได้แบบตกกระไดพลอยโจนแท้ๆเชียวครับ
อาเจนต์ใช้นโยบายการยึดเกาะฟอร์คแลนด์เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของประชาชนจากปัญหาการเมืองและเศษฐกิจในประเทศโดยไม่คาดคิดว่าการยึดครั้งนี้อังกฤษจะเอาเรื่อง ส่วนอังกฤษก็ไม่เคยคิดว่าจะมีประเทศใดกล้าลูบคมศักด์ศรีอดีตชาติมหาอำนาจ อังกฤษเพิ่งโละทิ้งเรือบรรทุกเครื่องบินขนาดใหญ่อย่างอาร์คโรเยล ที่มีเครื่องบินแฟนทอม และบัคคาเนียร์ประจำการลงไม่นานก่อนสงครามเริ่ม โดยกองทัพอังกฤษหันไปเน้นที่สงครามในยุโรปมากกว่าสงครามโพ้นทะเลสุดขอบโลกอย่างนี้ ว่ากันว่าขณะอังกฤษเดินทางได้ครึ่งทาง การเจรจา ที่ยูเอ็น ที่สหรัฐเป็นฝ่ายเจรจา ให้ทั้งสองฝ่ายเลิกแล้วต่อกัน ฝ่ายอาร์เจนต์ยอมตกลงถอนทหารแล้วแต่อังกฤษไม่ยอม ตกลงด้วย เกรงว่าจะหน้าแตกว่าส่งกองทัพไปรบแล้วไม่ได้รบหรืออย่างไรไม่ทราบ ฝ่ายอาร์เจนต์เลยต้องรบแบบแกนๆไปตามบท เหมือนเล่นละครตบตาชาวโลกครับ อันดับแรกคือถอนทหารรบพิเศษที่ส่งไปยึดเกาะออกมาให้หมดแล้วส่งทหารเกณฑ์ที่เพิ่งรับการฝึกได้ไม่กี่อาทิตย์ลงไปแทน ส่วนเรือรบทั้งหลายก็ส่งแต่เรือเก่าๆรุ่นสงครามโลกเข้าทำสงครามครับ ที่แสบที่สุดคือ หน่วยบิน สกายฮอค์กของอาเจนต์ ที่ได้รับการฝึกหลักสูตร Topgun มาจากสหรัฐ สามารถทำการรบได้อย่างดียีิ่งครับแม้ว่าจะสูญเสียเครื่องบินไปกว่า ครึ่งของที่มีอยู่ก็ตาม (ราว30 เครื่อง จาก 50 กว่าเครื่อง)
สงครามครั้งนี้ก็ยังแสดงให้เห็นว่าเครื่องบินนั้นย่อมเป็นอันตรายอยู่เสมอไม่ว่ายุคไหนๆครับ
ภาพคลาสสิค .........ถ่ายจากเรือหลวงบรอดสวอร์ด
ผมมีความเห็นตรงกับคุณ data ครับ ดูแล้วกองทัพเรืออาเจนตินาไม่ได้เข้าทำการรบอย่างเต็มที่ เรือติดอาวุธปล่อยตั้งหลายลำน่าจะนำมาใช้โจมตีกองเรืออังกฤษ หรือว่าไม่มีลูกอาวุธนำวิถีก็ไม่ทราบ ถ้าเข้าตีจริงๆ ประสานกับกองทัพอากาศ อังกฤษไม่น่าจะยกพลขึ้นบกได้ รวมถึงกำลังทางบกมีเวลาตั้งนานแต่ไม่ได้เสริมกำลังให้ดี ทหารก็ดูขวัญกำลังใจตำ ทั้งๆที่กำลังทางบกก็ใช้อาวุธที่ไม่ได้มีมาตรฐานต่างกันมาก น่าจะวัดกันซักตั้ง
เคยมีคนบอกว่าอาเจนตินากลัวอังกฤษโจมตีแผ่นดินใหญ่เลยรักษากองเรือเอาไว้ แต่ทำไมกองทัพอากาศถึงได้โจมตีแบบทุ่มเทขนาดนั้น น่าจะสามัคคีหน่อย จะสู้ก็สู้ให้มันถึงที่สุดสิ
test ภาพครับ
....อาร์เจนฯเองขาดการวางแผนที่ดี หากดูไปแล้วแสดงถึงความอ่อนแอของ ผู้นำตั้งแต่แรกเลย และขาดการนำอาวุธไปใช้ในทางที่ถูกและเหมาะสม ท.ร.อาร์เจนฯ มีเรือที่ทันสมัยอยู่แต่ไม่ได้ถูกนำมาใช้อย่างจริงจัง เช่น เรือ ไทพ์ 42 เฮกเลส ซานติซิม่า ตรินิแดด เฮอคิวลิส และเรือพิฆาตเก่าปี1945ปรับปรุงในปี 1973 จากอเมริกา6ลำอย่าง คอมโมโรโด ปาย ขนาด 2400 ตัน ติดตั้งท่อยิง เอ็กซ์โซเซ็ท 4 ลูก ปืน 5นิ้ว 2กระบอก มีระบบ ตอร์ปิโด ปราบเรือดำน้ำ แท่นยิง เฮกฮอค รองรับฮ.ได้ 1 เครื่อง นอกจากนั้นมีเรือแบบ แอลเน เอ็ม ซัมเนอร์ ขนาด 2200 ตัน ชื่อ เซกุย ฮิโปลิโต บูซาร์ด และ ปิเอดราบัวนา ปรับปรุงก่อนส่งมอบในปี 1972 สามารถติดอาวุธได้เช่นเดียวกับเรือคอมโมโรโด ปาย และมีเรือดำน้ำชั้น 209 จากเยอรมันขนาด1200 ตัน ชื่อซานตา และ ซานหลุยส์ ต่อเสร็จในปี 1974 และเรือเก่าจากอเมริกาอย่าง ซานตาเฟ่ และ ซานติอาโก้ เดล เอสเตโร ขนาด 1900 ตัน นอกจากนั้นยังมีเรือบรรทุกเครื่องบินชื่อ เวนติเซนโต เด เมโย
.....ท.ร.อาร์เจนฯ นำเรือ เจเนรัล เบลกราโน มาใช้ลาดตระเวณ ซึ่งเรือชั้นนี้เป็นเรือเก่าควรนำไปใช้ป้องกันอ่าวในเขตน้ำตื้นมากกว่า เรือดำน้ำ ชั้น ซานตาเฟ่ เองก็ถูกนำไปใช้ในการลำเลียง หน่วยนาวิกโยธิน ขึ้นเกาะแต่หากถูกจับได้และถูกยิงจมในที่สุด เรือดำน้ำของท.ร.อาร์เจนฯ นั้นมีขีดความสามารถเพียงพอที่จะต่อกรกับกองเรืออังกฤษได้แต่หากขาดการส่งกำลังบำรุงที่ดี เรือบรรทุกเครื่องบินเอง ไม่ได้ถูกนำมาใช้ป้องกันอ่าวหรือคุ้มกันกองเรือ แต่นำไปใช้ในการส่งกำลังบำรุงของ ฮ.มากกว่าทั้งๆที่มีขีดความสามารถเพียงพอ ทำให้ภาระตกเป็นท.อ.ที่ต้องออกไปโจมตีซึ่งไกลจากฐานปฏิบัติการทำให้มีเวลารบเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ไม่ได้ถูกนำมาป้องกันเกาะและช่วยคุ้มกันกองเรืออีกทางนึง
.....ท.ร.อังกฤษเอง ขาดอากาศยานในการ แจ้งเตือนให้กับกองเรือ ทำให้ท.อ.อาร์เจนฯสามารถเข้ามาทำการโจมตีได้ เรือในชั้น ไทพ์ 42เอง ถูกลดความยาวลำเรือถึง 40 ฟุต ทำให้จุดติดอาวุธป้องกันทางอากาศลดลงไปและยังถูกติดตั้งในมุมอับ ทำให้ไม่สามารถยิงได้อีกด้วย เรดาห์ประจำเรือเองไม่สามารถแยกแยะ จรวดที่บินเรี่ยผิวน้ำ กับ แนวคลื่นทะเลได้ และอังกฤษยังขาดความสามารถในการทำสงครามอิเล็คทรอนิคอีกด้วย
ถ้า...ยึดและปรับปรุงสนามบินปอร์ตสแตนด์เลย์โดยเร็ว ขยายทางวิ่งให้รับ-ส่ง เครื่อง เอ-4 และ แดกเกอร์ ได้ รวมทั้งสำรองกระสุน ระเบิด และเชื้อเพลิง เครื่องบินสำหรับการรบสัก 1 เดือน อังกฤษจะไม่มีทางเอาชนะอาร์เจนติน่าได้เลย
ถ้า...อาร์เจนติน่า เอากองกำลังเรือดำน้ำของตนออกรังควานกองเรือเฉพาะกิจของอังกฤษ เราอาจได้เห็นเรือเป็นหมื่น ๆ ตันพร้อมจั๊มป์เจ็ตจมบ้างก็ได้นะครับ (ไม่นับเรือ แอตแลนติก คอนเวย์เยอร์)
อังกฤษดูเหมือนจะรบด้วยอาวุธที่ทันสมัย แต่จริง ๆ แล้ว แต่ละอย่างมันยังไม่ได้พัฒนาถึงขีดสุดของสมรรถนะของมันอย่างเช่นระบบซีวูล์ฟ หรือไม่ก็เอ้าท์ตกยุคไปแล้วอย่างเช่นซีดาร์ท ระบบตรวจจับและแจ้งเตือนภัยทางอากาศ ระบบตรวจจับและล๊อคเป้าให้ SAM หรือ AA บนเรือ ต่างก็มีปัญหาในการทำงานและไม่เพียงพอ
อังกฤษชนะได้เพราะเอาเข้าจริง มีเพียง ท.อ. อาร์เจนติน่าเท่านั้น ที่ทนสู้จนสร้างความเสียหายให้กับเรืออังกฤษได้
เชฟฟิลด์, โครเวนตี้, อาร์เดน กับเรือชั้นเดียวกันอะไรอีกลำ แล้วก็ เซอร์กาลาฮัด อ่อ เกือบลืม แอตแลนติก คอนเวย์เยอร์ ฝีมือ น.บ. ท.อ. อาร์เจนไตน์ทั้งนั้น นับถือ ๆ
ทัพเรือบทบาทน้อย ทัพบกทำอะไรไม่ได้ (หรือไม่ได้ทำ) ถ้าเอาทหารราบสัก 8,000-10,000 นาย พร้อม สป. ครบ ๆ ไปยันไว้ อังกฤษจะทำอะไรได้ อย่างมากก็แค่เอาเรือล้อมเกาะไว้ แล้วจะล้อมอยู่ได้สักกี่เดือน โดนสกายฮอร์ค กับ แดกเกอร์ ถล่มทุกวัน (บินออกมาจากเกาะ) แถม ด. กวนอีก อยู่ไม่ไหวหรอกครับ
ผู้มีอำนาจรบเหมือนเล่นปาหี่ ทหารเลวบางส่วน (ส่วนน้อย) รบจริง ตอนจบมันก็เลยเลยต้องเศร้าเป็นธรรมดา
เครื่องบินที่แบบ เอ็กโซเซต ไปถล่มกองเรือเฉพาะกิจฯ จนสามารถจม เรือเชฟฟิลด์ กับ เรือแอตแลนติก คอนเวเยอร์ เป็นเครื่องบินแบบ Super Etendard ครับ ผู้กองต้อม ภาพที่โพสข้างล่างนี้เป็นภาพที่กลับมาถึงฐานบินในวันที่สามารถจม เรือเชฟฟิลด์ ได้ นักบินคนที่เป็นคนปล่อยจรวดอยู่กลางภาพครับ
ในสงครามครั้งที่ผมยกย่องความกล้าหาญของนักบินอาร์เจนติน่ามากครับ โดยเฉพาะนักบินสกายฮอว์คทั้งของ ทอ. และ ทร. อาร์เจนติน่า ที่กล้านำเครื่องฝ่าม่านกระสุน ปตอ. และ เครื่องบินขับไล่ ซี แฮริเออร์ เข้าไปถล่มกองเรือเฉพาะกิจของอังกฤษ โดยระเบิดธรรมดาๆ ที่ไม่มีระบบนำวิถีอะไรเลย ถูกยิงตกเกือบทุกเที่ยวบิน แต่ก็ยังเข้าไป นับถือจริงๆ มันเป็นการโจมตีสุด คลาสสิก แบบที่คงจะไม่ให้เห็นอีกแล้ว