......1.ความแม่นยำ และ อัตตราการยิงของ ปืนเรือ 76 100 127 130 ม.ม. กับ ปืนรถถัง ตั้งแต่ 90 ถึง 125 ม.ม. มีความแตกต่างในเรื่องอะไรบ้างครับเช่น การออกแบบลำกล้องปืน รังเพลิง การโหลดกระสุน
2.กระสุนที่ใช้กับปืนเรือเป็นกระสุนประเภทใดครับ แล้ว มีหลายแบบเหมือน กระสุนรถถังป่ะครับ จำพวก เจาะเกราะ หัวระเบิดแรงสูง พลังงานจลล์
3.วิถีกระสุน กับ ระยะการทำลาย แตกต่างกันมากป่ะครับสำหรับรถถังและเรือ ประมาณระยะหวังผล กำหนดเป็นมาตราฐานเดียวกันหมดเลยม่ะครับ เวลาออกแบบปืนเรือ
4.คุณสมบัติ ทำลายเป้าพื้นน้ำและอากาศยานได้นี่ ขนาดลำกล้องมีส่วนในอำนาจการยิงหรือความแม่นยำหรือไม่ครับ เพราะ รัสเซียใช้ 130 ม.ม. ยังมีคุณสมบัติสามารถสอยเป้าอากาศยานได้
5.อุปกรณ์ในการเล็งยิงในแนวราบ(เป้าพื้นน้ำ ) ระหว่างเรือกับรถถังมีความเหมือนหรือคล้ายกันมากป่ะครับ แล้วความแม่นยำในการควบคุมการยิงของปืนเรือใช้อะไรเป็นหลักครับ ถ้า รถถังจะเป็นเลเซอร์ อยู่ที่ตัวป้อมเลย แล้วมีป้อมปืนเรือรุ่นใดบ้างที่มีระบบควบคุมการยิงเหมือนป้อมรถถังอยู่ที่ป้อมปืนเลยอ่ะครับ
5.ถ้าเราพัฒนาป้อมปืนรถถัง สามารถนำมาใช้พัฒนาป้อมปืนเรือได้ป่ะครับ
....ขอบคุณที่ตอบคับพ้ม
ขอตอบเป็นบางข้อนะครับผมก็ไม่ค่อยรู้
กระสุนปืนนั้น ก็มีหลากหลายเหมือนกระสุนปืนใหญ่รถถังนั่นแหละครับ แต่ของปืนเรือก็น่าจะมีกระสุนต่อสู้อากาศยานด้วย
ส่วนระยะยิง ปืนเรือน่าจะไกลกว่า เพราะเรือมักไม่ได้เข้ารบแบบติดพันแบบรถถัง
ส่วนการสอยอากาศยาน ขนาดลำกล้องก็มีส่วน เพราะเท่ากับว่าจะสามารถยิงได้ไกล และ รุนแรงขึ้น น้ำหนักหัวรบของกระสุนก็มากขึ้นครับ เหมือนสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง เรือประจัญบานญี่ปุ่นยังเคยใช้ปืนหลักของเรือ(14-16-18นิ้ว) ยิงเครื่องบินเลย ส่วนความแม่นยำ ก็มีระบบควบคุมการยิงมาช่วยครับ
ระบบควบคุมการยิงของเรือนั้น เชื่อว่าป้อมปืนเรือเองน่าจะมีระบบนี้อยู่ เพื่อให้ป้อมสามารถยิงโดยอิสระไม่ต้องผ่านระบบควบคุมการยิงบนหอบังคับการเรือ
ส่วนหลักการพัฒนาป้อมปืนรถถังเอามาใช้กับป้อมปืนเรือ ถ้าเป็นการพัฒนาเรื่องรูปทรง ความลาดเอียงของป้อม ก็มีการพัฒนาในป้อมปืนเรือด้วยครับ
ตอบแบบตามที่รู้
1.ความแม่นยำ และอัตราการยิง เมื่อเทียบที่คาลิเบอร์เดียวกัน ยิงกันเเบบเพียวๆ ไม่มีระบบควบคุมการยิงมาเกี่ยวข้อง รถถังแม่นยำกว่า แต่อัตราการยิงก็ต่ำกว่าด้วย ยกตย. ปืน76/60 ออโตเมลารา คอมแพ็คท์ ไม่ต้องซูเปอร์ราปิด ก็ยิงได้มากกว่า100นัด/นาที แต่ปืน76มม.ของรถถังเบาสกอร์เปี้ยน ยิงไม่น่าจะได้เกิน 20นัดต่อนาที(นั่นหมายถึงพลยิงจะต้องเร็วมากๆเข้าขั้นซูเปอร์แมน) เพราะ ปืนใหญ่เรือใช้ระบบออโต้โหลดเดอร์ และข้อจำกัดเรื่องความร้อนของลำกล้องปืนรถถัง ยังระบายอากาศได้แย่กว่าปืนเรือ ทำให้ยิ่งต่อเนื่องไม่ได้นาน
ส่วนในเรื่องความแม่นยำ ปืนรถถังแม่นกว่าเพราะ ความเร็วต้นของกระสุนที่สูง แต่ด้วยการที่ออกแบบให้ยิงตรงและเน้นการเจาะเกราะ ทำให้ระยะยิงสั้น
ส่วนการยิงวิถีโค้งของปืนเรือ ทำให้ไปได้ไกลกว่า แต่ถ้ายิงตรงๆ ระยะยิงของปืนเรือก็ไม่ต่างจากปืนรถถังเท่าไหร่นัก แต่ก็ไกลกว่าพอควร
กระสุน ก็ไม่ต่างกันมากนักป.รถถัง 76-105 เป็นกระสุนครบนัด ป.เรือ 76-100 ก็เป็นกระสุนครบนัด ป.ถัง120/125/140 เป็นกระสุนแยกส่วน ป.เรือ 127/130/155 เป็นกระสุนแยกส่วน แต่ที่ต่างกันคงเป็นสูตรของส่วนบรรจุ เน้นความเร็ว หรือเน้นระยะ
2.กระสุน ป.ถัง มีHEAT HE-FRAG APFSDS รวมถึงมิสไซล์ยิงจากปากกระบอกปืน
กระสุนป.เรือมี HE , กระสุนเจาะเกราะ กระสุนแตกอากาศ รวมถึงกระสุนนำวิถีด้วยGPS
3.ไม่เข้าใจคำถาม -*-
4.การที่จะยิงเป้าอากาศแม่นไม่แม่นมันมีหลายปัจจัยครับ หลักการของกระสุนคือ ยิ่งเร็วยิ่งแม่นยิ่งไกล การที่จะทำให้กระสุนเร็ว ก็คือ เพิ่มดินปืน(เพิ่มขนาดลำกล้อง หรือเพิ่มส่วนบรรจุ) เพิ่มเวลาในกระบอกปืน(เพิ่มความยาวลำกล้อง) เพิ่มน้ำหนักกระสุน เพราะฉะนั้น ปืนใหญ่เรือจึงมีความสามารถในการยิงโดนสูง แต่ข้อจำกัดคือ แท่นยิงครับ ยังไงก็ตามไม่ทันแน่ๆยิ่งใหญ่ ยิ่งหมุนช้า ดังนั้นทางแก้ก็คือ เสริมระบบควบคุมการยิงช่วยคำนวณ และ กระสุนแตกอากาศเพื่อช่วยเพิมโชคในการยิงถูกครับ กระสุนยิ่งใหญ่ วงของกระสุนแตกอากาศยิ่งกว้าง แต่ยังไงก็สู้แบบที่มีหูมีตาบินตามไม่ได้อยู่ดี เท่าที่จำได้ปืนใหญ่ของยามาโตะยิงทะลุถึงชั้นสตราโตสเียร์เลยนี่ครับ
5. รอป๋าๆมาตอบ
5.อีกอัน -*- เกาหลีเหนือเอามาใช้ครับ ใช้ป้อม100มม.ของT-55 ส่วนอีกอันใช้ป้อมป.อจ. PZH-2000 มาติดบนเรือลืมชื่อไปแล้ว และกำลังจะผลิตออกมาใช้ครับ
ต่อ..............เอ็ม-48 เอ5 เอ็ม-60.........มีตุ่มโหนกๆ 2 ตุ่มซ้ายขวาของป้อมปืน นั่นแหล่ะ เลนซ์วัดระยะด้วยภาพซ้อน...............ถ้าท่านมีโอกาสไปป้อมพระจุลฯ ชมพิพิธภัณฑ์เรือหลวงแม่กลอง อย่าลืมขึ้นไปบนหลังคาสะพานเดินเรือ ตรงนั้นมีกล้องวัดระยะลักษณะเป็นท่อยาวๆอยู่ด้านบน...............เมื่อทราบระยะเป้า พลเล็งจะนำระยะที่ได้มาปรับเล็งในศูนย์กล้องเล็ง กระดกลำกล้องเป็นการเผื่อทางระยะ........................เวลาเปลี่ยนแปลงไป ระบบอิเลคทรอนิคส์ถูกนำมาใช้ในการวัดระยะ บนรถถังก็เป็นแบบเลเซอร์ บนเรือก็ใช้เรดาร์ โดยเฉพาะบนเรือนั้น แต่กอนยุคแรกๆก็เป็นแค่บอกระยะให้กับพลเล็งนำข้อมูลไปทาบทับศูนย์เล็ง นานเข้าเทคโนโลยี่พัฒนา มีการนำคอมพิวเตอร์มาช่วยคำนวนให้ หนักๆเข้าเมื่อเรด้าร์มีประสิทธิภาพมากขึ้น สามารถวัดทิศทางและความเร็วเป้าได้อย่างแม่นยำ เจ้าคอมพิวเตอร์ก็ช่วยคำนวนเป็นมุมเล็งดัก เรียกว่าพลยิงไม่ต้องมานั่งกะเกนอะไรอีกแล้ว คอมพิวเตอร์จัดการให้เสร็จสรรพ.................